เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ – ตอนที่ 34 ฉันไม่ได้ยั่วยวนคุณ

บทที่34 ฉันไม่ได้ยั่วยวนคุณ

“เลวเอ๊ย!” เสิ่นเฉียวก้มลงมองตามสายตาเขา จึงรู้ว่าเย่โม่เซินกำลังจ้องมองอะไร

เสิ่นเฉียวสบถแล้วมองไปที่เขาอย่างรุนแรงหลังจากนั้นจึงได้ถอยออกห่าง

ผลสุดท้ายต่างฝ่ายต่างขยับคนละครึ่งเย่โม่เซินยกครึ่งตัวขึ้นกลางอากาศแล้ว เสิ่นเฉียวเพิ่งถอยห่างเย่โม่เซินที่ไม่ทันตั้งตัว ร่างสูงใหญ่จึงล้มไปด้านข้าง

“อ๊ะ!” เสิ่นเฉียวตกใจกลัวจนสีหน้าเปลี่ยน ยังไม่ทันที่จะได้ถอยเลย ก้าวไปข้างหน้าสองก้าวและค้ำเขาไว้ ถึงแม้เย่โม่เซินจะรูปร่างผอม แต่กล้ามเนื้อก็แข็งแรงซึ่งเป็นน้ำหนักจริง เสิ่นเฉียวถูกทาบทับและถอยห่าง จนเกือบจะหกล้ม

โชคดีที่เธอใช้แรงที่มีและค้ำเขาไว้จนหน้าแดง

“คุณไม่เป็นไรนะคะ?” เมื่อทรงตัวได้แล้วเสิ่นเฉียวรีบเอ่ยปากถามครั้งหนึ่ง

เหมือนเย่โม่เซินจะไม่เคยได้รับการปฏิบัติเช่นนี้ จึงมีสีหน้าน่ากลัว “คุณว่าไงล่ะ?”

“ขอโทษค่ะ ฉันไม่ได้ตั้งใจ” เสิ่นเฉียวทำได้เพียงขอโทษเขา “โชคดีที่ไม่ล้ม ฉันพยุงคุณนะคะ”

ริมฝีปากเย่โม่เซินเม้มแน่นและไม่ได้ตอบเธอ เธอค่อย ๆ พยุงเขาไปนั่งที่วีลแชร์

แม้ว่าขั้นตอนจะไม่ค่อยราบรื่น แต่เมื่อได้เห็นเขานั่งบนวีลแชร์ เสิ่นเฉียวก็ทอดถอนใจโล่งอก รู้สึกประสบความสำเร็จ เธอคิดจะยื่นมือออกไปช่วยเช็ดเหงื่อแต่ถูกเย่โม่เซินหยุดเอาไว้

เสิ่นเฉียวตกตะลึงเบิกตาโพลงมองเขา

“คุณ คุณทำอะไรน่ะ?”

เย่โม่เซินหรี่ตาเรียวเล็กของเขาด้วยแววตาโหดร้ายเล็กน้อย “วิธียั่วผู้ชายของเธอมันต่างไปจริง ๆ แต่กลับดูถูกเธอเสียได้”

“อะไรนะ? ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ฉัน…”

เมื่อพูดจบ เย่โม่เซินใช้แรงที่มือเล็กน้อย เสิ่นเฉียว ก็ตกอยู่ในอ้อมกอดของเขา คางถูกเขาจับไว้แน่น “ทำเป็นเฉยเมย ทำเป็นไม่สนใจ ฉันยิ่งแปลกใจ เธอยั่วยวนคนแบบนี้ แล้วเธอถูกสามีเก่าทิ้งได้ยังไงกัน?”

คำพูดที่น่าอึดใจทุกคำดังอยู่ในหูเสิ่นเฉียว สีหน้าเธอเปลี่ยนไปซีดขาวเล็กน้อย กัดริมฝีปากล่างแน่น: “ฉันเปล่ายั่วคุณ”

“ยังจะบอกว่าเปล่า” เย่โม่เซินหัวเราะเหน็บแนม: “ปากแข็ง”

“ฉันเปล่า!” เสิ่นเฉียวมองเขาอย่างแข็งกร้าว: “เย่โม่เซินคุณเอาแต่พูดว่าฉันยั่วคุณ ฉันไปยั่วคุณตอนไหนกันล่ะ เป็นฉันยั่วคุณ หรือว่าคุณควบคุมตัวเองไม่ได้จนเห็นฉันแล้วอยากจะเป็นบ้ากัน?”

เย่โม่เซิน:“… ฉันไม่คิดจริง ๆ นะว่าเธอจะปากเก่งขนาดนี้”

เขาเพิ่มแรงที่มือมากขึ้นไปอีกเสิ่นเฉียวเจ็บจนต้องร้องออกมา ขมวดคิ้วแน่น “ปล่อยฉันนะ!”

“ปล่อย? นี่ไม่ใช่สิ่งที่เธอต้องการรึไง? เช้ามาชุดชั้นในก็ไม่ใส่ จงใจวิ่งเข้าหาผมและใช้ร่างกายของคุณจับผม…”

พูดถึงตอนท้าย เย่โม่เซินโน้มลงไปพูดข้างหูเธอ ลมหายใจร้อนผ่าวนั้นหายใจรดที่ต้นคอของเธอ ทำให้เสิ่นเฉียวตกใจจนตัวสั่น

“คุณ คุณพูดจาเพ้อเจ้อ!”

ใบหน้าเลือดฝาดของเสิ่นเฉียวเปลี่ยนสี เหมือนเธอจะคิดอะไรออกในทันใด

ก่อนหน้านี้เขาเห็นโดยไม่ได้ตั้งใจ จากนั้นกลัวว่าเขาจะล้มลงไปที่เตียง ดังนั้นเธอจึงได้กอดค้ำบ่าเขาเอาไว้ เวลานั้นที่ร่างกายของพวกเขาทั้งสองคนแนบสนิทกัน คงจะทำให้เย่โม่เซินเกิดความรู้สึก

“เหอะ” เย่โม่เซินหัวเราะเหน็บแนม: “ผมไม่ได้พูดเพ้อเจ้อ ร่างกายคุณรู้ดีที่สุด”

“เย่โม่เซิน คุณอย่าลืมข้อตกลงของเรา”

เมื่อได้ยินดังนั้น เย่โม่เซินค่อย ๆ นิ่งไป

“คุณเป็นคนพูดเอง หากไม่มีอะไรห้ามเข้าใกล้คุณ งั้นตอนนี้คุณกำลังทำอะไร?”

เธอยกมือขึ้น ข้อมือขาวนวลเล็กถูกเย่โม่เซินล็อกไว้แน่น

ความแตกต่างระหว่างสีผิวของทั้งสองคน อีกทั้งขนาดเล็กใหญ่ของมือยิ่งทำให้ชัดเจน เย่โม่เซินอึ้งไปพักหนึ่ง

ผ่านไปไม่นาน เย่โม่เซินจึงปล่อยมือ: “เธอคิดว่าฉันอยากจับเธอ? ผู้หญิงที่ไม่บริสุทธิ์อย่างเธอ เห็นแล้วหมดอารมณ์”

พูดแล้ว เย่โม่เซิน จึงถอยห่างจากเธอ เสิ่นเฉียวสะดุดและเกือบล้มลงกับพื้น เธอมองกลับไปอย่างโกรธเกรี้ยวกับชายสูงศักดิ์ที่นั่งอยู่บนวีลแชร์ ด้วยความน้อยใจที่ล้นอยู่ในอกแต่ถูกเสิ่นเฉียวกดมันเอาไว้อย่างรวดเร็ว เธอเก็บสีหน้าและสายตา สะบัดหน้าและหมุนตัวเดินไป

เธอเดินไปหยิบชุดชั้นในและเดินเข้าห้องน้ำไป เมื่อออกมาเย่โม่เซินก็ไม่อยู่ในห้องแล้ว

เฮ้ย ตื่นเช้ามาไม่คิดจะล้างหน้าแปรงฟันเลยรึไง แถมไปไหนแล้วก็ไม่รู้

เสิ่นเฉียวเปลี่ยนเสื้อผ้าและเก็บของจนเรียบร้อย หยิบโทรศัพท์และเปิดเครื่อง

เมื่อเปิดเครื่องก็ได้รับข้อความจากคนแปลกหน้า

‘เฉียวเฉียวคุณบล็อกเบอร์ผมเหรอ? ’

‘ปิดเครื่องทำไม? ผมมีเรื่องจะคุยกับคุณนะ ผมรู้ว่าผมผิดต่อคุณ แต่คุณต้องให้โอกาสได้อธิบายสักครั้ง’

อธิบาย?

แววตาเสิ่นเฉียวเย็นชาลงไปมาก

อธิบายอะไร?

อธิบายว่าเขาอยู่กับยายสาวชู้คนนั้นมาสองปีจนมีลูกด้วยกันน่ะเหรอ?

หลินเจียง!

ฉันเสิ่นเฉียว ไม่มีวันยกโทษให้คุณ

ผู้ชายเหี้ย ๆ ! ! !

เสิ่นเฉียวบล็อกเบอร์ที่ไม่รู้จักไปด้วย ป้องกันไม่ให้มารบกวนตนเองอีก จากนั้นจึงเก็บโทรศัพท์และลุกขึ้น

เมื่อออกจากห้องบังเอิญเจอกับเย่โม่เซินที่กลับมา

เสิ่นเฉียว คิดอยู่นาน หรือว่าควรจะก้าวไปเพื่อช่วยเข็นเก้าอี้ให้เขา

“อย่ามาใกล้ผม”

อย่างไรก็ตาม เย่โม่เซินได้พูดคำพูดที่เลือดเย็นออกมา ทำให้เสิ่นเฉียวต้องหยุดก้าวเท้าเดินอยู่ตรงนั้น

คนรับใช้หลายคนที่ตื่นเช้าและกำลังกวาดพื้นได้ยินเข้า มองหน้ากันเลิ่กลั่ก จากนั้นจึงทำหน้าเหมือนไม่ได้ยินอะไรแล้วก้มหน้าทำความสะอาดต่อไป

เย่โม่เซินกลับเข้าห้องตนเอง เสิ่นเฉียวเตรียมลงไปทานอาหารเช้าที่ชั้นล่าง

ครอบที่ใหญ่ขนาดนี้ เดิมทีควรจะรับประทานอาหารพร้อมหน้า แต่นายท่านมักจะไม่อยู่ทานอาหารเช้าที่บ้าน ดังนั้นอาหารเช้าที่บ้านจึงต้องเตรียมถึงสามเวลาคือ หกโมงเช้า เจ็ดโมงเช้า และแปดโมงเช้า

นอกจากสามช่วงเวลานี้แล้ว พ่อครัวแห่งตระกูลเย่จะไม่ทำอาหารเช้าอีก

เสิ่นเฉียวตื่นแต่เช้า ดังนั้นปกติแล้วจะทันรอบหกโมง

เมื่อนั่งลง ข้างหลังเธอก็มีเสียงดังขึ้น

“คุณนายน้อย อรุณสวัสดิ์ คุณลงมาทานอาหารเช้าแล้วเหรอ?”

เมื่อได้ยินเสิ่นเฉียวหันกลับไปดูพบว่าเป็นคนรับใช้ผู้หญิงคนหนึ่งกำลังยิ้มหวานทักทายเธอ เข้ามาอยู่ในตระกูลเย่มานานขนาดนี้ นอกจากเย่หลิ่นหาน พี่ชายของเย่โม่เซิน แล้ว คนนี้เป็นคนที่สองที่พูดกับเธออย่างยิ้มแย้ม

ในใจเสิ่นเฉียวมีความประหลาดใจเล็กน้อย มีรอยยิ้มอยู่บนหน้า พยักหน้าและส่งเสียงอืมรับ

“นี่ไข่ดาวที่ฉันเพิ่งทำเสร็จค่ะ คุณนายน้อยจะลองทานดูหน่อยไหมคะ?”

“ได้ค่ะ” เสิ่นเฉียวพยักหน้า

เมื่อสาวใช้คนนั้นยื่นจานมาให้เธอ เสิ่นเฉียวกำลังจะยื่นมือไปรับ แต่ไม่มีใครคาดคิดว่าเธอกลับปล่อยมือ ไข่ชิ้นหนึ่งจึงหกเลอะเสื้อของเสิ่นเฉียว!

“คุณนายน้อยคุณเป็นอะไรรึเปล่าคะ?” สีหน้าของสาวใช้ตื่นตระหนก รีบหยิบกระดาษทิชชูขึ้นมาเช็ด เสิ่นเฉียวขมวดคิ้วโดยไม่ทันตั้งตัว นี่เธอมองผิดไปหรือเปล่า?

เธอเห็นชัดเจนว่าเหมือนสาวใช้คนนี้ตั้งใจปล่อยมือ แต่สีหน้าที่ตื่นตระหนกบนใบหน้าของเธอดูไร้เดียงสามาก…

คงจะเป็นเพราะเธอใช้ความคิดของผู้น้อยมาเดาใจเจ้านายสินะ

“คุณนายน้อย ขอโทษจริง ๆ ค่ะ ดิฉันทำหลุดมือ คุณดื่มนมเป็นการชดเชยนะคะ”

“ไม่เป็นไรค่ะ” เสิ่นเฉียวยิ้มให้เธอและยื่นมือออกไปรับแก้วนม

โครม——

สาวใช้กลับทำนมหกใส่ตัวเธอ

เสิ่นเฉียวไม่ทันตั้งตัว ตกตะลึงยืนอยู่ตรงนั้น

สาวใช้ปัดแก้วนมตกลงข้างเท้าเสิ่นเฉียวพูดอย่างงุนงง: “คุณนายน้อยทำไมคุณไม่ระวังล่ะคะ? หยิบแก้วนมแก้วเดียวยังไม่ระวังอีก”

เสิ่นเฉียวเงยหน้า และมองหน้าเธออย่างไม่น่าเชื่อ

สาวใช้ที่ไหนยังคงทำหน้าไร้เดียงสาได้อีก? ความภาคภูมิใจนั้นแทบจะแผ่รังสีออกมา…

“ยังคิดจะแต่งตั้งตัวเองเป็นคุณนายน้อย? คิดว่าฉันจะปรนนิบัติเธอรึไง?”

“ไม่ส่องกระจกชะโงกดูเงาตัวเองบ้างรึไง? จะให้ฉันรับใช้คนอย่างนี้ได้ยังไงกัน? คุณชายเย่ไม่สนใจเธอด้วยซ้ำ เธอยังหน้าด้านอยู่ตระกูลเย่ไม่ไปไหนซะที!”

เธออยู่ในตระกูลเย่ มันขวางทางพวกคนใช้พวกนี้รึไงกัน?

เป็นที่ชัดเจนว่าเธอไม่ได้ทำอะไร คนพวกนี้…ทำไมถึงเกลียดชังเธอถึงขนาดนี้? เพียงเพราะเย่โม่เซินไม่ชอบเธอเหรอ?

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ ถูกบังคับเป็นตัวแทนของงานแต่งงานนี้ เธอแต่งงานกับผู้ชายที่พิการแต่กลับมีอำนาจใหญ่ “ฉันเย่โม่เซินไม่เอาผู้หญิงที่ท้องและไม่รู้ว่าพ่อของลูกเป็นใครเด็ดขาด”เดิมทีคิดว่างานแต่งงานนี้เป็นการแลกเปลี่ยน แต่เธอกลับเผลอใจ ไปไปมามา สุดท้ายเธอก็จากไปด้วยความเสียใจผ่านไปหลายปี ลูกชายที่หน้าตาคล้ายกับเขามากตบหัวของเย่โม่เซินด้วยฝ่ามือเล็กๆ“พ่อคนร้าย นายว่าใครเป็นเด็กที่ไม่รู้ว่าพ่อของตัวเป็นใคร?”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset