เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ – ตอนที่ 541 คุณลุงที่แปลกๆ

บทที่541 คุณลุงที่แปลกๆ

ทั้งสองคนเดินไปที่ด้านหลัง เสียงของพวกเขาค่อยๆคลุมเครือขึ้นมา

“ผู้จัดการ,ที่เขาพูดเป็นความจริงนะ ถ้าคุณไม่เชื่อ……ให้เขาไปอธิบายให้คุณฟังอย่างละเอียดในคืนนี้ได้ไหมค่ะ?”

“อุ๊ น่าเกลียดอ่ะ……”

พนักงานคนอื่นเมื่อเห็นภาพนี้ แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นและไม่แสดงอาการใดๆบนสีหน้าเดินออกมาทันที

เพราะผู้หญิงคนนี้ชอบแสดงท่าทียั่วยวน พวกเคยคุ้นชินกับเหตุการณ์แบบนี้อยู่แล้ว

หลังจากนั้นสิบห้านาที เมื่อจัดการกับผู้จัดการร้านอาหารเสร็จแล้ว หญิงสาวได้เข้าไปทำความสะอาดตัวเองที่ห้องน้ำ หลังจากทำความสะอาดได้สักพักได้เงยหน้าขึ้น แล้วมองดูตัวเองในกระจก

เมื่อก่อนเธอคือคุณหนูใหญ่ของตระกูลหานที่แต่งตัวเลิศหรูอลังการ แต่ตอนนี้กลับตกอับกลายเป็นพนักงานเสิร์ฟในร้านอาหาร รับเงินเดือนอันน้อยนิดทุกเดือน ไม่เพียงพอให้เธอได้ใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือย

ดังนั้น……เธอจึงเลือกที่จะขายตัวเอง

หลังจากที่เธอมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับผู้จัดการแล้ว เงินเดือนของเธอเพิ่มขึ้นสองเท่า เธอรู้สึกได้ใจ รู้สึกเหมือนตัวเองสูงส่งกว่าคนอื่นๆในร้านอาหาร

จนมาวันนี้เธอเห็นสภาพของผู้หญิงคนนั้นผ่านจอมอนิเตอร์

ระยะเวลาห้าปี เธอตกอับลำบากจนกลายสภาพเป็นแบบนี้ ส่วนเธอกลับเฉิดฉายอย่างไม่มีที่สิ้นสุด

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เธอกำมัดแน่นเข้าหากัน เล็บที่แหลมคมแทงเข้าไปที่เนื้อ แต่เธอกลับไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวด มองสภาพที่ตกต่ำของตัวเองผ่านกระจก ทำให้เธอโกรธจนต้องกัดฟันแน่น

“เสิ่นเฉียว!เสิ่นเฉียว!เสิ่นเฉียวเสิ่นเฉียว!!!”

ตอนแรกแค่ขานชื่อเธอออกเพราะความโกรธ ตอนหลังน่าจะเริ่มบ้า ตะโกนเสียงดังออกมาอย่างบ้าคลั่ง สุดท้ายกลายเป็นคนบ้าใช้เล็บที่เต็มไปด้วยเลือดข่วนกระจกอย่างบ้าคลั่ง จนเสียงดังแสบหู

มีรอยเลือดติดอยู่บนกระจก จากที่ห้องน้ำโดยปรกติแสงก็ไม่ค่อยสว่างอยู่แล้วเมื่อมีรอยเลือดเพิ่มยิ่งทำให้ดูน่ากลัวขึ้นไปอีก

หานมู่จื่อออกไปตามหาตั้งนานกว่าจะหาเสี่ยวหมี่โต้วเจอ ปรากฏว่าเด็กน้อยคนนี้ไม่ได้ไปที่หน้าร้าน กลับมานั่งชิงช้าเล่นที่สวน และยังสวมหน้ากากการ์ตูนไว้บนหน้าอีกด้วย

ถึงแม้ว่าหน้าจะถูกหน้ากากบังไว้ แต่หน้ากากนี้เมื่อเทียบกับชุดที่เขาใส่แล้ว ดูแล้วน่ารักและน่าดึงดูดมากเป็นพิเศษ

หานมู่จื่อเมื่อเห็นภาพนี้ อดไม่ได้ที่จะชะลอฝีเท้าตัวเองหยุดเดิน จากนั้นหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปของเสี่ยวหมี่โต้วมาจากระยะไกล

คาเชะ——

เพิ่งกดเลนส์กล้องลง ถ่ายไปได้แค่ใบเดียว เมื่อมองผ่านหน้าจอของกล้องมือถือก็เห็นเสี่ยวหมี่โต้วหันมา ดวงตาที่ดำใสเหมือนแก้วนั้นหันมองมาทิศทางนี้พอดี

“หม่ามี๊?”เด็กน้อยขยับปากพูด และเหมือนทำท่าจะลงมาจากชิงช้า

รอก่อน!”หานมู่จื่อบอกให้เขาหยุด ปากแดงโค้งขึ้นเล็กน้อย:“ ขอแม่ถ่ายรูปอีกสองสามใบให้ลูกก่อน。”

พูดจบ เสี่ยวหมี่โต้วก็ไม่ขยับตัวจริงๆด้วย จากนั้นนั่งรอเป็นเด็กดีอยู่กับที่เพื่อรอให้คุณแม่ถ่ายรูปให้

หานมู่จื่อเดินไปหา ถ่ายรูปให้เสี่ยวหมี่โต้วสองสามใบ

เสี่ยวหมี่โต้วเลือกมุมกล้องได้ดีมาก สามารถทำท่าเท่ห์ๆให้ความร่วมมือในการถ่ายภาพของหานมู่จื่อได้เป็นอย่างดี สุดท้ายยังทำท่าหน้าผีทะเล้นใส่อีกด้วย หานมู่จื่ออดขำไม่อยู่ หัวเราะออกมากับท่าทางทะเล้นของเขา

เมื่อเธอเก็บมือถือแล้ว เสี่ยวหมี่โต้วกระโดดลงมาจากชิงช้าแล้วไปอุ้มเธอไว้:“ หม่ามี๊”

หานมู่จื่อยื่นมือไปลูบไล้หัวของเด็กน้อยอย่างความรักใคร่

ความจริงแล้วตอนที่เห็นเสี่ยวหมี่โต้วสวมหน้ากากอยู่ เธอรู้สึกโล่งออกมาทันที

คืนนี้ ถ้าเสี่ยวหมี่โต้วสวมหน้ากากไว้ ถึงแม้ว่าต้องเจอกับเย่โม่เซิน เย่โม่เซินก็คงจะจำ เสี่ยวหมี่โต้วไม่ได้

ส่วนเสี่ยวหมี่โต้วนั้น เขาเป็นเพียงเด็กน้อยที่อายุห้าขวบเท่านั้นเอง และเป็นไปไม่ได้อยู่แล้วที่จะไปสำรวจหน้าตาของอีกฝ่าย และถึงแม้จะสำรวจ ก็คงแค่สงสัยทำไมคนคนนี้หน้าตาเหมือนตัวเองมาก แต่คงไม่ไปไล่ติดตามหาสาเหตุแน่นอน

ดังนั้นตอนนี้เธอจึงวางใจเรื่องนี้ได้มาก แต่ก็อดว่าไม่ได้ที่จะถามขึ้นมาเบาๆ

“เมื่อกี้ลูก……นั่งเล่นชิงช้าอยู่ที่นี่ตลอด ไม่ได้ไปที่อื่นเลยใช่ไหม?”

ไปที่อื่น?คุณแม่หมายถึงที่ไหนเหรอ?”เสี่ยวหมี่โต้วเงยหน้าขึ้น ดวงตาดำคู่นั้นมองไปที่เธอด้วยความสงสัย

สายตาที่ไร้เดียงสานี้ทำให้หานมู่จื่อรู้สึกละอายใจขึ้นมา เธอหลบสายตาและกระแอมออกมาเบาๆแล้วถามขึ้นว่า:

“ก็หมายถึงที่อื่นไงจ๊ะ?เวลาผ่านไปนานมากแล้ว ลูกยังเล่นชิงช้าอยู่ตรงนี้ไม่รู้สึกเบื่อหรือจ๊ะ?”

เสี่ยวหมี่โต้วทำท่ามุ่ยปาก“ คุณแม่ ไม่เบื่อหรอก เสี่ยวหมี่โต้วอยู่ที่นี่ได้เจอคนมากมายเลย ”

“คนมากมายเหรอ?”

“ใช่แล้ว!ตอนแรกมีคนอยากถ่ายรูปให้เสี่ยวหมี่โต้วเยอะมากเลย แต่คุณแม่เคยบอกกับเสี่ยวหมี่โต้วไว้ ห้ามให้คนอื่นถ่ายรูปโดยพลการเด็ดขาด”

“หลังจากนั้นหล่ะ?”เมื่อลูกพูดอย่างตั้งใจ ทำให้หานมู่จื่อเกิดความสงสัยขึ้นมา นั่งลงแล้วไปหยิกที่คางนุ่มๆของเขาแล้วถามขึ้นมา

“หลังจากนั้นเสี่ยวหมี่โต้วก็ดุใส่พวกเขาไง บอกกับพวกเขาว่าห้ามถ่ายรูปเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นคุณแม่จะไปจัดการพวกเขา”

“ฮาฮา”ฟังเสี่ยวหมี่โต้วอธิบายจริงจังขนาดนี้ หานมู่จื่ออดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา จากนั้นได้หยิกไปที่หูอ่อนนุ่มนั้นเบาๆ:“ลูกนี่ พูดเหมือนแม่ดุมาก แม่จะไปจัดการคนอื่นโดยพลการได้ยังไง?อย่างมาก……ก็แค่ฟ้องพวกเขาว่าละเมิดสิทธิส่วนบุคคลของลูก แล้วให้พวกเขาชดใช้ค่าเสียหายให้เท่านั้นเอง”

“หึ คุณแม่ใจร้าย!”เสี่ยวหมี่โต้วหึออกมา แล้วยื่นนิ้วจิ่มลงไปที่ใบหน้าขาวนั้นของหานมู่จื่อ จากนั้นหยี๋ออกมา:“แต่ว่าคุณแม่ พวกเขาถ่ายรูปไม่สำเร็จหรอก ตอนแรกพวกเขาร้ายมาก ไม่ฟังคำปฏิเสธของเสี่ยวหมี่โต้วเลย ดึงดันจะถ่ายรูปให้ได้!แต่ว่า!หลังจากนั้นมีคุณลุงคนหนึ่งมาช่วยลูกไว้”

อื๋ม?”

หานมู่จื่อไม่ได้คิดไปในแง่มุมอื่นในตอนแรก ดังนั้นจึงยิ้มและถามออกมาว่า:“คุณลุงได้ช่วยเหลือลูกไว้ แล้วลูกได้บอกขอบคุณคุณลุงแล้วหรือยัง?”

เสี่ยวหมี่โต้วพยักหน้า แสดงให้เห็นว่าตัวเองได้ขอบคุณกับคนอื่นไปแล้ว

แต่หลังจากนั้นสักพักเขาก็พูดขึ้นอีกว่า:“แต่ว่าคุณลุงคนนั้นแปลกมากเลย……”

“แปลก?”หานมู่จื่อสงสัย“ทำไมเหรอ?”

“เขาสวมหน้ากากเหมือนเสี่ยวหมี่โต้วไง”

เสี่ยวหมี่โต้วพูดขึ้นมาอย่างตะลึง หานมู่จื่อได้ยินเสียงหัวใจเต้นแรงของตัวเอง เกือบจะกระโดดออกมาจากลำคอ และในเวลาเดียวกันดวงตาของเธอก็ได้ขยิบขึ้นอย่างรุนแรงมาทีหนึ่ง

“ลูก ลูกพูดอะไรนะ?คนที่ช่วยลูกคนนั้น ก็ใส่หน้ากากเหมือนกันเหรอ?”

เสี่ยวหมี่โต้วตอบอืมออกมา และพยักหน้าให้

“ใช่แล้วหม่ามี๊ ทำไมเหรอ?อี๋……”เวลานี้เสี่ยวหมี่โต้วถึงสังเกตเห็นในมือของหานมู่จื่อก็ได้ถือหน้ากากเหล็กไว้อันหนึ่งเหมือนกัน “หม่ามี๊ หน้ากากอันนี้ของหม่ามี๊เหมือนของคุณลุงคนนั้นมากเลย หม่ามี๊รู้จักคุณลุงคนนั้นด้วยเหรอ?”

หานมู่จื่อ:“……”

เธอไม่ได้ตอบคำถามของเสี่ยวหมี่โต้ว นั่งนิ่งอยู่ตรงนั้นเหมือนมีคนมาสกัดจุด ขยับตัวไม่ได้

เธอรู้สึกเย็นขึ้นมาจากฝ่าเท้า ความเย็นกระจายไปทั่วร่างกายของหานมู่จื่อในชั่วพริบตา เธอตัวเย็นเหมือนตกลงไปในถ้ำน้ำแข็ง

เธอคิดยังไงก็คิดไม่ถึง ว่าสองคนนี้จะเจอกันได้

ไม่ น่าจะเป็นเพราะไม่ว่าเธอจะป้องกันยังไง ก็ไม่สามารถหลบหนีเย่โม่เซินได้

เขาต้องการทำอะไรกันแน่?ใส่หน้ากากไว้แล้วมาช่วยเหลือเสี่ยวหมี่โต้ว?

เรื่องนี้คือจงใจหรือไม่ได้จงใจกันแน่?

ริมฝีปากของหานมู่จื่อเริ่มซีดขาวลง หรือว่าเขารู้……เกี่ยวกับชาติกำเนิดของเสี่ยวหมี่โต้วแล้ว?

หรือว่าอาจจะเป็นเพราะความบังเอิญ เพราะมางานเลี้ยง จึงมาเจอเข้ากับเรื่องนี้พอดี?

และหรือ เป็นเพราะเขารู้เรื่องแล้ว แล้ว……เล่นเป็นเพื่อนเธอเพื่อเล่นเกมสามคนหลบซ่อนไปมาแค่นั้นเองเหรอ?

ถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆ แล้ว…… อีกหน่อยเธอควรทำยังไงดี?

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ ถูกบังคับเป็นตัวแทนของงานแต่งงานนี้ เธอแต่งงานกับผู้ชายที่พิการแต่กลับมีอำนาจใหญ่ “ฉันเย่โม่เซินไม่เอาผู้หญิงที่ท้องและไม่รู้ว่าพ่อของลูกเป็นใครเด็ดขาด”เดิมทีคิดว่างานแต่งงานนี้เป็นการแลกเปลี่ยน แต่เธอกลับเผลอใจ ไปไปมามา สุดท้ายเธอก็จากไปด้วยความเสียใจผ่านไปหลายปี ลูกชายที่หน้าตาคล้ายกับเขามากตบหัวของเย่โม่เซินด้วยฝ่ามือเล็กๆ“พ่อคนร้าย นายว่าใครเป็นเด็กที่ไม่รู้ว่าพ่อของตัวเป็นใคร?”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset