เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ – ตอนที่ 404 เธอรู้ตั้งแต่แรกแล้ว

บทที่ 404 เธอรู้ตั้งแต่แรกแล้ว

เห็นเสี่ยวเหยียนหายใจก็แทบจะไม่สะดวก หานมู่จื่อพูดอย่างทำอะไรไม่ถูก : “ทำไมรีบวิ่งขนาดนี้ล่ะ มีลูกค้าเธอก็ต้อนรับไม่แค่นั้นหรอ? ”

เสี่ยวเหยียนได้ยิน สีหน้ายิ่งซีดขึ้น เธอกลืนน้ำลายอย่างทำตัวไม่ถูก พูดอย่างคอแห้ง : “แต่แขกคนนั้นระบุชื่อมาว่าอยากเจอเธอ ”

หานมู่จื่อกะพริบตา : “เจอฉัน”

เสี่ยวเหยียนพยักหน้าอย่างแรง

สีหน้าเธอแย่มาก หายใจก็ไม่คงที่ ถ้าตามหลักแล้วเป็นเพราะรีบวิ่ง งั้นลมหายใจของเธอยังไม่คงที่ สีหน้าก็ไม่น่าจะซีดเป็นกระดาษแบบนั้น

ท่าทางนี้ของเธอ แค่พอบอกได้ว่ามีเรื่องแล้ว ลูกค้านั่น……

ในสมองคิดขึ้นมาได้ หานมู่จื่อทันใดนั้นก็คิดอะไรบางอย่าง เธอมองไปที่เสี่ยวเหยียน ปากขยับโดยไม่มีเสียง

เสี่ยวเหยียนกัดริมฝีปากล่างไว้ กลับหลีกเลี่ยงสายตาของเธอ

หานมู่จื่อรู้สึกว่าหัวใจของตัวเองเต้นแรง ไม่มีความลังเลใดๆ หานมู่จื่อก็หันหลังพูดกับลุงหนานว่า : “ลุงหนาน รบกวนคุณส่งเสี่ยวหมี่โต้วกลับไปก่อน รบกวนคุณบอกกับพี่ชายของฉันว่า บริษัทฉันตอนนี้เกิดเรื่องที่ต้องจัดการนิดหน่อย เพราะฉะนั้น…..เดี๋ยวฉันจะนั่งรถกลับไปเองทีหลัง”

“นี่……” ลุงหนานฟังแล้วก็มองเธออย่างลำบากใจ : “แต่ว่านายหานสั่งไว้ว่า…….”

“วางใจเถอะลุงหนาน ฉันก็แค่ไปคุย ไม่บาดเจ็บที่มือหรอก ให้พี่ชายฉันวางใจได้”

“เสี่ยวหมี่โต้ว ลูกกลับไปกับปู่หนานก่อน เดี๋ยวสักพักหม่ามี๊ก็กลับมาอยู่เป็นเพื่อนลูก ดีไหม? ”

เสี่ยวหมี่โต้วเห็นท่าทางของเธอกับคุณป้าเสี่ยวเหยียนสีหน้าไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ยิ่งไม่โวยวาย พยักหน้าอย่าเชื่อฟัง : “โอเคหม่ามี๊ งั้นปู่หนาน พวกเรากลับกันก่อนเถอะ ผมจะพูดสถานการณ์ของหม่ามี๊กับลุงให้ชัดเจนเอง”

ลุงหนานก็พยักหน้า พาเสี่ยวหมี่โต้วไป

หานมู่จื่อหายใจเข้าลึกๆ มองไปที่เสี่ยวเหยียน

ริมฝีปากของเสี่ยวเหยียนไม่มีสีของเลือดอยู่แล้ว เหมือนกับไปตกใจอะไรใหญ่ๆ มา

ห้าปีมานี้ เธอน้อยมากที่จะมีอาการแบบนี้

เธอมีแค่ครั้งเดียวที่โดนทำให้ตกใจถึงขนาดนี้ ก็คือตอนเธอคลอดเสี่ยวหมี่โต้ว มีอาการคลอดยาก จากนั้นเลือดไหลเยอะมาก ตอนนั้นเสี่ยวเหยียนอยู่เป็นเพื่อนข้างๆ เธอ เห็นท่าทางของเธอก็ตกใจจนหน้าซีด ขนาดเลือกที่ริมฝีปากก็ไม่มีเหลือ

คิดไม่ถึงว่าตอนนี้จะได้เห็นเธอท่าทางนี้

หานมู่จื่อน่าจะเดาออกแล้วว่าคนคนนั้นเป็นใคร

“ไป ” เธอจับมือของเสี่ยวเหยียนกลับไป เสี่ยวเหยียนเหมือนกับหุ่นเชิดที่ถูกเธอลากไปข้างหน้า

จนถึงลิฟต์ สีหน้าของหานมู่จื่อยังคงเย็นชา เสี่ยวเหยียนกะพริบตา : “เธอทำไม…..ไม่ถามฉัน? ”

“อะไร? ”หานมู่จื่อมองเธอไปครั้งหนึ่ง

เสี่ยวเหยียนคิดว่า หานมู่จื่อเงียบจนไม่เป็นปกติ ปกติเห็นท่าทางของตัวเองก็จะถามว่าตัวเองเป็นอะไร แต่เธอกลับไม่ถาม อีกอย่างท่าทางยังแสดงออกมาอย่างเย็นชา นี่แสดงว่า……

“เธอรู้ก่อนแล้วหรอ? ” ตอนที่เสี่ยวเหยียนถามเธอ เสียงก็ค่อนข้างสั่น

หานมู่จื่อไม่ได้ตอบคำถามของเธอ สายตามองไปที่พื้น

มือกลับถูกเสี่ยวเหยียนจับไว้ เธอถามอย่างค่อนข้างตื่นเต้น : “วีแชท ตอนเช้าที่เธอให้ฉันบล็อกเขาเป็นเข้าใช่ไหม? มู่จื่อ งั้นเธอยังจะขึ้นไปเจอเขาอีกหรอ? ”

ฟังแล้ว หานมู่จื่อค่อยๆ ยิ้ม เงยหน้ามองตากับเสี่ยวเหยียน พูดเบาๆ ว่า : “เจอสิ ทำไมไม่เจอ? ”

รอยยิ้มของเธอกับสายตาปล่อยสบายๆ เหมือนกับไม่ได้สนใจเรื่องนี้ อารมณ์ก็ไม่ได้รับผลกระทบอะไร “ไม่ว่าเป็นใคร แค่เป็นลูกค้าของพวกเราก็โอเคแล้ว ”

เสี่ยวเหยียน:“……”

เธอจับมือของหานมู่จื่ออย่างคลายออกเล็กน้อย จากนั้นสุดท้ายก็พิงไปที่กำแพงอย่างไม่มีแรง

ติ้ง——

พอดีเวลานี้ ประตูลิฟต์ก็เปิด

หานมู่จื่อสายตาไม่ได้สนใจอะไรเดินออกไป เสี่ยวเหยียนยังอึ้งอยู่ที่ผนัง

มู่จื่อ……ไม่สนใจอะไรจริงๆ หรอ?

ห้องทำงาน

เย่โม่เซินมองไปรอบๆ ห้องทำงานนี้ค่อนข้างมีสไตล์ บนโต๊ะมีดอกยิปโซบาน ดอกไม้ประเภทนี้ถึงจะเห็นเป็นครั้งแรกแต่กลับรู้สึกว่ามีพลัง

เพราะทั้งหมดนี้หัวใจของเขาก็เต้นแรงขึ้นมา

อีกแป๊บ ก็จะได้เจอผู้หญิงคนนั้นแล้ว

เจอหน้ากันครั้งที่สอง ไม่รู้เธอเจอตัวเองครั้งนี้จะมีการตอบสนองยังไง

คิดถึงตรงนี้ เย่โม่เซินดวงตาค่อยๆ มืดลง

ข้างนอกมีเสียงรองเท้าส้นสูงเดินเข้ามาใกล้เย่โม่เซินทันใดนั้นก็กำหมัดแน่น

มาแล้วหรอ?

ประตูห้องทำงานไม่ได้ปิด หานมู่จื่อเดินเข้ามาใกล้ทีละก้าวๆ

ที่แท้ จากวันนั้นที่เจอหน้ากันแล้ว หานมู่จื่อคิดว่าตัวเองเจอเขาแล้วจะทำตัวไม่ถูก แต่ตอนที่เดินไปที่ห้องทำงานเธอพึ่งรู้ว่า ตัวเองสงบขึ้นมาทันที

น่าจะเป็นเพราะวันนั้นเธอปลอบตัวเองแล้ว และอาจเป็นเพราะ…..เธอไม่ได้เอาคนคนนี้มาใส่ใจอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นเจอเขาอีก ก็สามารถสงบขึ้นมาได้

เข้ามาในห้องทำงาน เงาร่างสูงใหญ่เข้ามาในสายตาของเธอ

เขาใส่ชุดสูทสีเข้มหันหลังให้เธอ ถึงแม้จะเป็นเงาจากข้างหลัง ก็สามารถรู้สึกได้ถึงความกล้าหาญของผู้ชายคนนี้ ร่างกายตึงไปหมด หุ่นดีมากอะไรแบบนั้น

แค่ดูครั้งหนึ่ง หานมู่จื่อเรียกสายตากลับมาก่อนที่คนคนนั้นจะหันกลับมา

จากนั้นก้าวอย่างแน่วแน่เดินตรงไปข้างหน้า

เสี่ยวเหยียนสีหน้าซีดเซียวเดินตามหลังเธออย่างชนนู่นชนนี่เข้ามาในประตู อยู่ข้างหลังเธอ ยังไม่ระวังชนเข้าไปที่หลังของเธอ

“เอ่อ”

ก้าวของหานมู่จื่อหยุดลง เย่โม่เซินก็หันตัวกลับมา

ใบหน้าหล่อของผู้ชายปรากฏอยู่ตรงหน้าเธอ

หานมู่จื่อสีหน้าเย็นชาหันกลับไปมองเสี่ยวเหยียน “ไปชงกาแฟเข้ามา”

เสี่ยวเหยียนเงยหน้าขึ้น จ้องตา นานกว่าจะพยักหน้า : “โอเค ฉันจะรีบไป ”

เธอก็เดินชนนู่นชนนี่ออกไปจากห้องทำงาน เหมือนกับเมาเหล้ามา

เห็นท่าทางของเธอ หานมู่จื่อในดวงตามีความจนใจอยู่ในนั้น ผู้หญิงคนนี้……

จากนั้นเธอมองไปที่เย่โม่เซิน ยิ้มเบาๆ

“เชิญนั่งค่ะ”

เย่โม่เซิน:“……”

เขาจินตนาการฉากที่คนสองคนเจอกันนับไม่ถ้วน

แต่ไม่เคยคิดเลยว่าเธอเจอตัวเองจะมีการตอบสนองแบบนี้

ไม่เสียใจ ไม่โกรธ และไม่ตกใจ ไม่มีความสุข……

อะไรก็ไม่มี สักนิดก็ไม่มี

สายตาเธอเย็นชาเหมือนน้ำ ขนาดยิ้มมุมปากก็ทำให้คนรู้สึกเฉยๆ ดูอารมณ์ของเธอไม่ออกเลย

เย่โม่เซินสายตาสงบ เห็นเขา เธอก็สงบขนาดนี้เลยหรอ?

งั้นเขาก็อารมณ์พลุ่งพล่านตลอดเวลาเพื่ออะไร? วันนี้เขาตื่นเต้นอะไร?

หลังจากหานมู่จื่อให้เขานั่งลงก็อ้อมไปที่โซฟา ตัวเองนั่งลงบนโซฟาตรงข้าม

ห้องทำงานเงียบไปชั่วขณะ สุดท้ายผู้ชายก็เดินตรงไปนั่งตรงข้ามเธอด้วยขาที่เรียวยาว จากนั้นดวงตาที่ร้อนรุ่มของเขาก็จ้องไปที่เธอ

พอดีตอนนี้ เสี่ยวเหยียนเข้ามาพร้อมกับกาแฟ

เมื่อเปรียบกับหานมู่จื่อ อารมณ์ของเสี่ยวเหยียนก็ไม่สงบเอามากๆ แต่ตอนนี้เธอควบคุมได้บางส่วน ดังนั้นดีขึ้นแล้ว เป็นเรื่องยากที่ส่งกาแฟไปที่หน้าเย่โม่เซิน

“ดื่มให้อร่อยนะคะ”

จากนั้นเสี่ยวเหยียนก็ยืนอยู่ที่ข้างๆ หานมู่จื่อ

“เอารายการราคาของบริษัทเราให้คุณผู้ชายคนนี้ดูหน่อย”

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ ถูกบังคับเป็นตัวแทนของงานแต่งงานนี้ เธอแต่งงานกับผู้ชายที่พิการแต่กลับมีอำนาจใหญ่ “ฉันเย่โม่เซินไม่เอาผู้หญิงที่ท้องและไม่รู้ว่าพ่อของลูกเป็นใครเด็ดขาด”เดิมทีคิดว่างานแต่งงานนี้เป็นการแลกเปลี่ยน แต่เธอกลับเผลอใจ ไปไปมามา สุดท้ายเธอก็จากไปด้วยความเสียใจผ่านไปหลายปี ลูกชายที่หน้าตาคล้ายกับเขามากตบหัวของเย่โม่เซินด้วยฝ่ามือเล็กๆ“พ่อคนร้าย นายว่าใครเป็นเด็กที่ไม่รู้ว่าพ่อของตัวเป็นใคร?”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset