บทที่ 478 คุณสำคัญ
หลังจากที่เสี่ยวเหยียนโทรเรียกรถพยาบาลเสร็จ ก็หันหน้าไปเห็นหลินชิงชิงยังคงยืนอยู่ที่นั่น ทันใดนั้นเธอก็นึกขึ้นได้อะไรบางอย่าง รีบโทรหาแจ้งตำรวจทันที โดยบอกว่าที่นี่มีคนตั้งใจใช้น้ำกรดทำร้ายคน
หลังจากวางสาย เสี่ยวเหยียนจ้องไปที่หลินชิงชิง อย่างดุเดือด แล้วพูดว่า “คุณมันผู้หญิงที่จิตใจโหดเหี้ยม คุยกันคือคุยกัน ทะเลาะกันก็ทะเลาะกัน แต่คุณถึงกับยังเตรียมน้ำกรดมาด้วย หัวใจและเลือดของคุณ เป็นสีดำหมดเลยหรือ?”
หลินชิงชิง ยังคงตกอยู่ในจินตนาการที่ตัวเองทำร้ายเย่โม่เซิน ดังนั้นจึงไม่รู้ตัวเป็นเวลานาน
“ฉันโทรแจ้งตำรวจแล้ว เดี๋ยวตำรวจมาแล้ว คุณบอกกับพวกเขาด้วยตัวเอง!”
“แจ้งตำรวจ……” หลินชิงชิงค่อยๆตั้งตัวได้ “ไม่ แจ้งตำรวจไม่ได้…… ฉันไปที่สถานีตำรวจไม่ได้ ไม่ได้!” เธอเป็นถึงคุณหนูไฮโซแห่งตระกูลหลิน ชื่อเสียงของเธอดีมาโดยตลอด ถ้าเธอได้เข้าไปในสถานีตำรวจ นั้นต่อไปเธอก็หมดอนาคตแล้วไม่ใช่เหรอ?
นึกถึงสิ่งนี้ หลินชิงชิงลุกขึ้นอย่างกะทันหัน เดินโซซัดโซเซไปข้างนอก เสี่ยวเหยียนเห็นว่าเธอกำลังจะหนี เข้าไปจับเธอไว้ “คุณจะหนีไปไหน? คุณคิดว่าตัวเองจะหนีพ้นหรือ?”
“ปล่อยฉัน!” หลินชิงชิงอยากจะหลุดพ้นจากเธออย่างกระวนกระวาย ในเวลานี้ เธอคิดได้เพียงว่า ตัวเองให้ตำรวจจับไม่ได้ เธอไม่สามารถขายหน้าแบบนี้ได้ หลินชิงชิง ที่คิดแค่อยากจะหนีมีพละกำลังมาก ดังนั้นเธอจึงหลุดออกในทันที
ตอนที่เสี่ยวเหยียนยังคิดอยากจะไล่ตามไป ก็ได้นึกขึ้นบางอย่างกะทันหัน แล้วหันกลับมา “มู่จื่อ หลินชิงชิง หนีไปแล้ว จะให้คนจับเธอกลับมาไหม?”
หานมู่จื่อที่อยู่ในห้องน้ำ เมื่อได้ยินก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย ในเวลานี้ ยังจะในคนไปจับเธอกลับมา? ในขณะนี้สิ่งที่สำคัญที่สุด ก็คือจัดการกับแผลของเย่โม่เซินหรือเปล่า?
เมื่อนึกถึงตรงนี้ หานมู่จื่อจึงพูดอย่างเย็นชา “ไม่ต้องไปสนเธอ คุณเข้ามาช่วยฉันหน่อย”
“อืม ได้” เสี่ยวเหยียนจะยื่นมือไปเปิดประตู แต่เปิดไม่ได้ “ทำไมถึงเปิดไม่ได้? คุณเปิดกลอนประตูหน่อย”
หานมู่จื่อตั้งใจล้างน้ำที่หลังของเย่โม่เซินตลอด เมื่อได้ยินเข้า ยังรู้สึกแปลกใจ เมื่อกี้ตอนที่เธอเข้ามาไม่ได้ล็อคประตูนะ? ทำไมถึงผลักออกไม่ได้?
เมื่อนึกถึงอย่างนี้ หานมู่จื่อก็เงยหน้าขึ้นมาดู ตอนที่จะเดินไปดูที่กลอนประตู ถึงได้พบว่า คือเย่โม่เซินที่ยื่นมือดันประตูไว้
“คุณ……”
“อย่าเปิด” เสียงของเย่โม่เซิน มีความเจ็บปวดที่ก็ระงับไว้
หานมู่จื่อขมวดคิ้วเล็กน้อย “ทำไม? ฉันต้องการผู้ช่วยอีกคน”
แม้ว่าเขาจะเจ็บปวดจนทนไม่ไหว แต่เย่โม่เซินก็ยังคงไม่ส่งเสียงคร่ำครวญออกมา และดวงตาสีดำก็ยังคงจ้องมองเธออย่างตั้งใจ “คุณคิดว่านอกจากคุณแล้ว ฉันจะให้ผู้หญิงคนอื่นเห็นฉันในสภาพนี้?”
หานมู่จื่อ “……”
หัวใจกระตุกวูบ หานมู่จื่อแทบอยากจะตบหน้าให้เขามีสติ “ป่านนี้แล้ว คุณยังมาใส่ใจกับเรื่องแบบนี้ คือชีวิตคุณที่สำคัญกว่า หรือศักดิ์ศรีสำคัญกว่า”
เธอโกรธจัดมาก จนดวงตาทั้งคู่แดงเล็กน้อย
เมื่อเห็นเธอมีท่าทางเช่นนี้ เย่โม่เซินก็อดกลั้นความเจ็บปวดที่เข้าสู่กระดูกจากหลัง จ้องมองเธออย่างตั้งใจ ริมฝีปากบางเบาเปิดออกเล็กน้อย
“คุณสำคัญกว่า”
หานมู่จื่อหัวใจกระตุกวูบ “คุณ……”
คนคนนี้ ถึงในเวลานี้แล้ว ยังจะมีใจที่จะพูดเรื่องแบบนี้ หานมู่จื่อถูกเขาทำให้โกรธมาก จ้องเขม็งเขาอย่างดุดัน!
สายตานี้ มองในสายตาของเย่โม่เซินแล้ว กลับเป็นการตำหนิที่มีเสน่ห์ ริมฝีปากบางซีดของเขาเม้มเล็กน้อย “โชคดีที่ฉันมาแล้ว ของนั่นถ้าหากสาดใส่ตัวคุณ ผลที่ตามมาไม่กล้าจินตนาการ”
“หานมู่จื่อ “……คุณหุบปากได้หรือยัง? สิ่งที่คุณควรกังวลตอนนี้ คือบาดเจ็บของคุณเอง!”
คนคนนี้เป็นอะไรกันแน่? ทั้งๆที่หลังได้บาดเจ็บขนาดนี้แล้ว เขายังพูดดัดจริตกับตัวเองแบบนี้อีก!
ช่างน่ารำคาญจริงๆ!
หานมู่จื่อไม่สนใจเขาอีก เดินอ้อมไปข้างหลัง ล้างน้ำให้เขาต่อไป เสี่ยวเหยียนยังคงถามอยู่ข้างนอก เธอถึงต้องพูดว่า “คุณรอไว้ข้างนอกเถอะ ที่นี่ฉันจัดการเองก็พอแล้ว รอรถพยาบาลเข้ามา เราค่อยออกไป”
“งั้นก็ได้” ที่จริงเสี่ยวเหยียนเชื่อฟังคำพูดของหานมู่จื่อมาก เธอสั่งอย่างนี้ เสี่ยวเหยียนก็ทำตามแบบนี้ ดังนั้นเธอจึงรีบเดินลงไปข้างล่าง เพื่อไปรอรถพยาบาล
ในห้องน้ำ มีเพียงเสียงน้ำไหล เสียงหายใจของทั้งสอง ถูกกลบเกลื่อนด้วยเสียงน้ำ หานมู่จื่อยืนอยู่ข้างหลังช่วยเย่โม่เซินล้างน้ำตลอด เธอไม่มีวิธีอะไรเลย ก่อนที่รถพยาบาลจะมา เธอสามารถทำได้เพียงเช่นนี้
หัวใจทั้งดวง ว้าวุ่นยิ่งนัก ตอนนี้หานมู่จื่อหวังเพียงว่า รถพยาบาลมาถึงเร็วๆ
และเย่โม่เซินได้รับบาดเจ็บสาหัสขนาดนี้ ดันไม่ส่งเสียงอะไรเลยสักคำ
ใจเธอเกือบจะทนไม่ไหวแล้ว
ในที่สุด หานมู่จื่อก็ได้ยินเสียงไซเรนของรถพยาบาลดังขึ้น ในวินาทีนั้น เสมือนเสียงที่ไพเราะจากสวรรค์
รถพยาบาลมาแล้ว? หานมู่จื่อเงยหน้าขึ้น ในแววตาประกายความตื่นเต้น
“กลัวไหม?” เย่โม่เซินที่ไม่ได้พูดมาตลอด ถามขึ้นในทันใด
หานมู่จื่อมองไปที่ด้านหลังศีรษะของเขา “อะไรนะ?”
เขาหันกลับมา หันหน้ามาทางเธอ หานมู่จื่อสีหน้าเปลี่ยนไปทันที “คุณหันหลังกลับ ฉันช่วยคุณล้างน้ำต่อ”
สีหน้าของเย่โม่เซินดูแย่มาก ริมฝีปากเขียวซีด หน้าผากปกคลุมไปด้วยเหงื่อ เห็นได้ว่าอาการบาดเจ็บนั้นเจ็บปวดมากเพียงใด
เมื่อเห็นท่าทางของเขาแบบนี้ หานมู่จื่อยอมไปดูแผลของเขาดีกว่า
เขาไม่พูดอะไร แต่ก็จ้องมองตัวเองไม่ขยับ “กลัวฉันตายไหม?”
หัวใจของหานมู่จื่อกระตุกวูบ อ้อมมาข้างหลังเขาโดยตรง ล้างน้ำเย็นที่หลังของเขาต่อ พร้อมพูดด้วยเสียงดุ
“คุณไม่ต้องมาพูดเหลวไหล แผลพวกนี้ คุณอยากจะตายยังยากเลย”
“ดูเหมือนว่า คุณจะไม่กลัวสินะ” เย่โม่เซินหัวเราะเบาๆ
หานมู่จื่อขมวดคิ้วอย่างระแวง “คุณหมายความว่ายังไง?”
“ไม่มีอะไร”
ในไม่ช้าเปลรถพยาบาลก็ขึ้นมาชั้นบน มาถึงหน้าประตูห้องน้ำโดยตรง หลังจากหานมู่จื่อได้ยินเสียง ก็รีบเปิดประตูทันที จากนั้นก็พาเย่โม่เซินออกไปปฐมพยาบาล
หลังจากปฐมพยาบาลง่ายๆ เย่โม่เซินก็ขึ้นรถพยาบาล เพราะยังไงเขาได้รับบาดเจ็บขนาดนี้ หานมู่จื่อก็ไม่สามารถทิ้งเขาอย่างไม่สนใจได้ ดังนั้นจึงขึ้นรถพยาบาลไปด้วย
หลังจากขึ้นไปในรถพยาบาล มือของเย่โม่เซินก็ได้จับเธอไว้แน่นไม่ยอมปล่อย
ในขณะเดียวกัน ตอนที่หานมู่จื่ออยากจะดึงออก เย่โม่เซินก็เพิ่งพลังมากขึ้นเธออยากจะดึงมือกลับก็ไม่มีโอกาสเลย
หานมู่จื่อเหลือบมองใบหน้าซีดเซียวของคนคนนี้ ก็พึมพำในใจ
ได้รับบาดเจ็บขนาดนี้แล้ว เอาพละกำลังมากขนาดนี้มาจากไหน? นอกจากนี้บาดแผลยังลึกมากด้วย เขายังใช้แรงมากแบบนี้ ถ้าได้ร้ายแรงมากขึ้นจะทำยังไงดี? เมื่อนึกถึงท่าทางเมื่อกี้ของเขา ที่บังให้เธออย่างไม่ห่วงความปลอดภัยของตัวเองเลย หานมู่จื่อก็ใจอ่อนลง
ช่างเถอะ เขาจะจับก็ให้เขาจับเถอะ
ยังไงแค่จับมือนิดหน่อย เธอก็ไม่ได้เสียหายอะไร
ดังนั้นหานมู่จื่อจึงยอมแพ้ ส่งมือเล็กๆของเธอให้เขาอย่างนุ่มนวล
เย่โม่เซินจับมือที่อ่อนนุ่มเสมือนไร้กระดูกคู่นั้น อ่อนละมุนราวกับขนมสายไหม หลายปีที่ผ่านมา เป็นครั้งแรกที่รู้สึกอิ่มเอมใจไม่น้อย
แม้ว่าบาดแผลที่หลังอาการบาดเจ็บจนเกือบเห็นกระดูก แต่ว่า……ผู้หญิงคนนี้ก็อยู่เคียงข้างตัวเอง
ริมฝีปากบางขาวซีดยกขึ้นเล็กน้อย เย่โม่เซินกลับรู้สึกดีใจมาก
“คุณคนนี้ บาดเจ็บมากขนาดนี้แล้ว ยังดีใจอะไรกัน?” หลังจากที่พยาบาลเห็นรอยยิ้มแปลกๆของเขา ก็อดไม่ได้ที่จะถามขึ้น
เมื่อหานมู่จื่อได้ยิน ก็รีบมองไปทางเย่โม่เซิน แต่เขากลับทำสีหน้าเย็นชา ไม่แสดงความรู้สึกอะไรเลย