บทที่ 293 เขาไม่เพียงแค่เห็นใจฉัน
แต่ท่าทางของเสี่ยวเหยียนดูไม่ได้รังเกียจเธอเลย
“เธอ…ไม่ชอบฉันเหรอ” สุดท้ายเสิ่นเฉียวก็อดไม่ได้ที่จะถาม
เสี่ยวเหยียนมองเธอแปลกๆ “ฉันไม่ชอบเธอเพราะอะไร”
ทันใดนั้นเธอก็นึกขึ้นได้ว่า “พระเจ้าคงไม่ใช่เพราะฉันเข้าห้องและไม่ได้ออกมานาน ดังนั้นจึงคิดว่าฉันเกลียดเธอดังนั้นเธอเลยต้องจากไปเงียบๆ”
เธอไม่ตอบ แต่เธอคิดอย่างนั้นจริงๆ
เสี่ยวเหยียนโกรธมากจนสำลักและพูดไม่ออก “พอแล้วล่ะ ฉันยังไม่ได้พูดเธอคิดเองเออเอง หรือว่าต่อหน้าเย่โม่เซินเธอก็คิดเองเออเองแบบนี้”
พูดพลางเสี่ยวเหยียนก็ยื่นมือออกและดึงแขนเธอกลับเข้าไปในห้องนั่งเล่น
“ฉันกลับไปที่ห้องเพราะฉันไม่เคยเจอเรื่องแบบนี้มาก่อนเลยไม่รู้จะปลอบเธอยังไง ฉันเลยกลับไปที่ห้องเพื่อจัดการกับความคิดของฉันเอง ตอนนี้ฉันจัดการได้แล้วฉันจึงคิดที่จะออกมาคุยกับเธอ เธอกลับ… เธอกลับคิดแบบนี้กับฉัน มันทำร้ายกันเกินไปแล้ว”
“ขอโทษ …ฉันไม่ได้ตั้งใจ”
“ช่างเถอะ ฉันเป็นผู้ใหญ่พอ ฉันยกโทษให้เธอ”
เสี่ยวเหยียนดึงเธอลงมานั่งบนโซฟา “เรื่องนี้ฉันเข้าใจแล้ว ถ้าฉันได้ยินถูกต้องเย่โม่เซินก็รู้เรื่องใช่ไหม”
เสิ่นเฉียวพยักหน้า
“งั้นก็พูดง่ายขึ้น ในเมื่อเขารู้เรื่องนี้ก็ยังแสดงความรักที่มีต่อเธอและต่อมายังยอมให้เธอเก็บเด็กไว้แสดงว่าเขายอมรับในเรื่องนี้ได้”
เสี่ยวเหยียนสะกิดคางใช้ความคิด “ที่เธอเพิ่งพูดมา ฉันคิดว่าเธอต้องเตรียมใจของเธอให้พร้อม เหมือนกับฉันไม่ได้ทำอะไรเลย แต่เธอกลับคิดว่าเธอน่ารังเกียจและอยากจะจากไป บางทีเย่โม่เซินก็อาจเป็นเหมือนกัน เฉียวเฉียวฉันเคยบอกเธอเรื่องนี้แล้วให้โอกาสเขาอธิบาย ในดวงตาของเขาที่มองมันแสดงถึงความรักใคร่จริงๆ”
“แล้วถ้าเขาไม่ได้รักฉันแค่คนเดียวล่ะ”
เสี่ยวเหยียน “เธออยากจะบอกว่าหานเส่โยวไหม”
“ยังมีอีกเรื่องฉันยังไม่ได้บอกเธอ”
เสี่ยวเหยียนฟังคำพูดนั้นแล้วถอยหลังไปสองสามก้าว กุมหน้าอกของตัวเอง “เธอมีเรื่องเยอะมากเกินไปแล้ว มีเรื่องระทึกมาอีกเรื่องฉันรู้สึกเหมือนทนไม่ไหวแล้ว”
“หานเส่โยวบอกว่าเธอท้อง”
“ลูกของเย่โม่เซินเหรอ” เสี่ยวเหยียนรับคำอย่างเป็นธรรมชาติ
เสิ่นเฉียวแปลกใจเล็กน้อย “รู้ได้ยังไง”
เสี่ยวเหยียนหัวเราะเบา ๆ “เธอคงจะไม่เชื่อหรอกใช่มั้ย”
เสิ่นเฉียวเงียบ
“ฉันคิดว่าเธอสับสนมากจริงๆถึงเชื่อเรื่องไร้สาระแบบนี้ได้ หานเส่โยวนังโสเภณี สามีของพี่น้องก็กล้าแย่ง ยังกล้าบอกเธออย่างไร้ยางอายว่าตัวเองท้อง แต่เธองี่เง่ากว่าที่เชื่อว่ามันคือเรื่องจริง”
ทันใดนั้นเสิ่นเฉียวก็พูดไม่ออก เธอเชื่อหานเส่โยวจริงๆ
“เธอไม่น่าเอาเรื่องแบบนี้มาล้อเล่น”
“น่าจะเหรอ เธอรู้จักเขาไหม เธอคิดว่าเมื่อก่อนเธอจะเป็นผู้หญิงที่ทำเรื่องแบบนี้มาก่อนไหม แม้แต่เรื่องแบบนี้เธอก็เดาไม่ได้เลย ตอนนี้เธอยังแกล้งคิดว่าเธอรู้จักเขาอีกเหรอ ท้องแล้ว มีใบรับรองจากโรงพยาบาลไหม”
เสี่ยวเหยียนพูดเตือนสติ เสิ่นเฉียวก็เริ่มเข้าใจดูเหมือนว่าความคิดของเธอหลายอย่างเริ่มชัดเจนขึ้น เธอถูกหลอกแล้วสินะ”
แต่ … เย่โม่เซินบอกว่าเขาจะให้คำตอบที่น่าพอใจแก่เธอ แต่เขาไม่เคยให้เธอเลย
ทำไมเขายืดเวลาออกไปมาโดยตลอด ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับหานเส่โยวเป็นแบบไหนกันแน่
“เรื่องนี้ซับซ้อนมาก แต่ฉันแน่ใจว่าหานเส่โยวโกหก ถ้าเธอไม่เชื่อฉันสามารถตามไปตรวจสอบได้”
“ตรวจสอบยังไงกัน”
“มันง่ายมาก เธอบอกว่าตัวเองท้องไม่ใช่เหรอ ถ้าอย่างนั้นเราควรไปหาทางให้เธอพิสูจน์ ถ้าไม่มีหลักฐาน ก็ไม่ต้องไปเชื่อลมปากของเธอ เธอบอกว่าท้องก็ท้องงั้นเหรอ เฉียวเฉียว เฉียวเฉียวในเมื่อเขาตั้งใจจะแย่งสามีของเธอ ถ้าอย่างนั้นเธอต้องเตรียมพร้อมแล้ว เธอจะต้องไม่ถูกคนแบบนี้หลอกลวง มันจะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ของเธอกับเย่โม่เซิน”
“…”
เสิ่นเฉียวพูดไม่ออกไปชั่วขณะเธอรู้สึกว่าเธอไร้ประโยชน์จริงๆ
เดิมทีเรื่องนี้น่าจะคิดให้รอบคอบ แต่เพราะตอนนั้นสับสนใครพูดอะไรก็เชื่อไปหมด
“เธอมาหาฉันถึงที่นี่ไม่ได้บอกกับเย่โม่เซินสินะ รีบโทรหาเขาหรือส่งข้อความบอกว่าวันนี้เธอคิดถึงฉันจึงมาอยู่กับฉัน ให้เขารีบมารับเธอกลับ”
ขณะที่เสิ่นเฉียวยังคงลังเล เสี่ยวเหยียนหยิบกระเป๋าของเธอแล้วหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาเพื่อโทรหาเย่โม่เซินในขณะเดียวกันก็มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น
ทั้งสองคนในห้องผงะพร้อมกันแล้วมองหน้ากัน
เสี่ยวเหยียนที่เดิมทีท่าทางเป็นผู้ใหญ่และสุขุม หลังจากรับโทรศัพท์เย่โม่เซิน รีบยิ้มและพูดด้วยน้ำเสียงที่ประจบประแจง “คุณชายเย่ สวัสดีค่ะคุณกำลังหาเฉียวเฉียวใช่ไหมคะเธออยู่ที่นี่ค่ะ”
จู่ๆผู้หญิงของเย่โม่เซินก็หายไป
แน่นอนเสี่ยวเหยียนไม่ได้โง่ เย่โม่เซินเป็นเจ้านายของเธอ เมื่อจำเป็นเช่นการเพิ่มเงินเดือนหรือโบนัส เธอก็ต้องประจบเจ้านายสักหน่อย แต่เมื่อเจ้านายไม่อยู่เธอจะพูดอะไรก็ได้
เสิ่นเฉียวประหม่าเล็กน้อยจนต้องกุมมือของตัวเอง เธอออกมาเมื่อตอนกลางวันสถานการณ์ไม่ค่อยเป็นปกติ และเธอไม่รู้ว่าจูหยุนเก็บความลับไว้ให้เธอหรือเปล่า
“ทำไมล่ะ เธอกับฉันเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันเธอจึงมาหาฉัน คุณชายเย่ คุณมารับเธอตอนนี้หรือเปล่า”
“อะไรนะ” เสี่ยวเหยียนอุทานสีหน้าของเธอเปลี่ยนไป “ฉันทราบแล้ว”
จากนั้นเธอก็วางสายโทรศัพท์อย่างรวดเร็ว
เสิ่นเฉียวตกใจมาก แล้วก็กังวลไปด้วยกัน “มีอะไรเหรอ”
เสี่ยวเหยียนยัดโทรศัพท์ให้เธอพร้อมกับพูดว่า “คุณชายเย่อยู่ชั้นล่าง”
ได้ยินแล้วเสิ่นเฉียวรู้สึกประหลาดใจ เขาอยู่… อยู่ข้างล่างจริงหรือ จะพูดอีกอย่างคือก่อนที่เขาจะโทรมา เขาอยู่ที่นี่แล้ว ลุงจินบอกเขาว่าเธออยู่ที่นี่เหรอ ลุงจินได้บอกเขาไหมว่าวันนี้เกิดอะไรขึ้น
“ไปกันเถอะเฉียวเฉียวฉันจะไปส่งเธอที่ชั้นล่างแล้วเธอก็กลับไปเถอะ”
เสิ่นเฉียวกัดริมฝีปากของเธอตามด้วยความประหม่าเล็กน้อย “เป็นไปได้จริงเหรอ”
“มีอะไรไม่ได้ เรื่องไม่ดีของเธอก็มาปล่อยไว้ที่นี่เรียบร้อยแล้ว อีกเดี๋ยวเธอกลับไปกับเขาก็ปฏิบัติตัวเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ส่วนเรื่องหานเส่โยวท้อง พรุ่งนี้ฉันจะลาและไปตรวจสอบเรื่องนี้ให้ชัดเจนกับเธอ ปล่อยเป็นหน้าที่ของฉันเถอะ”
ถึงแม้ว่าเสี่ยวเหยียนดูอายุไม่มาก แต่มีพละกำลังมากขณะที่ดึงเสิ่นเฉียวออกไปข้างนอกมืออีกข้างก็เปิดประตูแล้วพาเธอออกไป เธอล๊อกประตูและเดินไปที่ลิฟต์
“จำไว้ว่าอย่าเปิดเผยอะไร และมั่นใจตัวเองหน่อย คุณชายเย่ชอบเธอจริงๆ ดังนั้นอย่าคิดไปเอง”
คำพูดเหล่านี้ทำให้เสิ่นเฉียวอบอุ่นในใจเสี่ยวเหยียนดีกับเธอจริงๆ
เธอไม่รู้ว่าเธอโชคดีอะไรเธอมักจะพบกับคนที่ปฏิบัติกับเธออย่างดี
ติ๊ง
ประตูลิฟต์เปิดออกและเย่โม่เซินก็โผล่มา