บทที่ 302 เกิดเรื่อง
เย่โม่เซิน: “ตาข้างไหนของนายที่เห็นว่าฉันรอให้เธอมา?”
เซียวซู่: “ก็คุณนายมองประตูทางเข้าตลอด ไม่ใช่รอคุณนายน้อยหรือครับ?”
เขาอยากบอกว่าตนเองเห็นเต็มสองตา แต่คิดไปคิดมาพูดแบบนั้นคงไม่ค่อยสุภาพ เลยเปลี่ยนคำพูด
“ฉันมองประตูใหญ่ เพราะรอเธอเหรอ? เซียวซู่ นายเปลี่ยนมาอ่านใจคนตั้งแต่เมื่อไหร่แล้ว?”
เซียวซู: “…งั้นก็เอาเถอะ ถือว่าผมไม่ได้พูด”
เป็นความจริง เห็นชัด ๆ ว่ากำลังรอคุณนายน้อย แต่ให้ตายก็ไม่ยอมรับ
ไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าสองคนนี้ทะเลาะอะไรกันอีกแล้ว
เพียงแต่…พอคิดถึงเรื่องที่เขาไปตรวจสอบมา แววตาของเซียวซู่ก็หนักใจขึ้นมา
คุณนายน้อย คุณต้องมาให้ได้นะ ถ้าคุณไม่มาล่ะก็…เกรงว่า…
หลังจากนี้เซียวซู่ไม่อยากจะคิด
ที่จริงแล้ววันนี้เป็นวันที่สำคัญขนาดนี้ เย่โม่เซินจึงอยากเชิญเธอมาร่วมงานเลี้ยง เพราะคิดที่จะแนะนำฐานะของเธอต่อทุกคน ให้ทุกคนได้รับรู้ว่าเสิ่นเฉียวเป็นภรรยาของเขาเย่โม่เซิน
ก่อนออกจากบ้านเย่โม่เซินถามเธอแล้ว แต่ก็เธอปฏิเสธ
คุณผู้หญิง ทางที่ดีเธอควรมาตอนเริ่มงานเลี้ยงให้ทัน…ไม่อย่างนั้น ฉันจะไม่ยอมอภัยให้เธอ
เย่โม่เซินท่องอยู่ในใจอย่างเงียบ ๆ จากนั้นก็ส่งเสียงไม่พอใจออกมาอย่างเย็นชาแล้วหมุนรถเข็นของจากไป
บนถนนซิงฝู เสิ่นเฉียวเหลือบมองเวลาแล้วก็พบว่าอีกสิบนาทีจะสองทุ่ม แต่พวกเขายังคงอยู่ระหว่างการเดินทาง
“พี่ใหญ่ พวกเราใกล้จะถึงแล้วใช่ไหม?”
เย่หลิ่นหานพยักหน้า: “หลังจากข้ามสะพานข้างหน้านั้น ตรงไปอีกสองร้อยเมตรก็ถึงแล้ว”
เยี่ยมมาก!
เสิ่นเฉียวยิ้มออกมา สะพานอยู่ข้างหน้าแล้ว เธอใกล้จะได้เจอกับเย่โม่เซินแล้ว!
เธอไม่ได้ผิดสัญญาที่ให้ไว้ แล้วเธอก็สามารถไปได้ตรงเวลาอีกด้วย
เมื่อเห็นเธอรีบ เย่หลิ่นหานก็เร่งความเร็วขึ้นเล็กน้อย แต่ไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิดอุบัติเหตุขึ้นในเวลานี้
พอเข้าเข้าใกล้สะพาน ก็มีรถบรรทุกขนาดเล็กคนหนึ่งขับส่ายไปส่ายมาแล้วยังขับมาทางนี้ด้วยความเร็ว
เสิ่นเฉียวรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ พอเธอเงยหน้าขึ้น รถบรรทุกคันเล็กคันนั้นก็เข้ามาใกล้พวกเขามาก ขณะนั้นเธอตกใจจนร้องไม่ออก เบิกตากว้างมองรถคันนั้นที่พุ่งมาทางพวกเธอ
พอเย่หลินหานที่ขับอยู่ข้างหน้ารู้สึกตัว เขาก็รีบหมุนพวงมาลัยไปทางอื่น เขาก็ตื่นตระหนกเช่นเดียวกัน ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น ตอนที่หมุนพวงมาลัย เย่หลิ่นหานก็หันมาแล้วตะโกนใส่เสิ่นเฉียวที่อยู่ข้างหลัง: “เฉียวเฉียว ก้มลงเร็ว!”
ตูม ! ! !
……
ตูม!
งานเลี้ยงเปิดตรงตามเวลา เสียงเพลงเปิดงานเลี้ยงดังขึ้นพร้อมกับเสียงจุดดอกไม้ไฟเสียงนั้นพอดี แขกเริ่มเข้ามาในงานแล้ว แต่เย่โม่เซินกลับไม่เห็นเงาที่คุ้นเคยเดินเข้ามาจากประตู
เซียวซู่เหลือบมองเวลาแวบหนึ่ง “ตอนนี้เพิ่งเริ่มงาน กว่าที่แขกจะเข้ามาในงานเสร็จอาจจะต้องใช้เวลาประมาณสิบนาที”
พอได้ยินแบบนี้ เย่โม่เซินก็ขมวดคิ้ว: “นายได้เอาบัตรเชิญให้เธอไหม?”
เซียวซู่อึ้งไปสักพัก แล้วส่ายหน้า: “ดูเหมือนจะไม่ครับ”
“สมควรตาย แล้วเธอจะเข้ามาอย่างไร”
เซียวซู่รีบตอบทันที “ผมทราบแล้ว ถ้าอย่างนั้นผมจะลงไปรอคุณนายน้อยที่ชั้นล่าง” เมื่อพูดเสร็จเซียวซู่ก็รีบหันหลังแล้วลงไปชั้นล่าง พอเขาเดินไปที่ประตูซึ่งมีพนักงานต้อนรับไม่กี่คนที่กำลังคอยตรวจสอบบัตรเชิญอยู่ เป็นไปตามนั้น…ถ้าคุณนายน้อยมาโดยไม่มีบัตรเชิญจะต้องเข้าไปไม่ได้แน่นอน
หลาย ๆ คนรู้จักเซียวซู่ ดังนั้นจึงทักทายเขา “ผู้ช่วยเซียว คุณลงมาช่วยแล้ว”
เซียวซู่ยิ้มแล้วตอบ: “ใช่ ผมลงมารับคน”
“ว้าว คนที่สามารถรบกวนให้ผู้ช่วยเซียวลงมารับด้วยตนเองจะต้องเป็นคนสำคัญอย่างแน่นอน ไม่รู้ว่าพอจะเปิดเผยสักหน่อยได้ไหม แหะแหะ…”
“พวกคุณรีบเข้าไปเถอะ งานเลี้ยงใกล้จะเริ่มแล้ว” เซียวซู่ไม่บอกเขาหรอก เพราะรู้สึกร้อนใจสุดชีวิตและไม่รู้ว่าคุณนายน้อยจะมาหรือไม่มา?
ไม่ใช่ไม่มาหรอกนะ?
สิ่งนี้เกิดขึ้นมาในหัว เซียวซู่รีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วโทรหาคุณนายน้อย
แต่พอเซียวซู่โทรหาเสิ่นเฉียว
“สวัสดีค่ะ หมายเลขที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้”
น้ำเสียงเย็นชาที่พูดอย่างเป็นทางการของผู้หญิงพูดประโยคนี้ซ้ำแล้วซ้ำอีก สีหน้าของเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว นี่เกิดอะไรขึ้น? หรือว่าคืนนี้คุณนายน้อยจะไม่มาจริง ๆ แล้ว?
ร้อนใจจะแย่แล้วจริง ๆ ! พอนึกถึงเย่โม่เซินเย็นชาหน้าตายอย่างเอาชีวิตคนนั้น เซียวซู่ก็รู้สึกสิ้นหวังในชีวิต ถ้าหากคุณนายน้อยไม่มาล่ะก็ วันนี้อารมณ์ของคุณชาย…ยังมีหลังจากนี้อีก! จบแล้ว!
เซียวซู่ร้อนใจไม่ไหวแล้ว หรือเขาจะไปตามหาด้วยตนเองสักหน่อย แม้จะไม่อยากมา แต่เขาก็ต้องพาคุณนายน้อยมาให้ได้
เมื่อดังนี้ เซียวซู่ก็วางโทรศัพท์ของเขาและเดินออกไปข้างนอก แต่กลับถูกใครบางคนหยุดไว้: “ผู้ช่วยเซียวคุณจะออกไปข้างนอกเหรอ? ออกไปเวลานี้คงไม่ได้แล้วล่ะ”
เซียวซู่รู้สึกรำคาญและอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว “คุณหมายความว่าอย่างไร?”
“เกิดอุบัติเหตุรถชนกันบนสะพาน คนขับรถบรรทุกเล็กเมาแล้วขับ ชนราวกั้นสะพานพังทั้งหมด เวรกรรมจริง ๆ ดื่มแล้วจะขับรถทำไมล่ะ ตอนนี้ที่นั้นรถไม่สามารถผ่านไปได้เพราะตำรวจได้เข้ามาควบคุมสถานการณ์”
“อย่างนั้นเหรอ?” เซียวซู่เริ่มขมวดคิ้วอย่างจริงจัง ถ้าราวกั้นถูกชนพังเสียหายแล้วและที่นั่นก็ถูกควบคุมไว้ไม่สามารถผ่านมาได้ คุณนายน้อยจะรถติดอยู่ที่นั่นหรือไม่นะ?
เขาเก็บความคิดนี้ไว้แล้วกลับไปที่ชั้นสอง เพิ่งจะไปอยู่ข้างกายเย่โม่เซินและเซียวซู่ก็เตรียมที่จะบอกเรื่องนี้กับเย่โม่เซิน กลับได้ยินน้ำเสียงเย็นชาของเขา: “ไม่มาใช่ไหม?”
“คุณชายเย่ เกิดเรื่อง…”
“ถ้าไม่มา อย่างนั้นก็ตามใจเธอ”
พอพูดจบ เย่โม่เซินก็หันตัวและออกจากชั้นสองไป เซียวซู่หน้าเปลี่ยนสีแล้วรีบตามไป: “คุณชายเย่ คุณนายน้อยสอง อาจจะกำลังมาก่อนออกจากวิลล่าเธอยังบอกกับผมว่าจะต้องมาแน่นอน คุณนายน้อยไม่เหมือนคนที่ชอบผิดสัญญานะครับ”
“จริงเหรอ? งั้นตอนนี้ตัวเธออยู่ไหน? ไม่ใช่คนผิดสัญญา แต่ทำไมไม่เห็นแม้แต่เงา?”
เซียวซู่: “นี่…”
เขาไม่สามารถพูดอะไรได้ อันที่จริงเขาสามารถเข้าใจถึงความรู้สึกของเย่โม่เซิน อย่างไรเสียหลังจากที่ได้รู้เรื่องเหล่านั้น กลับยังมีทางเลือกให้เธอ ผลคือไม่คาดคิดว่าคุณนายน้อยจะเลือกอีกทาง
ตอนนี้งานเลี้ยงเริ่มได้สิบกว่านาทีแล้ว คุณนายน้อยยังไม่ปรากฏตัว ก็ไม่แปลกใจที่คุณชายเย่จะโกรธแล้ว
ไม่มีทางเลือก เซียวซู่ยังมีเรื่องที่ต้องจัดการ ทางที่ดีขึ้นไปบนเวทีกับเย่โม่เซินก่อน อย่างน้อยคุณนายน้อย…ถ้าเธอมาได้จริง ๆ ล่ะก็ รอเธอปรากฏตัวเขาค่อยพาเธอมา!
“ราวกั้นสะพานพังเสียหายแล้ว ระหว่างทางยังวิ่งชนรถหลายคันและมีผู้บาดเจ็บหลายคน ตอนนี้ยังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบ
เมื่อเย่หลิ่นหานได้รับการช่วยเหลือออกมา เขาอยู่ในระหว่างอาการโคม่า ร่างกายหลายแห่งถูกแทงด้วยเศษกระจก แล้วสมองของเขาก็ได้รับความกระทบกระเทือนจากการชนและเขาก็ยังเลือดไหลอยู่
หลังจากที่เขาถูกช่วยออกมาวางนอนราบกับพื้น เขาก็ยังอดกลั้นแล้วจับมือคนนั้นไว้: “ด้านหลัง…ช่วยคน!”
คนนั้นตะลึงไปสักพัก: “คุณบอกว่าที่นั่งด้านหลังยังมีคน?”
“ใช่!”
“รู้แล้ว พวกเราจะรีบช่วยคนออกมา”