บทที่ 415 คุ้มกัน
“เหอะ คุณก็ช่างกล้าพูดนะ คุณคิดว่าคุณยินดีที่จะจ่ายเรื่องมันก็จะจบลงเหรอ ดูสิว่าคุณขับรถแบบไหน ถึงแม้ว่าคุณจะขายรถเสีย แต่คุณก็ชดเชยค่าซ่อมไม่ได้หรอก”
หานมู่จื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่มีเหตุผลมากจนเธออยากโจมตีกลับ แต่เมื่อเธอคิดว่ามันเป็นความผิดของเธอ เป็นตัวเธอเองที่ชนท้ายของคนอื่นไปก่อน เธอจึงทำได้เพียงแต่ทนถามว่า “ตามความเห็นของคุณผู้หญิง คุณต้องการจัดการอย่างไร”
ขณะที่พวกเขากำลังคุยกัน ประตูรถBMWสีน้ำเงินก็เปิดออกอีกครั้งและชายรูปร่างสูงก็เดินออกมา
“เกิดอะไรขึ้น”
“อาหยานดูคนคนนี้สิ เป็นเธอที่ชนรถของพวกเรา แล้วคุณดูรถที่เธอขับ ยังไงเธอก็ไม่สามารถชดเชยได้หรอก แต่เธอบอกให้ฉันโทรเรียกตำรวจ เธอคงจะพยายามที่จะทำให้ฉันตกใจ ตัวเองฉันกลัว”
ลักษณะท่าทางของหญิงสาวเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง จากยัยผู้หญิงที่ปากคอเราะรายไร้เหตุผลก็กลายเป็นแกะตัวน้อยที่ดูน่ารัก หานมู่จื่ออดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาจากก้นบึ้งของหัวใจของเธอ
การแสดงดีขนาดนี้ ประเทศชาติคงติดค้างรางวัลออสการ์กับเธอจริงๆ
อาหยานที่หญิงสาวพูดถึงมองไปที่หานมู่จื่อและหานมู่จื่อก็มองมาที่เขาเช่นกัน
นี่น่าจะเป็นเจ้าของรถBMWสีน้ำเงินตัวจริง เขาดูเด็กมาก รูปร่างหน้าตาของเขาก็ดูเป็นคนประเภทร่าเริงแจ่มใส แต่…
“คุณคงเป็นเจ้าของรถBMWหรือเปล่า ฉันขอโทษจริงๆที่รถของฉันชนท้ายรถคุณ แต่ฉันยินดีรับผิดชอบ แต่ว่าฉันขอแนะนำให้โทรเรียกตำรวจ ฉันคิดว่าตำรวจจะจัดการเรื่องนี้ได้ดีกว่าเมื่อมาถึง ฉันไม่ได้หมายความว่าอื่นใด” หานมู่จื่ออธิบายอย่างใจเย็นและค่อยเป็นค่อยไป
ฉินหยานมองไปยังผู้หญิงที่สวมใส่ชุดกระโปรงตรงหน้า เธอให้ความรู้สึกบางอย่างที่ไม่สามารถมองเห็นได้จากเด็กผู้หญิง ดวงตาของเธอเย็นชาและใบหน้าของเธอดูเหมือนหิมะ แต่กลับไม่ได้ทำให้สูญเสียเสน่ห์ของผู้หญิงไปได้
ผู้หญิงแบบนี้ ฉินหยานเพิ่งพบเจอเป็นครั้งแรก
เขามองไปที่หญิงสาวข้างๆ เขา แล้วมองไปที่ส่วนท้ายรถ แล้วหัวเราะเบาๆ “ไม่เป็นไรครับ ผมกลัวว่าจะโทรแจ้งตำรวจจะใช้เวลานานเกินไป ผมจะโทรเรียกคนของบริษัทประกันมายกรถ สำหรับค่าซ่อมแซมรบกวนขอนามบัตรของคุณด้วยครับ”
หานมู่จื่อตะลึง หญิงสาวคนนั้นดูหยิ่งผยองขนาดนั้น เธอได้เตรียมพร้อมสำหรับรับมือกับอีกฝ่ายเอาไว้แล้ว แต่ใครจะไปรู้ว่าอีกฝ่ายคุยง่ายขนาดนี้ เธอพยักหน้าและหยิบนามบัตรออกจากกระเป๋าและส่งให้ฉินหยาน
“สวัสดีค่ะ นี่คือนามบัตรของฉันค่ะ”
เพียะ
ฉินหยานกำลังจะเอื้อมมือไปรับ แต่หญิงสาวที่อยู่ข้างๆ เขากับตีมือและทำนามบัตรหลุดออกจากมือของเธอ นามบัตรตกลงบนพื้นโดยตรง หญิงสาวตะคอก “ฉินหยานคุณกำลังทำอะไรอยู่ ใครจะไปรู้ว่านามบัตรที่ผู้หญิงแบบนี้ให้มาจะเป็นนามบัตรจริงหรือเปล่า ถ้าเธอหนีและไม่รับผิดชอบจะทำยังไง ยิ่งกว่านั้นตอนที่เธอให้นามบัตรคุณ ฉันคิดว่าเธอไม่คิดจะชดเชยและคิดที่จะหลอกล่อคุณ “
หานมู่จื่อ “……”
ไม่ว่าเธอจะนิสัยดีแค่ไหน เธอก็อดไม่ได้ที่จะกลอกตาในเวลานี้
เธอยิ้มอย่างเยือกเย็น และกล่าวน้ำเสียงที่ไม่เกรงใจ “รถของฉันชนท้าย แต่ฉันก็ขอโทษแล้ว และฉันก็ยินดีรับผิดชอบ แต่ผู้หญิงคนนี้กลับพูดจาไม่ดีกับฉันซ้ำแล้วซ้ำเล่าอีก นี่มันจะไม่เกินไปหน่อยเหรอคะ”
“ฉันเกินไปเหรอ คุณเกินไปต่างหากที่ขับรถมาชนท้ายรถของเรา”
“เต้าเต้า” ฉินหยานเรียกเธอและพูดว่า “เขาพูดถูก คุณไม่ควรจะไม่มีเหตุผลที่จะไม่ปล่อยเขาไป อีกฝ่ายสัญญาว่าจะชดเชยแล้วด้วย”
พูดจบ ฉินหยานแสดงรอยยิ้มขอโทษกับหานมู่จื่อ “ขอโทษด้วย เธอไม่ค่อยเข้าใจอะไรสักเท่าไร”
จากนั้นเขาก็ก้มลงหยิบนามบัตรที่หล่นลงบนพื้น “ผมต้องขอโทษคุณ แทนเธอด้วย”
แม้ว่าพฤติกรรมของหญิงสาวจะไม่เป็นที่พอใจ แต่เห็นได้ชัดว่าชายตรงหน้าเป็นคนที่รู้จักหน้าที่ เธอก็ระงับความไม่พอใจไว้ในใจแล้วพยักหน้า หลังจากนั้นก็หันตัวเพื่อจากไป
หญิงสาวเห็นพวกเขายิ้มให้กัน ในช่วงเวลาอันสั้นก็รู้สึกหึงขึ้นมาทันที “ไม่ เธอไปแบบนี้ไม่ได้ ชนรถของคนอื่น คุณควรขอโทษไม่ใช่หรือ”
หานมู่จื่อหยุดเดินและมองไปที่เธอ
“ฉันไม่ได้พูดขอโทษคุณเหรอ”
“มีเหรอ แล้วทำไมฉันไม่ได้ยิน”
“เต้าเต้าเกินไปแล้วนะ” ฉินหยานดึงเธอออกไป
เต้าเต้า กัดริมฝีปากล่าง “ฉันเกินไปตรงไหน เห็นได้ชัดว่าหล่อนต้องการยั่วคุณ หล่อนจงใจให้นามบัตรกับคุณ คุณคิด……”
หานมู่จื่อแค่รู้สึกปวดหัว เดิมทีเธอก็ไม่ได้มีอารมณ์ขนาดนั้น แต่เธอต้องมาเสียเวลากับพวกเขาที่นี่ เธอเพียงแค่หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาเพื่อโทรออก
“โทรเรียกตำรวจเถอะ”
หานมู่จื่อหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาและพร้อมที่จะโทรไปที่ 110
จู่ๆหญิงสาวชื่อเต้าเต้าก็รีบวิ่งเข้ามาและแย่งโทรศัพท์มือถือของเธอออกไป “เธอมันหน้าไม่อาย ฉันแค่อยากให้เธอขอโทษเท่านั้น แต่เธอดันแค้นใจและต้องการแจ้งตำรวจ แม้ว่าเธอจะยากจนมากก็ตาม ถ้าเธอขับรถไม่เป็นก็อย่าเรียนแบบจากคนอื่นสิ ชนคนอื่นแล้วยังไม่ขอโทษ โคตรหน้าไม่อายจริงๆ”
เสียงของเธอดังและดึงดูดผู้คนมากมายรอบตัว
หานมู่จื่อมองดูโทรศัพท์มือถือที่ตกอยู่ที่พื้น ลมหายใจและร่างกายก็เย็นเฉียบพลัน
“หยิบมันขึ้นมา”
“พูดว่าอะไรนะ” เต้าเต้า คิดว่าตัวเองได้ยินผิดและถามอีกครั้ง
หานมู่จื่อเงยหน้าขึ้น ดวงตาที่เย็นชามองลงบนร่างของเธอ
“ให้คุณหยิบขึ้นมา คุณไม่ได้ยินหรือ”
“เธอ เธอกล้าให้ฉันหยิบของให้เธอได้ยังไง”
เต้าเต้าโกรธจนไม่รู้จะโกรธยังไง แต่เมื่อมองไปที่ท่าทางของหานมู่จื่อ เธอก็กลัวจนถอยหนี สีหน้าและแววตาของหานมู่จื่อในขณะนี้เย็นชาจนถึงขีดสุด ดูเป็นคนน่ากลัวจริงๆ
เป็นเพียงแค่พนักงานธรรมดาเท่านั้น จะมีรังสีที่น่ากลัวเช่นนี้ได้อย่างไร?
เต้าเต้า อดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลาย ไม่ว่าอย่างไร เธอก็มีฉินหยานหนุนหลังอยู่ ไม่ว่ายังไงหล่อนก็เป็นแค่พนักงานตัวเล็กๆ คนหนึ่ง กล้าที่จะท้าทายกับเธอ เธอก็สามารถทำให้หล่อนตกงานได้
“คุณเป็นคนทำหล่น คุณก็ควรหยิบขึ้นมา” ดวงตาของหานมู่จื่อเย็นชามากขึ้นเรื่อย ๆ “จะหยิบหรือไม่หยิบ”
เต้าเต้า “ฉัน ฉันไม่หยิบ ทุกคนรีบมาดูผู้หญิงเลวคนนี้กันเถอะ เธอชนรถของพวกเราและยังสั่งให้ฉันหยิบโทรศัพท์มือถือให้เธออีก ฮือๆ ฮือๆ รังแกคนอื่น”
เบื้องหลังทั้งหมดนี้ฉินหยานเห็นหมดกับตา เขาปวดหัวอย่างมาก เป็นครั้งแรกที่เขาพบว่าเต้าเต้าจะไม่มีเหตุผลขนาดนี้
“คุณผู้หญิง ผมต้องขอโทษด้วย ……คิดไม่ถึงว่าเต้าเต้าจะเอาแต่ใจขนาดนี้เต้าเต้ายังไม่หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเร็วอีก”
“ฉันไม่หยิบ อาหยานเป็นอะไรไป เป็นเพราะผู้หญิงคนนี้ที่ชนรถของพวกเรา รถของคุณ……เพิ่งซื้อมาได้ไม่นาน ฉันก็แค่ปวดใจแทนคุณ”
ทุกคนต่างตำหนิหานมู่จื่อ
“คนคนนี้เป็นอะไรไป ขับรถชนรถคนอื่นยังไม่พูดขอโทษ ยังให้คนอื่นเก็บโทรศัพท์มือถือให้อีก”
“คุณพระช่วย โลกกำลังเปลี่ยนไปจริงๆ คนเดี๋ยวนี้มันเกินความคาดหมายจริงๆ น่าสงสารผู้หญิงตัวเล็กๆ”
“ดูจากที่เธอแต่งตัวแบบนั้น เธอคงมีคนเลี้ยงดูใช่ไหม”
ริมฝีปากของหานมู่จื่อขยับ เพิ่งคิดอยากจะก้าวไปข้างหน้า แต่ทันใดนั้นเอวก็โดนโอบแน่นทันที
ร่างสูงตรงหน้าบังร่างของเธออย่างมิดชิด น้ำเสียงที่ไร้ซึ่งความอบอุ่นเอ่ยขึ้น
“สายตาการเลือกผู้หญิงของคุณชายฉินช่างน่ากังวลจริงๆ หาผู้หญิงที่ทั้งหยาบคายและไร้สมองเช่นนี้ คุณยังจะให้เป็นสมบัติล้ำค่าอีก”