บทที่203เธออยากอ่อยสามีคุณ
หึง……เหรอ?
“เพราะว่าผมออกไปตอนเที่ยงคืน คือให้คุณอยู่บ้านคนเดียว คุณรู้สึกเหงาโดดเดี่ยวเดียวดาย ก็เลยหึงใช่ไหม?”แรงของเย่โม่เซินไม่เยอะ แต่ก็จับคางของเธอยังเผด็จการทำให้เธอขยับไม่ได้
เสิ่นเฉียวดิ้นรน แต่ก็ไม่สามารถดิ้นออกมา สุดท้ายก็เลยกล่าวยังโมโห:”คุณปล่อยฉันนะ เย่โม่เซิน เที่ยงคืนแบบนี้คุณยังออกไปหาผู้หญิงอีก คุณยังมาถามว่าฉันหึงหรอ? ถ้าไม่ใช่คุณที่บ้าไปแล้วงั้นก็แสดงว่าฉันเป็นคนบ้าเอง ปล่อยฉันนะ !”
แววตาของเย่โม่เซินเปล่งประกาย แรงมือเพิ่มขึ้น
“งั้นก็แสดงว่าผมบ้าไปแล้ว บอกผมมาสิ คุณหึงใช่ไหม?”
“ฉันเปล่านะ!” เสิ่นเฉียวออกแรงผลักเขา:”คุณปล่อยฉันเดี๋ยวนี้”
“ยังบอกว่าเปล่าอีก” เย่โม่เซินขำแบบเย็นชา”ถึงกลับโกรธแบบนี้แล้วเนี่ย”
พูดจบ เย่โม่เซินโน้มตัวเข้าหา ทันใดนั้นก็ดูดจุ๊บปากเธอทีนึง กิริยาท่าทีที่มาแบบไม่ทันตั้งตัวทำเอาเสิ่นเฉียวตกใจใหญ่เลย มองเย่โม่เซินอยู่แบบนั้น ผ่านไปสักพักแก้มขาวๆของเธอก็เริ่มแดงขึ้น
“คุณทำอะไรอ่ะ?”
“ถ้าหึงละก็ ผมจุ๊บคุณหนึ่งทีอาการคุณดีขึ้นบ้างรึเปล่า? ” เย่โม่เซินทำตาเล็กๆ ชนหน้าผากเธอแล้วกล่าวด้วยเสียงแหบ
เสิ่นเฉียว:”……”
เธอมองนิ่งๆอย่างนั้นอยู่สิบวินาทีเต็มๆ ผ่านไปสักพักเธอก็ยิ้มเสียงแบบขำตนเอง:”อะไรเนี่ย….ทิ้งคนไว้เที่ยงคืนแบบนั้น คุณจะไปก็ไปสิ ทำไมต้องให้คนอื่นรอคุณกลับมาด้วย แล้วสุดท้ายคุณก็……”
“ผมให้คุณรอ คุณก็รอเหรอ?”
น่าแปลก คือวันนี้เย่โม่เซินมองเสิ่นเฉียวแล้วรู้สึกมีความสุขเป็นพิเศษ โดยเฉพาะตอนที่รู้ว่าเธอหึง เย่โม่เซินรู้สึกว่าผู้หญิงตรงหน้าน่ารักสุดๆ ก็เลยอยากหยอกเธอเล่น
แต่เขาไม่ได้สังเกตถึงการเปลี่ยนแปลงในอาการสีหน้าของเสิ่นเฉียวเลย
เสิ่นเฉียวเงยหน้า กวาดตามองจ้องที่ใบหน้าของเขา
“ถึงคุณจะรอ แต่ผมก็กลับมาตอนนี้แล้วไม่ใช่เหรอ?”
เสิ่นเฉียวเม้มปาก ใช่สิ ให้เธอรอฟรีไปคืนนึง เขากลับไม่ปรากฏตัวสักที มาปรากฏตัวในบริษัทตอนนี้ เขายังกล้าพูดว่าตนเองกลับมาแล้ว เมื่อคิดถึงจุดนี้ เสิ่นเฉียวออกแรงดิ้นขึ้นมา:”เย่โม่เซินคุณปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ! ฉันรู้ว่าคุณไม่เคยให้ความสำคัญกับฉัน แต่คุณก็ไม่ควรรังแกกันแบบนี้ คุณคิดว่าคนอื่นเป็นคนโง่ตลอดใช่ไหม จะต้องเชื่อฟังและทำตามคุณตลอดงั้นหรอ? ปล่อยนะ ปล่อย…อุ๊ป”
เธอยังพูดไม่จบ เย่โม่เซินก็จูบปากแดงเธออย่างแรง มือใหญ่วางไว้ตรงหลังของเธอ ลูบคลำเบาๆ ราวกับว่ากำลังปลอบความรู้สึกเธอ
เสิ่นเฉียวที่กำลังถูกจูบก็ลืมตาโตขึ้น ด้านหน้าเป็นหน้าอกที่แข็งแกร่งและมีพลังของเย่โม่เซิน ด้านหลังเป็นมือที่เร่าร้อนของเขา
จูบของเขาในตอนแรกจะหนักหน่อย แต่พอผ่านไปสักพักก็เริ่มอ่อนโยนขึ้น จูบปากเธออย่างดูดดื่มและประนีประนอม ค่อยๆจูบอย่างระมัดระวัง ราวกับว่ากำลังเชยชิมอาหารที่ตนเองชอบ
และแล้ว เสิ่นเฉียวก็ตกอยู่ในภวังค์แห่งความรู้สึกนี้ อารมณ์เธอค่อยสงบลง
เย่โม่เซินถอยปากของตนออก ชนหน้าผากของเธอ
“ยัยผู้หญิงโง่ ต่อไปผมให้คุณรอ คุณก็นอนก่อนได้เลย”
ได้ยินแบบนี้ เสิ่นเฉียวเหมือนถูกคนเอาน้ำเย็นสาดจนตื่นขึ้นมา เมื่อกี้นี้เธอกำลังคาดหวังอะไร เขาพูดแบบนี้มันก็หมายความว่าต่อไปเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นอีก เขาจะทิ้งเธอไปหาผู้หญิงคนอื่นอีกเหมือนเดิม
พอมีเวลาว่างก็ค่อยมาเกลี้ยกล่อมเธอ
ก็เหมือนกับสัตว์เลี้ยงที่เขาเลี้ยงไว้ข้างกายตนเอง เวลาว่างก็มาหยอกคุณเล่น เวลาที่ยุ่งก็ไม่มีเวลาแม้แต่จะเหลียวแลคุณ
เสียดาย เสิ่นเฉียวเธอไม่ใช่แม้แต่สัตว์เลี้ยงของเย่โม่เซินด้วยซ้ำ
“ฉันยังมีธุระต้องทำ คุณออกไปก่อนเถอะ”
เสิ่นเฉียวยังไม่ทันตื่นตัว เธอก็ถูกเย่โม่เซินดึงตัวออก แล้วก็ยืนอยู่ข้างๆ เย่โม่เซินดึงสายตากลับมา เสิ่นเฉียวยืนมองเขาอยู่ข้างๆอยู่อย่างนั้นนานเลย
เย่โม่เซินก็ไม่ได้เงยหน้าขึ้นอีก เพียงแต่ผ่านไปสักพักก็นึกอะไรขึ้นได้:”ช่วยชงกาแฟให้ผมแก้วนึง”
เสิ่นเฉียวยังยืนอยู่อย่างนั้นไม่ขยับ
เย่โม่เซินเหมือนจะรับรู้อะไรได้บ้าง จึงเงยหน้าขึ้นมองเธอ
เมื่อเห็นแววตาที่แหลมคมของเขา ในใจของเธอเสิ่นเฉียวก็ยิ่งขมขื่นเมื่อคืน หันหลังแล้วค่อยๆไปชงกาแฟให้เขาเงียบๆ
หลังจากชงกาแฟให้เขาเสร็จ เสิ่นเฉียวก็กลับไปนั่งตรงตำแหน่งที่ทำงานของตน มองคอมพิวเตอร์ที่เคยชินเครื่องนี้ แล้วยิ่งรู้สึกเยาะเย้ยตนเอง
ตลอดเช้าวันนี้ เสิ่นเฉียวได้ใช้เวลากับการเหม่อลอยอยู่อย่างนั้น จนถึงตอนเที่ยงแล้วเสี่ยวเหยียนมาตามเธอลงไปกินข้าวด้วยกัน ทั้งสองเพิ่งไปถึงตรงลิฟต์ก็ไปเจอกับหานเส่โยวที่ออกมาจากลิฟต์
พอเห็นหานเส่โยว เสิ่นเฉียวรู้สึกแปลกใจ :”หานเส่โยว ทำไมคุณถึงอยู่ที่นี่?”
หานเส่โยวเริ่มอยู่พักนึง จึงเดินออกมาจากลิฟต์
“เฉียวเฉียว งานวันครบรอบวันนั้นคุณไม่เป็นอะไรนะ?”
เสิ่นเฉียวพยักหน้า “ฉันไม่เป็นไรค่ะ”
เสี่ยวเหยียนเห็นแบบนี้อดไม่ได้ที่จะทำปากเบี้ยวใส่:”คนอะไรเนี่ย ผ่านไปนานขนาดนี้ถึงเพิ่งมาถาม นี่ยังดีที่ไม่เป็นอะไร ถ้าเกิดอะไรขึ้นจริงๆแล้วคุณมาถามตอนนี้ก็เหมือนใจคิดไม่ดีต่อกันนะ?”
“คุณ! ” หานเส่โยวจ้องหน้าเสี่ยวเหยียนอย่างแรง กัดริมฝีปากกล่าว:”ตั้งแต่เจอหน้าคุณก็ทำเหมือนเป็นศัตรูกับฉัน ฉันไปทำอะไรผิดต่อคุณตอนไหน? ถ้าฉันจำไม่ผิด เมื่อก่อนเราก็ไม่เคยรู้จักกันนะ?”
พอพูดถึงตรงนี้ หานเส่โยวก็มองเสิ่นเฉียวทีนึง
ก็ไม่รู้ว่าเสิ่นเฉียวตนรับรู้อะไรผิดไปหรือเปล่า ถึงได้รู้สึกว่าสายตาของหานเส่โยวกำลังสงสัยตน ปากอมชมพูอ้ากว้าง เสิ่นเฉียวกำลังคิดจะอธิบายตนเอง
เสี่ยวเหยียนก็ได้กล่าว:”ดูคุณไม่เข้าตาไงล่ะ ใครให้หน้าตาคุณไม่ใช่แบบที่ฉันชอบ ก็เลยจงใจเสียดสีคุณ ทำไมล่ะ?”
ตรงกลางระหว่างคิ้วของหานเส่โยวดูโมโหร้อนสุดๆ แต่สุดท้ายแล้วเธอก็ยังอดทนเอาไว้ได้:”เฮ้อ ฉันเป็นถึงคุณหนูตระกูลหาน ไม่อยากถือสาคนตำแหน่งเล็กๆอย่างคุณ อยู่ตำแหน่งอะไรก็มีแง่คิดแบบนั้น ก็ว่าทำไมตอนนี้คุณยังเป็นแค่พนักงานตำแหน่งเล็กๆ น่าดูถูกจริงๆเลย”
“ออ ” เสี่ยวเหยียนไม่ยอมแพ้และควงแขนของเสิ่นเฉียว :”คุณหนูหานผู้ทรงเกียรติ ตอนที่คุณประชดฉันคุณลืมคิดไปหรือเปล่า ว่าเสิ่นเฉียวเพื่อนสาวคนสนิทของเธอก็แค่พนักงานตำแหน่งเล็กๆเหมือนกัน?คุณพูดดูถูกต่อหน้าเพื่อนสาวของคุณแบบนี้มันจะดีหรอ?
หานเส่โยวไม่ได้คิดเยอะขนาดนั้น ตอนนั้นแค่อยากเถียงเสี่ยวเหยียนให้ชนะ คิดว่าจะดึงเสิ่นเฉียวเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย
สีหน้าของเสิ่นเฉียวซีดลง ไม่ได้พูดอะไรตอบ
ขอโทษด้วยนะเฉียวเฉียว ฉันไม่ได้ตั้งใจจะพูดให้คุณตกต่ำลง เพียงแต่เธอ….”
“พอเถอะพวกคุณไม่ต้องพูดอะไรแล้ว คุณมาที่นี่ได้ยังไง? ”
“คือว่า…..” หานเส่โยวกัดริมฝีปากยาอึดอัด “ฉันมาหาคุณชายเย่”
หาเย่โม่เซิน? เสิ่นเฉียวมองเธอและรู้สึกเอะใจ :”คุณมาหาเขา?”
“เฉียวเฉียวคุณอย่าคิดมากนะ ฉันมาหาเขาเรื่องงานเฉยๆ นี่พวกคุณกำลังจะไปกินข้าวหรอ? งั้นรีบไปกินข้าวเถอะ ฉันคุยกับคุณชายแป๊บเดียวเดี๋ยวก็มาหาคุณนะ”
เสิ่นเฉียว:”…..อืม งั้นพวกเราไปก่อนนะ”
“โอเค” หานเส่โยวยิ้มแย้มสดใสให้เธอ จากนั้นก็จัดคอเสื้อแล้วเดินไปยังห้องทำงานของเย่โม่เซิน
พอเธอไปแล้ว เสี่ยวเหยียนหยิกเสิ่นเฉียวแรงๆทีนึง :”นี่คุณโง่หรือไงเนี่ย คุณจะปล่อยให้เธอไปหาคุณชายเย่คนเดียวจริงๆเหรอ?”
“ห๊ะ?” เสิ่นเฉียวมองหน้าเสี่ยวเหยียนอย่างทำอะไรไม่ถูก”ทำ ทำไมเหรอ?”
“ดูท่าทีของเธอ ก็กำลังอยากไปอ่อยคุณชายเย่ชัดๆ?”ทำไมคุณโง่อย่างนี้เนี่ย?”