บทที่ 455 ย้อนกลับไปก่อนที่จะเกิดเรื่อง
คำถามเดียว ทำให้บรรยากาศตรงนั้นคุกรุ่นขึ้นมา
“อะไรนะ” เมื่อได้ยินดังนั้น คนที่เมื่อกี้กำลังกลุ้มใจอย่างเสี่ยวเหยียนก็เบิกตาโพลง “ของเลียนแบบงั้นเหรอ หมายความว่ายังไง”
หานมู่จื่อ เลิกคิ้วขึ้นอย่างคาดไม่ถึงเล็กน้อย ชุดเลียนแบบงั้นเหรอ
เธอมองชุดสีฟ้าที่ จ้าวยี่หรู สวมอยู่ ก่อนหน้านี้เพราะว่าแสงไฟช่วย ดังนั้นเธอก็เลยคิดว่าสีของชุดนี้ไม่ได้สวยอะไรเป็นพิเศษ ตอนนี้ไม่มีแสงไฟช่วยแล้ว จุดบกพร่องของชุดๆ นี้จึงเห็นได้อย่างไม่สามารถปกปิดไว้ได้
มันเห็นจุดบกพร่องนับไม่ถ้วนเมื่ออยู่ภายใต้แสงไฟปกติ
ของเลียนแบบงั้นเหรอ
พี่ส่งให้เธองั้นเหรอ เมื่อคิดถึงตรงนี้ เธอก็ยกยิ้มขึ้นอย่างอดไม่อยู่
เขาเป็นคนที่ข้างนอกใสซื่อแต่ข้างในร้ายกาจตั้งแต่เมื่อไรกันนะ
ขณะที่เธอกำลังคิดอยู่นั้น ก็รับรู้ได้ถึงสายตาอันร้อนแรงจากข้างๆ สายตานี่มันร้อนราวกับไฟที่ไม่สามารถเพิกเฉยได้เลย
หานมู่จื่อ รีบหุบยิ้ม จากนั้นเธอก็เม้มปากแล้วมองไปยังเวทีด้วยสีหน้าราบเรียบ
หลังจากที่ จ้าวยี่หรู โดนนักข่าวถามบนเวทีเช่นนั้น รอยยิ้มที่ประดับอยู่ใบหน้าสวยก็ชะงักไป มุมปากของเธอกระตุก “คุณ คุณพูดอะไรน่ะ ของเลียนแบบอะไร ของฉันคือของแท้นะ”
เธอไม่เชื่อว่าชุดที่เธอสวมคือของเลียนแบบ เพราะว่า เฉินอี้พูดว่าชุดนี้ถูกคนซื้อไปในราคาสูง พอเขาออกไปไม่นานก็มีคนเอาชุดนี้มาให้เธอ ทำให้เธอหยิ่งผยองได้ตั้งนาน คิดไม่ถึงว่าตอนนี้จะมีคนมาบอกว่าของที่เธอใส่เป็นของเลียนแบบ จ้าวยี่หรู ไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่เขาพูด
นักข่าววงการบันเทิงนี่ เอาแต่ขุดคุ้ยอะไรไม่รู้ ไม่ไว้หน้าใครทั้งนั้น
หลังจากที่เห็นว่าสีหน้าของ จ้าวยี่หรู เปลี่ยนไป เขาก็ไม่ได้มีท่าทีสงบลงกลับยิ่งถามเซ้าซี้อีก
“คุณจ้าว ไม่รู้เหรอครับ ชุดบนตัวคุณของแท้น่ะถูกประธานของบริษัทตระกูลหานซื้อไปแล้ว อีกอย่างชุดแบบนี้ของแบรนด์ดังกล่าวมีเพียงชุดเดียวเท่านั้น เลยลองถามว่าชุดที่คุณสวมอยู่ไม่ใช่ของเลียนแบบ หรือว่าครั้งนี้แบรนด์ดังกล่าวทำชุดนี้ออกมาสองชุดงั้นเหรอครับ”
เมื่อได้ฟังเช่นนั้น คนที่อยู่ข้างล่างเวทีอย่าง หานมู่จื่อ ก็อึ้งไป คิดไม่ถึงว่านักข่าวคนนี้จะได้ข่าวเร็วขนาดนี้เชียวหรือ
จ้าวยี่หรู โดนนักข่าวพูดใส่จนหน้าซีดเผือด ณ ตอนนั้นเธอไม่รู้จะตอบกลับอย่างไร แต่ผู้จัดการของเธอมีปฏิกิริยารวดเร็ว เขารีบวิ่งขึ้นมาบนเวที “คุณนักข่าวท่านนี้ ผมว่าคุณเข้าใจผิดแล้วล่ะ ชุดของ ยี่หรู จะเป็นของปลอมได้ยังไงกัน ทุกคนก็เห็นกับตา ยิ่งไปกว่านั้นข่าวที่คุณได้มาก็ไม่แน่ว่าจะเป็นความจริง แถมทั้งสองคนยังไม่ใช่คนในวงการเดียวกัน น่าจะแค่คล้ายกันเท่านั้น เอาล่ะ ทุกคนถามคำถามอื่นเถอะ”
เดิมทีเรื่องนี้มันจะผ่านไปแล้วแท้ๆ แต่ใครใช้ให้พวกเขาไปเจอนักข่าววงการบันเทิงล่ะ นักข่าววงการบันเทิงไม่ปล่อยมันไปง่ายๆ หรอก เพราะฉะนั้นนักข่าวคนนั้นไม่เพียงแต่ไม่ยอมหยุด แถมยังถามคำถามเจ็บแสบเข้าไปอีก
“ที่คุณพูด คุณจะหมายความว่าประธานของบริษัทตระกูลหานหลอกคนอื่นงั้นเหรอ แบบของชุดเหมือนกันแท้ๆ แถมยังมีชื่อตามมาตรฐาน จะคล้ายกันได้อย่างไรครับ”
จ้าวยี่หรู โกรธจนไม่รู้จะทำอย่างไร แต่ว่าได้ยินนักข่าวพูดว่าชุดนี้ถูกประธานของบริษัทตระกูลหานซื้อไปแล้ว เธอจึงรู้ว่าหานชิงให้คนเอาชุดมาให้แบบปิดบังตัวตน
อย่าบอกนะว่าคือหานชิงคนที่มีชื่อเสียง เย็นชาและหนักแน่นคนนั้นจริงๆ เหรอ
เมื่อคิดได้ถึงตรงนี้ อารมณ์ของ จ้าวยี่หรู ก็เดือดเข้าไปอีก ถ้าชุดนั้นโดนหานชิงซื้อไปจริงๆ แล้วชุดที่อยู่บนตัวเธอคือชุดที่เขาส่งมางั้นเหรอ เธอนึกว่าคือคนทั่วไปที่ชอบเธอ คิดไม่ถึงจริงๆ ว่าอีกฝ่ายจะเป็นหานชิง
เมื่อคิดได้เช่นนี้ จ้าวยี่หรู ก็กระแอมออกมาแล้วพูดว่า “ฉันจะบอกเรื่องจริงกับคุณละกัน อันที่จริงชุดนี้ไม่ใช่ชุดที่ฉันสั่งจองด้วยตัวเอง ก่อนที่จะมางานแถลงฉันได้ข่าวจากทางแบรนด์สินค้าว่าชุดนี้ถูกซื้อไปในราคาสูง ตอนนั้นฉันก็ตกใจมาก ฉันยังคิดอยู่เลยว่าตัวเองจะใส่ชุดอะไรมางานแถลงข่าว แต่คิดไม่ถึงว่าจะมีคนส่งชุดมาให้ฉันแบบไม่เปิดเผยตัวตน ฉันจะพูดแบบไม่ปิดบังเลยนะ ตอนที่คุณยังไม่พูดว่าใครเป็นคนซื้อชุดไป ฉันก็ไม่รู้จริงๆ ว่าใครเป็นคนที่ส่งชุดนี้มาให้ฉันโดยไม่เปิดเผยตัวตน”
เมื่อพูดถึงตอนสุดท้าย ความได้ใจปรากฏอยู่ในแววตาของ จ้าวยี่หรู
คนที่อยู่ในงานถอนหายใจออกมาอย่างอดไม่ได้
“อย่าบอกนะว่าหานชิงประธานของบริษัทตระกูลหานเป็นคนส่งชุดนี้มาให้ จ้าวยี่หรู”
“เป็นไปไม่ได้หรอก ได้ยินมาว่าจนถึงตอนนี้หานชิงยังไม่เจอคนที่เข้าตาเขาเลยนะ ทำไมจู่ๆ ก็ปฏิบัติกับ จ้าวยี่หรู แบบนั้น”
“หรือว่าเธอกำลังพูดโกหก”
ยิ่งถกเถียงกัน เรื่องนี้ก็ยิ่งเป็นที่พูดถึง
เริ่มแรกทุกคนคิดว่าเธอใส่ของปลอม จึงดูถูกเธอ แต่ทว่าตอนนี้เมื่อรู้ว่าเธอไม่ได้ใส่ของปลอม แถมชุดที่เธอใส่เป็นชุดที่คนซื้อมาให้ในราคาสูง ประเด็นสำคัญก็คือคนนั้นคือหานชิงประธานของบริษัทตระกูลหาน
ในเมืองเป่ย มีใครที่จะไม่รู้จักบริษัทตระกูลหาน
ดังนั้นสายตาที่มองไปยัง จ้าวยี่หรู ต่างก็แปรเปลี่ยนเป็นสายตาที่อิจฉาริษยาขึ้นมาทันที
แสงไฟ ณ ที่ตรงนั้นถูก จ้าวยี่หรู แย่งชิงไปหมดแล้ว นักข่าวต่างพากันแย่งชิงเพื่อเอาไมค์ไปตรงหน้าของเธอ
“ขอถามหน่อยค่ะ คุณยี่หรู ไปรู้จักกับหานชิงได้ยังไงคะ คนที่เก่งขนาดนี้ส่งชุดมาให้คุณ เขาชอบคุณหรือเปล่าคะ”
จ้าวยี่หรู ยิ้มอย่างอายๆ แล้วพูดเสียงเบาว่า “เรื่องนี้ฉันก็ไม่แน่ใจ ถ้าพวกคุณอยากรู้ก็ไปต้องไปถามเขาเองแล้วล่ะ”
“ยี่หรู คุณบอกความรู้สึกตัวเองให้ในตอนนี้ให้พวกเรารู้หน่อยได้ไหมคะ ตื่นเต้นหรือเปล่า”
“ความรู้สึกเหรอ ขอบคุณคุณหานชิงมากที่ส่งชุดนี้มาให้ฉัน ฉันชอบมาก” ยี่หรู ยิ้มอย่างอายๆ จากนั้นก็เหลือบไปมองทางที่ หลินซิงหั่ว นั่งอยู่ แววตาของเธอแฝงไปด้วยความได้ใจ
ตอนที่เห็นกระโปรงของหล่อนในตอนแรก จ้าวยี่หรู เกือบจะโมโหแล้ว
เธอบอกให้คนไปทำลายกระโปรงนั้นให้เสียหายแล้วนิ แต่คิดไม่ถึงว่าหล่อนจะใส่กระโปรงที่ดูสวยและโดดเด่นกว่า ในตอนแรกนักข่าวพากันวิ่งกรูเข้าไปหาหล่อน
แต่อย่างไรก็ตามสิ่งสวยงามเมื่ออยู่ภายใต้ความคิดเห็นของสาธารณชนมันก็เปราะบางเสมอ
เมื่อฝ่ายแบรนด์สินค้าที่อยู่ในงานเริ่มตระหนักได้ว่างานครั้งนี้ไม่ตรงเป้าหมายที่วางไว้ เขาก็กระแอมออกมา “ทุกท่านคะ ดิฉันรู้ว่าพวกคุณสนใจชีวิตส่วนตัวของนักแสดง แต่วันนี้เป็นงานแถลงข่าว เพราะฉะนั้นฉันหวังว่าทุกท่านจะให้ความสนใจกับเพชรที่ประดับอยู่บนตัวของ คุณจ้าว นะคะ ช่วงถามคำถามสิ้นสุดแล้วค่ะ ต่อไปเชิญ คุณจ้าว และ คุณหลิน มาถ่ายภาพตรงกลางเวทีค่ะ ”
จ้าวยี่หรู พยักหน้า “คุณพิธีกรพูดถูกค่ะ หวังว่าทุกคนจะให้ความสนใจกับสินค้าเยอะๆ นะคะ”
“สร้างภาพ! ถุย!”
คนที่อยู่ด้านล่างเวทีอย่างเสี่ยวเหยียนพูดด้วยความเกลียดชัง “ผู้หญิงคนนี้น่ารังเกียจมาก หล่อนคงจะไม่ได้เข้าใจว่าหานชิงเป็นคนส่งชุดให้ตัวเองจริงๆ หรอกนะ หล่อนเหมาะสมตรงไหนไม่ทราบ”
หานมู่จื่อ รู้สึกงงเล็กน้อย เธอคิดไม่ถึงว่าเหตุการณ์มันจะมาถึงจุดนี้ได้
“นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่”
เลิงเยาเยาที่นั่งอยู่ข้างๆ จับแขนของเสี่ยวเหยียน แล้วพูดด้วยสีหน้าอึดอัดใจ “ฉันก็อยากถามว่ามันเกิดอะไรขึ้น หานชิงคือใคร ทำไมถึงไปชอบคนอย่าง จ้าวยี่หรู ได้ แล้วยังมี…”
หลังจากเธอหันไปเหลือบมองผู้ชายร่างสูงดูมีอำนาจที่นั่งอยู่ข้าง หานมู่จื่อ เธอก็กลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่
ภาพที่ หานมู่จื่อ ล้มลงไปในอ้อมกอดของเขาเมื่อครู่มันทำให้เธอตกใจมากจริงๆ นั่นคือเย่โม่เซินเชียวนะ