บทที่210 ดูแลปกป้องอยู่เงียบๆ
เสียงของหานเส่โยวจะดังหน่อย ทำให้คนในร้านกาแฟหันมามองกัน เสิ่นเฉียวสังเกตเห็นดังนั้น ในใจเธอก็กระวนกระวายไปหมด เธอรีบลุกยืนแล้วเดินไปด้านหน้าหานเส่โยวปิดปากของเธอ”พอแล้ว คุณไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้ว”
“ทำไมคุณไม่ให้ฉันพูด?” หานเส่โยวออกแรงกุมมือเธอไว้ กล่าวเสียงสะอื้น:”คุณไม่กล้าเผชิญหน้ากับความจริง แต่ฉันกับเธอไม่เหมือนกัน! ฉันเป็นคนนอก ฉันรู้ว่าคุณเหมาะกับคนแบบไหนไม่เหมาะกับคนแบบไหน และใครที่ดีกับคุณฉันก็แยกย้ายออก!”
“พอแล้ว ฉันไม่อยากฟังอีก”เสิ่นเฉียวได้สะบัดมือเธอออก”ถ้าคุณอยากพูดจริงๆ คุณก็พูดเองคนเดียวตรงนี้เหอะ”
พอพูดจบ เสิ่นเฉียวก็ถือกระเป๋าเดินออกไปอย่างรวดเร็ว
หานเส่โยวมองด้านหลังเธอแล้วเงิบอยู่หลายวินาที ถึงรู้สึกตัวอีกทียื่นมือไปปาดน้ำตาบนใบหน้า จากนั้นก็ก้าวใหญ่เดินตามออกไป “เฉียวเฉียว คุณอย่าโกรธสิ แต่ว่าคุณฟังฉันก่อนได้ไหม?”
เสิ่นเฉียวเดินไปด้านหน้าอย่างไม่สนใจ ที่นี่คนเยอะ ถ้าขืนปล่อยให้หานเส่โยวพูดอะไรไปเรื่อยอีก ถึงตอนนั้น……ไม่ว่าจะแก้ต่างอย่างไรก็ฟังไม่ขึ้นอยู่ดี
“ฉันรู้ว่าสถานะของเขาทำให้คุณยากที่จะยอมรับได้ แต่บนโลกนี้ก็มีหลายๆเรื่องที่เราไม่มีทางเลือกกันทั้งนั้นเพียงแค่เขาไม่รังเกียจฐานะของคุณ ยอมรับผิดชอบก็ดีแล้วนี่ คุณเลือกอยู่กับเขา ต้องมีความสุขมากกว่าตอนนี้แน่ๆ!”
เสิ่นเฉียวหยุดก้าวในทันที หันหน้าไปมองหานเส่โยว
“คุณคิดแบบนี้จริงๆเหรอ?”
เห็นเธอหยุดเดิน หานเส่โยวก็หยุดตาม เธอพยักหน้าอย่างตั้งใจ:”พี่เย่นิสัยอบอุ่น เป็นสุภาพชนที่ไม่มีอคติที่คับแคบ และยังสุภาพบุรุษมากด้วย และฉันก็เห็นว่าเขาคิดกับคุณในทางนั้นจริงๆ ถ้าคุณสามารถ……”
“ถ้าแบบนี้หรอ คุณถึงรู้สึกว่าเขาจะทำแบบนั้นกับฉัน? เส่โยว ถ้าเขาอยากจะรับผิดชอบจริงๆ ทำไมเขาไม่มาหาฉันเองล่ะ?”
“อะไรนะ……?” หานเส่โยวงงอยู่ที่เดิม
“เรื่องมันผ่านไปนานขนาดนี้ ถ้าเขามีใจจริงๆ หรือถ้าเขาอยากจะเป็นคนรับผิดชอบ ทำไมเขาไม่เคยมาหาฉันเลย? กลับเป็นฉันที่ต้องส่งคนไปหาเขา นี่แสดงว่าอะไร?” เสิ่นเฉียวยิ้มเยาะเย้ยตนเอง ไม่รอให้หานเส่โยวเอ่ยปากพูดก็พูดต่ออีกว่า:” นี่แสดงว่าเขาไม่ใส่ใจเรื่องที่เกิดขึ้นในคืนนั้นเลยสักนิดและไม่เคยคิดจะยุ่งเกี่ยวกับผู้หญิงในคืนนั้นเลยสักนิด หรือว่า….เขาไม่เคยให้ความสำคัญกับเรื่องที่เกิดขึ้นในคืนนั้นเลย ในสายตาของพวกเขา วันนั้นเป็นเพียงแค่เรื่องบังเอิญ และฉัน….ก็เป็นฝ่ายเข้าหาเอง ไม่มีใครสนใจเลยหรอก”
“……เมื่อก่อนฉันไม่เคยคิด แต่ฟังเธอพูดแบบนี้ก็ใช่ว่าจะไม่มีเหตุผล แต่คุณเคยคิดไหม? เขาอาจจะกำลังตามหาคุณเหมือนกันนะ? เพียงแต่…..ใช้วิธีตามหาคุณแบบที่คุณไม่รู้เฉยๆ ก็เหมือนเย่หลิ่นหาน เขาก็ไม่รู้ว่าพวกเรากำลังตามหาเขาไง? อาจเป็นเพราะ เขาแค่ไม่มีเบาะแสอะไรที่จะตามหาคุณ อีกอย่าง…..”พอพูดถึงตรงนี้หานเส่โยวก็หลบสายตา มองตรงพื้น:”ขึ้นวันนั้นคุณก็ไม่ได้ทิ้งร่องรอยอะไรไว้ มีเพียง….กระดุมอันนั้น
พอพูดถึงกระดุมอันนั้น ในใจของหานเส่โยวก็เหมือนมีอะไรค้างคา เธอต้องทำยังไงถึงจะได้กระดุมที่เหลือนั้นจากมือเสิ่นเฉียวล่ะ? ตอนนี้ในมือเธอมีกระดุมชุดสูทเดิมอยู่สองเม็ดแล้ว เพียงแค่เอาเม็ดนั้นจากมือเสิ่นเฉียวมาทุกอย่างก็จะไม่มีข้อผิดพลาดอะไรอีก
คิดถึงตรงนี้แล้ว หานเส่โยวเหมือนนึกอะไรขึ้นได้ จึงเอ่ยปากพูด :”งั้น ฉันคิดวิธีช่วยคุณ ให้เขามาหาคุณเอง?”
“อะไรอ่ะ คิดวิธีอะไรอะไร?”
“คุณเอากระดุมให้ฉัน ฉันมีวิธีเอง”
ความคิดที่ชั่วร้ายในใจของหานเส่โยว ได้เติบโตขึ้นเยอะมาก
เสิ่นเฉียวยืนไม่ขยับ ไม่ได้ตอบตกลง และก็ไม่ได้ปฏิเสธ
“เฉียวเฉียว? เป็นไง?”
“ที่จริง แบบนี้ก็ดีนะ ” เสียงของเสิ่นเฉียวเบาเหมือนลม :”ฉันก็ไม่ได้ใส่ใจกับผู้ชายในคืนนั้นว่าเป็นใคร และฉันก็ไม่อยากไปแย่งอะไรขออะไรทั้งนั้น ฉันแค่อย่าใช้ชีวิตในตอนนี้ให้ดีก็พอ”
ฟังจากน้ำเสียงเธอแล้ว ไม่อยากกลับสู่ทางธรรมแล้วสินะ หานเส่โยวร้อนรนขึ้นมาทันที:”คุณทำแบบนี้ได้ยังไง? ฉันอุตส่าห์ขอให้พี่ชายฉันช่วยคุณตามหายังลำบาก คุณอยากใช้ชีวิตตอนนี้ให้ดีงั้นหรอ? ในตอนนี้ทำให้คุณมีความสุขได้จริงๆเหรอ? คุณต้องปูพื้นนอนทุกคืน เย่โม่เซินไม่แม้แต่จะเหลียวแลคุณ เสิ่นเฉียวคุณเป็นอะไรกันแน่? ผู้ชายแบบนี้คุณยังลังเลที่จะออกไปจากชีวิตเขาขนาดนี้เหรอ?
ใช่ เขาไม่ดีกับเธอ
แต่ บางครั้ง เขาก็ดีกับเธอมาก ช่วยเธอรักษาเกียรติและสักสีอย่างเต็มที่
ไม่เคยเหมือนเขาที่เหมือนดั่งเทพบุตรคอยปรากฏตัวในเวลาที่เธอต้องการใครมากที่สุด เสิ่นเฉียวนึกถึงตอนที่เขาหยิ่งผยอง แต่ก็ควบคุมหัวใจของตนที่หลงรักเขาไม่ไหว
“เสิ่นเฉียว หรือว่าคุณชอบเขาจริงๆหรอ?”
“ใช่’ เสิ่นเฉียวพยักหน้า:”ฉันชอบเขาแล้วจริงด้วย”
ได้ยินแบบนี้ หานเส่โยวตกใจจนลืมตาโตขึ้น ร่างกายอ่อนแรง:”คุณ……”
ได้พูดสิ่งที่อัดอั้นอยู่ในใจออกมาสักที เสิ่นเฉียวรู้สึกสบายขึ้นมาก
“ฉันรู้ว่าคุณอาจจะรู้สึกว่าฉันน่าขำ แต่ผ่านอะไรมาบ้างมีเพียงฉันเองที่รู้ ใจฉันคิดยังไงก็มีเพียงฉันเองที่เข้าใจ เพราะฉะนั้น….ถึงคุณทำเพื่อฉันจริงๆ ก็ไม่ต้องทำอะไรแทนฉันแล้วล่ะ”
“เฉียวเฉียว!”
” พอแล้ว วันนี้เราพูดถึงตรงนี้พอ เมื่อก่อนที่ฉันสงสัยคุณนั้นฉันผิดเอง แต่ว่าฉันหวังว่าต่อไปคุณจะไม่เข้าใกล้เย่โม่เซินอีกนะ ฉันไม่สงสัยคุณได้อยู่แล้ว แต่คงเลี่ยงไม่ได้ที่จะถูกคนอื่นเอาไปพูดนินทากัน เส่โยว คุณเข้าใจความหมายของฉันนะ?”
หานเส่โยวไม่ตอบอะไร กัดริมฝีปากแล้วมองเธอยังไม่พอใจ
“ฉันไม่เข้าใจจริงๆทำไมคุณถึงชอบเขาทั้งๆที่พวกคุณก็กำลังจะหย่ากันในอีกไม่กี่เดือนแล้ว!”
“ใช่ “เสิ่นเฉียวพยักหน้ายิ้มอย่างขมขื่น:”อีกไม่กี่เดือนฉันก็จะไปจากตระกูลเย่แล้ว เวลาที่จะอยู่กับเขาก็ไม่นานแล้ว เพราะฉะนั้น…..ก็ให้ฉันได้มองเขาอีกไม่กี่เดือนนะ พอถึงเวลา ฉันจะออกไปเอง”
หานเส่โยว:”……เฉียวเฉียว คุณไตร่ตรองดูดีๆอีกครั้งไหม? แล้วก็…..ถึงตอนนั้นคุณจะไปจะจากเขาจริงๆเหรอ? แล้ว…..คุณกับลูกจะทำยังไง?คุณจะไปไหน? คุณไม่เคยคิดหรอว่าเย่หลิ่นหานก็อาจจะกำลังตามหาคุณอยู่?”
“ไม่ต้องเครียดหรอก ฉันไม่เคยคิดแบบนั้นกับเขา ฉันก็ไม่ชอบที่จะเอาลูกไปผูกมัดใครมา ” เสิ่นเฉียวกล่าวอย่างน้ำเสียงธรรมดา
หานเส่โยวเห็นว่าเกลี้ยกล่อมเธอไม่สำเร็จ กำมือแน่นขึ้น ตอนแรกยังคิดอยู่เลยว่าจะยุให้เธอกลับเย่หลิ่นหานคู่กัน เธอจะได้ยืนข้างๆเย่โม่เซินยังไม่ต้องสงสัย แต่ตอนนี้……เธอกลับยอมรับจากปากตนเองว่าเธอชอบเย่โม่เซิน
หรือว่า เธอจะรอจนถึงวันที่เสิ่นเฉียวเดินออกไปเอง?
ไม่ ไม่ถูก
ไม่ได้!
ระยะเวลาที่เธอจะออกไปยังมีอีกหลายเดือน พวกเขาเพิ่งจะแต่งงานกันนานแค่นี้ เสิ่นเฉียวก็หลงรักเย่โม่เซินเข้าแล้ว ถ้าเธอไม่ลงมือตั้งแต่ตอนนี้ พอเวลานานไปอนาคตอาจกลายเป็นฝันร้ายก็ได้
ถ้าเกิดตอนนั้นเกิดมีอะไรเปลี่ยนแปลงขึ้นมา รวมเป็นสิ่งที่หานเส่โยวเธอไม่สามารถควบคุมได้
“โอเค นี่ก็สายแล้ว คุณกลับไปเช้าๆหน่อยเถอะ สิ่งที่ฉันพูดในวันนี้คุณจำได้นะ”
หานเส่โยวมองด้านหลังเธอ อดไม่ได้ที่จะกัดฟัน
เธอจะปล่อยให้เธออยู่ข้างกายเย่โม่เซินต่อไม่ได้แล้ว คอยรักอย่างเงียบๆอยู่ในใจก็ไม่ได้เด็ดขาด! ! !