บทที่ 451 ยิ่งสูงเท่าไรตกลงมามันจะยิ่งเจ็บเท่านั้น
เวลาเดียวกัน ภายในห้องแต่งตัวหลังเวที
“นี่มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมจู่ๆ ชุดราตรีของฉันถึงส่งมาไม่ได้ พวกเธอทำงานกันยังไง คุณกันดีแล้วไม่ใช่หรือไงว่าจะส่งมาในเวลานี้”
คนกลุ่มนั้นถูก จ้าวยี่หรู ด่าจนไม่กล้าปริปากพูด พวกเขาทำได้เพียงก้มหน้ายืนอยู่อย่างนั้น
“นี่พวกเธอตายแล้วเหรอไงหรือเป็นใบ้หูหนวกไปแล้ว พูดมาสิว่ามันเกิดอะไรขึ้น”
“พะ พวกเราก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันเกิดอะไรขึ้น คุยกันดีแล้วแท้ๆ ว่าจะส่งชุดราตรีมาวันนี้ แต่ว่า…”
“แต่ว่าอะไร”
“แต่ว่า จู่ๆ ชุดราตรีชุดนั้นก็โดนซื้อไป ก็เลย…”
“โดนซื้อไปงั้นเหรอ หมายความว่ายังไง” จ้าวยี่หรู เบิกตาโต “ฉันสั่งซื้อชุดราตรีชุดนั้นไปแล้วไม่ใช่หรือไง ทำไมถึงโดนซื้อไปได้ล่ะ”
“พี่ยี่หรู ตอนนั้นเราแค่สั่งซื้อปากเปล่าเท่านั้น ไม่ได้จ่ายเงินสด ก็เลย…”
เมื่อได้ยินดังนั้น จ้าวยี่หรู ก็เอามือตบโต๊ะด้วยความหงุดหงิด “เพราะฉันไม่ได้จ่ายเงินสด ก็เลยไม่ส่งมาให้ฉันงั้นเหรอ มีอย่างที่ไหนกัน ฉันจ้าวยี่หรู นักแสดงนำหญิงในวงการบันเทิงที่ใครๆ ก็ต้องเกรงใจ จะไม่มีปัญญาจ่ายเงินอันน้อยนิดแค่นี้เหรอ เธอโทรหาที่ร้านเลยนะ บอกให้คนที่รับผิดชอบมาหาฉัน”
“คุณจ้าวอย่าโวยวายสิ”
จู่ๆ ก็มีเสียงผู้ชายดังขึ้นมา ชายสวมสูทสีฟ้าก้าวอย่างมั่นคงเข้ามา มือข้างหนึ่งของเขาล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกง ชายคนนี้ก็คือผู้รับผิดชอบฝ่ายแบรนด์สินค้าในครั้งนี้
“คุณ เฉินอี้!คุณมาก็ดีแล้ว อธิบายให้ฉันฟังทีว่ามันเกิดเรื่องอะไรขึ้น ทำไมชุดที่ฉันสั่งซื้อถึงไม่มาส่ง คุณรู้ไหมว่างานแถลงข่าวใกล้จะเริ่มแล้ว”
เฉินอี้ ขมวดคิ้ว “สิ่งที่จะพูดเมื่อกี้ที่พวกเขาได้พูดไปชัดเจนแล้วนิ คุณไม่ได้จ่ายเงินสด แค่สั่งซื้อปากเปล่า อีกอย่างพวกเราก็ไม่ได้ตอบว่าจะส่งให้คุณนิ”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น จ้าวยี่หรู ก็ลุกขึ้นด้วยความโมโห
“คุณพูดแบบนี้หมายความว่ายังไง หรือคิดว่าฉันจะจ่ายเงินแค่นั้นให้พวกคุณไม่ได้หรือไง ฉันบอกให้ส่งแต่พวกคุณไม่ส่งมา ตอนนี้ชุดนั้นอยู่ที่ไหน”
“โดนคนซื้อไปในราคาสูงแล้วล่ะ จ่ายเต็มจำนวนเลยล่ะ” เฉินอี้ หัวเราะเบาๆ แล้วพูดออกมา
ผู้จัดการของ จ้าวยี่หรู ก็เดินขึ้นมา
“เฉินอี้พวกคุณทำแบบนี้ไม่เกินไปหน่อยเหรอ ในเมื่อไม่สามารถส่งให้ได้ แล้วทำไมถึงไม่บอกพวกเราก่อนล่วงหน้า แค่ชุดชุดเดียว ยี่หรู ของเราไม่มีทางที่จะซื้อไม่ได้หรอก ”
“งั้นเหรอ” เฉินอี้ เลิกคิ้วขึ้น แล้วทำเหมือนตัวเองไม่ได้ผิด “ขนาดเงินมัดจำค่าชุด 20 % คุณจ้าว ยังไม่ยอมจ่าเลย มันยากนะที่จะเชื่อว่าเธอจะจ่ายเงินทั้งหมดเต็มจำนวน อีกอย่างแบรนด์สินค้านี้ก็เพิ่งออกวางขายครั้งแรก ถ้าเกิดมีอะไรผิดพลาด ถ้าเราอยากจะขายออกไปอีกครั้ง มันก็ไม่มีค่าอะไรแล้วสิ ยิ่งไปกว่านั้นผมจำได้ว่าพนักงานของบริษัทเราได้แจ้งพวกคุณไปแล้ว ถ้าไม่จ่ายเงินมัดจำ ก็ไม่มีอะไรรับประกันว่าชุดนี้จะส่งถึงมือพวกคุณ”
จ้าวยี่หรู:“งั้นตอนนี้พวกคุณก็จะไม่รับผิดชอบใช่ไหม”
“พวกเราต้องรับผิดชอบคำพูดแบบปากเปล่าด้วยเหรอ คุณจ้าวอย่ามาใช้ความเป็นนักแสดงนำหญิงของคุณมากดขี่คนอื่นดีกว่า”
จ้าวยี่หรู โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เธอกัดฟันกรอดแล้วกำลังจะเดินขึ้นมา แต่ถูกผู้จัดการของเธอรั้งเอาไว้ก่อน
ผู้จัดการจนปัญญา “แล้วตอนนี้จะทำยังไง พวกคุณไม่แจ้งล่วงหน้า จ้าวยี่หรู ก็ไม่ได้เตรียมชุดอะไรมา จะให้เธอใส่ชุดอะไรไปงานงั้นเหรอ”
“นี่มันเป็นเรื่องของพวกคุณ ไม่เกี่ยวอะไรกับผม การที่ผมมาก็เพื่อที่จะบอก คุณจ้าว เท่านั้น นี่มันเป็นความผิดพลาดของพวกคุณ บริษัทของเราไม่รับผิดชอบการวิจารณ์ไม่ดีใดๆ ทั้งสิ้น”
“คุณ!” จ้าวยี่หรู โมโหจนกัดฟันกรอด “คุณไม่กลัวว่าฉันจะเขี่ยบริษัทคุณออกไปเหรอ”
“ถ้า คุณจ้าว เป็นคนฉลาดก็จะไม่ทำเช่นนี้ ทำไม่ดีกับแบรนด์สินค้าไม่ใช่เรื่องที่ดีหรอก คุณทำพฤติกรรมแบบนี้ก็จะทำให้แบรนด์สินค้าใหญ่แบรนด์อื่นๆ ปฏิเสธคุณ”
หลังจากทั้งคู่เผชิญหน้ากันต่างคนก็ต่างแยกย้าย
เมื่อคนพวกนั้นออกไป สีหน้าของจ้าวยี่หรู ก็ซีดเผือด “ตอนนี้จะทำยังไงดี หรือจะให้ฉันสวมชุดที่ใส่อยู่ไปงานแถลงข่าวงั้นเหรอ ไอ้เลว เฉินอี้ กล้ามาทำให้ฉันโมโห!”
คนที่อยู่ตรงนั้นไม่กล้าส่งเสียง ผู้จัดการขมวดคิ้วแล้วครุ่นคิด “ทางแก้ในตอนนี้ก็คือไปหาแบรนด์อื่นดูว่า…”
“ไม่ทราบว่านี่คือห้องแต่งตัวของ คุณจ้าวยี่หรูใช่ไหมคะ” จู่ๆ ก็มีเสียงผู้หญิงดังมาจากประตูข้างนอก
“ใครน่ะ”
ผู้หญิงสองคนเดินเข้ามา จากนั้นก็เอาห่อของขวัญอันสวยงามส่งให้เธอ
“คุณจ้าวยี่หรูมีคุณผู้ชายท่านหนึ่งให้พวกเราเอามาให้คุณ”
“อะไรเหรอ” จ้าวยี่หรู กำลังหงุดหงิด ดังนั้นเธอจึงไม่มีอารมณ์ ตอนที่ถามก็ขมวดคิ้วตลอดเวลา
ผู้จัดการของเธอแปลกใจเล็กน้อย จึงเดินเข้าไปเปิดกล่อง เมื่อเห็นสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย “นี่มัน…”
“พระเจ้าช่วย นี่มันชุดของร้าน เฉินอี้ ไม่ใช่เหรอ นี่มันเรื่องอะไรกัน ทำไมมันถึงมาอยู่ที่นี่ได้”
“ยะ อย่าบอกนะว่าคนที่ซื้อชุดนี้ก็เพราะจะเอามาให้ พี่ยี่หรู”
ตอนแรก จ้าวยี่หรู โมโหมาก เมื่อได้ยินคำพูดของพวกเขาก็สับสนไปหมด เธอเดินเข้ามาดูก็พบว่าชุดที่อยู่ในกล่องคือชุดที่เธอจองไว้ก่อนหน้านี้
ทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้
“พระเจ้าช่วย ใจกว้างแถมยังโรแมนติกอีก คิดไม่ถึงว่าจะซื้อให้ พี่ยี่หรู ต้องจีบพี่แน่นอนเลย”
“พี่ยี่หรู ต้องมีความสุขแน่เลย คิดไม่ถึงว่าจะมีผู้ชายคิดสร้างเซอร์ไพรส์ให้พี่ขนาดนี้”
คำพูดของทุกคนเกือบทำให้เธอลอย อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา “แน่นอน คนที่จีบฉันมีตั้งเยอะแยะ”
เธอเงยหน้ามองผู้หญิงทั้งสองคนที่อยู่ข้างหน้า “คุณผู้ชายของพวกเธอชื่ออะไร”
ทั้งสองคนส่ายหน้า “คุณจ้าว คุณผู้ชายของพวกเราสั่งให้เอาของมาให้คุณเท่านั้น พวกเราไปก่อนนะคะ”
หลังจากนั้นทั้งสองก็ไม่สนใจคำถามของ จ้าวยี่หรู แล้วเดินจากไป
“นี่ พวกเธออย่าเพิ่งไปสิ อย่างน้อยก็บอกฉันหน่อยว่าเป็นใคร”
ผู้จัดการของจ้าวยี่หรู:“คิดไม่ถึงว่าจะไม่เอ่ยชื่อ ยี่หรู เธอรู้ไหมว่าใครส่งมา”
“ฉันจะรู้ได้ยังไง” จ้าวยี่หรู เอามือกอดอกแล้วพูดอย่างภูมิใจว่า “คนจีบฉันเยอะแยะ ไม่แน่อาจจะเป็นหนึ่งในนั้นก็ได้”
แต่ทว่าผู้ชายคนนี้ได้ใจของเธอ ก่อนหน้านี้ผู้ชายที่มาจีบเธอก็อดไม่ได้ที่จะมาโม้ต่อหน้าเธอว่าตัวเองมีเงินเยอะแค่ไหน แต่ยังไม่มีใครเหมือนผู้ชายคนนี้ ซื้อชุดที่ออกแบบจากแบรนด์ดังในประเทศในราคาเต็มแล้วก็ส่งมาให้เธอในเวลาแบบนี้
แม้ตอนแรกมันจะน่าตกใจไปนิด แต่หลังจากนั้นความปีติยินดีและความภูมิใจก็สุดยอดไปเลยล่ะ
สายตาอิจฉาของคนรอบๆ ทำให้ตัวเธอแทบจะลอย
“อย่ามัวอึ้งอยู่เลย รีบเปลี่ยนชุด แล้วแต่งหน้าขึ้นเวทีเถอะ”
“ใช่ค่ะ รีบแต่งหน้าเถอะ งานแถลงข่าวใกล้จะเริ่มแล้วค่ะ”
“เหอะ ไอ้ เฉินอี้ นั่น รอก่อนเถอะ ฉันจะกลับไปจัดการ คิดไม่ถึงว่าจะกล้ามาทำยโสต่อหน้าฉัน”
จ้าวยี่หรูมองชุดที่อยู่ในกล่องแล้วยกยิ้ม แน่นอนว่าหน้าตาดีแล้วจะทำทุกอย่างตามอำเภอใจได้
แต่น่าเสียดายที่เธอไม่รู้ว่า คนเราน่ะยิ่งอยู่สูงเท่าไรตกลงมามันจะยิ่งเจ็บเท่านั้น