บทที่ 382 การโต้ตอบนัดบอด
แค่ครู่เดียว หลินชิงชิงก็หายใจอย่างอึดอัดลำบากมากขึ้น ตื่นเต้นจนได้แต่เอามือวางลงไปใต้โต๊ะ มองดูพวกเขาเดินใกล้เข้ามาคุณแม่หลินเห็นหลินชิงชิงท่าทางตื่นเต้น อดใจไม่ไหวยิ้มๆ
“หน้าตาไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุด ต้องดูนิสัยด้วย รู้ไหม?”
ได้ยินดังนั้นหลินชิงชิงหน้าแดงทันที พูดเบาๆ: “คุณแม่ น้าส้งไม่ใช่คนแบบนั้น ถ้าไม่ดีจริงๆ เธอคงไม่แนะนำหรอก”
“ก็ใช่นะ”
แค่ครู่เดียว ส้งอานก็พาเย่โม่เซินเดินมาถึงโต๊ะตรงที่พวกเธอนั่งอยู่
ส้งอานและคุณแม่หลินไม่เจอกันมานาน ทั้งสองคนต่างคิดถึงกัน ดังนั้นทั้งสองคนทักทายกันอย่างดีใจและนั่งลง
“ฉันมาแนะนำสักหน่อยนะ คนนี้ก็คือหลานชายแท้ๆของฉัน เย่โม่เซิน โม่เซิน นี่คือลูกสาวของเพื่อนน้า ชื่อหลินชิงชิง ยังไม่รีบทักทายเค้าอีก”
เย่โม่เซินไม่ได้เต็มใจมาด้วยตนเอง หลังจากที่นั่งลงแล้ว บรรยากาศรอบๆเงียบเหงาวังเวงจนเยือกเย็นไปทั่ว
หลังจากที่ส้งอานให้เขาทักทายแล้ว เขาก็ยังนั่งอยู่นิ่งๆ
กลับเป็นหลินชิงชิงที่ยื่นมือออกมาทางเย่โม่เซิน: “สวัสดีค่ะ ฉันชื่อหลินชิงชิง คุณเรียกฉันว่าชิงชิงก็พอค่ะ”
พูดจบหลินชิงชิงยิ้มแย้มจนฟันที่ขาวๆทั้งแถวเปิดออกมา
เย่โม่เซินเงยหน้าขึ้นมานิดๆ แววตาที่เยือกเย็นมองไปที่หน้าของหลินชิงชิง สักพักถึงจะเอ่ยปาก: “สวัสดีครับ คุณหลิน”
แต่ว่าเขากลับไม่ยืนมือออกมา อีกทั้งน้ำเสียงเยือกเย็นดั่งธนูน้ำแข็ง
ทุกคนต่างสีหน้าไม่ค่อยดี
หลินชิงชิงก็ตะลึงไปสักพัก เธอให้เขาเรียกชิงชิงก็พอ แต่เขากลับเรียกคุณหลิน
จะไม่ให้รู้สึกอายได้ยังไง?
“โม่เซิน!” ส้งอานกัดฟันและจ้องหน้าเย่โม่เซินด้วยความไม่พอใจ
สีหน้าของเย่โม่เซินเงียบนิ่ง ไม่โต้ตอบอะไร
แต่หลินชิงชิงเก็บมือเข้ามาด้วยความรู้สึกที่อับอาย ยิ้มแล้วพูดเบาๆ: “ขอโทษน้าส้งด้วยนะคะ ท่านอย่าว่าเขาเลยค่ะ หนูเองที่ทำตัวเป็นคนคุ้นเคยกันเอง นายเย่เป็นเช่นนี้ดีแล้ว เพราะวันนี้เราเพิ่งจะรู้จักกัน ต้องเกรงใจกันสักนิด”
ส้งอานรู้ตั้งนานแล้ว ว่าหลินชิงชิงเป็นเด็กที่มีมารยาทดีมากๆ นึกไม่ถึงว่าเธอจะเข้าใจคนอื่นขนาดนี้ คำพูดเช่นนี้ทำให้เธอรู้สึกซึ้งใจจริงๆ
ดังนั้นส้งอานเห็นหลินชิงชิงแววตาเปลี่ยนไป พูดจาเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด: “ชิงชิงจ๋า ต้องขอโทษจริงๆ หลานชายของน้าคนนี้ไม่มีอะไรที่ไม่ดี มีข้อเสียเรื่องเดียวก็คือจะคบกับคนอื่นยาก นิสัยของเขาเป็นคนเย็นชาเช่นนี้อยู่แล้ว หนูดูสิ แม้แต่น้าเขาก็ไม่ยอมไว้หน้า ดังนั้น……หนูอย่าถือสาเลยนะ เขาเป็นคนที่ดูแล้วเย็นชาแต่ใจกระตือรือร้น รอให้พวกหนูรู้จักกันนานแล้ว……”
เย่โม่เซินฟังแล้ว อดใจไม่ไหวจนขมวดคิ้วขึ้น
หน้าตาเย็นชาใจกระตือรือร้น?
เขาทำไมไม่รู้ว่าตนเองเป็นคนอย่างนั้น?
ฮา
ส่วนหลินชิงชิงยิ่งมองเย่โม่เซินยิ่งรู้สึกถูกใจ
เธอไม่ได้รู้สึกว่าเย่โม่เซินทำเช่นนั้นไม่ไว้หน้าเธอ ตรงกันข้าม กลับรู้สึกดีมากกว่าที่เขาเป็นคนที่รักตัวเองและมั่นใจตนเอง เยือกเย็นจนเหมือนดั่งเจ้าชายแห่งภูเขาน้ำแข็ง เพราะตัวเธอเป็นคนที่สวยเก่งอยู่แล้ว ดังนั้นไม่ขาดผู้ชายที่คอยตามจีบ คนที่อยู่รอบตัวต่างก็เอาอกเอาใจ คนไหนที่ไม่ยิ้มแย้มตอแยเธอบ้าง แต่เธอก็เจอพวกผู้ชายที่ตามจีบเอาใจเธอ ขณะเดียวกันก็มอบของขวัญที่เหมือนกันให้หญิงอื่นด้วย เธอรู้สึกผิดหวังสักพักหนึ่งแล้ว ดังนั้นเธอจึงหมดความสนใจต่อพวกผู้ชายที่คอยมาเอาใจตลอดเวลา
แต่คนที่หน้าตาหล่อเหมือนเย่โม่เซิน แล้วก็เยือกเย็นเหมือนเจ้าชายภูเขาน้ำแข็ง พอดีกับความสนใจของเธอจริงๆ
ขอแค่เธอมีความพยายาม วันไหนที่ภูเขาน้ำแข็งละลายแล้ว
งั้นเขาก็จะเป็นของเธอคนเดียว
นึกถึงเช่นนี้แล้วหลินชิงชิงรู้สึกไหวหวั่นในใจ
สาวน้อยไม่ค่อยจะเก็บความรู้สึกตนเองได้มากนัก สีหน้าที่พอใจและความเขินอายบนหน้า เห็นได้อย่างชัดเจน ส้งอานและคุณแม่หลินต่างเป็นคนที่ผ่านประสบการณ์มาก่อน ต้องเข้าใจถึงสถานการณ์ที่อยู่ตรงหน้า
ดังนั้นทั้งสองคนต่างยิ้มแย้ม ลุกขึ้นมาพร้อมกัน บอกว่าไปเดินเล่นข้างนอก ปล่อยให้หนุ่มสาวอยู่ตามลำพัง
ทั้งสองคนเดินออกจากร้านกาแฟ
“อายเค้าจริงๆเลย ลูกสาวของฉันคนนี้…..พูดตามความจริง ฉันเพิ่งจะเห็นครั้งแรกที่เธอหวั่นไหวเช่นนี้” คุณแม่หลินพูดด้วยความรู้สึกผิด
ส้งอานยิ้มและบอกว่า: “ไม่เห็นเป็นอะไรเลย ก็แสดงว่ามีความหวังแล้วสิ”
“แต่ว่า…..” คุณแม่หลินรู้สึกเหมือนกังวล แต่ไม่พูดออกมา
“ฉันรู้ว่าเธอกังวลอะไร หลานชายของฉันคนนี้นิสัยเป็นอย่างนี้จริงๆ แต่ฉันดูแล้วชิงชิงเป็นเด็กที่ฉลาดนะ ต้องดูบุญวาสนาของทั้งสองคนจะเป็นยังไงแล้ว ถ้าทั้งสองคนนี้เขามีบุญวาสนาต่อกันชิงชิงน่าจะรู้ว่าควรทำยังไงกับนิสัยของหลานชายของฉันคนนี้”
“เห้อ หลานชายของคุณดีไปหมดทุกๆด้าน หวังว่าจะมีวาสนาต่อกันจริงๆนะ”
หลังจากที่ญาติผู้ใหญ่ออกไปแล้ว หนุ่มสาวทั้งสองต่างนิ่งเงียบ
หลินชิงชิงไม่พูด เย่โม่เซินก็เงียบตลอด
ในขณะที่หลินชิงชิงเขินอาย เธอแอบเหล่ตาไปมองเย่โม่เซิน กลับเห็นเขานั่งเฉยๆสีหน้านิ่งๆอยู่ตรงนั้น เหมือนจะไม่รู้สึกอึดอัดใจอะไรกับบรรยากาศในตอนนั้นเลย
ไม่ได้ ถ้าเป็นเช่นนี้ต่อไปอีกคงต้องอึดอัดใจแย่เลย
ดังนั้นหลินชิงชิงหัวเราะเบาๆสองสามที มองหน้าเย่โม่เซินแล้วพูด: “นายเย่จะดื่มอะไรไหมคะ?”
พูดจบไม่รอเขาตอบหลินชิงชิงก็ลุกขึ้นเรียกพนักงานบริการ
“คุณผู้หญิงท่านนี้ ต้องการอะไรหรือคะ?”
หลินชิงชิงมองเย่โม่เซินที่อยู่ฝั่งตรงข้าม: “นายเย่คะ?”
ในที่สุดเย่โม่เซินเงยหน้าขึ้นมา ริมฝีปากบางๆก็ขยับ
“กาแกดำ”
พูดน้อยจริงๆ
หลินชิงชิงคิดไปด้วย และพูดกับพนักงานไปด้วย: “เอาคาบูชิโน่ให้ฉันด้วยหนึ่งแก้ว ขอบคุณค่ะ”
“ได้ค่ะ คุณผู้ชายคุณผู้หญิงโปรดรอสักครู่ค่ะ”
พนักงานไปแล้วหลินชิงชิงมองดูเย่โม่เซินที่อยู่ตรงข้าม หรี่ตาลงและถามเบาๆ: “ปกตินายเย่มีความสนใจอะไรบ้างคะ?”
เย่โม่เซินมองดูสาวน้อยที่อยู่ตรงหน้าด้วยสายตาที่เย็นชา
ดูก็รู้ว่าเป็นสาวน้อยไร้เดียงสาที่เพิ่งจะเรียนจบ เขายิ่งไม่มีความสนใจผู้หญิงแบบนี้เลยสักนิด
“ไม่มี”
หลินชิงชิงตกตะลึงนิดๆ จากนั้นก็พูดอีก: “แล้วนายเย่ ปกติก็ทำแต่งานเหรอคะ? ไม่มีงานอดิเรกอื่นๆเลยหรือคะ?”
“คุณหลิน”
เย่โม่เซินเรียกเธอกะทันหันหลินชิงชิงเงยหน้าขึ้น สบกับสายตาของเขาที่เข้าใจยาก
“นัดบอดครั้งนี้ จบแค่นี้เถอะ”
หลินชิงชิงตกตะลึง: “อะไรนะ?”
เห็นเย่โม่เซินลุกขึ้นยืนหลินชิงชิงสีหน้าเปลี่ยนไปกะทันหัน รีบลุกขึ้นมาและพูดว่า: “นายเย่ คุณมีแฟนไหม?”
เย่โม่เซินยืนนิ่งๆไม่ขยับ แล้วก็ไม่ตอบ
“ฉันเชื่อว่าน้าส้งคงไม่โกหกฉัน ถ้าคุณมีแฟน เธอคงไม่แนะนำให้รู้จัก ในเมื่อนายเย่ไม่มีแฟน ทำไมไม่ยอมเดินหน้ากับฉันล่ะ?” หลินชิงชิงพูดจาเร็วมาก เหมือนกลัวว่าถ้าพูดช้าไปเย่โม่เซินจะหายตัวไปต่อหน้าอย่างนั้น
เย่โม่เซินไม่พูดอะไรหลินชิงชิงมองดูเงาด้านหลังของเขา หายใจลึกๆหนึ่งครั้ง จากนั้นเดินอ้อมไปด้านหน้าของเย่โม่เซิน
“คุณอยากจะพูดว่า วันนี้คุณมาเพราะน้าส้ง ถ้าไม่งั้นคุณไม่มีทางมาที่นี่แน่นอน?”
ได้ยินดังนั้น เย่โม่เซินขมวดคิ้วเล็กน้อย
“ในเมื่อคุณรู้แล้ว ก็อย่าขวางทางผม”
“แต่ว่า……น้าส้งกับคุณแม่ของฉันเพิ่งจะไปนะ ถ้าคุณก็ไปอีก เหลือฉันแค่ผู้หญิงคนเดียวต้องเสียหน้านะคะ”
“ถือซะว่าช่วยฉัน ทนอยู่จนกว่าการนัดบอดครั้งนี้จะจบ ได้ไหมคะ?”