บทที่ 52 จัดการเธอด้วยตัวฉันเอง
เซียวซู่เอามือมาปิดตาตัวเอง ทำราวกับว่าตัวเองคือมนุษย์ล่องหน!
เขาไม่เห็นอะไรทั้งนั้น
แต่ว่าถึงแม้ว่าจะปิดตาแต่หูก็ยังได้ยินอยู่ เสียงอู้อี้ของเสิ่นเฉียว นั้นดังเข้ามาในหูอย่างชัดเจนคุณชายเย่รออีกหน่อยไม่ได้หรือไงกัน จะถึงห้องอยู่แล้วเชียว อดใจไม่ไหวที่หน้าลิฟต์เลยเหรอ
จูบนี้ไม่นานนักเพราะเสิ่นเฉียวไม่ทันได้เตรียมตัวเพียงแค่จูบเดียวของเย่โม่เซิน ร่างกายก็ไร้เรี่ยวแรงไปเสียหมดในอ้อมกอดของเขา
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอควบคุมลมหายใจไม่ได้ดังนั้นเย่โม่เซิน จึงรีบปล่อย แล้วจับปลายคางของเธอ พูดด้วยเสียงแหบว่า “เธอไปทำอะไรเย่หลิ่นหานกันแน่ เขาถึงได้ใส่ใจเธอนัก”
อยากจะมาอุ้มเธอด้วยตัวเองอีก
เคยถามความเห็นของเย่โม่เซินหรือยัง
เสิ่นเฉียวกะพริบตาที่ดูสดใสต่อหน้าเย่โม่เซิน เธอถามอย่างไม่เต็มปากนักว่า “เย่หลิ่นหาน คือใครเหรอ”
เย่โม่เซินขมวดคิ้วและหรี่ตา “ไม่รู้จักเหรอ”
“อืม” เธอพยักหน้าราวกับไก่จิกข้าว
เย่โม่เซินเงียบไปสักพักแล้วถามว่า “งั้นฉันเป็นใคร”
เซียวซู่ที่อยู่ข้างๆ “……..”
น่ากลัวนิดหน่อยนะ
เสิ่นเฉียวจ้องมองที่คนเบื้องหน้า ดวงตาสวยจ้องมองเขาแล้วถามขึ้นว่า “เธอเป็นใคร”
เย่โม่เซินสีหน้าเปลี่ยนไป กล้าดียังไงที่ไม่รู้ว่าเขาคือใคร คิดไปคิดมาบรรยากาศรอบตัวคลายความกดดันลงเล็กน้อยเย่โม่เซินมองมาที่เธอด้วยสายตาอันตราย “ฉันให้เวลาเธอหนึ่งนาที คิดให้ออกว่าฉันคือใคร”
“เย่โม่เซิน”
เย่โม่เซินพูดจบเสิ่นเฉียวก็พูดขึ้นมา เสียงของเธอสดใสกังวานพร้อมๆ กับเสียงของประตูลิฟต์ เซียวซู่ยังยืนอยู่ตรงที่เดิมไม่รู้ว่าตอนนี้จะเข็นเขาต่อดีไหม
“เมื่อกี้เธอยังไม่ตอบคำถามของฉันเลย ทำไมต้องมายุ่งเรื่องของฉันด้วย” เมื่อคิดขึ้นได้ว่าคนข้างหน้าเย่โม่เซิน เสิ่นเฉียวจึงกลับไปถามคำถามเดิมอีกครั้ง
เย่โม่เซินแค่รู้สึกปวดหัว ยัยเด็กคนนี้จะไม่ยอมปล่อยไปเลยใช่ไหม
“กลับห้อง” เย่โม่เซินสั่งด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือกเซียวซู่พยักหน้าแล้วเข็นพวกเขาออกไป ประตูและเข้าห้องไปเพียงครู่เดียวเท่านั้น
ไม่ง่ายเลยที่พาพวกเขากลับมาที่ห้องเซียวซู่ปาดเหงื่อ “คุณชายเย่งั้นผมไปก่อนนะครับ”
“รอก่อน เรียกคนรับใช้สองคนนั้นมา”
“ครับ”
ไม่นานนักเซียวซู่ก็เรียกคนรับใช้ขึ้นมา แล้วออกไปรอข้างนอก
สาวใช้พยายามดึง เสิ่นเฉียวลงมาจากเย่โม่เซินจากนั้นจึงพาเธอไปส่งที่เตียงเสิ่นเฉียวไม่หยุด ขัดขืนไม่หยุด เมื่อจัดการเธอเรียบร้อยแล้ว ทุกคนต่างพากันปาดเหงื่อ
“ได้แล้วล่ะ ออกไปได้”
หลังจากสาวใช้ออกไปแล้วเย่โม่เซินเลื่อนเก้าอี้ไปข้างเตียงเสิ่นเฉียว และจ้องมองที่เงียบสงบลงแล้ว
เมื่อกี้ที่เธอขัดขืน อยู่ดีๆ เธอก็ร้องไห้เสียงดังทำให้โม่เซินรู้สึกตกใจ
ตอนนนี้ฉันอยู่ที่ข้างหน้าเธอมองดูอย่างละเอียดอีกทีพบว่าเด็กคนนี้ไม่มีอะไรเปลี่ยนไปสักนิด
“ดื่ม……ดื่มอีกแก้ว”
อยู่ดีๆ เสิ่นเฉียวพูดพึมพำออกมาแล้วพลิกตัว
เย่โม่เซินมองเธออย่างนิ่งๆ แล้วคิดว่าเธอก็เป็นผู้หญิงที่ดีคนหนึ่งจริงๆ
เซียวซู่รออยู่ข้างนอกสักพักได้ยินเสียงของเย่โม่เซินแล้วจึงเข้าไปใหม่ เข้าไปแล้วไม่กล้ามองอะไรทั้งนั้น
“คุณชายเย่เมื่อกี้คนพึ่งเอามาให้ คิดว่าน่าจะเป็นของคุณหนูเสิ่น”
เย่โม่เซินรับของมา เมื่อเปิดดูก็เป็นของของเสิ่นเฉียวทั้งนั้นแต่กระเป๋าก็พังไปเสียหมดแล้ว “เก็บของไว้ กระเป๋าใบนี้ทิ้งไปซะ”
“ครับ”
“แล้วก็เอากะละมังใส่น้ำมา”
เซียวซู่เอากะละมังใส่น้ำมาให้เย่โม่เซิน ไม่ทันรอให้เขาพูดอะไรก็เอากะละมังวางไว้ที่ข้างหัวเตียง
เย่โม่เซิน “รู้แล้วเหรอว่าฉันจะทำอะไร”
เซียวซู่ยิ้มอย่างมีเลศนัย “ผมอยู่กับคุณชายเย่มานาน เรื่องแค่นี้ถ้าผมไม่รู้ ผมจะเป็นผู้ช่วยได้อย่างไรล่ะครับ”
หลังจากได้ยินดังนั้น เขาจึงเงยหน้าขึ้นมามองแล้วขมวดคิ้ว “งั้นเหรอ ทำไมเธอถึงคิดไม่ได้ว่าฉันจะสาดน้ำใส่หน้าเธอ ให้เธอตื่นล่ะ”
เซียวซู่ร่างกายสั่นเทา “คุณชายเย่จะทำแบบนี้จริงๆ เหรอครับ”
“บิดผ้าขนหนูให้ฉัน”
เซียวซู่ถอนหายใจโล่งอก โชคดีที่ คุณชายเย่ไม่ทำแบบนั้น
เซียวซู่ส่งผ้าขนหนูที่บิดแล้วให้เขาวางผ้าเช็ดตัวและเช็ดแก้มของเธอเบาๆ เสิ่นเฉียวรู้สึกไม่สบายตัว เธอยกมือสะบัดผ้าขนหนูออก “อย่ามาโดนฉัน”
เย่โม่เซินหยุดไปสักพักแล้วเช็ดต่อ
เสิ่นเฉียวขัดขืน ยกมือขึ้นมาเพื่อจะตีเขาอีกครั้งแต่กลับโดนเย่โม่เซิน ขู่ไว้ว่า “ถ้าขยับอีกฉันจะโยนเธอลงไปเดี๋ยวนี้”
เซียวซู่พูด น่ากลัวเกินไปแล้ว!
แผนนี้ใช้ได้ผลกับเสิ่นเฉียว โดนเย่โม่เซินขู่แล้วก็ไม่ขยับอีก อยู่นิ่งๆ ให้เย่โม่เซินวางผ้าขนหนูไว้บนหัว
เวลาผ่านไปเรื่อยๆ เย่โม่เซินมือของหยุดลงกะทันหัน มองดูเธอที่นอนขมวดคิ้วอยู่บนเตียง
เป็นอะไร?
เซียวซู่เห็นเย่โม่เซินมีอาการแปลกไป แล้วจึงมองตาม
เห็นแค่เสิ่นเฉียวที่นอนอยู่นิ่งๆ แต่ไม่รู้ทำไมน้ำตาจึงไหลออกมา
น้ำตาราวกับคริสทัลไหลลงมา ไม่นานนักหมอนก็เปียกชุ่ม
นี่ นี่อะไรกัน เป็นอะไรไป
“ทำไม” เสิ่นเฉียวที่ร้องไห้ไม่หยุดพูดเสียงเบา
“แม่ แม่ ฮือๆ หนูเป็นลูกของแม่”
เธอร้องไห้สะอึกสะอื้นเสิ่นเฉียวขมวดคิ้วแน่น
เซียวซู่รู้สึกทำตัวไม่ถูกมองไปที่เย่โม่เซินแล้วไม่รู้จะทำยังไงเกี่ยวกับเรื่องนี้
เย่โม่เซิน ใบหน้าซ่อนเร้นอารมณ์เอาไว้ดูไม่ออกว่ารู้สึกอย่างไรแล้วส่งผ้าขนหนูไปให้เซียวซู่“ล้างให้สะอาด”
เซียวซู่ล้างผ้าขนหนูแล้วบิดผ้าส่งกลับคืนให้เย่โม่เซิน แล้วถามอย่างระมัดระวังว่า
“เอ่อ…..คุณชายเย่ผู้ช่วยเสิ่นเธอมีเรื่องทุกข์ใจอะไรหรือเปล่า”
เย่โม่เซินไม่ได้ตอบอะไร มือเขาหยุดลงจากนั้นจึงใช้นิ้วเรียวเช็ดซับน้ำตาให้เธอ “เธอกลับไปก่อนเถอะ”
“แต่คุณชายเย่ยังไม่ได้…”
“เรื่องของฉัน ฉันจัดการเองได้”
พูดเสร็จเซียวซู่ดวงตาเบิกโตแล้วพูดว่า “คุณชายเย่ไม่นะครับ หากคุณเปิดเผยแล้วล่ะก็…..”
“ห้องนี้มีอะไรให้เปิดเผย”
“ถ้าคุณหนูเสิ่นรู้เข้า….”
“ไม่เป็นไร” เย่โม่เซินมีสีหน้าไม่แยแส “เธอรู้ก็ไม่เป็นไร ถ้าเธอพูดออกไปล่ะก็ ฉันจะจัดการเธอเอง”
เซียวซู่ “……….” ในระหว่างนี้ไม่รู้จะพูดอะไรดี
จะจัดการเธอด้วยตัวเอง เธอทำได้เหรอ