บทที่240 เขาไปไหน
หลังจากที่ไปโรงพยาบาลแล้ว เซียวซู่ก็บอกสถานการณ์กับส้งอาน ส้งอานส่ายหน้า ฆ่าเชื้อและทายาให้เธอใหม่ จากนั้นก็ให้เธอกลับไปพักผ่อน
ก่อนที่เสิ่นเฉียวจะกลับ ส้งอานก็ทนไม่ได้พูดขึ้น: “เฉียวเฉียว น้าคิดว่าเธอเป็นคนบ้านเดียวกันนะ มีอะไรน้าก็พูดตรงๆเลย แผลของเธอมันก็หนักอยู่ แต่ต่อไปก็มาโรงพยาบาลทุกวันไม่ได้ เธอแค่ตายให้โม่เซินทายาให้เธอ ก็ได้แล้ว เข้าใจไหม?”
เสิ่นเฉียวถูกส้งอานพูดจนหน้าแดง: “ขอโทษนะคะน้า ฉันจำไว้แล้ว ต่อไปจะไม่มารบกวนน้าอีก”
พอได้ยิน ส้งอานก็มองเธอ: “เธอคิดยังไง? น้าไม่ได้รู้สึกว่าเธอมารบกวน แต่ว่าเธอจะมาให้น้าล้างแผลให้เธอทุกวันที่โรงพยาบาลไม่ได้ แต่ต้องฝึกที่จะให้โม่เซินช่วยเธอ รู้ไหม? ผู้หญิงน่ะ บางครั้ง ก็ต้องอ่อนหน่อย อย่างแข็งเกินไป”
เสิ่นเฉียวนิ่งไปสักพัก รู้ตัวว่าส้งอานกำลังสอนเธอว่าจะจัดการกับเย่โม่เซินยังไง
“น้าคะ ฉัน…..”
“ที่ฉันบอกเธอวันนั้นย่าลืมล่ะ ถึงแม้ว่าดูๆแล้วโม่เซินจะปากร้าย แต่จริงๆแล้วใจลองเขาบอกบางมาก เป็นคนที่อ่อนแอเลย ภายนอกกันภายในของเขาไม่เหมือนกันจริงๆ จัดการเขาเธอต้องหาวิธี รู้ไหม?”
พูดถึงที่นี่ ส้งอานจับมือเธอไว้: “อย่าบอกว่าพวกนี้ฉันเป็นคนบอกเธอ เธอต้องรู้เอง เข้าใจไหม?”
หลังจากที่บอกลากับส้งอาน เสิ่นเฉียวก็กลับบ้านตระกูลเย่ทันที หลังจากที่กลับบ้านแล้ว เธอคิดคนเดียวอะไรเยอะแยะ ทันใดนั้นก็เอาโทรศัพท์ออกมาส่งข้อความให้หนาเส่โยว
เธอไม่มีเพื่อนอะไร ก็มีแค่หานเส่โยวที่เป็นเพื่อนที่คุยได้ ช่วงนี้ก็รู้จักกับเสี่ยวเหยียน
ตอนนี้เรื่องในใจของเธอเยอะมาก เธอก็อยากจะหาคนคนหนึ่งมารับฟัง
เพิ่งเปิดวีแชทของกานเส่โยวขึ้น ท่าทางของเสิ่นเฉียวก็นิ่งไป คิดถึงคำก่อนหน้านี้ที่เธอพูดกับตัวเอง ไม่รู้ว่าจะเอาเรื่องในใจของเธอมาพูดให้ฟังดีไหม เธอจะด่าตัวเองไหม?
พอนึกถึงที่นี่ เสิ่นเฉียวก็สูดลมหายใจเข้าลึกๆ สุดท้ายก็วางโทรศัพท์ลง
ช่างเถอะ เธอทำตามใจตัวเองดีกว่า
พอถึงช่วงบ่าย เสิ่นเฉียวก็ไปกินข้าวกับเย่โม่เซินที่บริษัท ปรากฏว่าเย่โม่เซินไม่อยู่ที่บริษัท
พอถามก็รู้ว่าเขาออกจากบริษัทไปตั้งแต่เช้าแล้ว ตามความหมายของยามแล้ว เย่โม่เซินออกไปหลังจากที่เธอออกไป พอเธอออกไปแล้วเขาก็ออกมา
หลังจากที่รู้ข้อมูลนี้ เสิ่นเฉียวก็คิดขึ้นมา
ตอนนั้นให้เซียวซู่ส่งเธอกลับ บอกว่าจะประชุม
แสดงว่าประชุมสำคัญมาก ก็เลยหยุดกลางคัน แต่หลังจากนั้นทำไมเขาถึงออกมาตากบริษัทได้? มีเรื่องสำคัญอะไรหรอ? สำคัญกว่าการประชุม?
เสิ่นเฉียวรู้สึกแปลกใจ แต่ก็ไม่ได้คิดมาก ไปกินข้าวกลางวันกับเสี่ยวเหยียน แต่ว่าทั้งบ่ายก็ไม่เห็นเย่โม่เซินเลย เขาก็ไม่ได้กลับมาที่บริษัท สุดท้ายเสิ่นเฉียวก็กลับบ้านก่อนคนเดียว
เสิ่นเฉียวคิดว่าตอนกลางคืนจะได้เจอเขา ก็เลยไม่ได้ทายาใหม่ เพราะเธอจำคำที่ส้งอานพูดไว้ คิดว่าเขาอาจจะช่วยเธอทายาได้
เริ่มแรกก็เลยนั่งรอที่โซฟา รอจนเผลอหลับไป พอเธอตื่นขึ้นมา เห็นว่าในห้องก็ยังโล่งเหมือนเดิม ไม่มีเลยสักคน
เสิ่นเฉียวขยี้ตา เย่โม่เซิน….ยังไม่กลับมาอีกหรอ?
พอเธอขยี้ตาเสร็จ ก็หยิบโทรศัพท์ออกมาดู
เห็นว่าตอนนี้เป็นเวลาเที่ยงคืนแล้ว
ดึกขนาดนี้แล้ว…..
เธอหลับที่โซฟาไปหลายชั่วโมงแล้ว?
เสิ่นเฉียวรู้สึกหนาว รับลุกไปเอาเสื้อมาคลุมไว้ แล้วก็เดินออกไปหาเย่โม่เซิน
ไปที่ห้องหนังสือก็ไม่เห็น สุดท้ายไปถามคนใช้
“คุณชายสองยังไม่กลับมาหรอ?”
คนใช้เห็นเธอ ก็ตอบ: “คุณนายน้อยรอง ดึกขนาดนี้แล้ว ทำไมคุณยังไม่พักผ่อนหรอ?”
พอได้ยิน เสิ่นเฉียวก็เม้มปาก แล้วถาม: “คำถามที่ฉันถามเธอเมื่อกี้ เธอยังไม่ได้ตอบฉันเลย”
คนใช้ตอบอย่างเคารพ: “คุณชายสองยังไม่กลับมา อาจจะเป็นเพราะงานยุ่ง ดึกแล้ว คุณนายน้อยสองรีบพักผ่อนเถอะ”
พูดจบ คนใช้ก็เดินจากไป
เสิ่นเฉียวยืนนิ่งไว้ที่เดิม ดึกขนาดนี้แล้ว เขายังไม่กลับมา
ไปยุ่งอะไรหรอ?
คิดถึงนี้ เสิ่นเฉียวก็นึกถึงสถานการณ์ที่ถามถึงที่บริษัท เขาออกจากบริษัทตั้งแต่เช้า แล้วเธอก็รอเขาทั้งบ่ายก็ไม่เจอ และกลับมาที่บ้านก็ไม่เจออีก
อาจจะ…เกิดอะไรขึ้นรึเปล่า?
ใจของเสิ่นเฉียวเต้นแรงขึ้น รีบเอาโทรศัพท์ออกมาโทรหาเย่โม่เซิน
โทรไปถึงรู้ว่าโทรไม่ติด ในใจของเสิ่นเฉียวเป็นห่วงมาก ทำได้แค่โทรหาเซียวซู่
ทางเซียวซู่เองก็โทรไปหลายสายถึงจะรับ เสียงเขาไม่ชัดเจน เหมือนถูกปลุกตื่น
“ใครอ่ะ?”
“เซียวซู่ ฉันเอง”
“….เอ่อ? คุณเป็นใคร? คุณ คุณนายน้อยรอง?” แรกๆเซียวซู่ยังเบลอๆ ตอนหลังค่อยฟังออกว่าเป็นเสียงของเสิ่นเฉียว จากนั้นก็เหมือนว่าเธอก็ตื่นทันทีเลย จากนั้นเสิ่นเฉียวก็ได้ยินเสียง เธอเอาโทรศัพท์ออกห่างแบบมีมารยา. ผ่านไปสักพักก็มีเสียงของเซียวซู่ เธอถึงวางโทรศัพท์ไว้ข้างหูคืน
“ขอโทษนะครับคุณนายน้อยรอง ช้าไปหน่อย คุณหาผมมีเรื่องอะไรรึเปล่า?”
ฟังจากน้ำเสียงของเขา เหมือนว่าไม่ได้อยู่กับเย่โม่เซิน?
พอนึกถึงนี้ เสิ่นเฉียวก็ถามอย่างระวัง: “ฉันอยากถามนายว่า….วันนี้นายอยู่กับเย่โม่เซินไหม?”
ได้ยินชื่อของเย่โม่เซิน เหมือนว่าเซียวซู่จะนึกอะไรได้ เหมือนรู้สึกผิดขึ้นมา
“คุณนายน้อยรอง….ทำไมถึงถามแบบนี้? มีปัญหาอะไรรึเปล่า?”
“เขา…ถึงตอนนี้ก็ยังไม่กลับมาบ้านเลย ฉันรู้สึกเป็นห่วงเขานิดหน่อย”
“อะไรนะ?” เซียวซู่ตกใจ “ถึงตอนนี้แล้วคุณชายเย่ยังไม่ได้กลับไป?”
เสิ่นเฉียวตอบ : “ใช่ นายรู้ไหมว่าเขายู่ไหน?”
“ว้าว!” เซียวซู่อุทานออกมา: “คุณชายเย่ถูกเธอตามถึงตอนนี้? กี่โมงแล้วเนี่ย?”
คำคำนี้เป็นเซียวซู่พูดออกมา ถึงแม้พูดเบามาก แต่เสิ่นเฉียวก็ได้ยิน แต่ก็ไม่ชัดเจนมาก ถามเขาอย่างสงสัย: “เมื่อกี้นายพูดอะไรนะ?”
“ไม่” เซียวซู่ตอบเร็วมาก ปฏิเสธ: “ไม่มีอะไร คุณนายน้อยรองไม่ต้องเป็นห่วง ผมจะโทรหาถามคุณชายเย่เดี๋ยวนี้เลย”
“โทรศัพท์ของเขาโทรไม่ติด”
เสิ่นเฉียวนิ่งไป กัดปากของเธออย่างเป็นห่วง: “นาย…พาฉันไปหาเขาได้ไหม?”
เธอแปลกใจมาก วันนี้เขายุ่งทั้งวัน ยุ่งอะไรกันแน่?
“คุณนายน้อยรอง……” เซียวซู่พูดอย่างลังเล: “คงจะไม่ได้ ดึกเกินไปแล้ว อีกอย่างคุณบาดเจ็บอยู่ ถ้าคุณชายเย่รู้ว่าผมพาคุณไป ต้องลงโทษผมแน่เลย”
“ไม่เป็นไร แผลของฉันจะหายดีแล้ว ฉันแค่รู้สึกเป็นห่วง”
“คุณนายน้อยรอง ผมไปหาคุณชายเย่ตอนนี้เลย คุณรีบพักผ่อนเถอะ”