บทที่477 น้ำกรด
เมื่อคิดถึงสิ่งนี้ หลินชิงชิงรู้สึกหวาดกลัวเล็กน้อยในทันใด
เธอรู้ว่าตัวเองใจร้อนไป แต่ว่า ในเมื่อได้ทำไปแล้ว ก็ถอยกลับไม่ได้
ตอนนี้ไม่ทันที่จะถอยกลับอีกแล้ว
“ได้เลย” หลินชิงชิงพยักหน้า “โทรก็โทร คุณนึกว่าฉันกลัวหรือไง!”
หานมู่จื่อยิ้มเล็กน้อย “ความกล้าหาญของคุณหลิน น่าชื่นชมจริงๆ”
แต่ทันทีที่เธอกดโทรศัพท์ คนข้างๆเธอก็รีบห้ามปรามเธออย่างรวดเร็ว “ช่างเถอะ เราไปกันดีกว่า”
ไปเถอะไปกันเถอะ”
“ใช่ ชิงชิง จะไปถือสากับผู้หญิงแบบนี้ทำไม แย่งผู้ชายของคนอื่นแล้วยังเอาอำนาจมาข่มด้วย ไร้ยางอายจริงๆ!”
“เธอไร้ยางอายมากขนาดนี้ คิดว่าการแย่งผู้ชายของคนอื่น น่าจะเป็นเรื่องที่เธอถนัดมากที่สุดแล้ว พวกเราเป็นกุลสตรี อย่าไปถือสากับเธอเลย!”
“พวกคุณกำลังทำอะไร?” หลินชิงชิงต้องการโพสต์ข่าวบันเทิง แต่โทรศัพท์ยังไม่ทันได้กด พวกผู้หญิงที่เธอพามา ก็ห้ามปรามเธอตลอด
หานมู่จื่อที่อยู่ตรงข้ามได้เห็นฉากนี้ ไม่ได้พูดอะไร แต่เป็นเสี่ยวเหยียนที่วางมือลง แล้วหัวเราะเยาะ “ดูเหมือนว่าเพื่อนของคุณจะเป็นคนขี้ขลาดหมดนะ ตอนที่เข้ามาหาเรื่อง ไม่ได้สืบก่อนหรือว่า บริษัทแห่งนี้ใครเป็นคนก่อตั้ง? ถึงมารู้จะกลัวในตอนนี้? หลังจะพวกคุณออกไป ฉันจะสืบประวัติของพวกคุณแต่ละคนให้ละเอียด”
คนพวกได้ยินเข้า สีหน้าซีดลงทันที
พวกเธอโดนหลินชิงชิงเรียกมา และตระกูลหลินถือเป็นตระกูลใหญ่ในบรรดาพวกเธอแล้ว ครั้งนี้หลินชิงชิงแค่พูดถึงเรื่องที่คู่นัดหมายของตัวเองถูกแย่งไปเท่านั้น และคนนั้นยังเป็นเย่โม่เซินด้วย พวกเธอก็โกรธตามขึ้นมาในทันที จากนั้นก็ประจบประแจงบอกว่าจะมาทวงความยุติธรรมกับเธอด้วย
แต่ใครจะไปรู้ว่า แท้จริงแล้วนี่คือตระกูลหาน!
แม้ว่าพวกเขาจะต้องล่วงเกินตระกูลหลิน ก็ไม่อยากที่จะไปล่วงเกินตระกูลหาน
“คือว่า เมื่อกี้พวกเราไม่ได้ตั้งใจจริงๆ ทำให้เธอสะดุดโดยไม่ได้เจตนา จริงๆ คุณอย่าโกรธพวกเราเลยนะ เราขอโทษคุณ”
“พวกคุณกำลังทำอะไร? ถึงกับขอโทษคนแบบนี้จริงหรือ?” หลินชิงชิง โกรธจนแทบจะกระอักเลือด ท่าทางการเป็นกุลสตรีในปกติ ไม่มีเหลือเลยสักนิด
“ ชิงชิง ช่างเถอะ เราไม่กล้ามีเรื่องกับพวกเธอ”
“ใช่เลย ชิงชิง เรารีบไปกันเถอะ ถ้าคุณไม่ยอม……งั้นเราก็กลับก่อนนะ”
“แม่ฉันให้ฉันกลับไปทานข้าวเย็นในคืนนี้”
“พ่อของฉันจะพาฉันไปออกงาน งั้นฉันก็ไปก่อนนะ”
ในเวลาอันรวดเร็ว กลุ่มคนที่หลินชิงชิงพามา ทุกคนต่างก็มีเหตุผลของตัวเอง และสุดท้ายก็จากไปเหลือหลินชิงชิงไว้คนเดียว
ใบหน้าของหลินชิงชิง อารมณ์แปรปรวน จากนั้นก็แดงเล็กน้อยเพราะความอับอาย ความเปลี่ยนแปลงรวดเร็วจนสะดุดตา
เดิมทีเสี่ยวเหยียนเจ็บที่หน้ามาก แต่ตอนนี้ได้เห็นสภาพนี้ของหลินชิงชิง ทันใดนั้นก็รู้สึกว่า คนที่เจ็บปวดหน้า ควรจะเป็นหลินชิงชิง ถึงจะถูก เธอจึงหัวเราะชอบใจเสียงดัง
“น่าหัวเราะจริงๆ หาแต่คนที่ไม่เข้าท่าพวกนี้ คุณยังกล้ามาหาเรื่องที่บริษัทของเรา คุณหลิน แม้ว่าคุณจะเป็นลูกค้าของบริษัทเรา แต่ฉันขอแนะนำให้คุณ คุณยกเลิกสัญญาดีกว่าไหม? ไม่อย่างนั้น เป็นแบบนี้บ่อยๆ น่าอายจังเลย”
หลินชิงชิง “คุณกล้าดียังไง!”
“ฉันว่าคุณฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องเหรอ?” ในเมื่อได้แตกคอกันแล้ว งั้นเธอก็คิดอะไรพูดอะไรตรงไปตรงมาเลยแล้วกัน “ฉันได้พูดขนาดนี้แล้ว คุณยังมาถามฉันว่ากล้าหรือเปล่า?” ถามทำไมเนี่ย?”
หานมู่จื่อถึงถอยไปอยู่ข้างๆ อดไม่ได้ที่จะขำแล้ว เสี่ยวเหยียนนี่ ดูท่าทางแล้วก็เหลืออดเหลือทนแล้วจริงๆ ต้องการระบายความคับใจที่ได้รับในเมื่อกี้ ออกมาทั้งหมด
ตอนที่เสี่ยวเหยียนระบายความโกรธ โดยปกติแล้วมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่จะรับไหว เธอจึงถอยห่างออกไปเหมือนดูละครเสียเลย
หลินชิงชิงถูกว่าจนไม่สามารถเถียงกลับได้ และยังเป็นครั้งแรก ที่เธอถูกคนเหยียบหยามแบบนี้ และหานมู่จื่อยังยืนมองอยู่ข้างๆอย่างสบายอารมณ์ เธอโกรธมากจนเดินตรงไปหาหานมู่จื่อทันที
“เป็นเพราะคุณคนเดียว ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ วันนี้ฉันก็ไม่อับอายขนาดนี้ เย่โม่เซิน ก็จะไม่ถูกคุณแย่งไป! หานมู่จื่อ!”
เธอเดินเข้ามาหาตัวเองกะทันหัน ในมือก็ไม่รู้ว่าถืออะไรไว้ ต้องการที่จะสาดใส่หานมู่จื่อเลย
สีหน้าของเสี่ยวเหยียนเปลี่ยนไปอย่างมาก “มู่จื่อระวัง รีบหลบไป!”
เมื่อเห็นว่ามีของเหลวบางอย่างพุ่งเข้าสู่ตัวเอง ตอนที่หานมู่จื่ออยากจะหลบ ก็ไม่ทันแล้ว มันเร็วเกินไป เธอแค่สามารถหันหลังกลับโดยอัตโนมัติ
แต่ในวินาทีต่อมา ร่างที่สูงใหญ่ก็พุ่งเข้ามาบังหน้าเธอไว้อย่างรวดเร็ว
“อ๊าก!”
เสียงกรีดร้องดังขึ้น แต่กลับมาจากหลินชิงชิงเอง
“เย่โม่เซิน!”
“เย่โม่เซิน? หานมู่จื่อเงยหน้าขึ้นอย่างรวดเร็ว ถึงพบว่า คนที่ช่วยเธอบังทั้งหมดนี้ไว้ คือเย่โม่เซิน
แต่ในตอนนี้ สีหน้าของเขาดูเหมือนจะเจ็บปวดเล็กน้อย และเหงื่อแตกทั้งหน้า?
เมื่อกี้…… ของเหลวที่หลินชิงชิงถือไว้ในมือ สาดเข้าใส่ตัวเองคืออะไร?
ดูท่าทางที่เจ็บปวดของเย่โม่เซินแล้ว ความคิดที่น่ากลัวบางอย่าง พาดผ่านในใจของเธอ เธอจ้องไปที่หลินชิงชิงอย่างดุเดือด “คุณสาดอะไร?”
ดวงตาของเธอน่าหวาดกลัว เสมือนจะกัดกินตัวเธอ หลินชิงชิงอาจจะตกใจกลัวจนมึนงง เพียงตอบกลับคำหนึ่งอย่างแข็งทื่อ
“คือ คือน้ำกรด……”
เมื่อหานมู่จื่อได้ยินเข้า ก็แทบจะเป็นลม
แต่ในวินาทีต่อมา เธอก็สงบสติอารมณ์ได้อย่างรวดเร็ว รีบเดินไปอ้อมไปด้านหลังของเย่โม่เซิน ดูแล้วพบว่า เสื้อสูทของเขาถูกเผาจนเห็นเนื้อและเลือดแล้ว
สีหน้าของหานมู่จื่อเปลี่ยนหนักในทันที พูดโดยไม่ได้คิดเลยว่า “รีบถอดเสื้อสูทออก”
เย่โม่เซินก็ดูเหมือนจะนึกถึงอะไร รีบถอดเสื้อสูทออกอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็ถูกหานมู่จื่อดึงเข้าไปในห้องน้ำของห้องพักผ่อน
หลังจากที่เข้ามา หานมู่จื่อก็พลิกตัวไปเอาฝักบัวของห้องน้ำ เปิดน้ำสาดไปที่หลังของเย่โม่เซินเรื่อยๆ มือรีบถอดเสื้อเชิ้ตสีขาวของเย่โม่เซินทิ้งลงบนพื้น เมื่อเห็นผิวที่โดนเผาไหม้ หานมู่จื่อรู้สึกว่ามีบางอย่างสำลักอยู่ในลำคอ รู้สึกไม่สบายใจยิ่งนัก
เธอฝืนทนกับความรู้สึกอึดอัดนี้ ล้างน้ำเย็นให้เย่โม่เซินตลอด
หน้าผากของเย่โม่เซินมีเหงื่อไหลออกมา ความเจ็บปวดอย่างรุนแรง ส่งมาจากหลัง ความเจ็บปวดแบบนั้น ควรจะอธิบายอย่างไรดี? เสมือนเข้าสู่กระดูก เขาก็พอรู้แล้วว่า ที่หลินชิงชิงสาดคืออะไร?
โชคดี……
โชคดีที่เขามาแล้ว
เสี่ยวเหยียนตกใจกับฉากที่น่าทึ่งนี้ จนไม่ได้ตอบสนองเป็นเวลานาน ตอนที่เธอตั้งตัวได้ ก็รีบพุ่งไปเคาะประตูที่ห้องน้ำ “มู่จื่อ เป็นยังไงบ้าง ต้องการให้ฉันทำอะไรไหม?”
หานมู่จื่อที่กำลังล้างน้ำอยู่ข้างในได้ยินเสียงของเสี่ยวเหยียน จึงพูดว่า “รีบโทรเรียกรถพยาบาล!”
“ได้!” เสี่ยวเหยียนรีบหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาโทรเรียกรถพยาบาล
ส่วนหลินชิงชิงที่อยู่ข้างๆ ก็ได้ยืนอยู่กับที่อย่างอึ้งทึ่ง ทั้งหน้าเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ
ทำไมถึงเป็นอย่างนี้?
ทั้งๆที่เธอ……คนที่จะสาดคือหานมู่จื่อ
แต่เป็นเพราะอะไร เย่โม่เซินถึงได้วิ่งออกมาบังไว้ให้เธอ?
เมื่อนึกถึงตรงนี้ หลินชิงชิง ตกใจกลัวจนถอยหลังไปหลายก้าว สีหน้าขาวซีด
จบแล้ว เธอสาดน้ำกรดใส่ตัวของเย่โม่เซิน ต่อไปเขา……จะไม่ปล่อยตัวเองไว้หรือเปล่า?