เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ – ตอนที่ 192 ดาวล้อมเดือน

บทที่ 192 ดาวล้อมเดือน

หานเส่โยวกลับถึงบ้านตระกูลหานด้วยอารมณ์ที่โกรธ เข้าไปในบ้านก็บังเอิญเจอกับซูจิ่ว ซูจิ่วที่กำลังเดินออกมาจากในบ้าน ซูจิ่วเป็นเลขาของหานชิง หานเส่โยวถึงแม้อารมณ์จะไม่ดียังไงแต่ก็เกรงใจเธอเล็กน้อย

“เลขาซู ดึกแล้วยังมีงานอีกเหรอ?”

ซูจิ่วยิ้มให้เธอเล็กน้อย แล้วอธิบาย: “ใช่ค่ะ ฉันมาหาประธานหานเพื่อแก้ปัญหาเรื่องบางอย่าง เวลาไม่เช้าแล้ว ฉันไปก่อนนะ”

หานเส่โยวพูดอย่างอ่อนโยน: “ฉันให้คนขับรถตระกูลหานไปส่งเลขาซูดีกว่า ดึกขนาดนี้แล้วมันอันตราย”

“ไม่ต้องค่ะ ฉันขับรถไม่กี่สิบนาทีก็ถึงบ้านแล้ว คุณเส่โยว ฉันไปก่อนนะคะ”

หลังจากร่ำลาหานเส่โย่วแล้ว ซูจิ่วก็ออกจากตระกูลหานโดยตรง

รอยยิ้มบนใบหน้าของหานเส่โยวก็หายไปด้วย นัยน์ตาโหดร้ายเล็กน้อย เธอก้าวเท้าขึ้นบันได เดินไปเคาะประตูที่ห้องของหานชิง

“พี่คะ พี่นอนหรือยังคะ?”

ข้างเงียบไปสักพัก ก็ได้ยินเสียงของหานชิง: “ยังเลย”

“พี่คะ งั้นฉันเข้าไปได้ไหมคะ?”

“เข้ามาสิ”

ในที่สุดหานเส่โยวถึงยิ้มออกมาได้ หลังจากเปิดประตูเข้าไป

“พี่ใหญ่ คืนนี้ฉันไปร่วมงานครบรอบปีของตระกูลเย่มา นี่เป็นชุดราตรีที่ฉันซื้อมาเมื่อวาน สวยมั้ยคะ?”

หานเส่โยวรวบรวมความกล้าแล้วถึงได้ถามหานชิง

เธอรู้สึกว่า ยังไงตัวเองก็ต้องสร้างสัมพันธ์ที่ดีกับหานชิงไว้ เพราะว่า………ตัวเองยังต้องเพิ่งพาหานชิงอีก

หานชิงที่นั่งอยู่ด้านหน้า ด้านหน้าที่วางไว้ด้วยเอกสารและมือถือ สายตาเขาไม่ขยับแม้แต่น้อย และไม่ได้ตอบสนองเธอด้วย รอยยิ้มที่แสนหวานบนใบหน้าได้เปลี่ยนไปชั่วขณะ จากนั้นค่อยๆเดินไปยังเขา

“พี่ใหญ่ ดึกขนาดนี้แล้ว ยังทำงานอีกเหรอคะ?”

หานชิงแค่ขยับริมฝีปาก “อืม”

เห็นได้ชัดว่าไม่อยากสนใจเธอ หานเส่โยวยืนอยู่โดยไม่ขยับ กัดริมฝีปากล่างตัวเองอย่างอึดอัด

พี่ใหญ่ มักจะทำท่าทางเย็นชากับเธอ หลายปีมาแล้ว ยังไม่เปลี่ยนแปลงไปสักนิด

หานเส่โยวก้มหน้ามองนิ้วเท้าตัวเอง หัวใจค่อยๆจมดิ่งลงไป

ทันใดนั้นหานชิงก็รับรู้ได้ว่าตั้งแต่เธอเข้ามาในห้องนั้นข้างในก็เงียบสงบเกินไป เงยหน้ามองหานเส่โยวแวบหนึ่ง เห็นเธอที่ก้มหน้ามองเท้าตัวเองด้วยอาการที่เหม่อ จู่ๆก็รู้สึกว่าตัวเองเย็นชากับเธอมากเกินไป

คิดได้อย่างนี้แล้ว หานชิงมองชุดที่อยู่บนร่างเธอแล้วถอนสายตากลับมา จากนั้นก็พูดด้วยเสียงที่ต่ำ: “ก็ไม่เลว”

ได้ยินดังนี้ หานเส่โยวเงยหน้าขึ้นทันที มองหานชิงอย่างประหลาดใจ: “พี่ใหญ่?”

“กระโปรง” หานชิงพูดแค่คำเดียว จากนั้นก็ก้มหน้าลงดังเดิม

หานเส่โยวนิ่งไปสักพักถึงเข้าใจ นัยน์ตาเต็มไปด้วยความสุข: “พี่ใหญ่รู้สึกว่ามันสวยจริงๆใช่มั้ยคะ? ขอบคุณพี่ใหญ่ค่ะ

พูดจบก็เดินไปยังเก้าอี้ด้านหน้าแล้วนั่งลงโดยตรง แล้วพบว่ามีกล่องที่สวยงามใบหนึ่งวางอยู่ หานเส่โยวอุทาน: “กล่องใบนี้สวยจังเลย ข้างในคืออะไรคะ?”

เธอเพิ่งจะยื่นมือไปแตะ กลับโดนหานชิงเอ็ด

“ห้ามแตะ!”

น้ำเสียงของเขาเย็นเยือก ราวกับส่งมาจากใต้ผืนน้ำ เย็นจนหานเส่โยวรีบเอามือกลับมาไว้ที่เดิม

ออกไป หานชิงดูเหมือนจะหนาวสั่นอย่างกะทันหัน พูดอย่างไม่สบอารมณ์

หานเส่โยวเงยหน้าสบตาที่เย็นเยือกของเขา สีหน้าของหานชิงจริงจังมาก ดูแล้วดุมาก

ที่น่าแปลกก็คือหานเส่โยวรู้สึกน้อยใจมาก เธอน้อยใจจนรีบดึงมือกลับมา หลังจากนั้นลุกขึ้นพูดอย่างเบาๆ: “ฉัน ฉันรู้แล้วค่ะ”

แล้วหันหลังเดินออกไปจากห้องนอน

สีหน้าหานชิงยังคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน เขายกมือขึ้น นิ้วมือไปหยุดอยู่บนกล่องที่สวยงามใบนี้

นี่คือชุดราตรีที่เขาให้ซูจิ่วส่งไปให้เสิ่นเฉียว แต่ว่าซูจิ่วโทรหาเสิ่นเฉียวไม่ติด อีกทั้งเธอก็มีชุดของตัวเองแล้ว ดังนั้นจึงได้นำกล่องนี้กลับมา แต่ว่าชุดราตรีตัวนี้ไม่ใช่ชุดธรรมดา หานชิงถึงใส่ใจเป็นพิเศษ

สุดท้ายยังไงก็ต้องมอบให้เสิ่นเฉียวอยู่ดี แล้วจะให้คนอื่นจะสัมผัสได้อย่างไร?

คิดได้ดังนี้ หานชิงหยิบมือถือขึ้นมาส่งข้อความผ่านทางวีแชทให้กับเสิ่นเฉียว

หานเส่โยวที่ร้องไห้วิ่งออกมาจากห้องนอนแล้วนั้น กลับไปยังห้องนอนของตัวเอง ไม่มีกะจิตกะใจทำอะไรเลย

เธอไม่เคยคิดอยากให้หานชิงมาหาเธอเลย แต่ว่าหานชิงที่ไม่สนใจน้องสาวอย่างเธอมันทำให้เธอเสียใจมาก แต่สิ่งที่มากกว่านั้นก็คือความสยอง

ยังไงซักฐานะของเธอก็ถูกขโมยมา ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมาที่เธอมาเป็นคุณหนูใหญ่ตระกูลหานเสวยสุขเหมือนกับดาวล้อมเดือนที่มี เกียรติและฝันร้ายก็ได้เริ่มต้นพร้อมๆกัน

เธอชอบถูกถือไว้ในบนมือแบบนี้ เธอด่าคนอื่น มีความรู้สึกสุขที่คนอื่นไม่กล้าโกรธไม่กล้าเถียง

แต่ในเวลาเดียวกันก็กลัวว่าฐานะเธอจะถูกเปิดเผย

หานชิงที่เป็นคนเย็นชาอย่างนี้ หากฐานะของเธอถูกเปิดเผย ต่อไปเธอ………คงจะต้องลำบากอย่างแน่นอน

ตั้งแต่เธอเข้ามาบ้านตระกูลหานจนถึงตอนนี้ ทุกการแสดงออกของหานชิง ดูก็รู้ว่ายังไม่ยอมรับเธอทั้งหมด

คิดถึงตรงนี้ หานเส่โยวปิดประตู เปลี่ยนเป็นสีหน้าที่ดุร้ายขึ้นมา

ติง —

เสิ่นเฉียวที่เพิ่งเข้านอน ได้ยินเสียงมือถือดังขึ้นหนึ่งครั้ง เธอขยับหนังตา ไม่ค่อยมีแรง แล้วนอนหลับต่อไป

กระทั่งเช้าวันที่สองตื่นขึ้นมานั้น เสิ่นเฉียวรู้สึกว่าแขนขาของตัวเองไม่มีเรี่ยวแรง น่าจะเป็นผลข้างเคียงมาจากยา เธอนวดคิ้วของตัวเองสองสามที ดึงผ้าห่มออกแล้วลงจากเตียง

“คุณนายน้อยสองตื่นแล้วเหรอคะ”

เสียงผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้นมากะทันหัน ทำให้เสิ่นเฉียวสะดุ้งตกใจ เสิ่นเฉียวตั้งใจมอง ถึงได้รู้ว่าเป็นสาวใช้ที่เคยเจอที่วิลล่า เหมือนจะชื่อเสี่ยวหยู่อะไรสักอย่าง?

“ทำไมเธอถึงมาอยู่นี่ได้?”

เสี่ยวหยู่มองเธออย่างถ่อมตัว: “คุณชายเย่ให้ฉันมารอคุณนายน้อยสองตรงนี้ค่ะ ตรงนั้นมีเสื้อผ้าที่ไว้เปลี่ยนหลังจากอาบน้ำ ฉันไปเตรียมอาหารเช้าแล้วนะคะ”

เสิ่นเฉียวมองไปยังที่เธอชี้ พบกว่าตรงนั้นมีเสื้อผ้าวางไว้หลายชุด เป็นชุดใหม่ทั้งหมด

“อันนี้เย่โม่เซินเป็นคนซื้อเหรอ?” เธอถามโดยไม่รู้ตัว

เสี่ยวหยู่อึ้งไปชั่วขณะ จากนั้นก็ส่ายหัว

“คุณนายน้อยสอง ฉันก็ไม่ทราบค่ะ มันก็คือที่คุณชายเย่สั่งมานั่นแหละค่ะ คงจะใช่คุณเย่ซื้อด้วยตัวเองมั้งคะ คุณนายน้อยสองนี่ช่างมีความสุขเสียจริง”

ความสุข?

เสิ่นเฉียวหัวเราะขมขื่นในใจสักพัก สองตัวอักษรนี้ไม่มีความเกี่ยวข้องอะไรกับเธอเลย?

เสี่ยวหยู่ไปเตรียมอาหารเช้าแล้ว เสิ่นเฉียวนั่งเหม่อไปสักครู่แล้วก็ไปอาบน้ำฟันเปลี่ยนชุด เธอเลือกชุดที่เรียบที่สุด แล้วก็ไปหยิบมือถือ

มองไปถึงรู้ว่าวีแชทมีข้อความที่ยังไม่ได้อ่านหลายข้อความ ยังมีหลายสายที่ไม่ได้รับ

ส่วนใหญ่เป็นเสี่ยวเหยียนที่ส่งมา เริ่มแรกเป็นข้อความที่ประมาณว่าห่วงใยเธอ หลังๆก็ถามประมาณว่าเธอกับเย่โม่เซินใช้ชีวิตเป็นยังไงมั่ง อ่านจนประโยคสุดท้ายก็ถอยออก แล้วก็เห็นข้อความที่หานชิงส่งมา

เธอกดเข้าไปดู

หานชิงส่งเป็นข้อความเสียง

“ชุดราตรีนี้ผมจะให้เลขาซูหาเวลาไปส่งให้คุณ หรือว่าคุณมีเวลาเมื่อไหร่?”

เสิ่นเฉียวหมดคำพูด งานก็ได้ผ่านไปแล้ว เธอจะเอาชุดราตรีมาทำอะไรอีก?

แต่แล้วเธอก็ตอบข้อความกลับ

ขอบคุณความหวังดีของประธานหาน แต่ว่างานได้ผ่านไปแล้ว ฉันไม่มีความจำเป็นต้องใช้ชุดราตรี ก็ไม่กล้ารบกวนประธานหานด้วยค่ะ

เขาไม่ได้คาดว่าให้หานชิงตอบกลับ เพียงแต่พูดให้มันชัดเจนเท่านั้นเอง

เพราะครั้งก่อนเธอได้เคยบอกหานชิงไปแล้วว่าไม่ต้องให้ แต่เขาก็ยังให้ซูจิ่วส่งมาอีก

ติง——

ใครจะรู้ว่าข้อความที่เพิ่งถูกส่งออกไป ก็ได้ถูกตอบกลับมาทันที

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ ถูกบังคับเป็นตัวแทนของงานแต่งงานนี้ เธอแต่งงานกับผู้ชายที่พิการแต่กลับมีอำนาจใหญ่ “ฉันเย่โม่เซินไม่เอาผู้หญิงที่ท้องและไม่รู้ว่าพ่อของลูกเป็นใครเด็ดขาด”เดิมทีคิดว่างานแต่งงานนี้เป็นการแลกเปลี่ยน แต่เธอกลับเผลอใจ ไปไปมามา สุดท้ายเธอก็จากไปด้วยความเสียใจผ่านไปหลายปี ลูกชายที่หน้าตาคล้ายกับเขามากตบหัวของเย่โม่เซินด้วยฝ่ามือเล็กๆ“พ่อคนร้าย นายว่าใครเป็นเด็กที่ไม่รู้ว่าพ่อของตัวเป็นใคร?”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset