บทที่ 184 ให้เธอชดใช้ชีวิตให้เสิ่นเฉียว
“น่าแปลก เสิ่นเฉียวไปไหนแล้ว?” หานเส่โยวปาดหยดน้ำที่อยู่บนใบหน้าออก จากนั้นก็ถาม
มีพนักงานมาพยุงเธอพอดี “ยินดีกับคุณผู้หญิงท่านนี้ด้วยนะคะที่ได้รับรางวัลชนะเลิศของการแข่งขันว่ายน้ำหญิง”
แสงไฟส่องลงมายังบนตัวเธอ ทำให้หยดน้ำบนตัวเธอดูเจิดจ้าไปอีก แววตาของคนส่วนมากในงานต่างก็มองมาทางหานเส่โยว
หานเส่โยวดีใจมาก ลืมเรื่องของเสิ่นเฉียวไปแล้ว เธอยิ้มแย้มอย่างได้ใจต่อหน้ากล้อง
เสี่ยวเหยียนขึ้นมาจากสระน้ำ หยิบผ้าเช็ดตัวมาเช็ดร่างกายของตัวเองจากนั้นเธอเดินไปทางด้านหลังทางที่เสิ่นเฉียวเดินไปเมื่อกี้ ปรากฏว่าเดินไปจะวนหนึ่งรอบแล้วก็ยังไม่เห็นเงาของเสิ่นเฉียว อีกอย่างโทรศัพท์ที่เธอฝากให้เสิ่นเฉียวก็หายไปแล้ว
เสี่ยวเหยียนกังวลในใจ เสิ่นเฉียวที่ยังอยู่ดีๆ จะหายไปไหนแล้ว?
เธอมองไปรอบๆ ข้าง จู่ๆ ก็มองเห็นรอยยิ้มที่ได้ใจของกาวหยุน ระหว่างสองคนนี้…..
เสี่ยวเหยียนเหมือนจะนึกอะไรออกกะทันหัน เธอก็เลยรีบไปตามหารองประธานเย่ไปทั่ว อยากจะนำเรื่องนี้ไปบอกกับเย่หลิ่นหาน
เย่หลิ่นหานมีความรู้สึกต่อเสิ่นเฉียว นำเรื่องนี้ไปบอกเขา เขาจะต้องไม่เห็นแล้วไม่ช่วยแน่นอน
แต่ว่ามองไปรอบๆ แล้วก็ไม่เจอเงาของเย่หลิ่นหานเลย เสี่ยวเหยียนกังวลราวกับมดที่อยู่บนหม้อ
เธอเป็นห่วงและกลัว หางตาของเธอจู่ๆ ก็มีคนที่อยู่ไม่ไกลนักคนหนึ่ง
เย่โม่เซินที่นั่งอยู่บนรถเข็น!
เขา!
ก่อนหน้านี้เสิ่นเฉียวเคยขึ้นลงรถของเขามาก่อนไม่ใช่หรอ? ทั้งสองน่าจะเคยมีอดีตด้วยกันจึงจะถูก เธอไปขอร้องให้เย่โม่เซินช่วย เขาคงจะไม่มีทางไม่สนใจหรอกมั้ง?
ไม่สนแล้ว! ตอนนี้หาเย่หลิ่นหานไม่เจอ เธอจึงต้องไปหาเย่โม่เซินแล้ว!
เสี่ยวเหยียนเดินตรงไปทางเย่โม่เซินด้วยก้าวเท้าที่ใหญ่
เซียวซู่ที่อยู่ไกลๆ มองเห็นเสี่ยวเหยียนสวมชุดบิกินี่แล้วเดินตรงมาทางพวกเขาด้วยร่างกายที่เต็มไปด้วยหยดน้ำ แววตาดูเร่งรีบ มองดูอย่างแน่ชัดอีกครั้ง นี่เป็นผู้หญิงที่มักจะอยู่กับผู้ช่วยเสิ่นไม่ใช่หรอ
ฉะนั้นเธอก็เลยก้มหน้าพูดไปประโยคหนึ่ง “คุณชายเย่ มีคนมาครับ”
เย่โม่เซินหัวเราะอย่างเย็นชาไปคำหนึ่ง “ให้เธอไปไกลๆ”
วันนี้มีคนไม่น้อยแล้วที่อยากจะเข้ามาใกล้ชิดเขา แต่ว่าเย่โม่เซินเย็นชาเกินไปแล้ว เพียงแค่แววตาเดียวก็ทำเอาคนอื่นตกใจจนไม่กล้าเดินขึ้นมาอีก มีบางคนกล้าหน่อยเดินตรงมาข้างหน้า แต่ต่างก็ถูกเซียวซู่ทำโมโหกลับไป
“คุณชายเย่ เธอคงจะไม่ได้มาเพราะคุณ”
คำพูดของเซียวซู่ทำให้เย่โม่เซินขมวดคิ้ว แล้วมองไปทางผู้หญิงคนนั้นหนึ่งที
เพียงแค่แวบเดียว เขาก็เก็บสายตา ไม่ได้ดูร่างกายของผู้หญิงคนนั้นอีก
ในสมองกลับนึกถึงภาพเสิ่นเฉียวที่สวมชุดกระโปรงเซ็กซี่สีแดง
ให้ตายเถอะ!
ผู้หญิงคนนี้ไม่ยอมจากไปสักที
พอพูดขึ้นมา——จู่ๆ เย่โม่เซินก็สังเกตเห็นว่าผู้หญิงคนนั้นละออกจากสายตาของตัวเองไปแล้ว ไม่รู้ว่าเธอหายไปไหนแล้ว
“คุณชายเย่ ขอร้องคุณต้องช่วยเสิ่นเฉียวนะ!”
เย่โม่เซินขมวดคิ้ว แววตาที่แหลมคมมองไปทางใบหน้าของเธอ แววตาสีดำจ้องเธอไว้ “เธอพูดว่าอะไรนะ?”
เสี่ยวเหยียนเดินเข้ามาด้วยความรีบเร่ง ยังหายใจหนักๆ อยู่ “เฉียวๆ หายตัวไปแล้ว”
“หายตัวไป?” เซียวซู่หรี่ตา “เกิดอะไรขึ้นเนี่ย? เธอรู้ได้ไงว่าเสิ่นเฉียวหายตัวไปแล้ว?”
เสี่ยวเหยียนเรียบเรียงคำพูด แล้วพูดออกด้วยประโยคง่ายๆ สั้น “ก่อนที่ฉันจะลงน้ำเธอตกลงกับฉันว่าจะไปถ่ายรูปให้พวกเรา แต่ว่าหลังจากการแข่งขันจบแล้วเธอก็ไม่ปรากฏตัวอีกเลย เมื่อกี้ฉันหาไปรอบหนึ่งก็ไม่เจอเงาของเธอแล้ว เฉียวๆ ไม่ใช่คนที่ไปไม่ลา ฉันสงสัยว่าต้องเกิดเรื่องขึ้นกับเธอแน่นอน”
คำพูดของเธอพูดโจมตีอยู่บนหัวใจของเย่โม่เซิน มือที่วางอยู่บนตักก็มีการจับแน่นขึ้นอย่างแปลกๆ “ครั้งสุดท้ายที่เจอเธอคือที่ไหน?”
เสี่ยวเหยียนคิดไปสักพัก แล้วพูดว่า “เพราะว่าเธอสวมชุดกระโปรงจึงไม่ได้ไปไหน นั่งดื่มและทานอาหารอยู่ตรงนั้นตลอด”
เย่โม่เซินเงยหน้าเล็กน้อย เซียวซู่รีบรู้ตัว จากนั้นหาคนไม่กี่คนไปถาม
ไม่ถึงสองนาที กาวหยุนก็ถูกคนกลุ่มหนึ่งจับตัวมา
เพราะว่าดิ้นรน ฉะนั้นรูปลักษณ์ของเธอจึงมีความทรุดโทรมเล็กน้อย
“พวก พวกนายจะทำอะไร? ปล่อยฉัน!” กาวหยุนเป็นคนที่หยิ่งยโสอยู่แล้ว ในตอนที่เห็นเย่โม่เซินแล้วก็รู้สึกข้างหลังเย็นไปหมด ไม่กล้าพูดอะไรมั่วแล้ว ถึงขั้นไม่กล้ามองตาของเย่โม่เซิน
เสี่ยวเหยียนอยู่ข้างๆ “ตอนที่การแข่งขันยังไม่เริ่มขึ้น เธอกับเพื่อนของเธอมาหาเรื่อง ตอนนั้นพวกเขามีสองคน ทำไมตอนนี้ถึงมีเธอแค่คนเดียว?”
ราวกับว่ามีแสงสว่างกะพริบเข้ามา เหมือนจะคิดอะไรออก เสี่ยวเหยียนตะโกนถามเสียงดัง “เพื่อนของเธอล่ะ? พวกเธอรวมหัวกันมาทำเรื่องไม่ดีแล้วใช่ไหม?”
กาวหยุนไม่อยากถูกจับได้ จึงได้แต่หน้าด้านแก้ตัวให้ตัวเอง
“เธอพูดมั่วอะไร? พวกเราจะไปทำเรื่องไม่ดีอะไรได้? เธออย่างใส่ร้ายคนไปมั่ว!”
“ฉันใส่ร้ายคนไปมั่ว งั้นเพื่อนของเธอล่ะ? เธอสามารถบอกฉันได้ไหมว่าเขาไปไหนแล้ว?”
“เขาก็ไปเข้าห้องน้ำเท่านั้นเอง!”
เซียวซู่พูดตัดคำพูดของทั้งสองด้วยความรำคาญ “ไม่ต้องทะเลาะกันแล้ว กาวหยุน มีคนเห็นว่าเมื่อกี้เธอเป็นคนพาเสิ่นเฉียวไป ตอนนี้เธอพาพวกเราไปหาเสิ่นเฉียว”
พอได้ยินแล้ว สีหน้าของกาวหยุนก็ซีดขาวไปหมด
เสี่ยวเหยียนพึ่งได้สติ “ที่แท้ก็คือพวกเธอที่กำลังทำร้ายเธอ ในตอนที่อยู่ในแผนกพวกเธอก็รังแกเธอมากมาย ใส่ร้ายเธอ ตอนนี้ยังจะมาอีก! ตกลงเธอพาเสิ่นเฉียวไปไหนแล้ว”
กาวหยุนกัดริมฝีปาก พูดปฏิเสธไม่ยอมรับ
“ฉันไม่ได้ใส่ร้ายเธอ เธอบอกว่าเธอไม่สบาย ฉันก็เลยไปเธอไปพักผ่อนข้างหลังเท่านั้นเอง!”
แววตาของเย่โม่เซินแหลมคมราวกับมีด หยุดอยู่บนใบหน้าของกาวหยุน ทันใดนั้นกาวหยุนรู้สึกว่าไหล่ของตัวเองเหมือนแบกรับภูเขาลูกใหญ่อยู่ ทำให้เธอต้องก้มโค้งลงไป
“ภายในหนึ่งนาที ฉันจะต้องเห็นตัวเธอ”
“ถ้าหากว่าเสิ่นเฉียวเกิดเรื่องอะไรขึ้นมา เธอต้องใช้ด้วยชีวิต”
เสียงที่เย็นชาราวกับว่าส่งผ่านมาจากนรก กาวหยุนตกใจจนสีหน้าซีดขาวไปหมด ทั้งร่างกายของเธอสั่นไปหมด
เซียวซู่รีบพูดต่อ “ยังไม่รีบไปหาเธออีก!”
“ครับ….” กาวหยุนไม่สนใจอย่างอื่นแล้ว ในหัวสมองของเธอมีแต่ตำพูดประโยคเมื่อกี้ของเย่โม่เซิน ถ้าหากว่าเสิ่นเฉียวเกิดเรื่องแล้วก็ งั้นเธอก็จะต้อง…ตามไปด้วย เธอยังไม่อยากตาย
“ฉันไปพวกเธอไป รีบหน่อยเถอะ!” กาวหยุนนึกถึงเรื่องที่จะเกิดขึ้นตามมา ก็รีบลุกขึ้นเดินไปทางข้างหลัง
“ตามมา”
เซียวซู่เข็นเย่โม่เซินแล้วเดินตามไป เสี่ยวเหยียนอึ้งไปสักพักจากนั้นรีบตามไป
แต่คนอื่นๆ ก็ยังคงสนุกสนานกันอยู่ มีคนน้อยมากที่รู้สถานการณ์นี้ ไม่ว่างยังไงแล้วก็มีผู้คนมากมาย ในขณะที่หานเส่โยวก็ถูกแสงสว่างต่างๆ ล้อมรอบ เธอมองไปทางเย่โม่เซินด้วยความดีใจ แต่กลับเห็นว่าเย่โม่เซินจากไปด้วยสีหน้าที่แย่แล้ว ไม่ได้หันมาทางเธอเลย
ทันใดนั้นรอยยิ้มของหานเส่โยวก็หายไปแล้ว
เพื่อที่เธอจะได้รับรางวัลชนะเลิศในการแข่งขัน เพื่อที่จะชนะเกียรติยศนี้ เพื่อที่จะเป็นผู้หญิงที่งดงามที่สุดในค่ำคืนนี้ ฉะนั้นเธอจึงกัดฟันพยายามมาตั้งแต่ต้นจนจบ
แต่คิดไม่ถึงเลยว่าเย่โม่เซินไม่มองเธอเลย ทำไม?
“เดินเร็วๆ หน่อย!” เสี่ยวเหยียนตามหลังของเย่โม่เซิน เห็นกาวหยุนเดินจนขาเซไปหมด จึงพูดกับเธอไปประโยคหนึ่ง
กาวหยุนจึงทำได้แต่เดินเร็วขึ้น เสี่ยวเหยียนตื่นเต้นจะตายอยู่แล้ว บ่นพึมพำไปด้วยว่า “พวกเธอเอาเสิ่นเฉียวไปไว้ที่ไหนแล้ว พวกเธออยากทำอะไรกับเธอ?”
กาวหยุนเกือบจะร้องไห้ออกมาแล้ว “ฉันไม่ได้อยากทำแบบนี้เลย คือ….คือคำสั่งของหัวหน้าสวี่….ให้ฉันใส่ยาลงในแก้ว แล้วนำเธอมา…..”