บทที่ 526 ก่อกวนนัดดูตัว
สถานที่นัดดูตัวนั้นเป็นที่ที่หานมู่จื่อไม่คุ้นเคยเลย
ดังนั้นหานชิงจึงให้ลุงหนานไปส่งเธอ และเมื่อมาถึงที่หมายแล้ว ลุงหนานก็เอ่ยขึ้นว่า: “คุณมู่จื่อครับ ผมจะไปรับคุณผู้ชายที่บริษัทก่อน อาจจะกลับมารับคุณช้าสักหน่อยนะครับ”
เมื่อหานมู่จื่อคิดว่าคุณลุงนั้นจะต้องวนกลับไปกลับมา เธอก็ส่ายหน้าแล้วพูดว่า : “ไม่เป็นไรค่ะลุงหนาน คุณลุงกลับไปก่อนเลย เพราะหนูก็ไม่รู้ว่าการนัดดูตัวจะถึงกี่โมง ถ้ามันเลทเดี๋ยวหนูเรียกรถกลับไปเองก็ได้ค่ะ”
เธอคิดในความเป็นจริงที่ว่าหลังจากที่ลุงหนานไปรับหานชิงแล้ววนกลับมานั้นคงใช้เวลานานมาก
เธอคิดว่านัดดูตัวในครั้งนี้คงใช้เวลาไม่นานมากขนาดนั้น
“โอเคครับ คุณมู่จื่อก็ดูแลตัวเองด้วยนะครับ ถ้ามีอะไรคุณมู่จื่อก็โทรหาลุงหนานได้เลยนะครับ”
“ลุงหนานก็ขับรถระวังๆ นะคะ”
หลังจากที่ลุงหนานขับรถออกไปแล้ว มู่จื่อก็หมุนตัวเดินเข้าไปในร้านกาแฟที่อยู่ตรงหน้า
ในเวลานี้คนในร้านกาแฟก็ยังไม่มากนัก มู่จื่อกวาดสายตามองเป้าหมายในการนัดดูตัวของเธอไม่พบ เพราะคนในร้านส่วนใหญ่นั่งเป็นกลุ่มกัน ไม่มีใครนั่งอยู่คนเดียวเลย
เธอเลือกที่จะนั่งลงบริเวณริมหน้าต่าง บริกรก็เข้ามารับออร์เดอร์
“ฉันรอคนอยู่ เอาไว้ค่อยสั่งพร้อมกันดีกว่าค่ะ”
“ได้ครับคุณผู้หญิง”
หานมู่จื่อยกมือขึ้นมาเหลือบมองเวลา พวกเธอนัดกันตอนบ่ายสอง ยังมีเวลาอีกสองนาทีกว่าจะถึงเวลา
หวังว่าอีกฝ่ายจะเป็นคนตรงต่อเวลา
หานมู่จื่อหยิบโทรศัพท์ออกมาเลื่อนดูโมเมนต์เพื่อนหน้าฟีด
เมื่อวานที่ไปสวนสนุกมา เสี่ยวเหยียนและเสี่ยวหมี่โต้วต่างก็พากันสนุกสนามเป็นอย่างมาก ทั้งคู่พากันถ่ายรูปเยอะมาก เธอไม่ได้อัพโหลดลงโมเมนต์เพื่อน แต่ส่งรูปทั้งหมดให้เธอส่วนตัว
ทั้งคู่ตกลงกันแล้วว่ารูปของเสี่ยวหมี่โต้วจะไม่ถูกอัพโหลดลงในโซเชียลใดๆ
เมื่อหานมู่จื่อมองดูรูปภาพเหล่านั้นก็เผลอยกยิ้มมุมปากขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว
แสงแดดในยามบ่ายกำลังส่องลงมาที่ถนนเส้นหลัก แสงจากหน้าต่างหักเหมาทางหานมู่จื่อ เธอกำลังก้มมองดูโทรศัพท์ในมือพร้อมทั้งยิ้มอย่างอ่อนโยน เผยให้เห็นฉากที่ดูเงียบสงบเป็นพิเศษ
เมื่อฉินหยานเดินเข้ามาในร้านกาแฟก็มองไปเห็นฉากนั้น ทั้งสายตาและฝีเท้าก็ถึงกับสะดุดเล็กน้อย
สายตาของเขามองไปรอบๆ อย่างรวดเร็ว ก็พบว่าภายในร้านกาแฟ นอกจากเธอแล้วก็ไม่มีใครอื่นที่นั่งอยู่คนเดียว อย่างนั้นเธอคงเป็นคู่นัดดูของตัวเองในวันนี้เหรอ?
หานมู่จื่อมองดูรูปภาพเสร็จ ทันใดนั้นก็รู้สึกถึงเงาคนที่ยืนอยู่ตรงหน้า บดบังสายตาจากบริเวณโดยรอบ
“สวัสดีครับ ผมฉินหยาน”
หานมู่จื่อเงยหน้าขึ้นมองบุคคลที่อยู่ตรงข้าม
เพียงแค่ทั้งคู่สบสายตากันก็ถึงกับตกตะลึงไป
“คะ คุณไม่ได้เป็น…..” ฉินหยานมองดูเธอด้วยความประหลาดใจ หานมู่จื่อลุกขึ้นยืนมองอีกฝ่ายในใจก็รู้สึกประหลาดใจอยู่ไม่น้อย
ถ้าเธอจำไม่ผิด คนตรงหน้าเธอเป็นเจ้าของเหตุการณ์ชนท้ายรถเมื่อครั้งก่อนไม่ใช่เหรอ? ในตอนนั้น…. ผู้หญิงที่อยู่ข้างกายเขายังฉีกหน้าตัวเองด้วยซ้ำ
ผู้หญิงนั้นจะเขี้ยวจนเกินเหตุไปแล้ว ไม่ยินยอมให้แจ้งตำรวจ ไม่ยอมให้แก้ปัญหา ต่อมาเป็นเย่โม่เซินออกมาแล้วช่วยเธอแก้ปัญหา
ฉินหยานไม่คิดเลยว่าคู่ดูตัวของเขาจะกลายเป็นเธอไปได้
ทั้งคู่จ้องมองกันอยู่ครู่หนึ่งหลังจากนั้น ฉินหยานก็กระแอมไอออกมาอย่างอึดอัด “คุณยังจำผมได้ไหม? ก่อนหน้านี้ที่… คุณชนท้ายรถ”
หานมู่จื่อพยักหน้าด้วยสีหน้าค่อนข้างเฉยเมย
“เชิญนั่งก่อนครับ”ฉินหยานทักทายเธอก่อนจะให้เธอนั่งลงไป หลังจากนั้นจึงโบกมือเรียกบริกร
หานมู่จื่อเหลือบสายตามองเวลาที่นาฬิกาข้อมือ อีกฝ่ายมาสายสิบนาที เขาไม่แม้แต่จะขอโทษเลยเหรอ?
หลังจากที่สั่งเมนูเสร็จ ฉินหยานก็มองมาทางเธออย่างอึดอัด “ครั้งที่แล้วถ้าให้ผมเดา ตรงที่คุณชนรถผมมันคงต้องเป็นเพราะพรหมลิขิตแน่เลย เพียงแต่คิดไม่ถึงเลยว่าพวกเราจะกลับมาเจอกันเร็วขนาดนี้ อีกทั้งยังเป็นรูปแบบนี้ด้วย”
หานมู่จื่อเงยหน้าขึ้น “ฉันก็คิดไม่ถึงเหมือนกันค่ะ”
“แค่ก…” คงเพราะไม่ชินกับเรื่องในครั้งที่แล้ว อีกทั้งในตอนนั้นข้างกายของเขาก็ยังมีผู้หญิงอีกคน ดังนั้นในตอนนี้หานมู่จื่อจึงรู้สึกอึดอัดกับคู่นัดดูตัวของเธอ
เขาไม่ได้พูดอะไร เธอเองก็ไม่มีหัวข้อสนทนาอะไรอีก รอยยิ้มในตอนที่มองดูโทรศัพท์ก่อนหน้านั้น ในตอนนี้ไม่มีอีกแล้ว ใบหน้าเต็มไปด้วยความเฉยเมย แสดงออกอย่างชัดเจนเลยว่าเธอไม่ได้สนใจในการนัดดูตัวครั้งนี้เลยด้วยซ้ำ
แต่เดิมหานมู่จื่อคิดเอาไว้ว่าอย่างน้อยอีกฝ่ายก็คงจะดูไม่เลว
แต่ทว่า…. คนคนนี้กลับเป็นคนที่เธอคุ้นเคย และเธอเองก็จำได้ว่าเขานั้นมีผู้หญิงข้างกายอยู่แล้ว อีกทั้งในใจเธอยังจดจำท่าทางหยิ่งผยองของผู้หญิงคนนั้นได้ดี
ดูท่าว่าเรื่องที่เธอตัดสินใจบอกให้ลุงหนานไม่ต้องมารับนั้นเป็นเรื่องที่ฉลาดแล้ว
ฉินหยานมองมาที่เธอก่อนเอ่ยถามประโยคหนึ่งอย่างระมัดระวัง “คุณหานครับ…. คุณพึ่งกลับมาจากต่างประเทศหรอครับ? ”
สวย ในสายตาเขาผู้หญิงตรงหน้าเธอสวยมากจริงๆ
เพียงแต่เธอไม่ได้เป็นคนสวยที่อยู่ในประเภทที่สวยล้ำค่าหรือบอบบางสดใส เพียงแต่เธอเป็นประเภทความสวยที่ให้ความรู้สึกถึงความเยือกเย็นและเย็นชา เป็นความรู้สึกที่ใครหลายคนไม่มี
เธอเงยหน้าขึ้นสายตาของเธอยิ่งแสดงออกถึงความเย็นชามากกว่าเดิม
ฉินหยานเผลอกลืนน้ำลายลงไปอย่างไม่รู้ตัว
มีผู้หญิงอยู่หลายแบบที่เป็นแบบที่ผู้ชายชอบ เพียงแต่ความสวยนั้นแบ่งแยกออกไปได้หลายแบบ
เพียงแต่ดูเหมือนว่าหานมู่จื่อจะอยู่ในส่วนน้อย ครั้งก่อนที่ฉินหยานได้เจอก็ถึงกลับลืมไม่ลงเลยทีเดียว
“ค่ะ” หานมู๋จื่อพยักหน้า “เพิ่งกลับมาจากต่างประเทศเมื่อไม่นานนี้เอง”
“ไม่แปลกเลยครับที่คุณหานจะดูไม่เหมือนกับคนอื่น หวังว่าวันนี้นัดดูตัวของพวกเราจะเป็นไปอย่างมีความสุขนะครับ”
หานมู่จื่อได้ฟังอย่างนั้นก็เพียงยิ้มออกมา ไม่ได้ตอบกลับอะไร
เธอไม่ได้เอาประเด็นที่เขามาสายสิบนาทีขึ้นมาพูด ทว่าเธอเองก็ไม่ได้วางแผนที่จะทำความรู้จักกับคนคนนี้ต่อไปอีก
หลังจากที่ได้กาแฟ และนั่งกันมาสักพักแล้ว ฉินหยานก็เริ่มมีคำถามขึ้นมามากมาย
“ปกติแล้วคุณหานมีงานอดิเรกหรือชอบทำอะไรไหมครับ?”
หานมู่จื่อตอบกลับไปเพียงผ่านๆ ทว่าฉินหยานกลับรีบตอบกลับในสิ่งที่ตนเองชอบทันที ทั้งยังมีแนะนำว่าหากมีเวลาก็ไปด้วยกันได้ หานมู่จื่อก็ไม่ได้ตอบกลับอีก ฉินหยานจึงเปลี่ยนไปถามประเด็นใหม่ หานมู่จื่อก็ตอบกลับไปอย่างขอไปที
เมื่อดูท่าทีของการสนทนาแล้ว ฉินหยานก็รู้สึกว่าอีกฝ่ายไม่ได้สนใจเลยสักนิด เขาจึงเริ่มที่จะหงุดหงิดขึ้นมา มองไปที่สาวสวยตรงหน้าอย่างไม่ยินยอม
“คุณหานครับ ที่คุณเย็นชากับผมขนาดนี้ เป็นเพราะเรื่องเมื่อวันนั้นใช่ไหม? ”
เมื่อได้ฟังคำพูดนี้ก็เหมือนกับหานมู่จื่อได้สติกลับมาอีกครั้ง และเงยหน้าขึ้นมา “เรื่องวันนั้น? ”
ฉินหยาน …… “ก็วันนั้นที่รถชนกัน ข้างกายผมมีผู้หญิงคนหนึ่ง คุณคง…. ไม่ใช่ว่าถือสาเธอหรอกนะครับ? ”
หานมู่จื่อยิ้มจางๆ “คุณฉินพูดล้อเล่นอะไรกันคะ ฉันจะไปถือสาเธอได้ยังไง? ”
ความสุภาพนี้ยิ่งเพิ่มความรู้สึกอึดอัดให้กับฉินหยาน เธอบอกว่าไม่ถือสา อย่างนั้นก็แสดงว่าเธอก็ไม่ได้สนใจกับการนัดดูตัวในครั้งนี้
แต่ว่า ฉินหยานก็ยังพยายามที่จะปกป้องตัวเอง
“ถึงคุณไม่ถือสา แต่ผมก็ยังอยากจะอธิบายครับว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นน้องสาวของผม ไม่ว่าคุณจะเข้าใจผิดหรือไม่ก็ตาม”
“อ่า…”
หลังจากทีฉินหยานได้อธิบายเสร็จไปแล้ว ก็มีเสียงหัวเราะจากด้านหลังดังขึ้นมาไม่ไกล
น้ำเสียงหัวเราะนั้นคล้ายกับให้ความรู้สึกเย้ยหยัน ทำให้ผู้ฟังรู้สึกไม่พอใจ
ฉินหยานเผลอขมวดคิ้ว นั่นใคร?
แล้วทำไมถึงหัวเราะออกมาในเวลาเช่นนี้?
แต่ทว่าหานมู่จื่อก็ถึงกับหน้าเปลี่ยนทันทีหลังจากที่ได้ยินเสียงนี้