บทที่ 405 ยินดีที่ได้ร่วมมือกัน
เสี่ยวเหยียนอึ้งไปสักพัก แต่ก็ยังทำตามคำสั่งของหานมู่จื่อไปหยิบรายการราคามา
รายการราคาเป็นหานมู่จื่อกับเสี่ยวเหยียนสองคนคิดกันวันนั้น ยังไม่มีเวอร์ชันที่สรุปแล้ว
แต่ว่าตอนนี้ ก็แค่หยิบมาอ้างอิงผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าเท่านั้น ดังนั้นเธอก็เลยยื่นให้ต่อหน้าเย่โม่เซิน
“คุณผู้ชายสามารถดูรายการราคาของพวกเราก่อน เพราะบริษัทใหม่ของพวกเรา ดังนั้นยังมีโอกาสสำหรับราคาพิเศษ ถ้าหากคุณผู้ชายชอบการออกแบบของพวกเรา แนะนำลูกค้ามา ในนามของ บริษัทเราจะส่งคำอวยพรที่จริงใจที่สุดในวันเกิดของคุณในแต่ละปีและนำเสนอผลงานการออกแบบหนึ่งชุดฟรี”
เสียงของหานมู่จื่อสงบมาก ราวกับแค่สื่อสารกับลูกค้าคนหนึ่งจริงๆ อย่าพูดถึงเย่โม่เซิน ขนาดเสี่ยวเหยียนยังรู้สึกประหลาดใจ คนไม่ไหวมองไปที่เธอหลายครั้ง
ในใจอยากพูด มู่จื่อทำไมถึงนิ่งได้ขนาดนี้นะ?
เย่โม่เซินมองไปที่รายการราคาแผ่นนี้ที่อยู่ตรงหน้า และฟังเสียงที่สงบนิ่งของเธอ
ในใจพูดว่าไม่โกรธ นั่นปลอม
หานมู่จื่อแนะนำเสร็จแล้ว อีกฝั่งก็เงียบไป เธอก็ไม่รีบร้อน รออีกฝั่งตอบอย่างเงียบๆ
ในห้องทำงานตกอยู่ในบรรยากาศที่แปลกและเงียบสงบ เย่โม่เซินจ้องมองไปที่รายการราคาในมือ ถึงแม้จะเป็นผู้ชาย แต่ขนตาของเขาก็ยาวมาก ซ่อนอารมณ์ที่ขุ่นมัวทั้งหมดไว้ในดวงตาของเขา
ใครก็ไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่
สักพัก เขาได้แต่เม้มริมฝีปากบางๆ แล้วทำให้เกิดส่วนโค้งที่สวยงาม
“ใช่หรอ? งั้นมีกลไกอะไรพิเศษไหม?”
หานมู่จื่อค่อยๆ นิ่งไป มองไปที่เขา : “คุณพูดถึง?”
เย่โม่เซินยกมือขึ้น กางรายการราคาให้เรียบบนโต๊ะ ใช้นิ้วค่อยๆ แตะไปที่หน้าจอ ดวงตาจับจ้องหานมู่จื่ออย่างครุ่นคิด : “ยกตัวอย่างเช่น เลือกนักออกแบบ”
เสี่ยวเหยียนที่อยู่ข้างๆ สีหน้าเปลี่ยน ลมหายใจก็ตามไปด้วย
ดูแล้วเย่โม่เซินน่าจะมาเพื่อมู่จื่อ!
ตอนแรกเธอคิดว่ามันเป็นแค่เรื่องบังเอิญ แต่ต่อมาเห็นมู่จื่อสงบขนาดนั้น เสี่ยวเหยียนยิ่งรู้ว่าทั้งหมดนี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญแล้ว
ตอนนี้วิธีของเย่โม่เซินก็อธิบายได้อย่างชัดเจนแล้ว เขามาเพราะมู่จื่อ
หานมู่จื่ออึ้งไปสักพัก เธอเตรียมการความพร้อมไว้แล้ว ค่อยๆ ยิ้มและพยักหน้า
“ได้แน่นอน แค่นายเย่มีคนที่อยากเลือกอยู่ในใจ เซ็นต์สัญญาเสร็จคุณก็สามารถเลือกนักออกแบบได้”
ออกแบบเสื้อผ้าเป็นเพียงส่วนหนึ่ง เย่โม่เซินก็แค่คนขี้เหล้าไม่ได้ตั้งใจจะดื่ม เขาเอานิ้วจิ้มเบา ๆ “งั้นก็จองเลย”
เสี่ยวเหยียนค่อนข้างอึ้ง ดังนั้น…..นี่พวกเธอได้รับใบสั่งซื้อสินค้าขนาดใหญ่อีกครั้งเหรอ?
หานมู่จื่อก็สงบเช่นเคย “คุณผู้ชายจะไม่คิดหน่อยหรอคะ? ถ้าหากคุณไม่เข้าใจสไตล์ของบริษัทเรา จะได้…….”
“ไม่ตำเป็น ฉันเข้าใจดี”
ประโยคท้ายนั้น เย่โม่เซินมองไปที่หานมู่จื่อแล้วพูด การจ้องมองนั้นร้อนแรงจนแทบจะเผาใบหน้าของเธอจนเป็นรู
เขาเข้าใจดี ตัวเองจะทำอะไร
“โอเค งั้นคุณผู้ชายรอสักครู่ พวกเราเตรียมสัญญา ขออนุญาตถามคุณเอาบัตรประชาชนมาไหมคะ?”
เย่โม่เซินเอาบัตรประชาชนส่งให้เธอ
เสี่ยวเหยียนหยิบไปถ่ายเอกสาร หานมู่จื่อก็ลุกขึ้นตาม สองคนไปทำสัญญาด้วยกัน
เพราะว่าตอนนี้บริษัทคนน้อย ดังนั้นหลายเรื่องหานมู่จื่อต้องทำด้วยตัวเอง
ตอนที่เธอตามไป เสี่ยวเหยียนยังชนที่แขนของเธอ : “เธออย่ามาเลย มือของเธอตอนนี้จะทำอะไรได้?”
ได้ยินแล้ว หานมู่จื่อกลับอึ้ง ก้มไปมองมือตัวเองที่ถูกพันแผลที่ขยับไม่ได้อย่างนิ่ง ๆ
ใช่สิ มือของเธอตอนนี้จะทำอะไรได้?
แต่ว่า……เธอยืนขึ้นตามอย่างไม่รู้จะทำยังไง
เย่โม่เซินเพราะเห็นเธอก่อนหน้านี้ ดังนั้นลืมมองไปที่เธอ แค่จ้องไปที่หน้าเธอมองอย่างละเอียด
ตอนนี้หลังจากเธอลุกขึ้น เย่โม่เซินสุดท้ายมีเวลามองเธอ
เวลาห้าปีได้เปลี่ยนเธอจากคนสวยที่เหมือนไม้กลายเป็นผู้หญิงที่มีเสน่ห์มาก
เธอไม่เหมือนเมื่อก่อนที่ไม่แต่งหน้า แล้วยังแต่หน้าเบาๆ ชุดที่ใส่ถึงแม้จะสบายๆ แต่กลับมีรสนิยม
แต่ว่าเห็นได้ชัด ชุดที่เธอใส่วันนี้ไม่เหมือนกับที่เจอกันวันนั้นที่ร้านอาหานเต๋อเป่า
วันนั้นเธอสามารถพูดได้ว่าเป็นผู้หญิงที่มีความสามารถมากและงดงาม วันนี้เธอให้ความรู้สึกว่าเป็นผู้หญิงตัวเล็กๆ
ทำสัญญาเสร็จแล้ว เสี่ยวเหยียนกับหานมู่จื่อถึงกลับมาต่อหน้าเย่โม่เซินอีกครั้ง
“นายเย่ คุณดูสัญญาก่อนค่ะ” เสี่ยวเหยียนเอาสัญญายื่นไปต่อหน้าเขา
เย่โม่เซินไม่ได้ดูอย่างละเอียดก็เซ็นชื่อของตัวเองลงไป
“ตอนนี้เสร็จแล้วใช่ไหม?”
หานมู่จื่ออึ้งไปสักพัก จากนั้นพยักหน้า
คิดไม่ถึงว่าเขาจะเซ็นต์ไวขนาดนั้น ขนาดสัญญาก็ไม่ดู
ตอนนั้น…..เขาเซ็นชื่อลงในข้อตกลงนั่น ก็เป็นแบบนี้ใช่ไหม?
“เสร็จแล้ว ขอบคุณค่ะ” หานมู่จื่อให้เสี่ยวเหยียนเก็บสัญญาไป จากนั้นพูดเป็นมารยาทว่า : “ยินดีที่ได้ร่วมมือกันนะคะ” เย่โม่เซินยื่นมือไปที่เธอ หานมู่จื่ออึ้งไป
“ไม่ใช่ยินดีที่ได้ร่วมมือกันหรอ?” เย่โม่เซินยกคิ้วขึ้น ดูถูกเล็กน้อย
หานมู่จื่อเม้มปากสีแดง ค่อยๆ ยื่นมือของตัวเองออกไป
ตอนนี้เย่โม่เซินถึงเห็น มือของเธอมีผ้าก๊อซพันรอบมือของเธอ บนผ้าก๊อซยังมีรอยเลือดสีแดง
แค่มอง สายตาดูถูกบนหน้าของเย่โม่เซินหายไปอย่างหมดจด หรี่ตามองอย่างอันตรายจ้องไปที่มือของเธอ : “มือเป็นอะไร?”
เสียงที่เปลี่ยนไปอย่างกะทันหันของเขาทำให้รู้สึกประหลาดใจ ขนาดเสี่ยวเหยียนยังทนไม่ไหวมองไปที่เย่โม่เซิน
“บาดเจ็บเล็กน้อยเท่านั้น” หานมู่จื่อเอามือกลับมา หัวเราะอย่างเย็นชา : “ขอโทษนะคะ มีรอยเลือดอยู่เล็กน้อย คงไม่จับมือกับนายเย่แล้วค่ะ”
ฟังแล้ว เย่โม่เซินยกเปลือกตาขึ้น เห็นว่าผู้หญิงคนนี้สายตาช่างเย็นชา แต่เห็นได้ชัดว่าตั้งใจ
เธอที่จริงแล้วไม่อยากจับมือกับตัวเอง
แน่นอน มือของเธอบาดเจ็บแล้ว เขาก็ไม่สามารถบังคับให้เธอจับมือกับตัวเองได้
เงียบไปสามวินาที เย่โม่เซินยกมุมปาก เสียงเต็มไปด้วยความชั่วร้าย
“แน่นอน ต้องมีความสุขมากแน่ๆ ”
ความสุขสองคำพูดเน้น ราวกับกัดฟันพูดออกมา
เสี่ยวเหยียนที่อยู่ข้างๆ ย่นจมูกของตัวเองทำเป็นไม่ได้ยิน รู้สึกว่าแปลกๆ
หานมู่จื่อให้เสี่ยวเหยียนไปส่งเขาข้างล่าง
เย่โม่เซินกลับไปแล้ว หานมู่จื่อนั่งลงอีกที นิ้วมือขยับๆ อยากเอากาแฟบนโต๊ะยกขึ้นมาดื่ม กำลังจะหยิบถึงรู้ว่ามือของตัวเองไม่สามารถใช้งานได้ในตอนนี้
ช่างเถอะ
รออีกสักครู่ เธอก็จะกลับบ้าน
ไวมาก เสี่ยวเหยียนส่งเย่โม่เซินกลับไปแล้ว จากนั้นกลับมาที่ชั้นบน
“มู่จื่อ เธอโอเคไหม?”
หานมู่จื่อนั่งอยู่ตรงนั้น ราวกับไม่ได้ยินที่เธอพูด
เสี่ยวเหยียนกัดริมฝีปาก ตะโกนอีกครั้ง : “มู่จื่อ?”
หานมู่จื่อเรียกสติกลับมา มองไปที่เสี่ยวเหยียนที่ยืนอยู่ข้างตัวเอง : “เป็นอะไรไป?”
“เธอใจลอยแล้ว” เสี่ยวเหยียนเตือนประโยคนึง
หานมู่จื่อเงียบไปสักพัก ลุกขึ้นพูดว่า : “ถ้าไม่มีเรื่องอะไร วันนี้ฉันกลับก่อนแล้ว เรื่องบริษัทสองวันนี้ลำบากเธอแล้ว”
“ไม่เป็นไร เดี๋ยวฉันจัดการเอง เรื่องที่สำคัญฉันจะปรึกษากับเธอ เธอไปรักษามือให้หายก่อนเถอะ”
“โอเค”