บทที่523 เยาะเย้ยกัน
แกร๊ก——
หานมู่จื่อถือผลไม้กลับมาถึงหน้าประตูบ้าน ตอนที่กำลังเปลี่ยนรองเท้าหน้าประตูนั้นก็ได้เจอกับเสี่ยวเหยียนพอดี
“ดึกขนาดนี้แล้ว เธอไปไหนมา? ”
ริมฝีปากของหานมู่จื่อขยับ แล้วก็ขยับถุงในมือเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น “ลงไปซื้อผลไม้หน่อยน่ะ”
พอได้ยินดังนั้น เสี่ยวเหยียนก็หันไปดูเวลา “ฉันจำได้ว่าเธอออกไป50นาทีแล้วไม่ใช่เหรอ? ตอนที่ลงไปซื้อผลไม้ก็ไปเดินเล่นรอบๆ ด้วยเหรอ? ”
เธอพูดแบบนี้ เท่ากับว่ามีความหมายอะไรแฝง เสี่ยวเหยียนมองมาที่เธอด้วยสายตาหยอกล้อแปลกๆ
หานมู่จื่อ:“……”
ก็แค่อยากจะหยอกล้อไม่ใช่เหรอ? หานมู่จื่อเอาผลไม้ไปเก็บที่ห้องครัว และพูดว่า “ใช่ เพราะว่ากินข้าวอิ่มเกินไป ก็เลยลงไปเดินเล่นข้างล่างหน่อย ถึงแม้ว่าจะนานไปหน่อย แต่ว่าก็ดีกว่าคนที่อยู่แต่ข้างบนไม่กล้าลงไปข้างล่างเยอะเลยไม่ใช่เหรอ? ”
รอยยิ้มที่กำกวมบนใบหน้าของเสี่ยวเหยียนเมื่อกี้นี้แข็งทื่อในทันที
“ถูกไหมล่ะ? ” หานมู่จื่อกะพริบตา และก็ยิ้มตาม
เสี่ยวเหยียนกลับฝืนยิ้มต่อไปไม่ได้แล้ว เธอทำหน้ามุ่ยและพูดว่า “ถ้าไม่รังแกฉันแล้วจะตายรึยังไง? เรื่องเก่าๆ ที่ผ่านมาหลายปีมากแล้วยังเอามาพูดอีก! ”
“เหมือนกันนั่นแหละ”
หลังจากนั้นเสี่ยวเหยียนก็นั่งลงบนโซฟา นั่งอยู่ตรงนั้นพร้อมกับถือหมอนด้วยสีหน้าบึ้งตึง
“เหตุผลที่ฉันไม่กล้าลงไปข้างล่าง ก็เจ้าชายที่สง่างามดีเลิศขนาดนั้น ฉันไม่กล้าเข้าใกล้เขาแล้วมันจะมีปัญหาอะไรล่ะ”
หานมู่จื่อก็นั่งลงข้างๆ เธอ “ใช่ไง นี่คือความคิดของเธอ”
เธอเอาหมอนมากอดไว้ในอ้อมแขนด้วยเหมือนกัน พอนึกถึงคำพูดที่พยาบาลคนนั้นพูดกับเธอ ก็รู้สึกแน่นหน้าอกเล็กน้อย
“อ้อ คุณคือคนที่มาดูแลเขาก่อนหน้านี้ตลอดใช่ไหมคะ? ทำไมเขาออกจากโรงพยาบาลไปแล้วคุณยังไม่รู้อีกล่ะ? ”
ก่อนหน้านี้เธอไปดูแลเขาบ่อยๆ ก็จริง แต่ว่า……หลังจากนั้นก็ไม่ได้ไปแล้วไง เพราะฉะนั้นเธอจะไม่รู้ก็เป็นเรื่องปกติมากไม่ใช่เหรอ?
“เธอไปเยี่ยมเขาที่โรงพยาบาลอีกแล้วเหรอ? ”เสียงของเสี่ยวเหยียนดังขึ้นมาจากทางด้านซ้าย หานมู่จื่อพยักหน้าโดยที่ไม่รู้ตัว แต่ว่าหลังจากนั้นก็ส่ายหน้า “เขาออกจากโรงพยาบาลแล้ว”
“ออกจากโรงพยาบาลแล้ว? เอ่อ……”เสี่ยวเหยียนรู้สึกสับสนเล็กน้อยขึ้นมาทันที “แล้วเธอยังจะไปหาเขาที่โรงพยาบาลอีกน่ะเหรอ? นี่เธอกินอิ่มจนล้นเลยหรือไง? ”
“ฉันพึ่งรู้ตอนไปถึงนี่เอง”
เสี่ยวเหยียน:”ก็ได้ ดูเหมือนว่าเธอจะถูกหลอกนะเนี่ย คนๆนี้นี่แย่จริงๆ ก่อนหน้านี้เธอไปดูแลเขามาตั้งนาน พอตัวเองออกจากโรงพยาบาลแล้วจะไม่บอกเธอหน่อยเลยหรือไง? ”
หานมู่จื่อไม่ได้พูดอะไร
พอเห็นว่าเธอไม่พูดอะไร เสี่ยวเหยียนก็อดไม่ได้และถามอีกครั้ง “เขาคงไม่ได้แม้แต่ไม่ทักวีแชทเธอมาเลยใช่ไหม? ”
หานมู่จื่อที่เงียบอยู่นานในที่สุดก็เงยหน้าขึ้นมามองเธอ หลังจากนั้นก็ค่อยๆ คลี่ยิ้มออกมา “อาทิตย์นี้ฉันไม่ได้ไปหาเขาที่โรงพยาบาลเลย พอเขาได้ออกจากโรงพยาบาลแล้วไม่ได้บอกฉันมันก็เป็นเรื่องปกติไม่ใช่เหรอ? ”
“โอเค ค่ำแล้ว รีบไปพักผ่อนเถอะนะ” หานมู่จื่อลุกขึ้นแล้วเดินขึ้นไปชั้นบน เห็นได้ชัดว่าเธอไม่อยากจะพูดเรื่องนี้ต่อแล้ว
เสี่ยวเหยียนเห็นว่าแผ่นหลังของเธอดูหดหู่เล็กน้อย ก็พึมพำกับตัวเองว่า “ธรรมดาตรงไหนกัน ถ้าเกิดว่าเขาแคร์เธอมากจริงๆ คงจะไม่พูดอะไรสักคำแบบนี้หรอก? นี่เขาทำให้เธอไปแบบเสียเที่ยวไม่ใช่เหรอ? ”
ถึงแม้ว่าเธอจะพูดเบามาก แต่ว่าใครให้ในห้องมันเงียบมากขนาดนี้ หานมู่จื่อก็เลยได้ยินสิ่งที่เธอพูดเมื่อกี้นี้ทั้งหมด
ฝีเท้าของเธอหยุดชะงัก แต่ว่าก็ก้าวไปข้างหน้าต่อ พร้อมกับเม้มริมฝีปากบางๆ ของเธอ
บางที เขาอาจจะไม่ได้แคร์ขนาดนั้นจริงๆ ก็ได้
*
วันเวลาผ่านไปโดยปกติ 2-3วันผ่านไป เย่โม่เซินก็เหมือนกับว่าจะหายไปจากชีวิตเธอแล้วจริงๆ
แต่ว่าชื่อของเขายังคงอยู่ในใบรายชื่อลูกค้าของบริษัทของหานมู่จื่อ
เพราะว่าเขาไม่เคยพูดถึงข้อเรียกร้อง และก่อนหน้านี้สิ่งที่เขาสั่งก็คือหานมู่จื่อ ดังนั้นตอนนี้ก็ยังไม่สามารถดำเนินการขั้นต่อไปได้
ในเมื่อเป็นลูกค้า หานมู่จื่อก็เลยคิดว่า เธอก็ควรจะติดต่อลูกค้าคนนี้ไปหน่อย
แต่ว่าพอนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ หานมู่จื่อก็รู้สึกว่า……บางที เย่โม่เซินก็อาจจะเริ่มรู้สึกรังเกียจเธอแล้วก็ได้ ก่อนหน้านี้เขาสั่งซื้อจากบริษัทเธอเพราะว่าความรู้สึกเก่าๆ แล้วตอนนี้ล่ะ?
หรือว่า……เธอเอาใบรายการนี้ให้คนอื่นทำดีไหม?
พอคิดมาถึงตรงนี้ หานมู่จื่อก็นึกถึงเรื่องที่ครั้งก่อนเลิงเยาเยาไม่ได้ทำออเดอร์ของหลินซิงหั่วให้ดี ก็ยังไม่ได้ให้โอกาสเธอได้แก้ตัวเลย หรือว่าครั้งนี้มอบโอกาสนี้ให้เธอดี?
หลังจากที่เลิงเยาเยาได้รับข่าวคราวนี้ ก็รู้สึกเหมือนกับว่าตัวของถูกของดีที่ตกลงมาจากฟ้าชนเข้า
อ้อไม่สิ ชนจนมึนหัวไปหมด
เธอบื้ออยู่นานก่อนจะดึงแขนเสื้อของหานมู่จื่อและถามอย่างอ่อนแรงว่า “เธอ……เธอจะมอบโอกาสครั้งนี้ให้ฉันจริงๆ เหรอ? ”
หานมู่จื่อพยักหน้า “อืม แต่ว่าจะทำได้ไหมมันก็ต้องขึ้นอยู่กับตัวเธอเองแล้วนะ เธอตกลงไหม? ”
“ที่จริงแล้ว การที่เธอยอมมอบโอกาสแบบนี้ให้ฉัน ฉันก็ดีใจมากแล้ว แต่ว่า……ฉันรู้เรื่องระหว่างเธอกับคุณชายเย่ การที่เธอเอารายการมาให้ฉันทำแบบนี้มันไม่ค่อยดีเท่าไหร่มั้ง? ต่อให้ฉันตกลงทำ แต่ว่าฝ่ายตรงข้ามอาจจะไม่ยอมให้ฉันทำก็ได้ ดังนั้นนะมู่จื่อ ฉันว่ารายการนี้เธอเป็นคนทำเองน่าจะดีกว่านะ”
หานมู่จื่อตะลึงไป ตอนแรกเธอพาเลิงเยาเยาไปงานแถลงข่าว
แต่ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในงานแถลงข่าวนั้นเธอไม่รู้อะไรเลย
แล้วตอนนี้จะเอางานนี้ให้เธอทำก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยาก
“ฉัน……”
“แต่ว่าถ้าเกิดว่าเธอไม่ไหวจริงๆ ฉันรับแทนเธอก็ได้ แต่ว่า……ฉันอาจจะทำไม่ได้ก็ได้ เมื่อก่อนที่เธอยอมเอารายการของหลินซิงหั่วให้ฉันทำ แถมยังพาฉันไปงานแถลงข่าว ฉันซึ้งใจจริงๆนะ ดังนั้น……ครั้งนี้ก็ถือว่าฉันตอบแทนบุญคุณเธอก็แล้วกัน! ”
ริมฝีปากของหานมู่จื่อขยับ “เธอไม่ต้องคิดแบบนี้หรอก ถ้าเกิดว่ารายการสั่งซื้อนี้เธอทำออกมาได้ดี เธอก็มีโอกาสจะได้รับโบนัสก้อนโตเลยนะ”
“อืม งั้นก็เอาตามนี้แล้วกัน ฉันเองก็ต้องการเงินโบนัสก้อนนี้เหมือนกัน ถ้ายังงั้นก็ให้ฉันทำเถอะ แต่แค่ว่า……ถ้าเกิดว่าถึงเวลาแล้วฉันทำไม่ได้จริงๆ ก็จะส่งคืนให้เธอทำแล้วกันนะ”
ท่าทางของเลิงเยาเยาแบบนี้ ทำให้หานมู่จื่อมองเธออย่างชื่นชมจริงๆ
เธอมองเลิงเยาเยาแล้วยิ้ม อดไม่ได้ที่จะพูด
“เธอนี่ช่างทำให้ฉันชื่นชมจริงๆ เลยนะ”
ตอนที่หานมู่จื่อไม่ได้ออกปากชมเลิงเยาเยายังพูดคุยแบบปกติได้ แต่พอชมแล้ว สีหน้าของเลิงเยาเยาก็ดูไม่สบอารมณ์ทันที
“เธอพูดอะไรกัน? ใครอยากให้เธอมามองฉันอย่างชื่นชม? แล้วอีกอย่างที่ฉันทำงานนี้ไม่ใช่เพราะว่าเธอกำลังลำบากหรอกเข้าใจไหม? ฉันทำก็เพราะว่าฉันต้องการเงินโบนัสให้ตัวเองต่างหาก เธอคงไม่ได้หลงตัวเองแล้วคิดว่าฉันทำเพื่อเธอหรอกใช่ไหม? ”
หานมู่จื่อ“……ฉันยังไม่ได้พูดอะไรเลยนะ”
เลิงเยาเยา “เธอต้องคิดว่าฉันทำเพื่อเธอแน่ๆ หึ ใช่ที่ไหนกัน! ”
เลิงเยาเยาหมุนตัวแล้ววิ่งออกไป
เหลือไว้แต่หานมู่จื่อกับเสี่ยวเหยียน ทั้งสองคนมองหน้ากัน
หลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง ทั้งสองคนก็ระเบิดหัวเราะออกมา
“เลิงเยาเยาคนนี้จะทำให้ฉันหัวเราะจนตายเลยหรือไง? ทั้งๆ ที่วินาทีก่อนหน้ายังจริงจังขนาดนั้น แต่หลังจากนั้นก็ไม่สบอารมณ์ขนาดนี้เหรอ? ทำไมฉันถึงได้รู้สึกว่า ทุกครั้งที่เธอชมเธอ เธอก็จะไม่สบอารมณ์ขนาดนี้? ”
เสี่ยวเหยียนเอามือจับหน้าอกไว้ หัวเราะไปด้วยแล้วก็แขวะไปด้วย
มีรอยยิ้มเล็กน้อยที่ริมฝีปากของหานมู่จื่อ เธอพยักหน้า ยิ้มและพูดว่า “น่าจะเป็นแบบนั้นนะ แต่ว่า……แบบนี้ก็น่ารักมาก ไม่ใช่เหรอ? ”
“หึ! ถ้าให้เทียบความน่ารัก ฉันไม่แพ้นางหรอก! มู่จื่อ เธอห้ามตกหลุมรักคนอื่นนะ มีแค่ฉันเท่านั้นที่จะเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของเธอ! ”
“เพื่อนที่ดีที่สุดงั้นเหรอ? ” หานมู่จื่อเลิกคิ้ว “คนบางคนอยากเป็นพี่สะใภ้ฉันไม่ใช่เหรอ? หรือว่าเธอเต็มใจจะเป็นเพื่อนรักฉันไปตลอดชีวิต? ”
“เชอะ ไม่คุยกับคนที่ชอบซ้ำเติมแบบเธอแล้ว ไม่สนใจแล้ว! ”