บทที่ 503 สู้คนอื่นไม่ได้
“คุณจะยอมฟังหรือ?”หานมูจื่อแปลกใจเล็กน้อย เห็นๆกันอยู่ว่าเมื่อวานเขาไม่มีท่าทีจะเปลี่ยนใจ แต่ทำไมอยู่ๆวันนี้ถึงถามความเห็นจากเธอล่ะ?
เย่โม่เซินโอบเอวเธอไว้ด้วยมือข้างหนึ่งและพูดด้วยความสนิทสนมว่า “ก็พูดมาสิ”
“……”
หานมู่จื่ออยากผลักเขาออกไป แต่มือของเขากลับล็อกเอวเธอไว้อย่างแน่นหนา สุดท้ายเธอทำได้แต่อดทนและพูดว่า “ฉันให้โอกาสเธอก็ได้ แต่ว่า…ฉันขอเจอเธอก่อนที่เปิดศาลสักครั้ง”
ถ้าหากเย่โม่เซินยอมให้โอกาส อย่างงั้นเธอยากรู้หลินชิงชิงตอนนี้มีความคิดอะไรกัน การกักตัวเมื่อไม่กี่วันมานี้จะเปลี่ยนความคิดเธอได้หรือเปล่า?
หรือว่าจนถึงตอนนี้เธอยังไม่ตายใจ? ยังแค้นเธออย่างฝังลึก?
พอได้ยินคำว่าได้โอกาส คุณแม่หลินก็แทบน้ำตาไหล เธอเดินไปจับมือหานมู่จื่อด้วยความตื้นตันใจ
“ขอบคุณ ขอบคุณมากจริงๆ คุณเป็นคนดี เมื่อไหร่ที่ชิงชิงออกมาได้ ฉันจะให้เธอมาขอโทษคุณให้ได้ ฉันต้องขอบคุณพวกคุณจริงๆ”
ส้งอานดูเหมือนจะพูดอะไรไม่ออก เมื่อวานนี้เย่โม่เซินยังคงยืนหยัดอย่างหนักแน่น แต่มาวันนี้แค่หานมู่จื่อพูดเพียงแค่ประโยคเดียวก็คล้อยตามไปแล้วงั้นหรือ?
หรือต้องการ…ทำแบบนี้ต่อหน้าแม่ของหลินชิงชิง?
คิดได้สักพัก ส้งอานก็ส่ายหัวและสลัดความคิดวุ่นวายออกให้หมด
***
หานมู่จื่อเพียงแค่อยากดูท่าทีของหลินชิงชิงว่าเป็นอย่างไร เธอจะได้ตัดสินใจอีกครั้งว่าต้องทำอะไร
แม้ว่าเย่โม่เซินจะไม่เข้าใจสิ่งที่เธอคิด แต่ก็เคารพการตัดสินใจของเธอ เธออยากทำอะไรก็ทำไป ทุกอย่างล้วนขึ้นอยู่กับเธอ
เย่โม่เซินทำตามคำพูดของเธออย่างว่าง่าย แต่ทั้งสองคนที่อยู่ข้างๆเขากลับดูตกใจและต่างคิดไปคนละอย่าง
ตามความคิดของส้งอาน หลานชายของเธออยู่ในกำมือของหานมู่จื่อจริงๆ และแน่นอนว่า…นี่เป็นไปตามความคาดหมายของเธอ เธอส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้อยู่ในใจ และแอบยิ้มอย่างปลอบใจ
แม่ของหลินชิงชิงเองก็ตกใจเช่นกัน
เย่โม่เซินดูเย็นชามากเมื่อตอนที่พบกันครั้งแรก ก่อนที่จะพบกันจริงๆ เธอเคยเห็นเขาผ่านทางโทรทัศน์หรือหน้าหนังสือพิมพ์เท่านั้น หากไม่เคยเจอกันมาก่อนก็สัมผัสได้ถึงออร่าความแข็งแกร่งผ่านแววตาที่เฉียบคมและเย็นชาคู่นั้น ดังนั้นการที่หลินชิงชิงชอบเขาตั้งแต่ตอนที่ไปดูตัว คุณแม่หลินเองก็ไม่ได้แปลกใจอะไร
เธอคิดว่าผู้ชายคนนี้เป็นแบบนี้ ยังรอคอยว่าลูกสาวของเธอจะพิชิตใจเขาได้ในสักวันหนึ่ง
แต่ว่า…ตอนนี้กลับเห็นเขาดูจงรักภักดีกับผู้หญิงอีกคนหนึ่ง
และผู้หญิงคนนี้ก็ไม่ใช่ลูกสาวของเธอ
หากจะบอกว่าไม่อิจฉา ก็เห็นว่าจะเป็นการโกหก
อย่างไรก็ตามเธอมาอิจฉาริษยาตอนนี้จะมีประโยชน์อะไร? เธอผ่านร้อนผ่านหนาวมามาก เธอรู้ว่าหัวใจผู้ชายถ้าอยู่ที่ใครแล้ว มันก็จะอยู่กับคนคนนั้นจริงๆ ไม่จำเป็นต้องเสียเวลาไขว่คว้า เขาก็จะเข้ามาหาเอง และทำให้เธอมีความสุข
แต่ถ้าใจของเขาไม่ได้อยู่กับคนคนนั้นแล้ว ไม่ว่าจะเสียหยาดเหงื่อแรงกายสักแค่ไหน เขาก็จะไม่มองอยู่ในสายตา
และยิ่งไม่ต้องพูดถึงผู้ชายอย่างเย่โม่เซิน
ถึงจะต้องแพ้คนอื่นจนลูกสาวเธอเสียผู้เสียคน คุณแม่หลินก็ยอม!
ตอนนี้เธอเพียงต้องการให้ลูกสาวของเธอออกมาโดยไม่เป็นอะไร พอคิดถึงตรงนี้คุณแม่หลินก็ถูมืออย่างประหม่าและมองหานมู่จื่อ โดยหวังว่าเด็กผู้หญิงคนนี้จะยอมใจอ่อนให้เธอ
“คุณอยากตามพวกเรามางั้นหรือ?” หานมูจื่อขมวดคิ้วเมื่อได้ยินว่าเย่โม่เซินบอกว่าจะตามมาด้วย แม้แต่ส้งอานที่อยู่อีกด้านก็โน้มตัวเข้ามา “ไม่ได้ แกยังได้รับบาดเจ็บ อยู่ในห้องผู้ป่วยก็ไม่เป็นอะไรหรอก แต่ถ้าแกตามพวกเราออกไปข้างนอกจะทำให้อ่อนเพลียได้!”
หานมู่จื่อพยักหน้าเห็นด้วย “ใช่ คุณไม่ควรออกไปกับพวกเรา คุณพักผ่อนอยู่ในห้องนี้แหละ”
“ไม่ได้”เย่โม่เซินเม้มริมฝีปาก พูดอย่างเย็นชา “วันนี้ผมต้องไปขึ้นศาล ไม่ควรชักช้า”
พอได้ยินคำว่าขึ้นศาล ใบหน้าของแม่หลินชิงชิงก็ซีดเผือด เธอเป็นคนนอกไม่ควรออกความเห็น และแน่นอนว่าเธอไม่อยากให้เย่โม่เซินไปด้วย ถ้าเย่โม่เซินไม่ไปด้วย เธอจะได้ขอร้องหานมู่จื่อได้มากหน่อยเพราะผู้หญิงมักจะใจอ่อนง่าย
ส้งอาน “แกจะไม่ฟังน้าสักคำหน่อยหรือ? ตอนนี้แกยังเจ็บอยู่นะ”
เย่โม่เซินพูด “การเดินทางไม่ใช่ปัญหา”
สุดท้ายส้งอานก็ได้ส่งสายตาขอความช่วยเหลือไปทางหานมู่จื่อ
อันที่จริงหานมู่จื่อก็ไม่มีวิธีใด ด้วยนิสัยของเย่โม่เซินเธอเองก็พูดอะไรไม่ได้ เธอจึงทำได้เพียงมองเย่โม่เซิน เธอเห็นด้วยกับความคิดของส้งอาน เธอไม่ต้องการให้เย่โม่เซินตามไปด้วย
“ไม่ต้องมาเกลี้ยกล่อมผม”เย่โม่เซินพูดกับเธอ
หานมู่จื่อครุ่นคิดอยู่สักพักก็พูดว่า “งั้นก็ไปเถอะ ไปเจอคุณหลินก่อน จากนั้นค่อยตัดสินใจ”
ส้งอาน “…”
จะไม่เกลี้ยกล่อมหน่อยหรือ? ช่างเถอะ เธอจะกังวลไปทำไมกัน อย่างมากเย่โม่เซินก็คงไม่ทำให้ตัวเองได้รับบาดเจ็บจนทนไม่ไหวหรอก และถ้าเขาล้มลงกับพื้น เธอก็ค่อยเรียกคนมาหามเขาส่งกลับโรงพยาบาลก็ได้
มันไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร อย่างไรก็ไม่ถึงกับตาย
เขายังไม่เป็นห่วงตัวเองเลย น้าอย่างเธอจะใส่ใจไปทำไมกัน?
หลังจากที่ตัดสินใจเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็ตรงไปพบหลินชิงชิง
หลินชิงชิงได้รับความทุกข์ทรมานอย่างมากในสถานกักกัน ที่แห่งนี้มองไม่เห็นเดือนไม่เห็นตะวัน ไม่มีอะไรเทียบได้กับห้องของเธอที่บ้าน ไม่มีอ่างอาบน้ำขนาดใหญ่หรือเสื้อผ้าที่สวยงาม เธอใช้เวลาอยู่ที่นี่หลายวันในการไตร่ตรอง และกินอาหารจนหมด
ตอนแรกเธอคว่ำจานอาหารและไม่ยอมกิน เธอไม่อยากกินเพราะรู้สึกว่ามันไม่ใช่สิ่งที่คนกินได้
เเต่เนื่องจากเธอทำผิดไปแล้ว จะให้คนมาประเคนอาหารดีดีให้เธอได้อย่างไร? และยิ่งไม่ใช่คนในครอบครัวที่ต้องรองรับเธอได้ทุกสิ่งอย่าง
ในท้ายที่สุดหลินชิงชิงก็ทนหิวต่อไปไม่ได้ เธอไม่กล้าคว่ำอาหารทิ้งอีกแล้ว ให้กินอะไรก็กิน กินเสร็จก็กลับมาโกรธแค้น ในใจเต็มไปด้วยความแค้นใจ
เธอกำลังรอเวลา เธอจะต้องออกไปจากที่นี่ให้ได้
ที่เธอต้องตกอยู่ในสภาพแบบนี้ ทั้งหมดเป็นเพราะหานมู่จื่อ นังผู้หญิงเเพศยาคนนั้น!
ถ้าไม่ใช่เพราะมัน เธอก็คงไม่ตกอยู่ในสภาพเหมือนอย่างวันนี้
พอได้ยินว่ามีคนมาเยี่ยมเธอ หลินชิงชิงก็ดีใจจนน้ำตาไหล แม่จะต้องมาหาเธอแน่ๆ พาคนมาช่วยเธอแล้วแน่ๆ!
หลินชิงชิงออกไปด้วยความหวัง และภาพที่เห็นคือกลุ่มคนจำนวนหนึ่งจากที่ไกลๆ
เนื่องจากเธอยังไม่ได้ถูกตัดสินโดยตรง ดังนั้นจึงสามารถพบพวกเขาได้โดยตรง
“ชิงชิง!”พอคุณแม่หลินได้เจอหลินชิงชิง น้ำตาก็ไหลพราก จากนั้นก็เดินไปตรงหน้าเธอ
“แม่คะ!”หลินชิงชิงขอบตาแดง เธอพุ่งตัวเข้าไปกอดคุณแม่หลิน เธออดไม่ได้ที่จะร้องออกมา “แม่ ฮึกฮึก ในทีสุดแม่ก็มาแล้ว ชิงชิงอยู่ที่นี่ช้ำใจจะตายอยู่แล้ว”
ทั้งสองกอดกันร้องไห้ คุณแม่หลินลูบหัวหลินชิงชิงด้วยใจที่เจ็บปวด “ไม่เป็นไรนะ ไม่เป็นไร แม่ไม่มีทางลืมลูก แม่ก็มาหาลูกแล้วนี่ไง? เป็นอย่างไรบ้าง? ทำไมลูกถึงผอมขนาดนี้?”
หลินชิงชิงเงยหน้าขึ้น เธออยากจะกล่าวโทษหานมู่จื่อ แต่กลับเห็นเย่โม่เซินอยู่ข้างๆเธอเข้าพอดี
เดิมทีเขาคือคนที่เธอชื่นชมอยู่ในใจ พอถูกเขาเห็นเธอในสภาพคนก็ไม่ใช่ ผีก็ไม่เชิงแบบนี้ หลินชิงชิงก็รู้สึกไม่มีหน้าจะไปพบใคร เธอยกมาปิดหน้าตัวเองและซบอยู่ในอ้อมแขนของคุณแม่หลินด้วยความตกใจ