บทที่ 501 ขโมยจูบ
“หม่ามี๊! เสี่ยวหมี่โต้วคิดถึงหม่ามี๊ที่สุดเลย!”เสี่ยวหมี่โต้วกอดแขนหานมู่จื่อและใช้หน้าคลอเคลียอย่างสนิทสนม
หานมู่จื่อถูกหนุ่มน้อยคลอเคลียที่แขน ใจก็เริ่มอ่อนยวบ
“บอกแล้วไม่ใช่หรือว่าค่อยมาวันพรุ่งนี้? ทำไมถึงมาดึกๆดื่นๆแบบนี้ล่ะ?”หานมู่จื่อย่อตัวลงและบีบแก้มนุ่มของเสี่ยวหมี่โต้ว เธอรู้สึกดีเป็นพิเศษจึงเอื้อมมือไปอีกครั้ง
ใบหน้าที่งดงามของเสี่ยวหมี่โต้วก็เปลี่ยนไปอีกครั้งภายใต้การบีบของหานมู่จื่อ อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้รู้สึกระคายเคืองแม้แต่น้อย อีกทั้งยังมีแววตาที่เป็นประกาย มือข้างหนึ่งจับที่ข้อมือของหานมู่จื่อ “หม่ามี๊ จุ๊บจุ๊บ!”
หานมู่จื่อก้มหน้าจูบไปที่แก้มของเสี่ยวหมี่โต้ว ในที่สุดเสี่ยวหมี่โต้วก็สมปรารถนา เสี่ยวหมี่โต้วกอดคอเธอ
“ต่อไปนี้เสี่ยวหมี่โต้วขออยู่กับหม่ามี๊ตลอดไปเลยได้ไหมฮะ?”
คำพูดนี้ทำเอาหานมู่จื่อนิ่งไปชั่วขณะ เธอพยักหน้า “แน่นอน ต่อไปนี้พวกเราแม่ลูกจะอยู่ด้วยกันตลอดไป หม่ามี๊จะปกป้องหนูเอง”
“ฮึ”ไม่คิดว่าเสี่ยวหมี่โต้วจะร้องฮึออกมาแบบนี้ “เสี่ยวหมี่โต้วโตแล้ว ปกป้องหม่ามี๊ได้แล้ว วันหลังถ้าหม่ามี๊เจอเรื่องอะไรก็อย่าส่งเสี่ยวหมี่โต้วไปไหนอีก เสี่ยวหมี่โต้วอยากอยู่ข้างๆหม่ามี๊”
หานมู่จื่อ “…”
คำพูดเหล่านี้เหมือนกับผู้ใหญ่ตัวน้อยที่ทำให้หานมู่จื่อน้ำตาไหลออกมา เธอเอื้อมมือไปลูบท้ายทอยของเสี่ยวหมี่โต้ว “เสี่ยวหมี่โต้วของหม่ามี๊โตแล้ว หม่ามี๊เข้าใจแล้ว”
“แต่ว่าหม่ามี๊ไม่เคยเชื่อใจเสี่ยวหมี่โต้ว ฮึ!”
เสี่ยวเหยียนไม่รู้จะร้องไห้หรือหัวเราะดีในขณะที่เธอเฝ้าดูอยู่ข้างๆ เธอได้แต่พูดแทนหานมู่จื่อว่า “หม่ามี๊ของเธอเชื่อเธอแล้วจะมีประโยชน์อะไร? ตัวก็แค่นี้ พอเจอคนเลวจริงๆ แค่ลำพังตัวเองหม่ามี๊ของเธอยังดูแลไม่ไหวแล้ว ไหนจะต้องมาดูแลเธออีก ไม่ใช่ว่าน้าเสี่ยวเหยียนอยากว่าเธอหรอกนะ แต่ตอนนี้เธอยังเด็กเกินไป เป็นภาระเสียเปล่าๆ ถ้าเธอไม่อยากเป็นภาระของหม่ามี๊ล่ะก็ ก็รีบไปกินข้าวเยอะๆ จะได้โตไวๆ พอตอนที่เธอตัวโตกว่าหม่ามี๊กับน้าเสี่ยวเหยียนแล้ว พวกเราถึงจะเชื่อว่าเธอมีความสามารถมากพอที่จะปกป้องคนได้!”
แม้ว่าคำพูดของเสี่ยวเหยียนฟังแล้วเหมือนกำลังต่อว่า แต่มันก็เป็นความจริง ดังนั้นหานมู่จื่อจึงไม่ได้โต้เเย้ง
ยิ่งไปกว่านั้น เธอรู้ดีว่าลูกชายของเธอไม่ใช่จำพวกเด็กเปราะบาง
แน่นอนว่าหลังจากได้ยินคำพูดดังกล่าว เสี่ยวหมี่โต้วก็รู้สึกเหมือนโดนดูถูก เขาพูดด้วยความโมโห “น้าเสี่ยวเหยียนต่อว่าคนอื่นแบบนี้ ไม่รู้ว่าใครกันที่ขอร้องผมไม่ให้บอกเรื่องเธอกับคุณน้า”
เมื่อได้ยินดังนั้น รอยยิ้มบนใบหน้าของเสี่ยวเหยียนก็หุบยิ้มไปชั่วขณะ เธอทำทีจะเข้ามาตีเสี่ยวหมี่โต้ว
“เธอเป็นเด็กป่วนใช่ไหม? วันวันถึงเอาเรื่องคุณน้าเธอมาโจมตีฉัน!”
“หม่ามี๊!”เสี่ยวหมี่โต้วกระโดดเข้าไปในอ้อมแขนของหานมู่จื่อพลางกอดเธอแน่นเพื่ออ้อนวอนเธอ
หานมู่จื่อยิ้มและบังท่าทีโมโหของเสี่ยวเหยียน จากนั้นก็พูดเบาๆว่า “เธอกับพี่ชายฉันไปถึงขั้นไหนแล้ว?”
เสี่ยวเหยียนหน้าเเดงขึ้นมา “มู่จื่อ เธอพูดบ้าอะไร?”
อยู่ๆเสี่ยวหมี่โต้วก็พูดขึ้นมาว่า “หม่ามี๊ ผมเห็นน้าเสี่ยวเหยียนจูบกับคุณน้าแล้ว!”
หลังจากได้ยินแบบนั้น หานมู่จื่อก็ตกใจ “ลูกพูดว่าอะไรนะ?”
“อ๊าาาา!”เสี่ยวเหยียนร้องเสียงดังออกมาราวกับโดนกระตุกขน “เสี่ยวหมี่โต้วพูดไร้สาระ! ฉันไม่ได้ทำสักหน่อย!”
“ทำ!” เสี่ยวหมี่โต้วพูดต่อ “วันนั้นผมเห็นน้าจูบกับคุณน้าอยู่ชั้นบน”
หานมู่จื่อมองไปทางเสี่ยวเหยียนก็พบว่าสีหน้าและแววตาของเธอเต็มไปด้วยความเขินอาย เห็นได้ชัดว่าโดนพูดแทงใจ เพราะถ้าเธอไม่ได้จูบหานชิงจริงๆล่ะก็ เสี่ยวหมี่โต้วก็คงไม่พูดออกมาแบบนี้ และเสี่ยวเหยียนเองก็คงไม่แสดงพิรุธแบบนี้
นี่ก็สามารถพิสูจน์ได้ว่าเสี่ยวเหยียนจูบกับหานชิงจริงๆ
พอนึกถึงใบหน้าเงียบขรึมของหานชิงเมื่อถูกเสี่ยวเหยียนขโมยจูบแล้ว เขาจะแสดงออกทางสีหน้าอย่างไรกันนะ?
หานมู่จื่อสงสัยพลางเท้าคางมองไปทางเสี่ยวเหยียน
“ช่วยลำดับเหตุการณ์ให้ฟังหน่อยได้ไหม?”
“อย่างเช่นว่า…เธอทำอย่างไร?”
“หรืออย่างเช่นว่า…พี่ชายฉันมีท่าทีอย่างไรบ้าง?”
เสี่ยวเหยียน “…”
หานมู่จื่อ “เสี่ยวเหยียน รีบบอกมาเร็ว!”
“ฉันไม่พูดกับพวกเธอแล้ว!”เสี่ยวเหยียนหันหลังและรุดตัวออกจากห้อง หานมู่จื่อสังเกตเห็นใบหน้าเธอแดงก่ำจึงได้แต่ยิ้มและไม่ได้ตามไปแหย่
“หม่ามี๊เชื่อเสี่ยวหมี่โต้วไหม? วันนั้นเสี่ยวหมี่โต้วเห็นจริงๆนะฮะ”
หลังจากเสี่ยวเหยียนเดินออกไป เสี่ยวหมี่โต้วก็เงยหน้าขึ้นถาม
หานมู่จื่อยื่นมือมาบีบจมูกเขาเล็กน้อยและพยักหน้า “ทำไมหม่ามี๊จะไม่เชื่อล่ะ? เสี่ยวหมี่โต้วชอบน้าเสี่ยวเหยียนไหม? ถ้าให้เธอเป็นคุณน้าสะใภ้ เสี่ยวหมี่โต้วคิดว่าอย่างไร?”
เสี่ยวหมี่โต้วกระพริบตา อยู่ๆก็รู้สึกมีความสุขขึ้นมาทันที
“ต่อไปถ้าน้าเสี่ยวเหยียนมาเป็นคุณน้าสะใภ้ของเสี่ยวหมี่โต้ว เธอจะต้องทำของอร่อยๆมาให้เสี่ยวหมี่โต้วกินใช่ไหมฮะ?”
ใบหน้าที่เห็นแก่ของกินแบบนี้ทำให้หานมู่จื่ออดไม่ได้ที่จะยิ้ม เธอพยักหน้ารับ “ใช่แล้ว”
“เสี่ยวหมี่โต้วเข้าใจแล้ว งั้นวันหลังเสี่ยวหมี่โต้วจะเปลี่ยนคำเรียก”
“เปลี่ยนคำเรียก?”
“วันหลังเสี่ยวหมี่โต้วจะเรียกน้าเสี่ยวเหยียนว่าน้าสะใภ้”
หานมู่จื่อลูบหัวเสี่ยวหมี่โต้วแล้วได้แต่ยิ้มโดยไม่ตอบรับ
หลังจากเสี่ยวเหยียนกลับมาที่ห้อง เธอก็ใช้มือกุมใบหน้าของเธอที่กำลังร้อนแทบจะระเบิด ในขณะที่เดินไปเดินมาอยู่ในห้องก็กรีดร้องแทบคลั่ง
เดิมทีเธอรู้สึกหนักใจคนเดียวมาโดยตลอดกับเหตุการณ์ที่เธอแอบซุ่มจู่โจม ไม่ง่ายเลยที่เธอจะพูดเรื่องแบบนี้ออกมา แต่อยู่ๆกลับโดนเสี่ยวหมี่โต้วแฉเอาจนได้
พอคิดว่าหานมู่จื่อรู้เรื่องนี้เข้าจะต้องหัวเราะเยาะเธอ เสี่ยวเหยียนก็รู้สึกอับอายขายขี้หน้า อ๊าาา
ก็นั่นเป็นพี่ชายของมู่จื่อนี่นา!
ฮึก ฮึก ทำไมเธอต้องมาขายหน้าแบบนี้นะ? ทำไมถึงควบคุมตัวเองไม่ได้?
อย่างไรก็ตาม…เธอยังคิดจะขโมยจูบอีกเป็นครั้งที่สอง แม้ว่า…ครั้งนั้นเธอจะหนีไปได้โดยไม่ถูกสงสัยก็ตาม
ทว่า
เสี่ยวเหยียนกัดนิ้วตัวเองอย่างออกรสออกชาติ
ริมฝีปากนั้นของเทพบุตรก็ช่างนุ่มเสียจริงๆ
หลังจากวันนั้นเธอทำได้เพียงจูบเขาแค่ในความฝัน ถึงอย่างไร…ในความฝันหานชิงก็ตอบสนองกลับมาด้วย ทั้งยังมีเสน่ห์และทรงพลังมากเช่นกัน
แต่ในความเป็นจริง มันจะเป็นไปได้อย่างไร?
เสี่ยวเหยียนเริ่มรู้สึกเป็นทุกข์อีกครั้ง เธอนอนแผ่หลาบนเตียงโดยฝังหน้าของเธอไว้กับหมอน
ติ้งต่อง….
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เสี่ยวเหยียนเปิดโทรศัพท์และพบว่าเป็นข้อความวีแชทที่หานมู่จื่อส่งมา หลังจากเห็นข้อความแล้ว ใบหน้าของเสี่ยวเหยียนก็เริ่มแดงขึ้นอีกครั้ง
เธอนึกเกลียดข้อความนั้น
(เธอหัวเราะเยาะฉันให้มันน้อยๆหน่อย ฮึ!)
(ฉันหัวเราะเยาะเธอที่ไหนกัน ฉันก็แค่เป็นห่วงความสัมพันธ์ระหว่างพี่ชายฉันกับเพื่อนสนิทตัวเอง ฉันผิดตรงไหน?)
(ฮึ เธอเอาเวลาไปห่วงเย่โม่เซินของเธอเถอะ!)
อีกด้านหนึ่งเงียบไปสักพัก เสี่ยวเหยียนเพิ่งรู้ตัวว่าไม่ควรพูดออกไปแบบนั้น ดังนั้นเธอจึงรีบพิมพ์ข้อความ
(ฉันไม่ได้หมายความว่าแบบนั้น แค่ไม่อยากให้เธอเอาเรื่องนี้มาล้อฉัน)
(เธอยอมรับแล้ว?)
ดวงตาเสี่ยวเหยียนเบิกกว้าง ให้ตายเถอะ โดนเธอหลอกแล้ว
เธอร้อง ฮึ แล้วสารภาพออกมาตามตรง
“ใช่ ใช่ ใช่ ฉันยอมรับแล้วยังไง? เธอก็รู้มาตลอดไม่ใช่หรือ ว่าพี่ชายเธอเป็นชายในฝันของฉันมาตลอด ในเมื่อใบหน้าหล่อๆมาอยู่ตรงหน้า วันนั้นฉันก็เลยอดใจไม่ไหว)
(ว้าว ก็ได้นะ แต่จะมาเป็นพี่สะใภ้ฉันได้หรือไม่ต้องดูผลงานเธอหลังจากนี้)
เป็นพี่สะใภ้ของมู่จื่องั้นหรือ? เสี่ยวเหยียนจับแก้มของเธอและเริ่มเพ้อฝันเกี่ยวกับการแต่งงานกับหานชิง