เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ – ตอนที่ 402 แนวเดวิล

บทที่402 แนวเดวิล

คำพูดนี้ทำจางยู่พูดอะไรไม่ออก

วันนั้นตอนที่หานมู่จื่อกำลังประชุมอยู่ พูดข้อเสียของพวกเธออยู่ เป็นความจริงที่ว่ากำข้อบกพร่องทั้งหมดของพวกเธอไว้ในอุ้งมือ

“นั่นก็ไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าเธอมีความสามารถ พวกเราอยู่ในอาชีพนี้มากี่ปีแล้ว เธออยากรู้ข้อเสีย ก็สามารถให้คนไปสำรวจ แค่มีเงิน ก็ไม่มีเรื่องที่ทำไม่ได้ หรือว่าไม่ใช่? ”

“ใช่สิ มีเงินก็ไม่มีเรื่องที่ทำไม่ได้ ” หลี่จุ้นเฟิงหันกลับไปมองจางยู่ : “ก็สมมุติว่าเธอ ที่จริงเธอเกลียดเธอแทบตาย แต่เพราะว่ามีเงิน ก็ยังคงอยู่ที่นี่”

ประโยคนี้ ก็เหมือนตบหน้าจางยู่

ทำให้เธอชาไปทั้งตัว

รอบๆ เลิงเยาเยาหัวเราะ เซียวยียีก็ทนไม่ไหวเม้มปากหัวเราะออกมาเบาๆ

ซูกั่วเอ๋อที่อยู่ข้างๆ จางยู่หัวเราะอย่างเหยียดหยาม : “ฉันเคยพูดกับเธอแล้ว ไม่มีความสุขหรือไม่ก็จากไป เธอไม่ยอม ก็เพราะอันนี้”

“ฉัน…..”จางยู่โกรธจนพูดอะไรไม่ออก ในใจยิ่งโกรธมาก

อีกอย่างทุกคนก็ไม่สนใจเธออีกแล้ว จางยู่เอามือจับไปที่ขอบมุมโต๊ะ โกรธจนกัดริมฝีปากล่าง

น่าจะตายไปซะนังผู้หญิงเลว พวกเรารอดูอยู่!

มีลูกกับหานชิงแล้วไง ก็ไม่ได้เป็นคุณนาย จะเร็วหรือช้าก็ต้องโดนเขี่ยทิ้ง!

หานชิง……

สายตาของจางยู่เปลี่ยนเป็นดุร้ายทันที

ห้องประชุม

ก่อนที่หานมู่จื่อจะเข้าไป เอาเสี่ยวหมี่โต้วไปให้เสี่ยวเหยียน ให้เธอดูแลเขา อย่าให้เขาวิ่งไปทั่ว

เสี่ยวเหยียนกลับหันตัวกลับก็อยากเอาเสี่ยวหมี่โต้วไว้ในห้องทำงาน

“มือของหม่ามี๊ของหนูบาดเจ็บแล้ว ฉันต้องไปช่วยเธอ เพราะฉะนั้นหนูต้องเป็นเด็กดีอยู่ในห้อง มีปัญหาไหม? ”

เสี่ยวหมี่โต้วส่ายหน้า : “ไม่มีปัญหา แต่ว่าคุณป้าเสี่ยวเหยียน ผมคิดว่าผมสามารถไปฟังสังเกตการณ์”

“ฟังสังเกตการณ์? ”

“ถูกแล้วคุณป้าเสี่ยวเหยียน เสี่ยวหมี่โต้วเป็นเด็กดีขนาดนี้ ไปฟังสังเกตการณ์จะไม่พูดอะไรไปเรื่อย~ ”

“เอ่อ นี่…….”

เสี่ยวหมี่โต้วเพียงแค่ไม่กี่ขวบ กอดแขนเสี่ยวเหยียนอยู่ พูดด้วยเสียงเล็กเสียงน้อย : “คุณป้าเสี่ยวเหยียน ผมสามารถเอารูปลุงของผมส่งในคุณได้นะ ”

ฟังแล้ว เสี่ยวเหยียนทันใดนั้นก็ยืดเอวด้วยท่าทางที่น่าเกรงขาม

“เธอพูดอะไร? ฉันไม่เข้าใจ”

“เป็นรูปส่วนตัวของลุงผมนะ ไม่ใช่แบบบนนิตยสารกับข่าวนะ~”

รูปส่วนตัว…….

เสี่ยวเหยียนจินตนาการหานชิงใส่เสื้อกล้ามและกางเกงนั่งอยู่บนโซฟา อาบน้ำใต้โคมไฟตอนกลางคืน สักพักก็รู้สึกว่าใจเต้นขึ้นมา

“คุณป้าเสี่ยวเหยียน นี่เป็นการแลกเปลี่ยน เป็นยังไง? ”

“คำไหนคำนั้น! ”

เพื่อรูปของผู้ชาย เธอไร้ยางอายสักครั้งละกัน!

เป็นเพียงผู้สังเกตการณ์ไม่ใช่หรือ? เธอยังเป็นคนกำหนดได้!

สุดท้ายเสี่ยวเหยียนก็พาเสี่ยวหมี่โต้วเข้าไปในห้องประชุม เอาเจ้าตัวเล็กไปจัดไปที่ท้ายสุด เสี่ยวหมี่โต้วก็ไม่มีการคัดค้านใดๆ นั่งอยู่บนเก้าอี้สูงด้วยความพอใจ ขาสั้น ๆ คู่หนึ่งห้อยอยู่ใต้โต๊ะตลอดเวลา

ตอนคนอื่นเดินเข้ามา เห็นเข้าก็อดไม่ได้มองไปที่เสี่ยวหมี่โต้วสองสามครั้ง

ตอนที่เลิงเยาเยาผ่านข้างตัวเขา ทันใดนั้นก็หยุด หยิบลูกอมนมกระต่ายขาวส่งให้เสี่ยวหมี่โต้ว

เสี่ยวหมี่โต้วเห็นหลายครั้ง ความพึงพอใจก็ปรากฏขึ้นในดวงตา แต่ว่าก็ไม่ได้ยื่นมือไปรับ แล้วก็หัวเราะพลางพูดว่า : “ขอบคุณครับพี่สาวคนสวย แต่ว่าหม่ามี๊บอกว่าเด็กกินลูกอมเยอะเกินไม่ได้ ไม่งั้นฟันจะไม่ดี ”

ฟังแล้ว เลิงเยาเยาก็อดไม่ได้ที่จะมองไปที่ หานมู่จื่อ ที่นั่งอยู่ที่หัวหน้า สายตาของเธอกำลังมองมาที่นี่อย่างนุ่มนวล เมื่อสบตากับเลิงเยาเยาก็ไม่ได้เปลี่ยนเป็นเย็นชา

หานมู่จื่อไม่มีอะไรผิดปกติ แต่เลิงเยาเยารู้สึกอึดอัดขึ้นมา เธอหลีกเลี่ยงการจ้องมองของหานมู่จื่อ จากนั้นเบะปากพูดว่า : “หม่ามี๊ของเธอโกหกเธอ นานๆ กินลูกนึงไม่เป็นอะไรหรอก”

เสี่ยวหมี่โต้วนิ่งไป ที่จริงหม่ามี๊บอกว่า ไม่ให้กินของคนแปลกหน้าไปทั่วต่างหาก

แต่ว่า…..เสี่ยวหมี่โต้วมองไปที่หานมู่จื่อ

หานมู่จื่อยิ้มแล้วพยักหน้า เสี่ยวหมี่โต้วถึงยื่นมือเล็ก ๆ คู่หนึ่งออกมาและหยิบมันขึ้นมาในท่าถือ

เด็กปกติ ถึงแม้ชอบลูกอม ตอนผู้ใหญ่ส่งให้ เขาก็ยื่นมือมาจับทั้งนั้น เพราะว่าเป็นเด็ก ดังนั้นท่าทางพวกนี้ก็ไม่ได้สับสน ไม่ว่าท่าทางจะเป็นยังไงก็คือสภาพที่ไร้เดียงสาที่สุดของเด็ก

แต่เสี่ยวหมี่โต้วที่อยู่ตรงหน้า ท่าทางที่ใช้มือยื่นมารับ ทำให้เลิงเยาเยาตกใจ

“ขอบคุณครับพี่สาวคนสวย เสี่ยวหมี่โต้วชอบคุณมาก ”

เลิงเยาเยาอึ้งไปสองสามวินาทีถึงตอบสนองกลับมา รีบเอาลูกอมนมกระต่ายขาววางบนมือเขา

“ไม่ต้องเกรงใจนะเจ้าตัวน้อย ถ้าชอบเดี๋ยวคราวหน้าพี่เอามาให้อีก”

ตอนที่เลิงเยาเยานั่งตรงที่นั่งมองไปที่สายตาของเสี่ยวหมี่โต้วยังตกใจเล็กน้อย

เจ้าตัวน้อยนี่ถูกสั่งสอนมาดีเกินไปแล้ว

ทันใดนั้น เลิงเยาเยามองไปที่หานมู่จื่อ โดยไม่คำนึงถึงความแข็งแกร่งของเธอ อย่างน้อยเธอก็สอนเด็กได้ไม่เลว เธอก็พอจะรู้ ทำไมเผชิญหน้ากับเสียงดังของพวกเธอ เธอยังคงใจเย็นได้ขนาดนี้

ผู้คนมาถึงทีละคน ก็ยังมีคนไม่น้อยมองไปที่ที่นั่งของเสี่ยวหมี่โต้ว

จางยู่เพราะว่าเคยเสียเปรียบให้เสี่ยวหมี่โต้ว เพราะฉะนั้นตอนนี้เลยไม่กล้าพูดอะไรไปเรื่อย กลัวว่าเจ้าตัวน้อยจะเอ่ยปากเอาตัวเองตกหลุมไปอีก

“ดูแล้วทุกคนคงมาครบแล้ว ตอนนี้ก็ให้ฉันดูผลงานที่พวกคุณพยายามทำตอนเมื่อคืนวานเถอะ ”

พูดจบ ประตูห้องประชุมดูผลักออก ร่างบางๆ เดินเข้ามา

ทุกคนต่างมองไปตามเสียง

โปรไฟล์สุดเท่ของวัยรุ่นสะท้อนให้เห็นถึงความเฉยเมยในแสงไฟ

“หลินเจิง!”เซียวยียีแค่เห็นเขา ตาก็เป็นประกาย จากนั้นลุกขึ้นเดินไปที่เขา

แต่หนุ่มไม่ได้สนใจเซียวยียี เดินตรงมาที่หานมู่จื่อทันที

หานมู่จื่อมองหนุ่มอย่างเย็นชา

เสื้อเชิ้ตสีขาวซักสะอาดมาก ใส่อยู่บนตัวเขาแต่ก็ยังเห็นความผอมบางของเขา อีกอย่างสีหน้าของเขากับริมฝีปากค่อนข้างซีด แต่ถึงอย่างนั้น หนุ่มก็ยังหล่ออยู่

แค่สายตานั่นเยือกเย็นเหมือนน้ำแข็ง ไม่มีความอบอุ่นแม้แต่น้อย

สายตานี้ ทำให้หานมู่จื่ออึ้งไป คิดถึงอีกคน

ช่วงเวลาแห่งความหลงใหล หนุ่มเดินมาอยู่ตรงหน้าเธอ มองเธออย่างเยือกเย็น

เซียวยียีตามมาด้วยความเก้อเขิน อยากไปดึงแขนเสื้อของเขา แต่ว่าก็ไม่กล้าได้แต่มองที่เขา : “หลินเจิง นาย นายเป็นอะไรไป? ”

หานมู่จื่อยังคงนิ่ง เขามองมาที่ตัวเอง เธอก็เงยหน้ามองเขา

“มีเรื่องอะไรไหม? ”

ริมฝีปากบางๆ ของหลินเจิงขยับ ทันใดนั้นยื่นมือเอาสมุดเล่มหนึ่งไปวางไว้บนโต๊ะ

หานมู่จื่อมองไป แล้วหยิบขึ้นมา : “ภาพร่างที่คุณวาด? ”

พูดจบเธอก็เปิดดู : “ยังไงก็มาแล้ว ก็ไปนั่งลงเถอะ”

สายตาของหลินเจิงมองเธออย่างสับสน สุดท้ายก็ไม่ได้พูดอะไร หันกลับไปที่ที่นั่ง เซียวยียีก็รีบตามไปด้วย

หานมู่จื่อเปิดแบบร่างดู สีหน้าดูเคร่งขรึมขึ้น

เธอเงยหน้ามองไปทางหลินเจิง ไม่ใช่ภาพลวงตาของเธอ งานของหนุ่มคนนี้ ได้กลายเป็นแนวเดวิลไปแล้ว

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ ถูกบังคับเป็นตัวแทนของงานแต่งงานนี้ เธอแต่งงานกับผู้ชายที่พิการแต่กลับมีอำนาจใหญ่ “ฉันเย่โม่เซินไม่เอาผู้หญิงที่ท้องและไม่รู้ว่าพ่อของลูกเป็นใครเด็ดขาด”เดิมทีคิดว่างานแต่งงานนี้เป็นการแลกเปลี่ยน แต่เธอกลับเผลอใจ ไปไปมามา สุดท้ายเธอก็จากไปด้วยความเสียใจผ่านไปหลายปี ลูกชายที่หน้าตาคล้ายกับเขามากตบหัวของเย่โม่เซินด้วยฝ่ามือเล็กๆ“พ่อคนร้าย นายว่าใครเป็นเด็กที่ไม่รู้ว่าพ่อของตัวเป็นใคร?”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset