บทที่ 407 รับใช้ฉัน
หานมู่จื่อฟังจบแล้วอึ้งไปเลย ตอนแรกเธอคิดว่าจะคุยกันแค่สองคนเฉยๆ
กลับคิดไม่ถึงว่า คุณหลินคนนี้กลับเรียกเย่โม่เซินมาแล้ว
เธอไม่เข้าใจ ตอนที่เธอพูดถึงเย่โม่เซินหน้าตากลับเขินอย่างเห็นได้ชัด น่าจะเป็นเพราะอยากอยู่กับเย่โม่เซินลำพังมาก งั้นทำไมถึงเลือกเวลาที่ตัวเองอยู่ด้วย?
“ขอโทษทีนะShelly ที่ฉันให้โม่เซินมาด้วย เธอไม่คิดอะไรใช่ไหม? ฉันแค่คิดว่า เขาอาจจะอยากไปหาเธอเพื่อออกแบบเสื้อผ้า ก็เลย…..”
“ฉันไม่ถืออะไร” หานมู่จื่อยิ้มเบาๆ “ตอนนี้เขาเป็นลูกค้าของฉันแล้ว ”
ฟังแล้ว หลินชิงชิงประหลาดใจจนถลึงตาโต : “จริงหรอ? คิดไม่ถึงว่าเขาจะไปหาเธอจริงๆ ฉันแค่เอานามบัตรให้เขา……”
พูดถึงตรงนี้ หลินชิงชิงหลับตาอย่างเขินมากๆ
ดังนั้นที่ป้าส้งพูดว่าเย่โม่เซินข้างนอกเย็นชาข้างในร้อยเป็นเรื่องจริงหรอ? ดูเหมือนว่าเธอจะไม่สนใจเรื่องนัดบอดของเธอ แต่ว่า…..กลับเอานามบัตรที่เธอให้เก็บไป แล้วยังไปหาShellyออกแบบอีก
นี่……ถือว่าไว้หน้าเธอพอแล้วใช่ไหม?
พระเจ้า เป็นผู้ชายที่โรแมนติกมากเลยอะ
หลินชิงชิงทนไม่ไหวอยากจะได้
หานมู่จื่อที่อยู่ข้างๆ เห็นท่าทางที่เคอะเขินของเธอ ตอนนั้นพูดไม่ออกว่าในใจมีรสชาติยังไง
รู้สึกยังไง…..เธอมาเป็นก้างขวางคอหรือเปล่า?
เป็นก้างขวางคอของเย่โม่เซินกับหลินชิงชิง? การรับรู้นี้ทำให้ขนของเธอลุกขึ้นอย่างอึดอัด แต่ว่าไวมากหานมู่จื่อก็กดอารมณ์นี้ลง สีหน้าไม่มีความรู้สึกนั่งอยู่ที่เดิม
เธอน่าจะนิ่งๆ ไว้ตั้งแต่แรก
ไม่ว่าเย่โม่เซินอยู่กับใคร เธอก็น่าจะทำเป็นมองไม่เห็น
หลังจากการเปลี่ยนแปลงเมื่อห้าปีที่แล้ว ถ้าหากตอนนี้เธอยังมีอารมณ์เสียใจหรือสนใจต่อหน้าเขาอีก งั้นเธอก็ทำเกินไปแล้วจริงๆ
คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ หานมู่จื่อสีหน้าก็ยิ่งเย็นชาเหมือนหิมะ
ผิวของเธอที่ขาวผ่อง ยิ่งบวกกับใบหน้าที่มีมิติ ยิ่งแต่งหน้าแล้ว การแสดงออกที่เย็นชานั้นเย็นชาและบริสุทธิ์ราวกับหิมะจริงๆ
หลินชิงชิงที่กำลังเขินเห็นท่าทางของหานมู่จื่อแล้ว ทันใดนั้น เธอถึงรู้ว่าผู้หญิงคนนี้สวย อีกอย่างยังไม่ใช่ผู้หญิงที่สวยธรรมดา
ความสวยมากับความเย็น โดยเฉพาะดวงตานั้น เหมือนก้นทะเลที่เย็นฉ่ำไม่มีที่สิ้นสุด เหมือนกับการดูด
ทันใดนั้น หลินชิงชิงระวังตัว “Shelly เธอมีแฟนแล้วหรือยัง? ”
ไม่ใช่เธอประมาท แต่เป็นเธอเห็นความงามของหานมู่จื่อ เลยเริ่มระวังตัว
หานมู่จื่อสายตาข้างๆ เห็นสายตาเตือนของเธอ คิดอย่างละเอียดสามารถคิดถึงที่มาของสายตาเตือน เธอยิ้มเล็กน้อยสำหรับเรื่องนี้ เสียงเย็นชาพูดว่า : “ฉันมีลูกแล้ว ”
หลินชิงชิงถลึงตาโต สักพักก็ปิดปากของตัวเอง : “พระเจ้า เธอแต่งงานแล้วหรอ? คิดไม่ถึงจริงๆ Shellyเธอยังอายุน้อยอยู่เลย นี่มีลูกแล้วหรอ ทันใดนั้นก็เกิดอิจฉาเธอขึ้นมา ฉันก็อายุเหมาะที่จะแต่งงานแล้ว”
ระหว่างเธอตื่นเต้น หานมู่จื่อได้แต่ยิ้มกลับไป
นั่งไปประมาณสิบนาที ในร้านอาหารมีเงาร่างเพิ่มมาอีกหนึ่ง
ตอนที่เย่โม่เซินเข้ามาในประตู สายตานับไม่ถ้วนถูกมองไปที่เขา
ผู้ชายที่หล่อเหลา เดินไปตรงไหนก็เป็นจุดสนใจ
ไม่ต้องพูดถึงเย่โม่เซินผู้ชายที่สูงส่งแบบนี้
พอเข้าไปในร้านอาหาร ดวงตาคมดุจนกเหยี่ยวกวาดมองฝูงชน จากนั้นจ้องไปที่ร่างในฝันของเขา
มาจริงๆ ด้วย
เย่โม่เซินก้าวเดินไปด้วยขาที่ยาวเรียว
“โม่เซิน คุณมาแล้ว ”
หานมู่จื่อนั่งจนจะหลับแล้ว ทันใดนั้นได้ยินเสียงเรียกของหลินชิงชิง ความง่วงของเธอถึงถูกไล่ออกไป ตื่นขึ้นมาทันใด
มาแล้วหรอ?
หานมู่จื่อหายใจเข้าลึกๆ จัดการท่าทางใหม่
วันนี้เธอออกมาเพราะงาน ดังนั้นไม่ได้คิดว่าจะอยู่ที่นี่นาน เห็นเย่โม่เซินนั่งลงต่อหน้าพวกเธอ ตอนที่สายตามองมาที่ตัวเอง หานมู่จื่อก็ก้มหน้ารูดซิปกระเป๋า เอาเอกสารที่อยู่ข้างในหยิบออกมา
“ทั้งสองท่าน วันนี้ยินดีมากที่ได้คุยกับพวกคุณเรื่องผลงานการออกแบบ พวกคุณมีข้อเสนอแนะอะไรสามารถบอกกับฉันได้ ท่าทางเธอค่อนข้างจริงจัง”
หลินชิงชิงนิ่งไปสักพัก “Shelly ตอนนี้เป็นเวลาทานข้าว พวกเราทานข้าวกันก่อนดีกว่า แล้วค่อยคุยกันดีไหม? ”
“หานมู่จื่อสีหน้ามองอารมณ์ไม่ออก กลับยิ้มอย่างเย็นชา พยักหน้า : “ดีค่ะ”
จากนั้นก็เก็บเอกสารไปอย่างไว จากนั้นสามคนก็สั่งอาหาร
หานมู่จื่อไม่มีความอยากอาหาร แค่สั่งน้ำผลไม้ให้ตัวเองแก้วหนึ่ง
แต่หลินชิงชิงก็ไม่อยากเสียหน้าต่อหน้าผู้ชาย ดังนั้นสั่งน้ำผลไม้ตามหานมู่จื่อแก้วหนึ่ง
สุดท้ายมีแค่เย่โม่เซินกินอาหารเอง
เขากินอย่างสง่างาม ท่าทางดูดี เป็นผู้มีสกุล
ใบหน้าหล่อเหลาและท่าทางกิริยาของเขาเสริมซึ่งกันและกัน หลินชิงชิงจับตาดูอย่างไม่ละสายตา
ผู้ชายที่เธอเลือกช่างดีจริงๆ
จนถึงกินข้าวเสร็จ หานมู่จื่อก็เอาเอกสารขึ้นมาอีก
“สองท่าน……”
“คุณShellyเกี่ยวกับงานของเธอช่างใส่ใจมากจริงๆ ” ทันใดนั้นเย่โม่เซินก็พูดออกมาประโยคหนึ่ง หานมู่จื่อท่าทางในมือก็นิ่งไปสักพัก หลับตาลง
หลินชิงชิงพูดด้วยรอยยิ้ม : “ใช่ๆ Shellyตั้งใจมากจริงๆ โม่เซินเคยเห็นผลงานออกแบบของเธอไหม? ดีมากจริงๆ ”
หานมู่จื่อยิ้มอย่างมีมารยาท : “ขอบคุณที่ชมค่ะ”
อาหารมื้อนึง น่าจะมีแค่หลินชิงชิงกินอย่างมีความสุข แต่ว่าหานมู่จื่อก็บันทึกจุดที่เธอต้องการไว้แล้ว ดังนั้นก็วางใจไปนิดหน่อย ครั้งต่อไปน่าจะไม่มาทานมื้อเย็นแบบนี้อีกแล้ว
เธอ……ไม่อยากจะร่วมโต๊ะกับเย่โม่เซินแล้วจริงๆ
“งานของฉันเสร็จแล้ว งั้นฉันก็กลับก่อนแล้ว”
พูดจบ หานมู่จื่อ ก็ยิ้ม ลุกขึ้นจะหันตัวจากไป
เสียงที่เย็นชาของผู้ชายก็ดังขึ้นจากข้างหลัง
“นักออกแบบShellyนี่ช่างไม่มีมารยาทเอาซะเลย นี่ผมไม่ใช่ลูกค้าของคุณ? คุณไม่ควรรับใช้ฉัน? ”
หลินชิงชิงรู้สึกประหลาดใจกับอุณหภูมิที่หนาวเย็นอย่างกะทันหัน เธอมองไปที่เย่โม่เซิน “โม่เซิน เป็นอะไรไป? ”
เย่โม่เซินไม่ได้มองเธอ ดวงตาจับจ้องร่างเรียวของหานมู่จื่อ อย่างแน่นหนา
นานอยู่ หานมู่จื่อหันข้างใช้สายตามองมาที่เขา
“ขอโทษนะคะนายเย่ งานของวันนี้คือคุยกับคุณหลิน วันนี้คุณไม่ได้นัดไว้”
“โอ้? ”เย่โม่เซินยกคิ้วขึ้นอย่างเย็นชา ปลายนิ้วจับหน้าจอเบา ๆ : “งั้นก็นัดตอนนี้เลย”
หานมู่จื่อยังคงมีมารยาท น้ำเสียงฟังไม่ออกว่ามีความโกรธอะไร
“ขอโทษนะคะ นัดวันนี้เต็มแล้ว ตอนนี้ฉันต้องไปหาลูกค้าท่านต่อไปแล้ว นายเย่ กรุณาคุณหาเวลาอื่นเถอะค่ะ”
หลินชิงชิงอึ้งไปเลย คิดไม่ถึงว่าหานมู่จื่อจะปฏิเสธ
และดูเหมือนเธอจะได้ยินกลิ่นดินปืนจากการสนทนาระหว่างทั้งสอง แต่ว่าดูหน้าของหานมู่จื่อ ก็ดูมีมารยาทอย่างเห็นได้ชัด หรือว่าเธอมองผิดไป?
หลังจากหานมู่จื่อออกมาจากร้านอาหาร ก็ไปเอารถที่ลานจอดรถ
เธอไม่ได้โกหก เธอยังมีเรื่องให้ต้องจัดการอีก แต่ไม่ใช่ลูกค้าของบริษัท แต่ต้องไปดูโรงเรียนให้เสี่ยวหมี่โต้ว
ก่อนถึงรถ ทันใดนั้นมีเงาดำตรงเข้ามาทางตัวเอง