บทที่ 471 ผู้ชายที่เป็นเหมือนกอเอี๊ยะหนังสุนัข
“คุณ นี่คือการคาดเดาของคุณทั้งหมด! คุณแย่งคู่นัดบอดของคนอื่น คุณยังกำเริบเสิบสานขนาดนี้ ผลงานที่ออกแบบก็แย่เหมือนกับขยะ!”
สีหน้าของหานมู่จื่อเปลี่ยนเป็นเย็นชา “ฉันได้พูดชัดเจนแล้ว ฉันไม่ได้แย่งคู่นัดบอดของคุณ เขาไม่ใช่แฟนของคุณสักหน่อย ไม่มีปัญหาของการแย่งหรือไม่แย่งเลย ต่อไปนี้เรากลับมาพูดถึงประเด็นของเรื่องกันเถอะ คุณหลินไม่พอใจกับผลงานที่ฉันออกแบบตรงไหน เรามาหารือกันหน่อย”
หลินชิงชิงไม่พอใจกับผลงานของเธอเสียที่ไหน เธอพอใจกับผลงานของเธอมาก
แต่หลังจากที่เห็นเย่โม่เซินโอบกอดเธอ เธอก็รู้สึกทันทีว่า สิ่งเหล่านี้น่าขยะแขยงยิ่งนัก!
เมื่อนึกถึงอย่างนี้ หลินชิงชิงก็พูดเยาะ “ผลงานที่คุณออกแบบ แตกต่างจากที่ฉันพูดก่อนหน้านี้มากเกินไป วาดใหม่เลย”
เธอแค่อยากจะหาเรื่องหานมู่จื่อ
“วาดใหม่เหรอ?” หานมู่จื่อยิ้มเล็กน้อย “ถ้าอย่างนั้นคุณหลินต้องบอกฉันหน่อยว่า คุณต้องการแบบไหน?”
“แบบหรูหรา! หรูหรายังไงก็เอาอย่างนั้น!” หลินชิงชิง พูดโดยตรง
“ได้” หานมู่จื่อพยักหน้า “ในเมื่อคุณหลินได้แจ้งสิ่งที่ต้องการชัดเจนแล้ว ถ้าอย่างนั้นต่อจากนี้ฉันจะออกแบบตามที่คุณพูด”
“ฉันจะเอาพรุ่งนี้เช้าเลย”
หลินชิงชิงพูดอีกประโยคหนึ่ง หานมู่จื่อชะงักเล็กน้อย จ้องมองเธออัตโนมัติ
อาจจะเห็นความลำบากใจของเธอ หลินชิงชิงรู้สึกภูมิใจโอหังมาก สองมือกอดอก มองเธอด้วยความเย่อหยิ่ง
“เป็นยังไง? ทำได้หรือเปล่า?”
หานมู่จื่อจ้องมองเธอสักพัก แล้วพยักหน้า “ได้แน่นอน คุณหลินสามารถมาพรุ่งนี้เช้าได้เลย”
“ได้” หลินชิงชิง ยื่นมือออกไปหยิบกระเป๋าของตัวเอง พูดเยาะ “ถ้าอย่างนั้นฉันก็ตั้งตารอการนำเสนอของคุณหาน ในวันพรุ่งนี้แล้วนะ”
หลังจากพูดเสร็จ เธอก็เดินผ่านหานมู่จื่อ จะเดินออกไปข้างนอก ตอนที่เดินมาถึงตรงหน้าหานมู่จื่อ เธอก็หยุดลง จ้องมองที่เธอแล้วพูดว่า “ฉันขอแนะนำประโยคหนึ่งให้คุณ คุณเปิดบริษัทเอง ก่อนที่จะทำเรื่องอะไรก็ตาม ก็ยังต้องคิดถึงว่าตัวเองอยู่ในสถานะอะไร แย่งผู้ชายของคนอื่น ก็ต้องชดใช้นะ”
แล้วเธอก็กระแทกหัวไหล่ของหานมู่จื่ออย่างแรง จากนั้นก็เดินออกไปราวกับผู้ชนะ
หานมู่จื่อยืนอยู่กับที่ ยังถืองานออกแบบชิ้นนั้นไว้ในมือ
หลังจากที่หลินชิงชิงออกไปแล้ว เลิงเยาเยาและเสี่ยวเหยียนที่หลบอยู่นอกประตู ก็เดินเข้ามาอย่างลับๆล่อๆ
“ให้ตายเถอะ! หลินชิงชิง คนนี้บ้าไปแล้วหรือเปล่า! เธอยังมีหน้ามาพูดว่าคุณแย่งแฟนของเธอ? เป็นแค่การนัดบอดกันเท่านั้น ทำไมถึงกลายเป็นแฟนเธอได้? เธอยังมีความละอายบ้างไหม?”
เสี่ยวเหยียนเป็นคนขวานผ่าซาก เข้ามาก็ด่าโดยตรง
เลิงเยาเยากลับสังเกตสีหน้าของหานมู่จื่อ พูดด้วยความกลัดกลุ้มเล็กน้อย “การสนทนาของพวกคุณในเมื่อกี้ ฉันได้ยินหมดแล้ว ฉันรู้สึกว่าเธอมีปัญหา เธอน่าจะเพ้อฝันว่า เย่โม่เซินเป็นสามีในอนาคตของเธอแล้ว ผู้ชายอย่างคุณชายเย่ น่าจะมีผู้หญิงจำนวนมาก ที่แย่งชิงกันเพื่ออยากจะแต่งงานกับเขา”
หานมู่จื่อเม้มริมฝีปาก ไม่ได้ตอบกลับ
“มู่จื่อ เธอทำแบบนี้มันมากเกินไปแล้ว ยังมาบอกว่า ต้องการภาพออกแบบพรุ่งนี้เช้าเลย และยังให้คำว่า หรูหรา เท่านั้น แล้วคุณจะรู้ได้อย่างไร ว่าพรุ่งนี้เธอยังจะหาเรื่องต่ออีกไหม”
หานมู่จื่อยิ้มเล็กน้อย “ทำอีกแน่”
“แล้วคุณยังตอบตกลงกับเธอ!”
“ไม่ตกลง แล้วจะทำอย่างไรได้!” หานมู่จื่อเดินไปที่โต๊ะทำงาน แล้วนั่งลง สีหน้าสงบ
เสี่ยวเหยียนเห็นท่าทางสงบของเธอแบบนี้ ในใจกังวลยิ่งนัก เดินอ้อมไปข้างหน้าเธอ “คุณอยากเป็นแบบนี้ได้ไหม? เธอรังแกคุณขนาดนี้แล้ว คุณยังกล้ำกลืนฝืนทนอีก”
เลิงเยาเยาก็เดินเข้าไปด้วย “ถ้าเป็นฉัน ได้เจอกับผู้หญิงแบบนี้ ฉันต้องทนไม่ไหว ตบหน้าเธอโดยตรงเลย หลงตัวเองสุดขีดยังไม่พอ ยังจะมีหน้ามาโกรธคุณ และเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ก็ไม่ใช่สิ่งที่คุณต้องการ เธอควรไปหาเย่โม่เซิน ถึงจะถูก”
“ไม่ได้ คุณทนได้แต่ฉันทนไม่ได้ ฉันจะไปหาเธอพูดให้รู้เรื่องตอนนี้เลย!” เสี่ยวเหยียนโกรธจนดึงแขนเสื้อขึ้น ท่าทางเหมือนจะหันไปหาเธอเพื่อต่อสู้กัน
“กลับมา!”
หานมู่จื่อเรียกเธอไว้อย่างเย็นชา
เสี่ยวเหยียนหยุดเดิน หันหน้ากลับอย่างไม่พอใจ “มู่จื่อ คุณจะห้ามฉันเหรอ?”
หานมู่จื่อยืนขึ้น ถอนหายใจ “คุณไปโต้เถียงกับเธอ แล้วจะมีประโยชน์อะไร? ตอนนี้เธอเป็นลูกค้าของเรา กฎในการปฏิบัติต่อลูกค้า คุณลืมไปแล้วหรือ? อีกอย่าง ใครก่อปัญหาคนนั้นแก้ คุณไปหาเธอ เพียงแต่จะทำให้เรื่องแย่ลงเท่านั้น”
เมื่อได้ยินแล้ว เลิงเยาเยาก็รู้สึกว่าสิ่งที่เธอพูดนั้นมีเหตุผล พยักหน้าเห็นด้วย
“แม้ว่าฉันก็โกรธเหมือนกัน แต่ฉันรู้สึกว่ามู่จื่อวิเคราะห์ได้ถูกต้อง ดังนั้นจึงไม่ไปดีกว่า” เธอหันไปมองหานมู่จื่อ “แล้วคุณคิดจะทำยังไง? พรุ่งนี้เช้าเธอจะเอาผลงานออกแบบ คุณคงไม่คิดที่จะวาดให้เธอโดยไม่กินไม่นอนเหมือนครั้งที่แล้วนะ?”
หานมู่จื่อส่ายหน้าเล็กน้อย “ไม่วาด”
“ไม่วาด” เลิงเยาเยาเบิกตากว้าง
“ไม่ใช่ ยังคงต้องวาด แต่……พอเป็นพิธีก็ได้แล้ว”
เพราะยังไงแล้ว ไม่ว่าเธอจะวาดผลงานอะไรออกมา สำหรับหลินชิงชิงแล้ว มันก็จะเป็นขยะเท่านั้น แม้ว่าเธอจะเอาผลงานที่เคยได้รับรางวัล เอาออกมาวางไว้ตรงหน้าเธอ หลินชิงชิงในเวลานี้ ก็จะโยนผลงานของเธอลงบนพื้น โดยไม่ลังเลเลย
เพราะเธอได้มีอารมณ์ความรู้สึกอย่างอื่นกับตัวเธอแล้ว
เย่โม่เซิน……
แววตาของหานมู่จื่อค่อยๆมืดลง นายชั่วนี่
หลังจากที่เข้าใกล้ตัวเองแล้ว ไม่ได้ทำเรื่องอะไรเลย กลับหาความเดือดร้อนมาให้ตัวเองมากมาย
แค่คิดว่าในอนาคต ยังจะมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีก หานมู่จื่อก็รู้สึกปวดหัวมาก
เธอจะหลุดพ้นจากผู้ชายคนนี้ ที่เป็นเหมือนกอเอี๊ยะหนังหมาได้อย่างไร?
ทำไมห้าปีก่อนกับห้าปีหลัง เขาถึงเปลี่ยนไปมากขนาดนี้?เธอกลับอยากให้เขาเป็นเหมือนเมื่อก่อน หยิ่งผยอง ศักดิ์ศรีมีค่ายิ่งกว่าฟ้า และไม่มองเธออยู่ในสายตา
แต่ตอนนี้……
ผู้ชายคนนั้นไร้ยางอายถึงขั้น ขู่เธอไม่ให้ลบ WeChat ของเขา
ปวดหัวๆ ! !
เปลี่ยนกลอนประตูเสร็จแล้ว แต่ยังต้องทำความสะอาด และย้ายของก็ต้องใช้เวลา
วันมะรืนนี้เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์พอดี หานมู่จื่อกำลังคิดว่า เวลานั้นทำความสะอาดหน่อย แล้วย้ายเข้าไป
เธอกับเสี่ยวเหยียนและเสี่ยวหมี่โต้ว เพิ่งกลับประเทศได้ไม่นาน เลยไม่ได้มีของมากขนาดนั้น เฟอร์นิเจอร์ในบ้านหลังนั้น ก็มีครบแล้ว ถ้าจะย้ายเข้าไป มากสุดนำกระเป๋าเดินทางไปก็พอแล้ว
ดังนั้นในคืนนี้ หานมู่จื่อวาดตามสบายไปภาพหนึ่งก็เข้านอนเลย เสี่ยวหมี่โต้วนอนอยู่ข้างเธอ กอดหนังสือการ์ตูนไว้ หานมู่จื่อตระหนักถึงว่า เขาได้นอนราบอยู่ เลยขมวดคิ้วเล็กน้อย แล้วพูดว่า “เสี่ยวหมี่โต้ว ในขณะนอนราบ อ่านหนังสือไม่ได้ มันไม่ดีต่อสายตา”
เมื่อได้ยิน เสี่ยวหมี่โต้วรีบวางหนังสือการ์ตูนไว้ข้างๆ “หม่ามี๊ เมื่อกี้ลืมไปหน่อย หม่ามี๊อย่าโกรธนะ!”
หานมู่จื่อมองเขาอย่างจนใจ ยื่นมือบีบจมูกเขาเบาๆ “เด็ดจอมซน อีกสองสามวัน เราก็จะเก็บของ ย้ายไปบ้านใหม่แล้ว ถึงตอนนั้น หนูต้องนอนในห้องของตัวเอง
“ฮืม” เสี่ยวหมี่โต้วรู้สึกกลุ้มใจเล็กน้อย และรู้สึกน้อยใจด้วย “แต่เสี่ยวหมี่โต้ว อยากจะอยู่กับหม่ามี๊ ไม่นอนคนเดียวได้หรือเปล่า? เสี่ยวหมี่โต้วกลัวความมืด!”
“กลัวความมืด? หนูอายุห้าขวบแล้วยังกลัวความมืด และหนูเป็นถึงลูกผู้ชายนะ”
เสี่ยวหมี่โต้วกอดแขนเธอไว้ พูดไม่ยอม “หม่ามี๊ๆ……”
“เด็กดี เมื่อโตขึ้นยังไงก็ต้องนอนคนเดียว ไม่สามารถพึ่งพาหม่ามี๊ตลอดไป”