เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ – ตอนที่ 534 งานเลี้ยง (1)

บทที่534 งานเลี้ยง (1)

หานซิงกำชับเป็นพิเศษไว้ก่อนแล้ว คนที่มาคืนนี้จะต้องตรวจสอบให้ครบทุกคน คนที่ไม่มีบัตรเชิญห้ามปล่อยให้เข้ามาเด็ดขาด และแม้จะมีบัตรเชิญ ก็ต้องยืนยันตัวตนก่อนด้วย

ปกติแล้วเรื่องพวกนี้ก็เป็นเรื่องธรรมดาสำหรับงานเลี้ยงอยู่แล้ว แต่สำหรับเย่โม่เซินแล้ว กลับรู้สึกว่ามีความจงใจอยู่ในนั้นด้วย

เพราะยังไงก็ตาม หานซิงก็ไม่ชอบเย่โม่เซิน

เซียวซู่ได้ยินข่าวล่วงหน้าก่อน เลยจัดเตรียมไว้ให้เย่โม่เซินเรียบร้อยแล้ว

หน้ากากเป็นแค่เครื่องหมาย เพราะมีคนรออยู่ที่ทางเข้าอยู่ก่อนแล้ว ขอแค่เย่โม่เซินก้าวลงรถ ก็จะมีคนมาพาเขาเข้าไปข้างในทันที

คอนเนคชั่น ทรัพย์สิน มักจะทำให้สานความสัมพันธ์ได้อย่างรวดเร็ว

“คุณชายเย่ ถ้าอย่างนั้นผมไม่ลงไปกับท่านแล้วนะครับ” เซียวซู่มองดูบรรยากาศภายนอกทีหนึ่ง สายตากวาดมองรอบๆก่อนจะหยุดอยู่ที่คนๆหนึ่ง แล้วพูดคำพูดเอาอกเอาใจที่หาได้ยากออกมา “คืนนี้ขอให้คุณชายเย่มีชัย และได้ตัวคุณนายน้อยสองกลับมาโดยไวนะครับ”

เมื่อได้ยินคำว่าคุณนายน้อยสอง เย่โม่เซินก็เหมือนเห็นภาพลวงตาที่ห่างหายไปนาน

ทันทีที่เย่โม่เซินลงจากรถ ไม่รู้ว่าเพราะออร่าส่วนตัวหรืออย่างไร เหล่าผู้คนต่างก็หันมามองที่เขา หน้ากากที่อยู่ภายใต้แสงไฟของเขา ส่องประกายแพรวพราวสะดุดตา

“นั่น นั่นใครน่ะ ? ทำไมถึงใส่หน้ากากมางานเลี้ยง”

“ไม่นะ ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยว่าคืนนี้เป็นงานเลี้ยงสวมหน้ากาก หรือว่าพวกเราพลาดข้อมูลอะไรไป ?”

“หยุดเรื่องหน้ากากไว้ก่อนเถอะ เขาหล่อจังเลย….. ไม่ว่าจะเป็นความสูงหรือสัดส่วน ก็ระดับโกลเด้นคลาสทั้งนั้น หึหึ ถึงเขาจะใส่หน้ากาก ฉันก็ยังรู้สึกว่า…..แค่ริมฝีปากบางนั้นเม้มเบาๆ ฉันก็ตกหลุมรักได้แล้วล่ะ”

“เขาเป็นใครกัน ? พวกคุณมีใครรู้จักเขาไหม อยากรู้จังว่าเขามีแฟนหรือยัง”

“ยังไงก็มางานเลี้ยงเหมือนกัน เดี๋ยวพวกเราเข้าไปแล้วค่อยหาโอกาสทำความรู้จักกันเถอะ”

หลังจากเหล่าหญิงสาวเจรจากันแล้ว ก็ได้ข้อสรุปที่น่ายินดี

มีหน้ากากเป็นเครื่องหมาย พอเย่โม่เซินลงรถแล้ว ก็มีคนเดินมารับทันที เพราะเซียวซู่ไม่ได้เปิดเผยตัวตนของเขาออกไป ดังนั้นตอนนี้บนใบหน้าของอีกฝ่ายก็เลยประดับไปด้วยรอยยิ้ม

“พี่ชาย มาแล้วเหรอ ผมรออยู่ตั้งนาน ไปกันเถอะ”

เมื่อพูดจบ เขาก็คิดจะเดินมาแตะหลังเย่โม่เซิน

แต่ยื่นมือมาได้ครึ่งหนึ่ง ก็ถูกความเย็นชาของเย่โม่เซินทำให้ตกใจเสียก่อน จากนั้นเลยต้องหดมือกลับอย่างไม่รู้ตัว

ถึงแม้จะสวมหน้ากาก แต่แววตาของเย่โม่เซินกลับมืดมิดราวกับท้องฟ้ายามค่ำคืน เหมือนสัตว์ร้ายที่แฝงตัวอยู่ในเวลากลางคืน ทั่วร่างมีความเยือกเย็นและแข็งแกร่งแผ่ออกมา

คนแบบนี้……

ผู้ชายคนนั้นที่มารับเย่โม่เซินเริ่มลนลานขึ้นมาทันที มองดูรูปร่างและบรรยากาศของคนตรงหน้า ทำไมถึงได้รู้สึกว่าเขาคล้ายคลึงกับประธานเย่ที่เขาเคยเห็นมาก่อนหน้านี้

แต่หากเป็นประธานเย่จริงล่ะก็ ทำไมถึงต้องบัตรเชิญเพื่อเข้างานแบบนี้ด้วย ?

“ยังไม่ไปอีก ?”

ขณะที่เขากำลังคิดสงสัยอยู่นั้น เสียงเย็นเฉียบของเย่โม่เซินก็ดังขึ้นอย่างไร้ความปรานี ชายคนนั้นเลยได้สติกลับมา แล้วพยักหน้าทันที “ไปครับไป เชิญตามผมมาทางนี้เลยครับ”

เขาพาเย่โม่เซินเดินไปถึงหน้าทางเข้า จากนั้นก็ยื่นบัตรเชิญไปให้อีกฝ่ายตรวจสอบ

คนที่เฝ้าอยู่หน้าประตูได้รับคำสั่งมาจากหานซิง วันนี้เลยตรวจตราเข้มงวดเป็นพิเศษ แต่พวกเขาไม่รู้เหตุผลที่แฝงอยู่ในนั้น ก็เข้าใจไปว่าคุณหานคงกลัวว่าจะมีคนแปลกหน้าโผล่เข้าไปในงาน ดังนั้นถึงจะตรวจสอบอย่างเข้มงวด แต่ก็ไม่มีทางรู้จักทุกคนที่มางานนี้ได้

ดังนั้นตอนเห็นเย่โม่เซินก็แค่สงสัยว่าทำไมเขาถึงใส่หน้ากากมาก็เท่านั้น

ผู้ชายคนนั้นช่วยอธิบายแทนเขาว่า “เพื่อนฉันชอบเล่นอะไรที่มันลึกลับน่ะ ปกติไปงานเลี้ยงก็ทำแบบนี้ตลอด รีบหน่อยสิ ฉันรอเขาอยู่ที่นี่มาตั้งนานแล้ว เมื่อกี้พวกนายก็เห็นนี่”

“อีกอย่างพวกเรามีบัตรเชิญนะ ถ้ายังไม่ปล่อยพวกเราเข้าไปอีก ฉันคงต้องไปฟ้องคุณหานของพวกนายแล้วล่ะ”

ชายคนนี้ปากดีไม่ใช่น้อย ใช้ทั้งไม้อ่อนไม้แข็ง เลยพาเย่โม่เซินผ่านเข้ามาได้อย่างรวดเร็ว

หลังจากเข้ามาแล้ว ชายคนนั้นก็พูดอย่างร่าเริงว่า “แบบนี้หน้าที่ของฉันก็จบแล้วใช่ไหม ว่าแต่……ฉันสงสัยจริงๆ คุณมาร่วมงานเลี้ยงนี้มีเป้าหมาย……”

“สิ่งที่ไม่ควรถามก็อย่าถามจะดีกว่า” สายตาที่แหลมคมราวกับใบมีดพุ่งตรงมาที่เขา ชายคนนั้นตกใจจนไม่กล้าขยับทันที ผ่านไปครู่หนึ่งเขาถึงจะตอบเสียงอ่อนออกมาว่า “ครับๆ ผมเข้าใจแล้ว……”

เย่โม่เซินถอนสายตากลับมา ไม่ได้สนใจเขาอีก และเดินไปอีกทางด้วยตัวคนเดียว

ชายคนนั้นเร่งฝีเท้าตามไป เท้าของเย่โม่เซินจึงหยุดนิ่งทันที

“หน้าที่ของนายจบแล้ว ไม่ต้องตามฉันมา” เขาพูดอย่างเย็นชา

ชายคนนั้นชะงักไปทันที จากนั้นก็พยักหน้าตอบ “ครับๆ”

จากนั้นเขาก็ทำได้แค่หมุนตัวเดินไปอีกทางทันที เมื่อเข้าไปในฝูงชนแล้วถึงได้หันกลับไปมอง และพบว่าเงาของคนที่ยืนอยู่ตรงนั้นเมื่อกี้นี้ได้หายไปแล้ว

เดินเร็วเหลือเกิน…….หึ คนๆนี้มาที่งานเลี้ยงคืนนี้เพื่ออะไรกันแน่ ?

ซื้อบัตรเชิญ แถมยังจ้างเขาคนนี้อีก สุดท้าย…….ยังสวมหน้ากากอีกด้วย

หรือว่า คืนนี้จะมีโชว์สนุกๆ ?

ชายคนนั้นลูบคางตัวเอง เริ่มรู้สึกคาดหวังขึ้นมาทันที

*

เย่โม่เซินก้าวเท้าตรงไปตามทางเดิน แสงไฟบนเพดานส่องลงมากระทบหน้ากากทำให้เขาดูหล่อเหลาขึ้นไปอีก แม่บ้านที่เจอตามทางต่างก็หันมามองเขาอย่างไม่รู้ตัว มองแล้วมองอีก

เย่โม่เซินหาเวลาทำความคุ้นเคยกับที่นี่ บวกกับในงานคนแน่นเกินไป อากาศไม่ถ่ายเท ออกมาข้างนอกที่อากาศถ่ายเทหน่อยยังดีเสียกว่า

ในที่สุดก็เจอที่ๆเหมือนสวนสนามหญ้า ในสวนตกแต่งอย่างเงียบสงบ และกว้างมาก

มีเก้าอี้หวายไม่กี่ตัว และสวนดอกไม้ มีแม้กระทั่งชิงช้า

หึ

เย่โม่เซินปรับสายเนกไทที่อยู่บนชุดสูท ริมฝีปากบางยกขึ้นอย่างไม่รู้ตัว

คิดไม่ถึงเลยว่าหานซิงคนนี้จะมีรสนิยมที่เป็นเอกลักษณ์ขนาดนี้

ก่อนงานเลี้ยงจะเริ่มยังเหลือเวลาอีกสักพัก เย่โม่เซินเลือกที่นั่งแล้วนั่งลงบนเก้าอี้ตัวหนึ่ง คนที่มาร่วมงานเลี้ยงมีอยู่ไม่น้อย ในสวนก็มีคนอื่นอยู่อีก แต่เย่โม่เซินอยู่ห่างจากพวกเขามาก บางครั้งก็ได้ยินเสียงของพวกเขาที่ดูเหมือนจะมีเสียงเด็กปนอยู่ด้วย เย่โม่เซินเลยเผลอตั้งใจฟังขึ้นมาทันที

“พี่ชายพี่สาว หม่ามี๊ของผมบอกว่า จะให้คนอื่นถ่ายรูปไปเรื่อยไม่ได้ ไม่อย่างนั้นผมจะฟ้องพวกคุณข้อหาละเมิดสิทธิการถ่ายภาพ”

เสี่ยวหมี่โต้วถูกห้อมล้อมอยู่ท่ามกลางผู้คน บนริมฝีปากมีรอยยิ้ม ดวงตาทั้งคู่ดำขลับราวกับไข่มุก ดูแล้วช่างใสซื่อบริสุทธิ์ ตอนที่เขาพูดจาช่างนุ่มนวล แค่ฟังก็รู้ว่าเป็นเด็กดี

แต่คำพูดที่เขาพูดออกมา กลับมีพิษสงแฝงอยู่มากมาย

คนที่กำลังจะหยิบโทรศัพท์ออกมาเพื่อถ่ายรูป เมื่อได้ฟังคำพูดของเขาแล้วก็ต้องแอบเก็บโทรศัพท์อย่างเงียบๆ

แต่ก็ยังมีคนที่ไม่ยอมแพ้ หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปเขาไปหนึ่งที เสียงแชะ

เมื่อถ่ายเสร็จคนๆนั้นก็ยังจ้องเด็กน้อยอย่างร่าเริง “เปลี่ยนท่าให้ถ่ายอีกรูปได้ไหมจ๊ะ”

รอยยิ้มบนใบหน้าของเสี่ยวหมี่โต้วค่อยๆหายไป ก่อนจะพูดเสียงเบา “พี่สาวครับ ช่วยลบรูปออกด้วย”

“แหม ก็แค่ถ่ายสักรูปสองรูปเอง เด็กอย่างหนูจะมีข้อหาละเมิดสิทธิการถ่ายภาพอะไรกัน อีกอย่าง พี่สาวยอมถ่ายรูปให้หนู ต้องเป็นความภาคภูมิใจของหนูไม่ใช่เหรอ?” คนที่ถ่ายรูปเขาเป็นหญิงสาวอายุราวยี่สิบต้นๆ คำพูดคำจาเหมือนไม่เคยได้รับการอบรมสั่งสอน

“ถ่ายอีกรูปนะ เร็วๆ”

เมื่อคนรอบข้างเห็นเธอทำแบบนี้ ต่างก็ค่อยๆล้วงโทรศัพท์ออกมา แล้วยกขึ้นถ่ายรูปเสี่ยวหมี่โต้วเสียงดัง แชะ แชะ

“เขาบอกให้พวกคุณลบรูปแล้วไม่ใช่เหรอ ?”

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ ถูกบังคับเป็นตัวแทนของงานแต่งงานนี้ เธอแต่งงานกับผู้ชายที่พิการแต่กลับมีอำนาจใหญ่ “ฉันเย่โม่เซินไม่เอาผู้หญิงที่ท้องและไม่รู้ว่าพ่อของลูกเป็นใครเด็ดขาด”เดิมทีคิดว่างานแต่งงานนี้เป็นการแลกเปลี่ยน แต่เธอกลับเผลอใจ ไปไปมามา สุดท้ายเธอก็จากไปด้วยความเสียใจผ่านไปหลายปี ลูกชายที่หน้าตาคล้ายกับเขามากตบหัวของเย่โม่เซินด้วยฝ่ามือเล็กๆ“พ่อคนร้าย นายว่าใครเป็นเด็กที่ไม่รู้ว่าพ่อของตัวเป็นใคร?”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset