บทที่445 ผู้หญิงของเขา
เย่โม่เซินรู้สึกรำคาญ แล้วดึงมือเธอเข้าประชิดกำแพง
และเจ้าหน้าที่ ที่เดินตามทั้งสองมาก็เห็นภาพเหล่านี้ ทันใดนั้นดวงตาของเธอก็เบิกกว้างด้วยความตกใจ
แล้วก็ยืนนิ่งๆไม่กล้าที่จะเดินหนี
ดูเหมือนว่าหานมู่จื่อและนายน้อยของพวกเขาไม่เพียงรู้จักกันแต่ดูเหมือนว่าความสัมพันธ์ของทั้งสองซับซ้อนและเข้าใจยาก?
เมื่ออยู่ต่อหน้าพนักงานและประกอบกับเสียงที่ดังออกมา
ก็ได้ส่งผลให้คนอื่นๆนั้นมาสนใจทั้งสองมากขึ้นเลยทำให้ผู้คนต่างๆออกมาดูออกมาดูว่าเกิดอะไรขึ้น
เมื่อทุกคนเห็นอย่างนั้นต่างก็สงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น
“มันเกิดอะไรขึ้น? ผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร ทำไมนายน้อยถึง……”
“อ๊า หรือว่าความสัมพันธ์นี้จะทำให้นายน้อย ของเราจะตกหลุมรักงั้นเหรอ?”
“….เป็นไปไม่ได้หรอก คนเย็นชาอย่างเขาเนี่ยนะจะตกหลุมรัก?ตลกไปไหม ”
เมื่อมีคนจำนวนมากกำลังมองมาและพูดถึงพวกเขาอยู่ หานมู่จื่อก็ถูกกดมือของเขาเข้ากับกำแพง
ท่าทางแบบนี้ทำให้เธอรู้สึกน่าละอายมาก หานมู่จื่อโกรธจนหน้าแดงและมองไปที่เย่โม่เซิน ด้วยอารมณ์ที่โกรธ
อย่างมาก
“คุณคิดจะทำอะไรกันแน่? สนุกมากใช่ไหมที่ทำให้ฉันอับอายต่อหน้าผู้คนมากมายแบบนี้?”
เมื่อเห็นดวงตาที่เยือกเย็นของเธอ เย่โม่เซินพึ่งสังเกตเห็นว่ามีคนมากมายกำลังมองดูพวกเขาอยู่
เขาหงุดหงิดมากจนได้ทำเรื่องไร้เหตุผลอย่างนี้ออกมา
เขากวาดสายตาไปรอบๆโดยทันที และตะโกนออกมาด้วยน้ำเสียงที่ดูโกรธเป็นสิบเท่า“ ไสหัวไป!”
ด้วยความโกรธในตอนนี้ดูเหมือนความเยือกเย็นของเขาราวกับไม้ไผ่ที่หักพุ่งออกไปทุกทิศทาง
ทุกคนต่างก็ตกใจกับคำพูดที่ออกมาจากปากเขา
จากนั้นเขาก็หันกลับมาโดยไม่พูดอะไรสักคำ และผู้คนที่ยื่นมองพวกเขาในตอนนั้นก็เดินจากไป
ทางเดินที่เคยครึกครื้นมากในเมื่อกี้ตอนนี้กลับเงียบสงบ และไม่เห็นผู้คนเพ่นพ่านหลังจากนั้นเลย
หานมู่จื่อหายใจหอบเบาๆ และจ้องมองเย่โม่เซินอย่างใกล้ๆ
“ตอนนี้สบายแล้วรึยัง?” เย่โม่เซินจ้องตาอันเย็นชาใส่เธอ หรี่ตาและมองไปที่เธออย่างอันตราย
“ให้ผมไปหาทนายความของคุณ แต่คุณจะกลับไม่ดูมันเลยว่า ทนายความของคุณมีคุณสมบัติพอรึเปล่า?”
หานมู่จื่อ:“……”
แม้ว่าเขาจะเรียกคนเหล่านั้นไปแล้วก็ตาม แต่ภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่นี้ทำให้เธอโมโหมากแล้วเธอจึงพูดด้วยความโกรธว่า “ ถ้าคุณเย่รู้สึกว่าทนายของฉันไม่มีคุณสมบัติคุณสามารถพอที่จะคุยกับทนายของคุณ นั้นคุณก็ส่งผู้ช่วยของคุณมาคุยกับทนายความของฉันแทนสิได้ แบบนี้ก็ได้แล้วไหม?
ตอนนี้ฉันยุ่งมากไม่มีเวลามาเสียเวลากับคุณหรอกน่ะ!”
เมื่อเธอพูดจบ หานมู่จื่อก็พยายามดิ้นรนอย่างหนัก เธอคิดอยากจะผลักเอามือของเขาออกแต่ด้วยแรงของเขาก็ไม่สามารถสู้กับแรงของผู้ชายได้ เย่โม่เซินจับตัวเธอไว้ด้วยมือข้างหนึ่งจากนั้นใช้มืออีกข้างบีบคางของเธอ
“คุณมาทำอะไรที่นี่?”
“แล้วมันเกี่ยวอะไรกับคุณ ปล่อย”คางของหานมู่จื่อถูกเขาบีบและเขาก็ตวาดกลับด้วยความโกรธ
“ต้องการจะมาเช็คกล้องวงจรงั้นเหรอ?”เย่โม่เซินพลางถามไป หานมู่จื่ออธิบายไม่ถูก ก่อนที่เธอจะตอบ
เขาก็จะใช้มือคล้องแขนของเธอ แล้วกุมมือเล็ก ๆเล็กๆของเธอและเดินเข้าไปข้างใน
หานมู่จื่อถูกเขาดึงเข้าไปข้างใน
หลังจากที่พวกเขาเดินเข้าไปข้างใน คนอื่น ๆ ก็เริ่มปรากฏตัวอีกครั้ง
เย่โม่เซินรู้สึกว่าราวกับมียมบาลอยู่ๆตรงนี้ เขาดึงมือหานมู่จื่อเข้าไปในห้องควบคุมที่เขาเข้าไปก่อนหน้านี้
เมื่อคนข้างในเห็นท่าทางที่น่าหวาดกลัวของเย่โม่เซินพวกเขาก็รีบลุกขึ้นยืน
“เย่,คุณชายเย่。”
หานมู่จื่อไม่สนใจเขาในตอนแรก แต่เมื่อมองเห็นเขาเป็นแบบนี้
ดูเหมือนว่าเขาจะเต็มใจให้เธอดูเทปวงจรปิด
สิ่งที่เธอไม่ได้ดูก่อนหน้านี้ครั้งนี้ก็ได้ดูแล้ว
หานมู่จื่อไม่ได้เคลื่อนไหวใดๆอีก แต่มองไปที่เย่โม่เซิน “ให้ฉันดูเทปวงจรปิดได้แล้วเหรอ”
“แล้วทำไมจะไม่ได้ล่ะ?” เย่โม่เซินถามกลับ
ในเมื่อเธอเป็นผู้หญิงของผมแล้วทำไมจะทำไม่ได้ล่ะ?
“เปิดเทปวงจรทั้งหมด”เย่โม่เซินออกคำสั่ง
พนักงานที่อยู่ในนั้นต่างก็อึ้งกันหมด พวกเขารีบเปิดเทปวิดีโอก่อนหน้านี้ออกมา
หลังจากนั้นเย่โม่เซินก็ก้มศีรษะลงและถามหานมู่จื่อที่ยืนอยู่ข้างๆเขาด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน
“คุณต้องการดูช่วงเวลาไหนก่อนดี”
“เปิดมันออกมาทันที”
“ครับ เจ้านาย!”
ในไม่ช้าเทปวงจรในช่วงเวลาที่หานมู่จื่อกล่าวก็ถูกเปิดขึ้นมา
หานมู่จื่อก้าวไปข้างหน้าสองสามก้าวโดยไม่รู้ตัว พยายามเข้าใกล้เพื่อมองให้เห็นอย่างชัดเจน
ใครจะรู้ว่าหลังจากนั้นไม่กี่ก้าวก็มีแรงดึงจากมือ
ก็ได้รู้ว่าเย่โม่เซินยังคงจับมือของเธออยู่
หานมู่จื่อก้มหัวลงมอง แววตาของเธอก็เปลี่ยนไปทันที
ไม่คาดคิดเลยว่าเขา … กำลังจับมือของเธอและยังมือเธออย่างกำแน่นด้วย
คนนี้……
หานมู่จื่อกัดริมฝีปากล่างอย่างครุ่นคิด
เขาบอกว่าเขาแต่งงานแล้วไม่ใช่เหรอ? แต่ทำไมถึงปรากฏต่อหน้าเธออยู่เสมอล่ะ?แล้วก็เสนอหน้าเธอเสมอ?เขากำลังคิดอะไรอยู่? แล้วภรรยาของเขาไม่คิดจะสนใจเขาหรือไง?
เย่โม่เซินก้าวไปข้างหน้าสองสามก้าวและมีเสียงหนึ่งดังมาจากเหนือหัวของเขา
“เหม่อลอยทำไม ?จะดูเทปวงจรปิดไม่ใช่เหรอ ?”
หานมู่จื่อก็ดึงสติกลับมา
เอาเถอะ ตอนนี้ไม่ต้องกังวลอะไรมากมาย มาดูเทปวงจรปิดกันก่อนแล้วพูดกันทีหลัง
ดังนั้นหานมู่จื่อจึงหันกลับมาและเทปดูวิดีโออย่างจริงจัง
เธอดูเทปวิดีโออย่างจริงจังและเย่โม่เซินก็มองดูเธออย่างตั้งใจเช่นจัง
ผู้หญิงคนนี้เปลี่ยนไปแล้วจริงๆ
ตอนนี้เธอโตเป็นผู้ใหญ่และมีเสน่ห์ แต่เธอก็มีเสน่ห์มากกว่าเมื่อก่อน กาลเวลาไม่ทิ้งร่องรอยใด ๆ บนใบหน้าของเธอและสภาพผิวของเธอก็ยังดีเหมือนเดิม
“หยุด!” หานมู่จื่อพูดออกมากะทันหัน “กดย้อนกลับดูตอนเมื่อกี้แป๊บหนึ่ง”
เย่โม่เซินกวาดสายตาไปยังผู้คนเหล่านั้นโดยไม่ต้องพูดเลยคนเหล่านั้นก็ทำตาม
หานมู่ซีดูและในที่สุดก็พบร่างที่เธอสงสัยในเทปวิดีโอนี้ “ น่าจะเป็นคนนี้”
เย่โม่เซินมองไปที่ตรงกลางหน้าจอโดยไม่ลังเลใดๆแล้วเขาก็พูดว่า “ ส่งข่าวออกไปว่าให้ตามหาคนนี้ทั้งเมือง
จับคนนี้มาหาฉันก่อนเที่ยงคืนนี้”
หานมู่จื่อ“……เขาไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับคุณใช่ไหม?”
เย่โม่เซินขมวดคิ้ว ต่อหน้าเจ้าหน้าที่เหล่านี้ เธอบอกว่ามันไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเขาจริงๆ?
เย่โม่เซินหัวเราะอย่างเยือกเย็นและไม่ได้พูดอะไร โอบเอวของเธอ“ ไม่เกี่ยวข้องงั้นเหรอ? รู้หรือไม่ว่าที่แห่งนี้ไม่ใช่ว่าใครก็สามารถเข้ามาได้”
“คุณเป็นคนพาฉันเข้ามาเองนะ ฉันไม่ได้ขอร้องคุณอะไรเลยนะ ”
เมื่อหานมู่จื่อพูดจบ ก็หยิบโทรศัพท์ออกมาและถ่ายภาพที่หน้าจอ
จากนั้นก็เตรียมตัวที่เดินจากไป
เธอหยุดขมวดคิ้วและพูด “คุณเย่ ขอบคุณคุณมากสำหรับวันนี้ เมื่อกี้นี้คุณหยาบคายกับฉันและฉันแค่อยากจะให้อภัยคุณในเรื่องนี้และหวังว่าจะไม่มีครั้งต่อไปอีกนะ ”
เมื่อพูดจบ เธอสะบัดมือของเย่โม่เซินออกแล้วเดินตรงออกไปข้างนอก
ในตอนแรกไม่คิดเลยว่าเย่โม่เซินจะตามออกมา แต่ใครจะรู้เมื่อเธอเดินออกไปข้างนอกเขาก็ตามเธอออกมาด้วย
“คุณไม่ต้องตามฉันมา”
“ผมไม่ยินยอมที่จะยกเลิกสัญญา”