เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ – ตอนที่ 525 ฉันไม่ได้มีเจตนาร้าย

บทที่525 ฉันไม่ได้มีเจตนาร้าย

ทั้งๆ ที่เป็นแม่คนแล้ว

รอยยิ้มบนใบหน้าของหานมู่จื่อจางลงเยอะ ไม่ได้ตอบรับคำพูดของหานชิง

หลังจากเล่นอย่างสนุกสุดเหวี่ยงในสนามเด็กเล่นอยู่เกือบครึ่งวันนั้น พอเสี่ยวเหยียนกับเสี่ยวหมี่โต้วได้ขึ้นรถก็เหนื่อยจนพิงกันและกันและหลับไป

ยังไงก็เป็นพวกเขาที่เล่นเครื่องเล่นหลายอย่างด้วยกัน ส่วนหานชิงกับหานมู่จื่อก็คอยดูอยู่ด้านหลัง

“ไปกินข้าวเหรอ? ” หานชิงรัดเข็มขัดเสร็จก็หันกลับมามองคนที่นั่งอยู่ด้านหลัง

หานมู่จื่อก็หันกลับไปเหมือนกัน คิดอยู่ครู่หนึ่งและส่ายหัว “กลับบ้านเถอะ พวกเขาเหนื่อยแล้ว ให้พวกเขากลับไปพักผ่อน เดี๋ยวตอนเย็นฉันทำกับข้าวที่บ้านก็พอแล้ว”

“อืม” หานชิงพยักหน้า เขาเองก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน

จะทำกับข้าวก็ต้องไปซื้อวัตถุดิบ แต่ว่าถ้าไม่มีคนอยู่บ้านหานมู่จื่อก็รู้สึกไม่วางใจ ดังนั้นก็เลยให้หานชิงอยู่บ้านเฝ้าเสี่ยวหมี่โต้วกับเสี่ยวเหยียน และตัวเองก็ไปซุปเปอร์มาร์เก็ตใกล้ๆ คนเดียว

พอไปเดินซุปเปอร์มาร์เก็ตคนเดียวแล้วก็จะไม่เดินอ้อยอิ่งดูของไปเรื่อยๆ หานมู่จื่อซื้อของที่จำเป็นมาทั้งหมดอย่างรวดเร็ว ตอนที่เธอเข็นรถเข็นเตรียมจะไปจ่ายเงินนั้น ตอนที่กำลังเลี้ยวนั้นก็ได้เจอกับร่างที่คุ้นเคย

ปลอกคอสีขาวถูกรีดโดยไม่มีรอยยับใดๆ ชุดสูทสีน้ำเงินเข้มเผยให้เห็นออร่าของอีกฝ่าย ดวงตาของผู้ชายอ่อนโยน ตอนที่เห็นว่าเธอมองมานั้น คนๆนั้นก็ค่อยๆ คลี่ยิ้มออกมา เหมือนกับสายลมในฤดูใบไม้ผลิ

เท้าของหานมู่จื่อหยุดเดิน หลังจากนั้นก็ทำเหมือนกับว่าไม่เห็นคนๆนั้นแล้วก็เข็นรถไปข้างหน้าต่อเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ไม่คิดเลยว่าจะมาเจอเขาที่นี่ เย่หลิ่นหาน

เย่หลิ่นหานเห็นว่าเธอยังคงเมินตัวเอง สีหน้าของเขาก็ไม่ได้ดูประหลาดใจเท่าไหร่ เหมือนจะเดาได้แต่แรกแล้วว่าหานมู่จื่อจะทำแบบนี้กับเขา

ดังนั้นเขาก็เลยเดินตามเธอไปอย่างรวดเร็ว

“ฉันให้เบอร์เธอไป เธอทำหายเหรอ? ”

เขาเดินข้างเธอและถาม

หานมู่จื่อเม้มริมฝีปากสีแดงสดของเธอ สีหน้าเย็นชาแต่ก็ไม่ได้ตอบอะไรเขา

เย่หลิ่นหานยิ้ม เขาก็ไม่ได้ถือสาอะไร พร้อมกับอธิบายว่า “ฉันรอมาตั้งหลายวัน เธอก็ไม่ติดต่อฉันมาเลย ดังนั้นฉันก็เลยทำได้แค่มารอเธอที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตนี้”

ประโยคนี้ทำให้หานมู่จื่อหยุดเดินแป๊บหนึ่ง แต่ว่าเธอก็เดินไปข้างหน้าต่อ ไม่อยากจะสนใจเขา

“เพื่อนเก่าเจอหน้ากัน เธอจะไม่คุยกับฉันสักประโยคหนึ่งเลยเหรอ? แค่ทักทายก็ยังดี”

เธอยังคงไม่ได้ตอบอะไรเหมือนเดิม

เย่หลิ่นหานเดินมาถึงแคชเชียร์กับเธอ เย่หลิ่นหานก็หยิบของในรถเข็นของเธอวางขึ้นไปบนเคาน์เตอร์เพื่อให้แคชเชียร์สแกน

หานมู่จื่อ :“……”

การรวมตัวของหนุ่มหล่อและสาวสวยมักจะสะดุดตาเป็นพิเศษ และยิ่งไปกว่านั้นหานมู่จื่อและเย่หลิ่นหานก็ไม่ใช่ชายหนุ่มสาวสวยธรรมดาๆ ทั่วไป บวกกับการกระทำของเย่หลิ่นหานที่ดูเอาใจใส่ขนาดนี้ ทำให้สายตาของแคชเชียร์คนนั้นเต็มไปด้วยความอิจฉาทันที อดไม่ได้ที่จะพูดเสริม “คุณผู้หญิงคะ แฟนคุณหล่อมากเลยนะคะ”

มือของเย่หลิ่นหานหยุดทันที หลังจากนั้นก็เหลือบไปมองหานมู่จื่อ

สีหน้าของเธอยังคงนิ่งเรียบ ไม่พูดอะไรตั้งแต่ต้นจนถึงตอนนี้

“เขาไม่ใช่แฟนของฉันหรอกค่ะ ฉันกับเขาไม่ได้รู้จักกัน”

รอยยิ้มบนใบหน้าของแคชเชียร์คนนั้นหายไปทันที

เธอเม้มปากอย่างเก้อเขิน หลังจากนั้นมองไปที่มือของเย่หลิ่นหาน ถ้าเกิดว่าไม่ได้รู้จักกัน แล้วทำไมผู้ชายคนนี้ต้องหยิบของแทนหานมู่จื่อด้วยล่ะ? หรือว่า……แค่ใจดี?

หรือว่า เมื่อกี้ได้เจอกันในซุปเปอร์มาร์เก็ต แล้วเห็นว่าหานมู่จื่อสวยดี ก็เลยอยากจะชวนคุยยังงั้นเหรอ?

หลังจากในหัวของพนักงานคนนั้นคิดเค้าโครงเรื่องได้เป็นหมื่นเรื่องก็เริ่มสแกนของ ครั้งนี้หานมู่จื่อไม่ให้โอกาสเย่หลิ่นหาน มือเธอส่งบัตรเครดิตให้พนักงานอย่างว่องไว

ถ้าจะรูดบัตรต้องกดรหัสผ่าน

ตอนที่พนักงานส่งเครื่องป้อนรหัสให้เธอนั้น หานมู่จื่อกำลังคิดว่าจะหันไปเตือนเย่หลิ่นหานว่าควรไปได้แล้ว ใครจะไปคิดว่าตอนที่เธอหันไปนั้น ก็ไม่เห็นเขาแล้ว

หานมู่จื่อ:“……”

เธอป้อนรหัสลงไปอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นก็เก็บบัตร ถือถุงขึ้นมาแล้วก็เดินออกไปทันที

พอออกมาจากซุปเปอร์มาร์เก็ตแล้ว หานมู่จื่อวางแผนจะเดินกลับ แต่ก็พบว่าด้านหลังของเธอที่ยืนอยู่ใต้เสาไฟนั้นมีร่างของคนหนึ่งเพิ่มมา

เธอทั้งโกรธและไม่มีทางเลี่ยงจริงๆ ไม่อยากจะให้เขาตามมา ไม่อยากรู้จักและ และก็ยิ่งไม่อยากจะคุยกับเขา

พอเดินไปได้ไม่ไกล หานมู่จื่อก็หยุดเดินด้วยความโกรธ และทันใดนั้นเย่หลิ่นหานก็กลับก้าวขึ้นมาแล้วแย่งถุงในมือของเธอไป

“หนักเกินไปเหรอ? เดี๋ยวฉันช่วยเธอถือ”

หานมู่จื่อ :“……”

นี่เธอเห็นภาพลวงอยู่รึเปล่า? ทำไมนิสัยของ2พี่น้องถึงได้ไม่เหมือนกับเมื่อ5ปีก่อนเลยแม้แต่นิดเดียว?

แน่นอนว่าคนที่เปลี่ยนไปมากที่สุดก็คือเย่โม่เซิน

ระยะเวลา5ปีสามารถเปลี่ยนคนๆหนึ่งได้จริงๆ เหรอ?

ไม่ มันไม่เป็นเช่นนั้นแน่นอน

ยังไงเธอก็เห็นการกระทำที่เย่โม่เซินทำกับคนอื่นแล้ว ไม่ว่าจะเป็นกับพนักงานในบริษัทของตัวเอง หรือว่ากับหลิงชิงชิง เขาไม่อยากแม้แต่จะเหลือบมองด้วยซ้ำ

แต่ว่ากับตัวเองแล้ว……

ใน5ปีมานี้ มีเส้นอะไรเกิดข้อผิดพลาดขึ้นงั้นเหรอ?

เธอมองไปที่ถุงที่ถูกเย่หลิ่นหานแย่งไป ตอนที่เตรียมจะบอกว่าเธอไม่ต้องการนั้น เย่หลิ่นหานก็พูดขึ้นมาก่อน “เธออยู่ตรงเขตด้านหน้านั้นใช่ไหม? ฉันเห็นว่าเธอออกมาจากตรงนั้น ไปกันเถอะ เดี๋ยวฉันไปส่งเธอที่หน้าประตู”

หานมู่จื่อ :“……”

หลังจากพูดจบ เย่หลิ่นหานก็เดินนำไปข้างหน้าก่อน ร่างที่สูงยาวของเขาพอถูกไฟริมถนนส่องจนเป็นเงายาว

หานมู่จื่อคิด แล้วก็เดินตามไป

ตอนที่มาถึงด้านหน้าประตูเขตนั้น เย่หลิ่นหานก็หยุดเดิน “มาส่งแค่ตรงนี้แล้วกัน เธอเข้าไปเถอะ ดึกแล้วระวังความปลอดภัยด้วยนะ”

หานมู่จื่อรับถุงนั้นมา เธอเดินเข้าไปในเขตนั้นโดยที่ไม่แม้แต่คิดด้วยซ้ำ

หลังจากเดินไปได้ไม่กี่ก้าว ก็ยังคงรู้สึกได้ถึงสายตาของเย่หลิ่นหานที่มองมา เธอหยุดเดิน หลังจากนั้นก็หันไปมอง

เย่หลิ่นหานยังคงคลี่ยิ้มที่เหมือนฤดูใบไม้ผลิให้กับเธอ เหมือนกับเมื่อก่อน……

อยากจะรู้จักกันอีกครั้งงั้นเหรอ?

สายตาของหานมู่จื่อสับสน กัดริมฝีปากล่างด้วยอารมณ์ที่ซับซ้อน

เย่หลิ่นหานเข้าใจความคิดของคนอื่นได้ดี หลังจากเห็นแววตาของหานมู่จื่อแล้วนั้นเขาก็ตะลึงไปเล็กน้อย หลังจากนั้นไม่นานเขาก็ยิ้มแล้วพูดว่า “ไม่ต้องคิดอะไรเยอะหรอก ฉันไม่ได้มีเจตนาร้าย ก็แค่อยากจะเจอเพื่อนเก่าก็เท่านั้นเอง เข้าไปเถอะ”

แค่อยากเจอเพื่อนเก่าจริงๆ เหรอ?

หานมู่จื่อกลับรู้สึกว่า เรื่องนี้มันไม่ได้ง่ายขนาดนั้น

การปรากฏตัวของเขา มันเหมือนฟันเฟืองแห่งโชคชะตาเริ่มหมุนทีละนิด หลายๆ เรื่อง……มันไม่ได้เรียบง่ายเหมือนเมื่อก่อนแล้ว

สุดท้าย หานมู่จื่อก็ยังคงไม่ได้พูดอะไรแม้แต่ประโยคเดียว หันหลังไปแล้วก็เดินลับจากสายตาของเย่หลิ่นหานไป

หลังจากร่างของคนตรงหน้าหายไปแล้ว เย่หลิ่นหานก็เก็บสายตา ในขณะเดียวกันรอยยิ้มบนใบหน้าของเขาก็ค่อยๆ หายไปทีละนิด

เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา แล้วก็คลิกเปิดรูปเด็กที่ผู้ช่วยของเขาส่งมาให้

ลักษณะบนใบหน้าเหมือนกับเย่โม่เซินเป๊ะ เพียงแค่หว่างคิ้วเท่านั้นที่ดูเย็นเหมือนกับหานมู่จื่อ ดังนั้นเด็กคนนี้ถึงได้หน้าตาดูงดงามและละเอียดอ่อนมาก

มองแค่แวบเดียว ก็สามารถจำได้แล้ว

ผู้ช่วยของเขาค้นหาข้อมูลมาทั้งหมด ใช้เวลานานมากกว่าจะหาหน้าตรงๆ ได้แบบนี้ แถมยังมีรูปที่ไม่ค่อยชัดเจนอีกด้วย

ดูเหมือนว่าหลายปีมานี้ หานมู่จื่อจะปกป้องลูกอย่างดีมาก

ส่วนทำไมถึงต้องปกป้องดีขนาดนี้นั้น เย่หลิ่นหานเก็บโทรศัพท์ ดวงตาอันอบอุ่นของเขามีประกายความมุ่งร้าย

เขาคิดว่า เขาจะต้องรู้คำตอบเร็วๆ นี้

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ ถูกบังคับเป็นตัวแทนของงานแต่งงานนี้ เธอแต่งงานกับผู้ชายที่พิการแต่กลับมีอำนาจใหญ่ “ฉันเย่โม่เซินไม่เอาผู้หญิงที่ท้องและไม่รู้ว่าพ่อของลูกเป็นใครเด็ดขาด”เดิมทีคิดว่างานแต่งงานนี้เป็นการแลกเปลี่ยน แต่เธอกลับเผลอใจ ไปไปมามา สุดท้ายเธอก็จากไปด้วยความเสียใจผ่านไปหลายปี ลูกชายที่หน้าตาคล้ายกับเขามากตบหัวของเย่โม่เซินด้วยฝ่ามือเล็กๆ“พ่อคนร้าย นายว่าใครเป็นเด็กที่ไม่รู้ว่าพ่อของตัวเป็นใคร?”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset