บทที่271 ด้านที่เปราะบางของเย่โม่เซิน
พูดจบ เสิ่นเฉียวก็พุ่งตัวออกไปด้านนอก
“ถ้าเธอไม่สนว่าพวกเขาจะตาย เธอก็ออกไปได้เลย” เสียงของเย่โม่เซินดังลอยมาจากด้านหลังอย่างไม่ทันคาดคิด เสิ่นเฉียวหยุดนิ่งอยู่ที่เดิม หันไปก็พบกับเย่โม่เซินที่นั่งอยู่บนวีลแชร์ที่อยู่ห่างไปไม่ไกล
สายตาของเขาเย็นชา ทอดไปไกลและมองดูเธออย่างไม่ใส่ใจนัก
ไร้อารมณ์และเยือกเย็น
“ทำไม?” เสิ่นเฉียวสบตาเขาและถามอย่างอ่อนแรง
“ฉันไม่อยากอยู่ที่นี่ ฉันอยากออกไปไม่ได้เหรอ?”
เย่โม่เซินเม้มปากบางแน่น ลมหายใจที่เย็นชาเกือบจะห่อหุ้มทุกสิ่งรอบตัว จูหยุน ก็รู้สึกได้ถึงความกดดันนี้และไม่กล้าจะมองเย่โม่เซิน
“ไม่ได้”
“หึ…” เสิ่นเฉียวหัวเราะเบา ๆ สุดท้ายเธอเดินเข้าไปหาเย่โม่เซินทีละก้าว ๆ สาวใช้และพนักงานเฝ้าประตูต่างแทบจะหยุดหายใจยืนดูฉากนี้
คุณชายเย่ที่ทุกคนต่างหวาดกลัว คิดไม่ถึงว่าวันหนึ่งจะถูกผู้หญิงคนหนึ่งปฏิเสธแบบนี้ซึ่งถือว่าเป็นอะไรที่คาดไม่ถึงจริง ๆ
“คุณจะต้องบังคับฉันแบบนี้จริง ๆ ใช่ไหม?” เสิ่นเฉียวก้มหน้ามองเย่โม่เซินและถามขึ้น
เย่โม่เซินยกเปลือกตาขึ้นเล็กน้อยแล้วพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “จูหยุน พาเธอกลับไปที่ห้องของเธอ”
จูหยุน ที่กลัวแทบตายรีบพยักหน้าและขยับเข้าไปจูงมือของเสิ่นเฉียวแน่น: “คุณนายน้อยไปค่ะ ฉันพาคุณกลับห้องนะคะ”
“ฉันไม่ไป” ขาของเสิ่นเฉียวยังอยู่ที่เดิมไม่เต็มใจจะเดินไปแม้แต่ก้าวเดียว จูหยุน ตกใจกลัวจนหน้าเปลี่ยนสีแล้วกระซิบ: “คุณนายน้อยคะ รีบไปเถอะค่ะ เดี๋ยวคุณชายเย่จะโมโหแล้วนะคะ”
“เขาโมโห แล้วเกี่ยวกับฉันยังไง?” เสิ่นเฉียวจ้องไปที่เย่โม่เซินด้วยสายตาเย็นชา จากนั้นเธอก็ดึงมือออกแล้วเดินเข้าไปหาเย่โม่เซิน “เย่โม่เซิน คุณรู้ไหมว่านี่คือการกักขังหน่วงเหนี่ยว? มันผิดกฎหมาย?”
สีหน้าเย่โม่เซินยังคงนิ่งเฉยน้ำเสียงไม่มีความอบอุ่น
“กักขัง? เธอเป็นภรรยาของเย่โม่เซิน ข้างนอกมันอันตราย ฉันห้ามเธอออกไปมันผิดกฎหมายตรงไหน? หือ?”
“จูหยุน !” เย่โม่เซินตะโกน จูหยุน รีบเข้าไปจับเสิ่นเฉียวด้วยความตระหนก: “ไปเถอะค่ะคุณนายน้อย ฉันช่วยพยุง รีบไปค่ะ”
หลังจากที่ จูหยุน กึ่งลากกึ่งกอดเสิ่นเฉียวเดินไปและโชคดีที่เธอแรงเยอะ อีกทั้งยังโชคดีที่เสิ่นเฉียวค่อนข้างอ่อนแอ
หลังจากพวกเธอเดินไปแล้ว เย่โม่เซินก็หันไปมองพนักงานรักษาความปลอดภัยที่เฝ้าประตู
“คุณชายเย่วางใจได้ครับ พวกเราจะตรวจสอบทุกซอกมุมด้วยชีวิต คำสั่งของคุณพวกเราจะต้องทำให้ได้ครับ”
“อืม” เย่โม่เซินจึงได้พยักหน้าด้วยความพอใจแล้วจากไป
หลังจากเย่โม่เซินไปแล้ว กลุ่มพนักงานก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่
“กลัวแทบตาย ฉันยังนึกว่าครั้งนี้จะต้องตายเสียแล้ว ผู้หญิงที่จู่ ๆ ก็โผล่มาเธอเป็นใครน่ะ จู่ ๆ ก็มาเกี่ยวพันกับชีวิตเรา?”
“เมื่อกี้เธอไม่ได้ยินเหรอ คุณนายน้อย ผู้หญิงของคุณชายเย่”
“คุณชายเย่…ไม่เคยมีผู้หญิงอยู่ข้างกายเลยนะ? ทำไมจู่ ๆ ก็มีผู้หญิงโผล่มา?”
“นั่นก็ไม่รู้เหมือนกัน เรื่องของเจ้านายอย่าถามให้มากความเลย ทำเรื่องที่เจ้านายมอบหมายพวกเราให้ดีก็พอ”
กลุ่มคนงานจึงได้เงียบลง
เสิ่นเฉียวถูก จูหยุน กลับมาที่ห้อง หลังจากนั่งลงเสิ่นเฉียวก็เอนหลังลงอย่างไร้เรี่ยวแรง เธอเอนหลังพิงกับผ้าห่มอ่อนนุ่มพอดี จูหยุน เห็นสีหน้าของเธอแย่มากจึงได้แต่เกลี้ยกล่อมเบา ๆ: “คุณนายน้อยอย่างเป็นกังวลเลยค่ะ คุณชายเย่คงแค่โมโห รออีกพักไม่แน่ว่าคุณอาจจะออกไปข้างนอกได้ก็ได้ค่ะ”
“ออกไป? ฉันยังมีโอกาสนั้นอีกเหรอ?” เสิ่นเฉียวหัวเราะอย่างเย็นชา: “เขาคิดจะขังฉันไว้ที่นี่ จูหยุน…เธอชื่อ จูหยุน ใช่ไหมจ๊ะ? ช่วยฉันแจ้งความที ฉันจะแจ้งความ”
เธอต้องการจะออกไป เธอจะอยู่ที่นี่ได้อย่างไรกัน
เธอต้องพยายามคิดหาทางหนีออกไปจากที่นี่ให้ได้
เมื่อได้ยินว่าเธอจะแจ้งความ จูหยุน ก็ถึงกับอึ้งด้วยความกลัวอยู่นานกว่าจะได้สติกลับมา: “คุณนายน้อย คุณเป็นภรรยาของคุณชายเย่นะคะ แจ้งความไม่ได้หรอกค่ะ แจ้งความมั่วไม่ได้นะคะ”
“แจ้งความไม่ได้ แล้วทำยังไงถึงจะได้ออกไปจากที่นี่?” เสิ่นเฉียวส่ายหน้า: “ฉันต้องแจ้งความ ฉันต้องออกไปจากที่นี่ให้ได้ ฉันจะอยู่ที่นี่ไม่ได้”
เธอยอมร่อนเร่อยู่ข้างนอกอย่างโดดเดี่ยวแต่จะไม่ยอมเป็นนกน้อยในกรงทองของเขาอยู่ที่นี่!
แล้วยิ่งกว่านั้นคือเธอเป็นไม่ใช่เพียงนกน้อยเพียงตัวเดียว
เมื่อคิดว่าหานเส่โยวมีความสัมพันธ์กับเย่โม่เซิน เสิ่นเฉียวรู้สึกเหมือนมีมีดแหลมแทงเข้ากลางใจ ไม่ว่าอย่างไรเธอก็ทนรับมันไม่ไหว!
“คุณนายน้อย แจ้งความก็ไม่มีประโยชน์หรอกค่ะ คุณชายเย่ท่านทำเพื่อคุณนะคะ ยิ่งกว่านั้นคุณชายเย่ดีกับคุณขนาดนี้ อีกทั้งไม่ใช้ความรุนแรง ต่อให้แจ้งความแล้วตำรวจมา เขาก็ทำอะไรไม่ได้เพราะถือว่าพวกคุณก็แค่ทะเลาะกันเท่านั้น!”
คำพูดนี้ฉุดให้คนตื่นจากฝัน
เสิ่นเฉียวนิ่งตะลึงอยู่ตรงนั้น จริงสิ…เย่โม่เซินไม่ได้ทำไม่ดีกับเธอ ตรงกันข้ามเขาดีกับเธอมาก เขาซื้อของให้เธอมากมาย นอกจากคำพูดที่เชือดเฉือนของเขาแล้วเขาไม่เคยลงไม้ลงมือกับเธอเลย
ความรุนแรงไม่ต้องพูดถึง เรื่องล่วงละเมิดยิ่งไม่มี
ตำรวจมาแล้วจะมีประโยชน์อะไรล่ะ?
เมื่อคิดถึงตรงนี้ รอยยิ้มของเสิ่นเฉียวก็เจื่อนลง: “งั้นก็เท่ากับว่าฉันต้องโดนเขาขังไว้ที่นี่ตลอดไปใช่ไหม?”
“ที่จริง…”จูหยุน นิ่งไปแล้วอธิบายขึ้นเบา ๆ “ถึงแม้ว่าฉันจะไม่รู้ว่าทำไมคุณนายน้อยถึงอยากจะไปจากที่นี่ และไม่แน่ใจว่าระหว่างคุณกับคุณชายเย่เกิดเรื่องอะไรขึ้น แต่ จูหยุน ก็อยากจะบอกคุณค่ะ สถานตากอากาศนี้เป็นสถานที่ที่คุณชายเย่ให้ความสำคัญที่สุด”
“ทุกปี คุณชายเย่จะมาที่นี่เพียงสามครั้งเท่านั้น”
“ครั้งที่หนึ่งคือวันเกิดคุณแม่ของคุณชายเย่ ครั้งที่สองคือวันครบรอบการจากไปของคุณแม่ และอีกครั้งก็คือช่วงไหว้พระจันทร์”
ได้ยินเช่นนั้น เสิ่นเฉียวก็นิ่งไป “เธอจะพูดอะไร?”
“ฉันพูดมาตั้งขนาดนี้คุณนายน้อยไม่เข้าใจเหรอคะ? สถานที่นี้เป็นสถานที่แห่งความทรงจำของคุณชายเย่และเป็นสถานที่ที่มีค่ามาก ทุกปีเขาจะกลับมาเพียงสามวาระและพักอยู่ไม่กี่วัน ถึงแม้ว่าคุณแม่ของคุณชายเย่จะจากไปนานแล้ว แต่ฉันรู้ว่าในใจของคุณชายเย่ เขาคงจะยังคิดถึงคุณแม่มากแน่ ที่นี่นอกจากคุณชายเย่แล้วก็ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนเคยมาที่นี่มาก่อน”
ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนเข้ามาที่นี่มาก่อน? ทันใดนั้นเสิ่นเฉียวก็คิดถึงหานเส่โยว หรือว่า…เธอก็ไม่เคยมาที่นี่งั้นเหรอ?
“ไม่เคย…มีผู้หญิงคนไหนเคยมาเลยเหรอ?”
จูหยุน ส่ายหน้า: “นอกจากสาวใช้อย่างพวกฉัน คุณนายน้อยเป็นคนแรกค่ะ”
“เป็นครั้งแรกที่คุณชายพาผู้หญิงกลับมาด้วย ที่นี่…เป็นสถานที่ที่เปราะบางที่สุดในใจของคุณชายเย่ สำหรับคุณชายเย่แล้ว คุณนายน้อยจะต้องเป็นคนที่สำคัญมากแน่นอนค่ะ! ไม่อย่างนั้นไม่มีทางปรากฏตัวอยู่ที่นี่ได้แน่”
เสิ่นเฉียวตกตะลึง เดิมทีเธอคิดว่าที่นี่เป็นเพียงสถานพักตากอากาศทั่วไปเท่านั้น เป็นสถานที่เอาไว้วิ่งเล่นสำหรับคนมีเงิน คิดไม่ถึง…ที่นี่จะเป็นสถานที่ที่มีที่มามากมายขนาดนี้
สถานที่ที่ใหญ่โตแบบนี้ เขามาเพียงปีละสามครั้งเท่านั้นเหรอ?
ยิ่งกว่านั้น…ยังเลือกมาวันเกิดและครบรอบวันตายของแม่ และช่วงไหว้พระจันทร์…
ไหว้พระจันทร์…
ใช่แล้ว…ไหว้พระจันทร์คือวันที่อยู่กันพร้อมหน้า
คิดไม่ถึงว่าจะมีเรื่องที่สลับซับซ้อนเช่นนี้
“ดังนั้นคุณนายน้อยคะ คุณอย่าโมโหอีกเลยนะคะ ฉันจะไปยกอาหารกลางวันมาให้ ดีไหมคะ?”
เสิ่นเฉียวเงียบไปและนั่งเฉย ๆ อยู่ตรงนั้น
เธอกำลังคิดว่าทำไมเย่โม่เซินถึงพาเธอมาที่นี่?
หากสิ่งที่ จูหยุน พูดเป็นความจริง สถานที่นี้ก็ถือเป็นฐานลับของเย่โม่เซิน ในขณะเดียวกันก็ถือว่าเย่โม่เซินแสดงให้เธอเห็นถึงด้านที่เปราะบางที่สุดของตัวเขาเองด้วยเช่นกัน