เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ – ตอนที่ 315 พ่ายแพ้

บทที่315 พ่ายแพ้

“ไม่เป็นไรค่ะท่านรองประธานเย่ คุณหนูเสิ่นเธอเป็นยังไงบ้าง? ดูจากสภาพแล้วค่อนข้างจะแย่มาก” แยจื่อสมกับเป็นเลขาคนเก่งของเย่หลิ่นหาน เพียงแค่แป๊บเดียวเธอก็สามารถรู้ว่าสิ่งสำคัญที่สุดของเย่หลิ่นหานคืออะไร

“เธอมีไข้สูงน่ะ พึ่งจะไข้ลดเมื่อตะกี้นี้เอง”

สายตาของแยจื่อเหลือบมองไปมา จากนั้นจึงหันมามองเย่หลิ่นหาน “ท่านรองประธานเย่วางใจแล้วพักผ่อนเถอะค่ะ เรื่องทางบริษัทในวันนี้ฉันจะโทรศัพท์ให้คนมาจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อย ส่วนคุณหนูเสิ่นทางนี้ฉันจะเป็นคนดูแลเอง ดูแล้วท่านรองประธานเย่น่าจะยังไม่ได้พักผ่อนเลยทั้งคืน คุณรีบนอนพักเถอะ ไม่อย่างนั้นคุณจะทนไม่ไหวเอาได้”

“อืม ขอบคุณ” เย่หลิ่นหานจ้องมองแยจื่อด้วยความซาบซึ้ง สมกับเป็นเลขาที่อยู่กับเขามาหลายปี พึ่งจะมาถึงที่นี่ไม่กี่นาทีก็สามารถมองสถานการณ์ต่างๆตรงหน้าออก เธอรู้ว่าตัวเองต้องทำอะไร อะไรคือสิ่งที่เขาให้ความสำคัญ

หลายปีมานี้ แยจื่อเป็นคนที่มีความน่าเชื่อถือในการทำงาน ดังนั้นเมื่อมีเธออยู่ เย่หลิ่นหานจึงรู้สึกไว้วางใจ

ในที่สุดเขาก็หลับตาลง ตอนที่เขาพึ่งจะหลับตา ความมืดมิดก็คืบคลานเข้ามาหาเขาทันที

แต่เย่หลิ่นหานรู้ว่า ในครั้งนี้เขาสามารถเข้าสู่ห้วงแห่งความฝันได้อย่างสบายใจแล้ว

ผ่านไปสักพัก แยจื่อก็ได้เสียงลมหายใจของเย่หลิ่นหานเริ่มมีจังหวะเข้าที่ เธอมองเย่หลิ่นหานด้วยสายตาที่เอือมระอา จากนั้นพูดเบาๆว่า “บนโลกใบนี้ ไม่มีใครที่จะสามารถจำกัดนิยามได้ว่าแท้จริงแล้วความรักคืออะไร แต่ทว่ากลับมีผู้คนมากมายยินยอมพร้อมใจจะร่วมเป็นร่วมตายไปกับมัน”

แยจื่อเอามือกุมไปที่หน้าอก “ไม่ได้ คำพูดนี้พูดไปเรื่อยไม่ได้ ท่านรองประธานเย่แค่นอนหลับไปเฉยๆเท่านั้น แต่ทว่า….เขาทำดีต่อคุณหนูเสิ่นมากจริงๆ เห้อ”

แยจื่อเก็บข้าวของไปสักพัก จากนั้นหาที่นั่งด้านข้างแล้วนั่งลง หัวหน้าโทรหาเธอกลางดึกเช่นนี้ เธอจึงเดาได้ว่าน่าจะมีธุระด่วน ดังนั้นเอกสารต่างๆรวมไปถึงโน๊ตบุ๊คเธอก็ได้เอามันมาด้วย ตอนนี้เธอควรที่จะจัดการกับงานต่างๆ

เมื่อนึกถึงจุดนี้ แยจื่อก็เอาโน๊ตบุ๊คออกมา จากนั้นวางไว้บนต้นขาแล้วล็อกอินเข้าบัญชีของตัวเองเพื่อจัดการเรื่องต่างๆที่ต้องทำในวันนี้

วันนี้เธอน่าจะต้องอยู่บริษัททั้งวัน แต่เย่หลิ่นหานบาดเจ็บจนมีสภาพเช่นนี้ วันนี้คงจะไปที่บริษัทไม่ได้แล้ว เธอจะต้องสะสางงานที่ต้องเตรียมการในวันนี้ให้เสร็จเรียบร้อยล่วงหน้า มิฉะนั้นถึงเวลานั้นก็จะทิ้งภาระเอาไว้ ก็ต้องเป็นตัวเธอเองไม่ใช่หรอที่ต้องมาตามจัดการทีหลัง?

ประสิทธิภาพในการทำงานของแยจื่อสูงมาก ไวมาก เธอสะสางงานที่ต้องเตรียมการในวันนี้เสร็จเรียบร้อย จากนั้นส่งเมลเข้าไปในอีเมลของพนักงานในแผนกของตัวเอง หลังจากทำเสร็จแล้วเธอมองดูเวลา ยังไม่ถึงเจ็ดโมงเช้า

ยังสามารถรอไปอีกสักพักได้

แยจื่อเงยหน้าขึ้นมามองคนสองคนที่นอนอยู่บนเตียงผู้ป่วย ทั้งสองก็ไม่รู้ว่าจะนอนสลบเช่นนี้ไปจนถึงเมื่อไหร่

สุดท้าย แยจื่อส่งข้อความให้พนักงานคนนั้นว่าถ้าเขาเห็นข้อความนี้ให้โทรกลับเธอด้วย เธอรู้สึกง่วงเล็กน้อย ดังนั้นเธอจึงไปชงกาแฟสำเร็จรูป จากนั้นนั่งจิบกาแฟอยู่ในห้องพักผู้ป่วย

เวลาผ่านมาจนถึงสิบโมงเช้า ทั้งสองคนก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะตื่น

เสิ่นเฉียวยังคงตกอยู่ในห้วงแห่งความฝัน คนในฝันเหล่านั้นพูดจาเย็นชาใส่เธอ ยังคงโจมตีเธอไม่หยุด เธอไม่รู้ว่าจะตอบโต้ยังไงดี ต่อให้เธอตอบโต้กลับ คนเหล่านั้นก็โจมตีเธออย่างรวดเร็ว เธอถูกโจมตีจนพ่ายแพ้แล้วหนีออกไป

“ไม่ อย่านะ!!” อยู่ๆเสิ่นเฉียวก็ร้องด้วยความตกใจ เธอลืมตาขึ้นมาทันที

เธอมองเห็นเพดานห้องสีขาว ราวกับวิวหิมะที่ไกลสุดลูกหูลูกตา

แยจื่อดื่มกาแฟสำเร็จรูปไปสองแก้ว เธอรู้สึกเบื่อจนเริ่มรู้สึกง่วงนอน ตอนที่เธอเอามือวางอยู่บนโต๊ะแล้วกำลังจะเคลิ้มหลับนั้น เธอได้ยินเสียงร้องจนสะดุ้งตื่นขึ้นมา

เธอลืมตาขึ้นมาทันที จากนั้นหันไปมองทิศทางของเสียง เธอจึงเห็นว่าเสิ่นเฉียวตื่นขึ้นมาแล้ว

เธอรีบเอามือเช็ดหน้าของตัวเอง จากนั้นลุกขึ้นมาแล้วเดินไปหาเธอ

“คุณหนูเสิ่น คุณตื่นขึ้นมาแล้ว”

เมื่อได้ยินน้ำเสียงนุ่มนวลของผู้หญิง เสิ่นเฉียวรู้สึกอึ้งไปสักพัก จากนั้นจึงค่อยๆดึงสติกลับมา เธอหันหน้าไปมองคนที่กำลังเดินเข้ามา

เธอรู้สึกคุ้นหน้า แต่เธอปวดหัวเหลือเกิน….ราวกับว่าเธอรู้จักคนคนนี้ แต่ก็รู้สึกไม่รู้จักเช่นกัน

“คุณคือ…..”

สีหน้าของแยจื่อเปลี่ยนไปเล็กน้อย “ฉันเป็นเลขาของท่านรองประธานเย่ชื่อแยจื่อ ก่อนหน้านี้ตอนที่อยู่บริษัทพวกเราเคยเจอหน้ากันหลายครั้ง คุณหนูเสิ่นจำไม่ได้แล้วหรอ?”

หลังจากได้ยินที่เธอพูด เสิ่นเฉียวจึงนึกออกว่าพวกเธอเคยเจอหน้ากันหลายครั้งที่บริษัทจริงๆ

เธอหลับไปลึกมาก เมื่อตะกี้จึงยังนึกไม่ออกว่าเธอคือใคร

เสิ่นเฉียวพยักหน้าแล้วพูดด้วยน้ำเสียงอันแผ่วเบา “ฉันนึกออกแล้วล่ะ”

แยจื่อไม่รู้จะดีใจหรือเสียใจดี “ดูแล้วฉันคงไม่ค่อยมีตัวตนเท่าไหร่สินะ ทั้งทั้งที่เคยเจอหน้ากันหลายครั้งแล้วแต่คุณหนูเสิ่นก็ยังจำฉันไม่ได้”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ เสิ่นเฉียวก็รู้สึกอึดอัดใจเล็กน้อย เธอพยายามขยับตัวเพื่อที่จะลุกขึ้นมานั่ง

แยจื่อรีบไปช่วยพยุงตัวเธอให้ลุกขึ้นมานั่ง จากนั้นเอาหมอนไปรองที่หลังของเธอ ต่อมาก็ไม่ได้ถามอะไรเธอแยจื่อหันหลังแล้วเดินไปเทน้ำอุ่นหนึ่งแก้วให้กับเธอ

ตอนที่เธอยกน้ำอุ่นให้กับเสิ่นเฉียว เสิ่นเฉียวกำลังมองไปที่ตำแหน่งของเย่หลิ่นหาน สายตาดูกังวลใจเป็นอย่างมาก

“คุณหนูเสิ่นสบายใจได้ ท่านรองประธานเย่ของพวกเราไม่เป็นอะไรแล้ว คุณไม่ต้องกังวลเขาหรอก”

“งั้นหรอ?” เสิ่นเฉียวก้มหน้าแล้วมองต่ำ เธอนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในเมื่อคืน เธอถูกเย่โม่เซินปฏิเสธแล้วรออยู่นอกประตู นึกไม่ถึงต่อมาจะมีฝนตกหนักลงมา จากนั้นเธอล้มอยู่ท่ามกลางสายฝนแล้วโดนเย่หลิ่นหานอุ้มออกมา

เมื่อนึกถึงเขาที่บาดเจ็บหนักขนาดนั้น แต่ยังคงอยู่กับเธอตลอดทาง เสิ่นเฉียวก็รู้สึกโทษตัวเองอยู่ในใจมาก

“ใช่แล้วคุณหนูเสิ่น ดื่มน้ำอุ่นๆก่อนเถอะ”

แยจื่อยื่นน้ำหนึ่งแก้วให้กับเธอ เสิ่นเฉียวรับแก้วมาแล้วจิบไปเล็กน้อย จากนั้นเธอก็ดื่มไม่ลงอีก

“คุณหมอพูดว่ายังไงบ้าง? เมื่อคืนเขาตากฝนมาพร้อมกับฉัน”

เมื่อฟังจบ แยจื่อก็อึ้งทันที ตอนที่เธอมาถึงที่นี่ ทุกอย่างได้จัดการเรียบร้อยหมดแล้ว เธอเห็นแค่ผลลัพธ์เท่านั้น ดังนั้นเธอจึงไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในก่อนหน้านี้ เธอก็ไม่มีคนให้ถามอีกด้วย ตอนนี้ได้ยินเสิ่นเฉียวถามเช่นนี้ เธอจึงยักคิ้วแล้วพูด “ตอนที่ฉันมาถึงที่นี่ ท่านรองประธานเย่ยังฟื้นอยู่ เขาโทรศัพท์มาหาฉัน ให้ฉันมาดูแลคุณหนูเสิ่น ต่อมาเขาทนไม่ไหวจึงนอนหลับไป”

“……” เสิ่นเฉียวอ้าปากค้าง เธอพูดอะไรไม่ออกสักคำ

แยจื่อคิดไปคิดมา จึงพูดต่อ “ตอนที่ฉันมาถึงเป็นเวลาเช้ามืด คุณหนูเสิ่นจำได้มั้ยว่าตัวเองมาถึงที่โรงพยาบาลตอนไหน?”

เสิ่นเฉียวไม่ได้ตอบอะไร ถึงแม้เธอจะไม่รู้ว่าเธอมาถึงโรงพยาบาลกี่โมงกันแน่ แต่เธอพอจะเดาได้ว่าหลังจากที่เธอมาถึงที่โรงพยาบาล เย่หลิ่นหานยังคอยอยู่เฝ้าเธอตลอดจนกระทั่งแยจื่อมาถึงที่นี่

คนคนนี้….จริงๆเลย!

เสิ่นเฉียวไม่รู้จะพูดยังไงกับเขาแล้ว ถ้าหากว่าเขามีจุดที่ไม่ดีเล็กน้อย เธอก็จะสามารถปฏิเสธเขาได้อย่างเด็ดขาด ต่อให้เขาดีต่อเธอมาก เธอก็สามารถปฏิเสธเขาได้อย่างไร้เยื่อใย

แต่ทำไมเขาถึงต้องทำดีกับเธอมากมายขนาดนี้ด้วย ดีจนถึงขั้นที่เธอไม่รู้จะตอบแทนคืนได้ยังไง

เขาทำเพื่อเธอมากมายขนาดนี้ ทำให้เธอรู้สึกผิดเป็นอย่างมากในตอนนี้

ความรู้สึกเหล่านี้ เธอไม่สามารถที่จะตอบสนองเขาได้!

แต่เย่หลิ่นหานเขา….ทำไมถึงไม่เข้าใจ!?

“คุณหนูเสิ่น ฉันเป็นเลขาอยู่ข้างๆท่านรองประธานเย่มาหลายปี ถึงแม้ว่าเขาจะดูภายนอกเป็นคนที่อ่อนโยน แต่เมื่อไหร่ที่เขากำหนดสิ่งของหรือว่าคนชัดเจนแล้วเขาจะไม่เปลี่ยนแปลงอะไรง่ายๆ คุณก็อย่าโทษตัวเองเลย สิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่ท่านรองประธานเย่ได้ทำตามที่ใจของตัวเองต้องการเอาไว้”

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ ถูกบังคับเป็นตัวแทนของงานแต่งงานนี้ เธอแต่งงานกับผู้ชายที่พิการแต่กลับมีอำนาจใหญ่ “ฉันเย่โม่เซินไม่เอาผู้หญิงที่ท้องและไม่รู้ว่าพ่อของลูกเป็นใครเด็ดขาด”เดิมทีคิดว่างานแต่งงานนี้เป็นการแลกเปลี่ยน แต่เธอกลับเผลอใจ ไปไปมามา สุดท้ายเธอก็จากไปด้วยความเสียใจผ่านไปหลายปี ลูกชายที่หน้าตาคล้ายกับเขามากตบหัวของเย่โม่เซินด้วยฝ่ามือเล็กๆ“พ่อคนร้าย นายว่าใครเป็นเด็กที่ไม่รู้ว่าพ่อของตัวเป็นใคร?”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset