บทที่ 505 เธอหลอกฉัน
“ความจริง?”ดวงตาของหลินชิงชิงไม่เพียงแต่ซ่อนความขุ่นเคือง แต่น้ำตายังไหลเมื่อเธอมองไปที่ หานมู่จื่อ เธอเห็นเย่โม่เซินยืนอยู่ข้างหลังเธอ ใบหน้าอันเยือกเย็นและทรงพลังของเขาไม่เหมาะกับที่แห่งนี้
แต่ไม่รู้ทำไม อาจเป็นเพราะเธอถูกกักขังนานเกินไป เธอจึงมีอาการหลอน
เธอมักจะรู้สึกว่าเย่โม่เซินได้พาหานมู่จื่อเข้าสู่โลกของตัวเอง
ทำไม? เป็นเพราะอะไรกันแน่?
หลินชิงชิงมองดูฉากนี้ น้ำตาแทบร่วงลงมา เธอกัดริมฝีปากล่างและมองไปที่หานมู่จื่ออย่างขมขื่น
“เพราะอะไร? ถึงเธอจะ…สวยมาก แต่ฉันก็ไม่คิดว่าฉันจะแย่ไปกว่าเธอ เธอออกแบบได้ ฉันก็ทำได้มากกว่าเธอ แล้วทำไมเขาถึงไปชอบเธอ?”
ใบหน้าของเธอแสดงออกถึงความคับแค้นใจ หลังจากที่หลินชิงชิงเห็นว่าเย่โม่เซินได้รวมหานมู่จื่อเข้าสู่พลังอำนาจของตัวเอง เธอก็รู้สึกเสียใจอย่างมาก
หานมู่จื่อยังคงมีสีหน้าไร้ความรู้สึก เธอพูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆว่า
“เธอจะบอกว่าฉันแย่งผู้ชายของเธอ เพียงเพราะเธอคิดว่าฉันรู้จักกับเขาผ่านการนัดดูตัวของเธอใช่ไหม?”
หลินชิงชิงตอบกลับ “หรือไม่ใช่ล่ะ?”
“ไม่ใช่”หานมู่จื่อตอบปฏิเสธเธอไปตรงๆราวกับถอนหายใจ หานมู่จื่อค่อยๆพูดต่อไปว่า “ฉันไม่ได้รู้จักกับเขาผ่านการดูตัวของเธอ”
“หมายความว่าไง?”หลินชิงชิงจ้องหน้าเธออย่างไม่เข้าใจ
หานมู่จื่อพูดต่อ “พูดชัดๆก็คือ…ฉันรู้จักกับเขามานานมากแล้ว”
“นานมากแล้ว นานมากแล้วคือเมื่อไหร่? เธอจะหลอกฉันใช่ไหม?”หลินชิงชิงกัดริมฝีปาก เกลียดเธอเข้ากระดูกดำ หานมู่จื่อส่ายหน้าและพูดว่า “นับดูแล้ว เราไม่ได้เจอกันมาห้าปีแล้ว วันนั้นที่เธอนัดดูตัวกับเขา ฉันก็ได้พบเขาอีกครั้ง มันเป็นแค่การพบกันอีกครั้ง”
“อะ อะไรนะ? พบกันอีกครั้ง? ห้าปี? ? ?”หลินชิงชิงไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง เธอยังคิดว่าตัวเองฟังผิดไป เธอปากซีดหน้าซีดและพูดอย่างไม่อยากจะเชื่อ “เป็นไปได้อย่างไร? เป็นไปได้อย่างไรที่วันนั้นพวกเธอได้มาเจอกันอีกครั้ง? เห็นๆอยู่ว่าตอนนั้นพวกเธอไม่รู้จักกัน ฉันยังแนะนำตัวให้พวกเธออยู่เลยไม่ใช่หรือ? หานมู่จื่อ! เธอจงใจแต่งเรื่องนี้มาหลอกฉัน เพื่อให้ฉันขอโทษเธอใช่ไหม?”
แม้แต่คุณแม่หลินที่ยืนอยู่ข้างๆก็มองหานมู่จื่อด้วยความสงสัย
ผู้หญิงคนนี้กับเย่โม่เซินรู้จักกันมานานถึงห้าปีแล้วหรือ? เป็นเรื่องที่คาดไม่ถึงจริงๆ
“เธอจะขอโทษฉันหรือไม่ มันไม่ได้สำคัญสำหรับฉัน เพราะฉันไม่เคยสนว่าเธอจะถูกขังไว้ที่นี่ตลอดชีวิตหรือไม่ แต่คนที่กังวลว่าเธอจะถูกขังอยู่ที่นี่ก็คือแม่ของเธอต่างหาก คุณหลิน ฉันกับเย่โม่เซินกลับมาเจอกันอีกครั้งในวันนั้นจริงๆ ฉันรู้จักกับเขามาห้าปีกว่าแล้วจริงๆ เรื่องนี้ฉันก็อธิบายไปชัดเจนแล้ว เธอยังคิดว่าฉันแย่งคู่ดูตัวของเธออยู่งั้นหรือ? ฉันถามเธอหน่อยว่าตอนแรกเขาเคยให้ความหวังเธอบ้างไหม?”
หลินชิงชิงลดสายตาลง
เขาเคยให้ความหวังเธอหรือไม่?
ไม่เคย
ไม่เคยเลยสักนิด
ตั้งแต่นาทีแรกของการนัดดูตัว เธอรู้สึกได้ว่าทุกเซลล์ในตัวของเย่โม่เซินล้วนปฏิเสธเธอ เขาไม่ได้อยากดูตัวกับเธอ และต่อมาเธออ้อนวอนเขาให้เขาเห็นแก่หน้าเธอสักครั้ง
เป็นเธอ เธอเคยฝันว่าจะสามารถพิชิตใจผู้ชายคนนี้ได้
เธอไม่ได้สนใจว่าอีกฝ่ายจะรู้สึกอย่างไร ขอแค่เขาชอบเธอสักนิด สิ่งนั้นก็ทำให้เธอเริ่มมีความหวัง ตอนที่หานมู่จื่อปรากฏตัว เธอก็เห็นแสงสว่างนัยน์ตาเย่โม่เซิน มันคือแสงสว่าง!
ตอนนั้นหลินชิงชิงยังคิดว่าเขาสนใจตัวตนของเธอในฐานะนักออกแบบ และยื่นนามบัตรของหานมู่จื่อให้เย่โม่เซินด้วยความตื่นเต้น
แต่คาดไม่ถึงว่าเย่โม่เซินจะสนใจหานมู่จื่อ ไม่ใช่ตัวตนฐานะนักออกแบบของเธอ
ถ้าจะบอกว่าที่ทั้งสองได้กลับมาเจอกันอีกครั้งนั้นเป็นเพราะเธอช่วย และพวกเขาสามารถกลับมารื้อฟื้นความสัมพันธ์กันได้ล้วนเป็นเพราะเธอ
พอคิดอย่างละเอียดแล้วก็ยิ่งรู้สึกว่าตัวเองนั้นโง่เง่าขนาดไหน จนทำให้คนอื่นหัวเราะเยาะเอาได้
ไม่!
“ไม่ ไม่ใช่แบบนี้ จะเป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร?”พอคิดถึงตรงนี้ หลินชิงชิงก็ก้าวถอยหลังอย่างไม่ยอมรับและทรุดตัวลงกับพื้น เธอมองไปที่หานมู่จื่อพลางส่ายหัว “ฉันไม่เชื่อ จะเป็นไปได้อย่างไร? เป็นไปได้อย่างไร?”
“ชิงชิง!” เมื่อเห็นเธอล้มลงกับพื้น คุณแม่หลินก็ทนไม่ได้ที่จะก้าวไปข้างหน้าเพื่อพยุงเธอและเช็ดน้ำตา
หานมู่จื่อมองเธอที่เป็นแบบนี้ แม้ว่าปากบอกว่าไม่เชื่อ แต่เห็นได้ชัดว่าในใจเชื่ออย่างสนิทใจแล้ว
แค่ตอนนี้เธอแค่ยังรับไม่ได้
เธอพูดอย่างเรียบๆ “เรื่องที่สมควรพูดฉันก็พูดไปหมดแล้ว เธอจะคิดอย่างไรก็เป็นเรื่องของเธอ อีกสองชั่วโมงก็ต้องขึ้นศาลแล้ว เธอยังพอมีเวลาสำนึก”
พอพูดจบหานมู่จื่อก็ไม่ได้มองเธออีก เธอหันหลังเดินออกไป
เย่โม่เซินมองสองแม่ลูกด้วยแววตาล้ำลึก จากนั้นก็เดินออกไป
ส้งอานมองไปที่ด้านหลังของทั้งสองคนที่จากไป สุดท้ายก็เดินไปหาสองแม่ลูก จากนั้นก็นั่งยองๆตรงหน้าหลินชิงชิง
“น้าส้งอยากขอโทษเธอสำหรับเหตุการณ์นี้ พวกเขารู้จักกันมาก่อนจริงๆ ไม่เพียงแต่เป็นคนรู้จักเท่านั้น พวกเขายังเคยอยู่กินด้วยกันมาเมื่อห้าปีก่อน เธอคงรู้เรื่องที่เย่โม่เซินเคยแต่งงานเมื่อห้าปีก่อนใช่ไหม?”
ริมฝีปากหลินชิงชิงสั่นระริก “หรือว่า…เธอก็คืออดีตภรรยาคนนั้นที่คนอื่นๆพูดถึงกัน?”
ส้งอานพยักหน้าอย่างเงียบๆ
อยู่ๆหลินชิงชิงก็หัวเราะ “เป็นแบบนี้นี่เอง เธอก็คืออดีตภรรยาของเย่โม่เซินสินะ? มิน่าล่ะ…วันนั้นสายตาของเขาดูแปลกไป มิน่าล่ะ…พอฉันเอ่ยชื่อหานมู่จื่อ เขาก็ยอมออกมาหาฉัน ฉันยังคิดว่าเขาจะเปลี่ยนใจมาชอบฉัน ฉันจะได้มีโอกาส แต่ไม่คิดเลยว่า…ทั้งหมดเขาทำเพื่อเธอ”
“ฉันไม่รู้ว่าเธอจะมาโผล่ที่นี่ ฉันคิดมาตลอดว่าเธอเป็นเด็กที่ดีคนหนึ่ง จะต้องสามารถพิชิตใจโม่เซินได้ แต่ว่า…เรื่องสาดน้ำกรดครั้งนี้เลวร้ายเกินไป แม้แต่น้าส้งก็ยกโทษให้เธอไม่ได้ เธอเป็นแค่เด็กผู้หญิงไม่ใช่ผู้หญิงที่ชอบวางแผนทำเรื่องชั่วช้าแบบนี้”
“น้าส้ง หนู…”หลินชิงชิงอ้าปากซีดเซียวพูดอะไรไม่ออก
“แม่ของเธอใช้ความพยายามอย่างมากในการช่วยเธอออกมา ถ้าเธอยังไม่รู้สำนึก เธอก็อย่าคิดจะออกมาเลย ยังมีเวลาอีกสองชั่วโมง เธอเก็บไปคิดเอาเองก็เเล้วกัน”
พอพูดจบ ส้งอานก็ตบไหล่หลินชิงชิงเบาๆ จากนั้นก็เดินจากไป
ดวงอาทิตย์ข้างนอกส่องแสงสว่างไสว ลมพัดผมยาวๆของหานมู่จื่อ เธอยืนดูรถที่กำลังแล่นไปมาที่อยู่ด้านนอก หัวใจของเธอก็สงบลงอย่างช้าๆ
เธอกำลังคิดว่าถ้าตัวเองเป็นหลินชิงชิง
เธอจะคิดว่าตัวเองโดนแย่งคู่แบบเดียวกันกับเธอหรือไม่?
บอกตามตรงเธอไม่รู้ว่าถ้าตกอยู่ในสถานการณ์จริง เธอจะทำแบบนั้นหรือไม่?
และเธอจะเอาน้ำกรดไปสาดหน้าอีกฝ่ายหรือไม่?
หานมู่จื่อหลับตาและสูดหายใจเข้าลึกๆ
จุดนี้เธอรับประกันได้ว่าเธอจะไม่ทำ
ท้ายที่สุดเมื่อการแต่งงานครั้งแรกของเธอโดนมือที่สามเข้ามายุ่งถึงในบ้าน เธอก็เลือกที่จะตัดหางปล่อยวัดแล้วหนีไป เธอไม่มีความสามารถพอที่จะโต้กลับ
เพราะอะไรน่ะหรือ?