บทที่239 ข้อตกลง
ถ้าไม่ใช่เพราะเมื่อวานเห็นตุ้มหูคู่นั้นในกระเป๋าเสื้อของเย่โม่เซิน ตอนนี้เสิ่นเฉียวคงแปลกใจว่าใครเป็นคนซื้อ แต่ว่าตอนนี้….เธอรู้แล้วว่าตุ้มหูอยู่ที่เย่โม่เซิน
ตอนนี้เสี่ยวเหยียนถามขึ้น ทันใดนั้นเธอก็รู้สึกผิดหน้าแดงขึ้นมา
“เธอรีบทายมาสิ!” เสี่ยวเหยียนคิดว่าเธอไม่รู้ ก็ผลักเธอ ให้เธอทาย
เสิ่นเฉียวไม่ได้ทาย ก็แค่ก้มหน้าลง พูดเสียงต่ำ: “ฉันจะไปรู้ได้ยังไง?”
“ฮ่าๆ งั้นเธออยากรู้ไหม?” เสี่ยวเหยียนหัวเราะแล้วขยับมาถามตรงหน้าเธอ
เสิ่นเฉียว: “…..” เห็นเธอยื่นหน้ามาตรงหน้า จมูกเกือบชนกันแล้ว เธอก็หันตัวไปส่ายหน้า: “ฉันไม่อยากรู้ เธอไม่ต้องพูดแล้ว”
เสี่ยวเหยียน: “….แปลกจริงๆ ทำไมเธอถึงไม่อยากรู้? หรือว่า…..” ทันใดนั้นเสี่ยวเหยียนก็รู้สึกได้ ตาโตขึ้นมา: “หรือว่าเธอได้รับแล้ว?”
“ยังไม่ได้รับ!” เสิ่นเฉียวตอบอย่างรวดเร็ว จริงๆแล้วเธอเองก็ไม่แน่ใจว่าตุ้มหูคู่นั้นเย่โม่เซินซื้อให้เธอรึเปล่า
แต่ว่าในใจทายไว้ว่า บอกกับเธอว่าใช่
เพราะว่าตุ้มหูคู่นั้นเธอชอบก็จริง ถ้าเย่โม่เซินไม่ได้ซื้อให้เธอ แล้วจะซื้อกลับมาทำไม และไม่บอกเธอด้วย?
หลังจากที่ปฏิเสธเสร็จ เสิ่นเฉียวถึงรู้สึกว่าเธอหลุดอะไรไป เธอกัดปากแน่นมองเสี่ยวเหยียน เสี่ยวเหยียนรีบกดไหล่เธอไว้: “จริงๆแล้วเธอก็รู้แล้วนี่ฉันยังกะว่าจะเอามาบอกเธอแบบเซอร์ไพรส์”
เสิ่นเฉียวหน้าแดง พยักหน้า
ฉันเห็นแบบไม่ได้ตั้งใจ แต่ว่า…ไม่แน่ใจว่าเขาซื้อให้ฉันรึเปล่า”
“จะเป็นไปได้ยังไง? เขาไม่ได้ซื้อให้เธอ เธอยังอยากจะซื้อให้ใคร?”
“ใช่สิ เขาอยากจะซื้อให้ใคร ฉันเองก็ไม่รู้”
“อย่าคิดไปเรื่อยเลย เธอเป็นภรรยาของเขา อีกอย่าง…วันนั้นเขาเองก็เห็นเธอลองตุ้มหูคู่นั้นต่อหน้าเขา ตอนนั้เขาก็อยากจะซื้อให้เธอ? แต่เธอเดินไปเลย เขาก็เลยไม่ซื้อ จากนั้นเขากลับไป ตอนที่เธอไม่รู้ตัวก็ซื้อไว้! ต้องซื้อให้เธอแน่นอน เฉียวเฉียว เธอยังบอกว่าพวกเธอไม่ได้รู้สึกอะไรต่อกัน ฉันว่าเย่โม่เซินดีกับเธอมากเลย!”
ได้ฟังตรงนี้ เสิ่นเฉียวก็เริ่มหวั่นไหว หันไปมองเสี่ยวเหยียน
“ดีกับฉัน?”
“คนที่อยู่ในงง คนนอกไม่เกี่ยว สายตาที่เขามอง เหมือนกับที่พ่อฉันมองแม่ฉันเลย!”
เสิ่นเฉียว: “…..นี่อธิบายยังไงเนี่ย?”
“พ่อฉันดีกับแม่ฉันมาก และพวกเขาก็รักกันมานานหลายปี เพราะฉะนั้น เธอต้องดูคุณชายเย่ไว้ดีๆ ผู้ชายที่ดีขนาดนี้อย่าให้ผู้หญิงคนอื่นแย่งไปได้นะ”
พอฟังถึงที่นี่ เสิ่นเฉียวก็หัวเราะออกมา “เธอนี่นะ”
ทั้งสองก็เงียบไปสักพัก เสิ่นเฉียวดูเวลาตลอด ดูจนเวงาเกือบถึงครึ่งชั่วโมง แล้วก็บอกลากับเสี่ยวเหยียน จากนั้น ก็เตรียมที่จะไปหาเย่โม่เซิน
ใครจะไปรู้ว่าเธอเพิ่งเดินออกมาจากห้องทำงานของเสี่ยวเหยียน ก็เห็นว่าเซียวซู่ที่เข็นเย่โม่เซินที่นั่งอยู่บนรถเข็นออกมาตรงหน้าเธอ
ทั้งสองสบตากัน เย่โม่เซินใช้ดวงตาสีดำจ้องเธอไว้ แสดงถึงความไม่พอใจ
“ทำไมนานขนาดนี้?”
เสิ่นเฉียวก็รีบเดินไปด้านหน้า เดินไปด้านหลังของเขา: “ทำไมนายถึงมาล่ะ?”
เย่โม่เซินขมวดคิ้ว: “ผ่านไปครึ่งชั่วโมงแล้ว”
พอได้ยิน เสิ่นเฉียวก็ดูเวลา พูดขึ้น: “เพิ่งผ่านไปเอง”
“ผู้หญิงแต่งงาน2ครั้ง ดูเหมือนว่าเธอจะไม่ใส่ใจกับคำพูดของผม”
พูดถึงที่นี่ เย่โม่เซินก็มองไปที่เสี่ยวเหยียน เสี่ยวเหยียนเหมือนกับเจอกผู้ใหญ่ยืนตรงยืดอกยกไหล่ จากนั้นก็โบกมือให้เย่โม่เซิน จากนั้นคำพูดเย็นชาก็ส่งมา: “คุณชายเย่ กลับดีๆนะ”
สายตาที่แปลกใจของพนักงานแผนกบัญชีคนอื่นก็มองมา เสิ่นเฉียวก็ทำได้แน่รีบเข็นเย่โม่เซินออกมาจากแผนกบัญชี หลังจากเข้าไปในลิฟต์ค่อยพูดขึ้น: “เมื่อกี้ฉันกะว่าจะไปหานาย แต่นายมาแล้ว”
เย่โม่เซินเย็นชามาก ทำให้บรรยากาศในลิฟต์เย็นไปด้วย ลิฟต์ค่อยๆเลื่อนลงทีละชั้นทีละชั้น เสิ่นเฉียวได้ยินคำพูดที่เย็นชาของเย่โม่เซิน: “ผมให้เซียวซู่ไปส่งเธอที่โรงพยาบาล ผมยังต้องประชุมต่อ”
การกระทำแบบนี้ทำให้เสิ่นเฉียวรู้สึกอบอุ่นมาก ยิ้มขึ้น: “ได้ งั้น….วันนี้ฉัน…..”
“พอทายาเสร็จ ก็กลับไปพักผ่อนที่บ้าน ได้ยินไหม?” เขาพูดอีก
นี่เป็นครั้งแรกที่เสิ่นเฉียวพยักหน้าตอบตกลงอย่างว่าง่าย
เห็นท่าทางที่ส่องออกมาของเสิ่นเฉียว เย่โม่เซินเห็นว่าเธออบอุ่นมาก และวันนี้เธอดูเชื่อฟังมาก ความอ่อนโยนตอนก้มหัวลง….ทำให้เขาหลุดการควบคุม
ความแปลกประหลาด ที่เย่โม่เซินรู้สึกหงุดหงิดขึ้น ยื่นมือออกมาดึงเนกไทที่คอเสื้อ กัดฟัน แต่ก็ไม่รู้จะว่าอะไรเธอ สุดท้ายก็เงียบไว้
จากนั้นเย่โม่เซินก็กลับไปประชุมต่อ เซียวซู่ส่งเสิ่นเฉียวไปโรงพยาบาล
ตอนที่ไปเอารถที่ล่างตึก เสิ่นเฉียวก็ถามขึ้น: “เมื่อกี้เย่โม่เซิน ตั้งใจออกมาจากการประชุมเลยหรอ?”
คำถามนี้ถามได้แบบไม่ดูตัวเองเลย แต่เสิ่นเฉียวก็ถาม
เซียวซู่นิ่งไปสักพัก แล้วก็พยักหน้า: “ใช่ เวลาที่คุณชายเย่ตกลงกับคุณนายน้อยรองถึงแล้ว คุณนายน้อยรองไม่มา ก็เลยลงไปหาคุณนายน้อยรองก่อนเอง”
คำเรียกคุณนายน้อยรองนี้เรียกได้สบายใจมาก เธอยิ้มออกมา
เซียวซู่เห็นเธอยิ้มจากกระจก ในใจก็รู้สึกอุ่นใจ และรู้สึกดีใจ มองด้านหลังด้วยสายตาที่งุนงงและถามเสิ่นเฉียว: “คุณนายน้อยรอง….”
พอได้ยิน เสิ่นเฉียวก็เงยหน้าขึ้น สายตาที่ใสซื่อนั้นผ่านเข้าไปในสายของเขา
“ทำไมหรอ?”
สายตาที่ใสซื่อนั้น ก็ยังมีความสับสนเล็กน้อย เหมือนว่ารวมทุกอย่างไว้
เสิ่นเฉีนวในแบบนี้ จะทำให้คนไปทำลายได้ยังไง?
เซียวซู่เงียบไป เมื่อกี้อยากจะพูดอะไรแต่ก็หยุดเงียบไป
“เซียวซู่ นายมีอะไรจะพูดกับฉันหรอ?” เสิ่นเฉียวเห็นเขาอ้ำๆอึ้งๆ เหมือนมีอะไรจะพูด แต่รอไปครึ่งวันก็ไม่พูดอะไรออกมา เสิ่นเฉียวก็เลยถามเองเลย
พอถูกถามแบบนี้ เซียวซู่ก็หลบสายตาทันที คิดถึงผู้หญิงบางคน เซียวซู่รู้สึกว่า ทั้งๆที่มีเรื่องจะพูด แต่ว่ารอไปครึ่งวันก็ไม่พูดอะไร งั้นสำหรับเธอแล้วก็ไม่ยุติธรรมเลย
แต่ว่า…เขาทำงานตามคำสั่งของคุณชายเย่
คำสั่งของคุณชายเย่ เขาไม่ฟังไม่ฟังไม่ได้
“ไม่…..ไม่มีอะไร” เซียวซู่ส่ายหน้า สุดท้ายก็เลือกที่จะไม่พูด
เสิ่นเฉียวเห็นสายตาของเขาก็ยิ่งแปลกใจ ทั้งๆที่สีหน้าแบะท่าทางของเขาเหมือนว่ามีอะไรจะพูด แต่ก็ไม่พูด แต่ทำไมถึงไม่พูดล่ะ?
“เกินอะไรขึ้น….ใช่ไหม?”
“คุณนายน้อยสอง ไม่มีอะไร เป็นปัญหาของผมเอง” เซียวซู่พูดแล้วก็จับหัวตัวเอง: “คุณอย่าใส่ใจเลย ผมจะส่งคุณไปโรงพยาบาลเดี๋ยวนี้เลย”
ในเมื่อเขาไม่ยอมบอก งั้นเสิ่นเฉียวเองก็จะไม่บังคับเขา
แต่ว่า…ในใจของเธอก็สงสัยมาก เซียวซู่ปิดบังอะไรอยู่?