บทที่311 สัญญาการหย่าร้าง
เสิ่นเฉียวยื่นมือไปรับทันที ในตอนแรกเซียวซู่ไม่อยากที่จะยื่นมันให้กับเธอ
แต่เมื่อมองเห็นสีหน้าที่นิ่งเฉยของเสิ่นเฉียวแล้ว เขาจึงยอมยื่นเอกสารนั้นให้กับเธอ
“คุณนายน้อย คุณชายเย่…..โกรธมากจริงๆ”
เสิ่นเฉียวหยิบเอกสารชุดนั้น จากนั้นค่อยๆเปิดมันออกมาโดยที่ไม่พูดอะไร
ในใจของเธอพอจะเดาอะไรบางอย่างออก แต่เธอไม่กล้าที่จะยืนยัน เธอไม่รู้….ว่าเย่โม่เซินไม่ต้องการเธอแล้วจริงๆใช่รึเปล่า
หลังจากที่เธอเปิดซองนั้นแล้ว เสิ่นเฉียวล้วงเอาเอกสารด้านในออกมา หลังจากที่มองดูเอกสารด้านในให้ชัดเจนว่าเป็นเอกสารตามที่เธอคาดเดาอยู่ในใจแล้ว ริมฝีปากของเธอก็ดูซีดในทันที
รูม่านตาขยายใหญ่ออกมาหลายเท่า
ริมฝีปากที่ซีดขาวของเสิ่นเฉียวสั่นเบาๆ เอกสารที่อยู่ในมือที่ไร้เรี่ยวแรงของเธอร่วงตกลงมาบนพื้นดังพรึบ
สีหน้าของเซียวซู่ดูตกใจเป็นอย่างมาก “คุณนายน้อย…”
“เขาต้องการทำให้เรื่องเป็นเช่นนี้จริงๆหรอ? เพียงเพราะว่า……เพราะว่าฉันไม่ได้ปรากฏตัวอยู่ในงานเลี้ยง……เขาเลยจะเอาหนังสือข้อตกลงการหย่าฉบับนี้ให้ฉันงั้นหรอ?”
น้ำตาของเธอไหลออกมาจากหางตาทีละหยด มันค่อยๆหยดลงไปบนแผ่นกระดาษที่ร่วงอยู่บนพื้นจนเปียกชุ่ม
เธอนั่งยองลงไป จากนั้นก้มลงไปเก็บเอกสารขึ้นมา
“โอเค ถ้าเขาต้องการจะทำเช่นนี้มันก็ย่อมได้ ให้ฉันได้เจอหน้าเขาเป็นครั้งสุดท้าย แบบนี้ได้ใช่มั้ย?”
“คุณนายน้อย คุณฟังคำเตือนของเซียวซู่หน่อยเถอะ วันนี้คุณกลับไปก่อน รอให้ผ่านไปสักสองวันให้คุณชายเย่หายโกรธแล้วคุณค่อยมาหาเขาใหม่ ถึงตอนนั้นคุณชายเย่ก็น่าจะเปลี่ยนความคิดแล้ว คุณเชื่อฉัน คุณชายเย่นั้นรักคุณมากๆ การที่เขาตัดสินใจเช่นนี้ตัวเขาเองต่างหากที่จะเป็นคนที่ทุกข์ทรมานใจ”
เสิ่นเฉียวไม่รู้ว่าเย่โม่เซินเจ็บปวดหรือไม่ เธอรู้แค่ว่าตัวเธอเองนั้นรู้สึกเจ็บปวดเป็นอย่างมาก เขาเอาใบหย่าออกมาอย่างง่ายดาย เอกสารฉบับนี้อยู่ต่อหน้าเธอราวกับเป็นมีดอันแหลมคมที่ทิ่มแทงเข้าไปบนหน้าอกของเธอ
“ฉันไม่อยากกลับไป” เสิ่นเฉียวเอามือปาดน้ำตา เธอกัดฟันถือเอกสารไว้ในมือแล้วยืนขึ้น “ยังไงวันนี้ฉันต้องเจอเขาให้ได้ ถ้าเขาไม่ออกมา ฉันจะรอเขาอยู่ตรงนี้จนกว่าเขาจะออกมา”
เซียวซู่ “…..แต่คุณชายเย่ได้ออกคำสั่งเด็ดขาด พวกเขาห้ามเข้าไปรบกวนเขาอีกโดยเด็ดขาด คุณนายน้อย คุณ…”
“เขามีคำสั่งเด็ดขาดของเขา ฉันก็มีความดื้อดึงของฉันเช่นกัน เขาไม่อยากเจอฉันอีก แต่ยังไงฉันก็ต้องเจอเขาให้ได้ นอกจากว่าฉันจะล้มอยู่ตรงนี้ มิฉะนั้น…ฉันจะไม่ไปไหนทั้งนั้น”
เซียวซู่ “คุณนายน้อย คุณจะลำบากเช่นนี้ไปเพื่ออะไรกัน ความดื้อรั้นหลายครั้งไม่ส่งผลดีอะไรหรอก คุณกลับไปก่อนเถอะ ไว้อีกไม่กี่วันข้างหน้าคุณค่อยมาใหม่ไม่ดีกว่าหรอ?”
เสิ่นเฉียวไม่ได้ตอบอะไรเขาอีก เธอยืนอยู่ตรงนั้นด้วยสีหน้าที่ไร้ความรู้สึกใดใด เธอยืนนิ่งไม่ขยับราวกับเป็นรูปปั้น
เซียวซู่จ้องมองเธอไปสักพัก เขามองเห็นความยืนหยัดจากสายตาของเธอ เขาเองอยู่ๆก็เริ่มเข้าใจทันที ดูแล้วถ้าคืนนี้เธอไม่ได้เจอคุณชายเย่ เสิ่นเฉียวก็คงจะไม่ไปไหนจริงๆ
ทำยังไงดี? เธอแต่งตัวเช่นนี้ถ้าเธอยืนตากลมหนาวอยู่ข้างนอกทั้งคืน เธอจะต้องไม่สบายแน่ๆ อีกทั้งบนร่างกายของเธอมีบาดแผลที่ยังไม่ได้รักษา!
“คุณนายน้อย หรือไม่….ฉันไปตามหมอมารักษาบาดแผลบนร่างกายของคุณก่อนดีมั้ย?”
“ไม่จำเป็น” เสิ่นเฉียวปฏิเสธความหวังดีของเขา สีหน้าของเซียวซู่เปลี่ยนไปทันที ดูแล้วถ้าไม่ได้เจอกับคุณชายเย่ แม้แต่บาดแผลบนร่างกายของเธอก็จะไม่รักษาอย่างนั้นหรอ?
แบบนี้ไม่ดีแน่ๆ
เซียวซู่มีลางสังหรณ์ว่าจุดจบของเรื่องนี้จะต้องไม่ดีแน่ๆ ถ้าเสิ่นเฉียวดื้อดึงที่จะยืนอยู่ตรงนี้ อีกทั้งไม่ยอมรักษาบาดแผล สำหรับเธอแล้วเธอคงทนได้ไม่ถึงครึ่งก็ล้มลงไป
ถึงตอนนั้น….
เมื่อนึกถึงจุดนี้แล้ว เซียวซู่ก็รู้สึกเครียดเป็นอย่างมาก เขาหันหลังแล้วเดินเข้าไปในประตูใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นยังไงเขาก็ต้องไปหาเย่โม่เซิน ให้เย่โม่เซินให้โอกาสเสิ่นเฉียวอีกสักครั้ง อย่างน้อยให้เธอได้เข้ามาค่อยว่ากันต่อ
ตอนที่เซียวซู่ต้องการจะไปหาเย่โม่เซิน เขามองเห็นจูหยุนยืนเฝ้าอยู่หน้าประตู
“คุณชายเย่ล่ะ?”
“ผู้ช่วยเซียว คุณชายเย่บอกแล้ว….ใครก็ห้ามเข้าไปรบกวนเขาอีก”
สีหน้าของเซียวซู่บูดบึ้ง จากนั้นพูด “จูหยุน คุณนายน้อยรออยู่ข้างนอก ถ้าคุณชายเย่ไม่ยอมออกมาเจอหน้าเธอละก็เธออาจจะรออยู่ข้างนอกตลอดทั้งคืนก็ได้ ก่อนหน้านี้คุณก็มีสัมพันธ์ที่ดีกับเธอไม่ใช่หรอ หรือว่าคุณไม่ได้รู้สึกปวดใจอะไรกับเธอเลยหรอ?”
จูหยุนกัดริมฝีปากของตัวเอง จากนั้นพูด “ฉัน ฉันไม่ใช่ว่าไม่อยากช่วยคุณนายน้อยนะ แต่คำสั่งของคุณชายเย่คุณก็ได้ยินแล้ว เขาไม่อนุญาตให้ใครหน้าไหนเข้าไปรบกวน ไม่อย่างนั้น…พวกเราก็จะโดนไล่ออก!”
“แล้วยังไงล่ะ? เป็นเพราะกลัวโดนไล่ออก คุณเอาคุณนายน้อยไปไว้ตรงไหน?”
ในแววตาของจูหยุนแฝงไปด้วยความรู้สึกผิด เธออธิบาย “เซียวซู่ ฉันไม่ได้เห็นแก่ตัวนะ นิสัยของคุณชายเย่คุณรู้จักดีที่สุด ตอนนี้คุณเดินเข้าไปคุณคิดว่าจะได้อะไรดีดีงั้นหรอ? ต่อให้คุณสามารถพูดเตือนคุณชายเย่ได้ ให้คุณนายน้อยเข้าไปข้างในได้ แต่ในคืนนี้พวกเขาทั้งสองสมควรที่จะเจอกันมั้ย? ตอนที่ยังไม่มีสติเช่นนี้ เมื่อพวกเขาได้เจอหน้ากัน เรื่องต่างๆก็จะยิ่งแย่ลงกว่าเดิม สิ่งที่เรียกว่าอารมณ์บางครั้งมันก็ไม่สามารถควบคุมได้ คุณเข้าใจมั้ย? ”
เซียวซู่อึ้งทันที
“เมื่อตะกี้ถ้าไม่ใช่เพราะคุณเข้าไปพูดสิ่งเหล่านั้นมากมายกับคุณชายเย่ คุณชายเย่ก็คงจะไม่เอาเอกสารนั้นให้กับคุณหรอก!”
เมื่อฟังจบ เซียวซู่รู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย
ใช่สิ ตอนที่คุณชายเย่ออกไปเขาแค่รู้สึกโมโห ถ้าไม่ใช่เป็นเพราะเขาเข้าไปเสนอหน้ากับเย่โม่เซินละก็เย่โม่เซินก็คงจะไม่โยนเอกสารนั้น
“ดังนั้นพูดไปพูดมาจะบอกว่าเรื่องนี้โทษที่ฉัน?”
“ไม่โทษคุณแล้วจะไปโทษใคร? ถ้าคุณยังจะมีน้ำใจ ตอนนี้คุณไปพูดเตือนให้คุณนายน้อยกลับไปก่อน หรือพาคุณนายน้อยไปอยู่ที่อื่นซะก่อน รอให้คุณชายเย่หายโกรธค่อยวางแผนให้พวกเขาเจอหน้ากันใหม่”
คิดไปสักพัก เซียวซู่ก็รู้สึกว่าสิ่งที่จูหยุนพูดนั้นมีเหตุผล
เขาพยักหน้า “ได้! งั้นฉันไปหาคุณนายน้อย วันนี้ต้องขอบคุณคุณนะ เมื่อตะกี้ฉัน….ขอโทษด้วยที่พูดแบบนั้นกับคุณ”
“มีอะไรที่ต้องขอโทษกันล่ะ คุณคิดว่าฉันไม่ชอบคุณนายน้อยหรอ? เธอใจดีขนาดนั้น อีกทั้งยังเป็นคนที่ใจกว้าง เธอดีต่อพวกเรามากๆ พวกเราทุกคนก็ล้วนแต่หวังว่าเธอจะสามารถเป็นคุณนายน้อยของพวกเราตลอดไป โอเค ไม่พูดอะไรมากแล้ว คุณรีบไปจัดการกับคุณนายน้อยเถอะ ตอนนี้เข้าฤดูใบไม้ผลิมานานแล้ว ลมในช่วงกลางคืนก็แรงขนาดนี้ คุณนายน้อยเธอก็….”
“ฉันไปก่อนนะ” เมื่อเซียวซู่มองทุกอย่างทะลุปรุโปร่งแล้วเขาก็ไม่กล้าที่จะเสียเวลาอยู่ที่เดิม เขารีบหันหลังแล้วเดินออกไป
หลังจากที่เซียวซู่เดินออกไป จูหยุนก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมา
งวดนี้ คุณชายเย่โมโหมากจริงๆ ก็ไม่รู้ว่า….จะสามารถผ่านช่วงเวลาแย่ๆครั้งนี้ไปได้มั้ย
เซียวซู่เดินกลับมาแล้วปรากฏตัวต่อหน้าเสิ่นเฉียวอีกครั้ง
“คุณนายน้อย”
เสิ่นเฉียวเหลือบไปมองเขา เมื่อเห็นว่าสีหน้าของเขายังคงไม่มีสีหน้าแห่งความยินดีอะไร เธอพอจะเดาได้ว่าเขาไม่ได้มีข่าวดีอะไรมาให้กับเธอ เธอไม่พูดอะไรแล้วยังคงยืนอยู่ที่เดิม
“ฉันรู้ว่าคุณจะพูดอะไร คุณไม่ต้องพูด ฉันไม่ไปไหนทั้งนั้น”
เซียวซู่มีสีหน้าที่เอือมระอา “คุณนายน้อย ไม่ใช่ว่าฉันจะมาเตือนให้คุณออกไป แต่สถานการณ์ในวันนี้มันพิเศษจริงๆ คุณฟังสิ่งที่ฉันจะเตือนหน่อยเถอะ วันนี้ให้ฉันพาคุณไปที่อื่นก่อน รออีกสองวันให้คุณชายเย่หายโกรธค่อยมาหาเขาใหม่ เป็นยังไง? ถึงตอนนั้นฉันรับรองว่าพวกคุณจะต้องคืนดีกันเหมือนเดิมแน่นอน”
“ไม่!” เสิ่นเฉียวยังคงยืนหยัดที่จะยืนอยู่ที่เดิม
“ความคิดของพวกคุณใสซื่อจนเกินไปแล้ว”
เย่โม่เซินไม่ใช่คนแบบนั้น