บทที่ 262 ไร้ผลประโยชน์
“ไม่เข็น? งั้นเปลี่ยนให้ฉันกอดเธอเดินหรอ? ”
ได้ยินแล้ว เสิ่นเฉียวสักพักก็หน้าแดง จ้องมองเย่โม่เซินอย่างดุเดือด
ไอ้คนเลวนี่จะทำอะไรกันแน่?
“ไม่จำเป็น พวกเราต่างคนต่างเดินก็พอแล้ว ”
“ไม่ ” เย่โม่เซินเม้มริมฝีปากเบาๆ สายตาแทบจะแผดเผาใบหน้าของเธอ น้ำเสียงแข็งๆ : “เธอจะมาเข็นฉันหรือจะให้ฉันไปกอดเธอ ”
เสิ่นเฉียว:“……”
“ให้เวลาเลือกสามวินาที เธอน่าจะรู้ว่าไม่มีเรื่องที่ฉันเย่โม่เซินทำไม่ได้ ฉันอยากจะกอดเธอ เธอก็หนีไม่พ้น” ดวงตาของเขาจับจ้องเธอเหมือนหมาป่า ทำให้เสิ่นเฉียวมีความรู้สึกเหมือนโดนลงโทษแบบนึง
“นาย! ” เสิ่นเฉียวโกรธมาก แต่ก็เชื่อว่าเย่โม่เซินไม่เรื่องไหนที่เขาทำไม่ได้
แต่แล้วยังไงล่ะ? เธอก็ยังไม่ไปเข็นเขา เธอกับเขากำลังทะเลาะกันเรื่องหย่า!
คิดถึงตรงนี้ เสิ่นเฉียวก่อนที่มือเขาจะหมุนล้อเข้ามา หันตัวกลับแล้วเดินหนี
เธอคิด ไม่ว่าจะพูดยังไง ตัวเองมีสองเท้า ก็คงไม่ขนาดวิ่งช้ากว่าล้อของเย่โม่เซินหรอกมั้ง?
เธอประเมินความแข็งแกร่งของเย่โม่เซินต่ำไป เธอวิ่งไวมาก จากนั้นก็หมุนไปรอบๆ
เสิ่นเฉียวตกใจจนร้องออกมาเสียงแหลม ยื่นมือออกไปจับคอเสื้อของเย่โม่เซิน
ตูม!
เสิ่นเฉียวเข้าไปอยู่ในอ้อมอกของเย่โม่เซินทั้งตัว ลมหายใจสักพักถูกความเยือกเย็นบนร่างกายเขาปกคลุมหมด
“ก็บอกแล้วว่ามีแค่สองตัวเลือก? ยังกล้าหนี? ” เย่โม่เซินทำเสียงต่ำดุออกมา
เสิ่นเฉียวต่อสู้อยู่ในอ้อมอกเขา “เย่โม่เซิน คุณปล่อยฉัน ฉันไม่ได้ต้องการให้คุณอุ้มฉันกลับไป ฉันก็ไม่อยากเข็นคุณกลับไปด้วย พวกเราต่างคนต่างเดินไม่ได้หรอ? ”
“ไม่ได้”เย่โม่เซินจับเธอไว้ในอ้อมแขนด้วยมือข้างเดียวเพื่อป้องกันไม่ให้เธอขยับ อีกมือก็เข็นล้อ
ท่าทางแบบนี้สำหรับเสิ่นเฉียวมองมาคิดว่ายากมาก แต่เย่โม่เซินกลับทำได้อย่างสบาย ดูง่ายดายมาก
เสิ่นเฉียวก็รู้สึกว่าเขาแรงเยอะ บางครั้งเธอคิดว่าเป็นเรื่องปกติที่ผู้ชายและผู้หญิงแรงจะมีความเหลื่อมล้ำกัน แต่เย่โม่เซินเป็นคนพิการ แต่ท่าทางที่เขาทำไม่เหมือนคนพิการ
รวมถึงสมรรถภาพทางกายและหุ่นของเขา ยังคงมีความสง่า
ไม่เหมือนที่คนพิการมาหลายปี!
“เย่โม่เซิน คุณเข้าใจสถานการณ์แล้วหรือยัง? พวกเรากำลังทะเลาะกันเรื่องหย่า! ”
เสิ่นเฉียวผลักอกของเขาอย่างโกรธเกรี้ยวและตะโกน
ได้ยินคำว่าหย่า เย่โม่เซินความเย็นชาในดวงตาก็ลึกขึ้น เขายิ้มมุมปากแล้วพูดว่า : “ฉันก็เคยบอกเธอแล้ว เธอมีชีวิตอยู่เธอคือผู้หญิงของเย่โม่เซิน ตายแล้วก็เป็นของเย่โม่เซิน เกมพึ่งจะเริ่ม ตราบใดที่ฉันยังไม่บอกให้มันจบมันก็จะไม่จบ เพราะฉะนั้นเธอคือผู้หญิงของฉันตลอดไป”
“หย่า? ” เขาก้มหัว จ้องมองเธออย่างแผดเผา เม้มริมฝีปากบางๆ เบาๆ : “เป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว”
พูดจบ เย่โม่เซินขมวดคิ้ว คิดอะไรออก “วันนี้เธอไปไหนมา? ”
เสิ่นเฉียวหลังจากดิ้นรนมานานก็ไม่พ้น ยังคงถูกเขากอดอยู่ในอกอย่างแน่น เธอไม่มีแรงจะดิ้นรนแล้ว ได้แต่พูดอย่างโกรธๆ : “ฉันทำไมต้องบอกคุณ? ”
“ไม่อยากบอก? ก็ได้ ฉันให้เซียวซู่ไปสืบแป๊บเดียวก็รู้แล้ว ”
พูดจบ เย่โม่เซินก็หยุดทันที จากนั้นหยิบโทรศัพท์ออกมาโทรหาเซียวซู่ ให้เขาไปสืบดู
เสิ่นเฉียวมองดูอย่างอึ้งๆ รอเขาวางสายแล้วถึงพูดว่า : “คุณทำไมถึงเป็นคนเอาแต่ใจขนาดนี้? ฉันไม่สามารถที่จะมีพื้นที่ของตัวเองเลยหรอ? ”
“ได้ งั้นเธอบอกฉันด้วยตัวเอง ” เย่โม่เซินจับคางของเธอไว้ จ้องมองเธอ : “อยากมีพื้นที่ส่วนตัวอะได้ แต่ฉันเป็นสามีของเธอ เธอต้องบอกฉันว่าเธอไปไหน? ”
“ฉันไม่มีวันจะบอกคุณหรอก เย่โม่เซิน ฉันได้แต่หย่ากับคุณ ”
“ฉันก็บอกแล้วไม่มีทาง ” มือที่จับคางของเธอเย่โม่เซินใช้แรงนิดหน่อย “อย่าเสียแรงเปล่าเลย เธอยังไงก็เป็นผู้หญิงของฉันเย่โม่เซิน”
เสิ่นเฉียวในใจรู้สึกขมขื่น ถ้าหากเขาไม่ได้ไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับหานเส่โยว คำพูดพวกนี้ของเขา……อาจจะทำให้เธอหน้าใจเต้นได้
แต่ตอนนี้ไม่เหมือนกัน หลังจากเธอรู้เรื่องเขากับหานเส่โยว ตอนนี้เขาจะกอดเธอโดนตัวเธอ เสิ่นเฉียวใจก็ไม่เหมือนเดิมแล้ว เธอต่อต้านเขามาก!
แต่เธอก็ไม่มีทางรับมือกับเขา สุดท้ายก็ถูกเขาพากลับไปที่บ้านตระกูลเย่ พากลับไปในห้อง
ในห้องยังกองของไว้อีกเยอะ เย่โม่เซินเห็นห้องที่ตอนแรกเรียบดูมีชีวิตชีวาขึ้นเพราะมีของเพิ่มเข้ามาต้องโกรธมากแน่ๆ หัวใจที่เย็นชาค่อยๆ เบาลง เขาทนไม่ไหวจับมือของเสิ่นเฉียวไว้
“ของที่ให้เธอ ชอบไหม? ”
เสิ่นเฉียวไม่ได้สนใจของเหล่านั้น ขนาดมองยังไม่เคยไปมองสักตา แม้ในใจเธอจะรู้สึกว่าเย่โม่เซินซื้อของพวกนี้ให้เธอก็เพราะปิดปากเธอ ให้เธอไม่พูดมาก
คิดถึงตรงนี้ เสิ่นเฉียวเงยหน้ามองไปที่เย่โม่เซินไม่พูดจา
ดวงตาของเธอเย็นชา ไม่มีความอบอุ่นอยู่เลย เย่โม่เซินรู้สึกในใจเล็กน้อย หลังจากนั้นไม่นานเขาเม้มปากเบาๆ : “ไม่ชอบ? งั้นเธอชอบอะไร? บอกฉัน”
เสิ่นเฉียวก็ยังไม่พูด ยังคงจ้องที่เขา
เย่โม่เซินครุ่นคิดสักครู่ เสียงอบอุ่นขึ้น : “เสื้อผ้าเครื่องประดับก็ไม่ชอบหมดเลยหรอ? งั้นเธอชอบช็อกโกแลต ดอกไม้? ”
ตอนบ่ายเซียวซู่พูดกับเขาไว้ ถ้าเป็นผู้หญิงก็ปฏิเสธเสน่ห์ของดอกไม้กับช็อกโกแลตไม่ได้ ยังมีบ้าน รถ บัตรธนาคาร
“เหอะ ” เสิ่นเฉียวทนไม่ไหวหัวเราะออกมา : “ดอกไม้ ช็อกโกแลต? ”
“ก็ไม่ชอบ? ” เย่โม่เซินขทวดคิ้ว เซียวซู่นี่พึ่งไม่ได้ เขาบอกว่าผู้หญิงคนไหนก็ต่างอดใจไม่ได้ไม่ใช่หรอ?
คิดถึงตรงนี้ เย่โม่เซินก็พูดอีกว่า : “งั้นซื้อบ้านซื้อรถให้เธอ? ให้บัตรไม่จำกัดวงเงินเธอรูด? ”
เสิ่นเฉียว:“……”
เย่โม่เซิน ถ้าหากฉันจำไม่ผิด ตอนแรกที่ฉันแต่งงานเข้าตระกูลเย่ใหม่ๆ คุณคิดว่าฉันเป็นผู้หญิงที่โลภในทรัพย์สมบัติ ตอนนี้คุณกลับเอาของพวกนี้มามอบให้ฉันแล้ว? คุณไม่คิดว่ามันน่าขำหรอ?
ฟังแล้ว เย่โม่เซินขมวดคิ้วแน่น เม้มปากอย่างแน่นตลอด
“ยังพูดว่า ในใจของคุณฉันเป็นผู้หญิงแบบนั้น เลยเอาของพวกนี้มามอบให้ฉันก็พอแล้วหรอ? และฉัน ก็ต้องรู้สึกขอบคุณในความเมตตาของคุณอีกด้วยงั้นหรอ? ”
นี่มันตรรกะอะไรกัน? เย่โม่เซินไม่เข้าใจว่าสมองเธอมันกลับยังไง? เขามองเธออย่างไม่มีความสุข
“ผู้หญิงโง่ นี่เธอมองไม่ออกหรอ ว่าฉันกำลังเอาใจเธอ? ”
“……”เสิ่นเฉียวตัวสั่น อดไม่ได้ที่จะมองไปที่ดวงตาของเย่โม่เซิน
สักพักเหมือนว่าทั้งหมดกาแล็กซีรวมตัวกันอยู่ในดวงตาของเขา สดใส ส่องแสงประกาย
ช่างเป็นเรื่องราวความรักที่น่ารัก
ถ้าหากไม่ใช่เพราะรู้ว่าเขาอยากจับปลาสองมือ เสิ่นเฉียวอาจจะถูกเขาทำให้ประทับใจแล้ว
ในทางตรงข้าม……เสิ่นเฉียวหัวเราะ พูดเบาๆ : “เย่โม่เซิน คุณแค่อยากจะเอาของพวกนี้มาปิดปากฉัน น่าเสียดาย ฉันไม่ใช่ผู้หญิงอย่างที่คุณคิด เงินมีความหมายกับฉัน แต่ก็ไม่ได้สำคัญขนาดนั้น พวกนั้นก็ต่างเป็นของนอกกาย”
“งั้นเธออยากได้อะไร? ” สีหน้าของเย่โม่เซินเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมขึ้นมา เขารู้สึกว่าทุกสิ่งที่เขาทำในวันนี้อาจไร้ผล