บทที่ 546 อย่าชอบฉัน
เสี่ยวเหยียนหยุดชะงัก มองคนตรงหน้าอย่างเหลือเชื่อ
คือเธอฟังผิดไปหรือเปล่า?
เทพบุตรกำลังถามเธอว่าตื่นแล้วหรือ? นี่ไม่ใช่อยู่ในความฝันของเธอเหรอ? เทพบุตรจะถามเรื่องแบบนี้กับเธอได้อย่างไร?
เมื่อนึกถึงตรงนี้ เสี่ยวเหยียนก็กะพริบตาเล็กน้อย แต่ยังไม่สามารถตั้งสมาธิได้ อาจเป็นเพราะแอลกอฮอล์ในเมื่อคืนแฮ้งค์ เธอจึงรู้สึกสับสนมึนงงเช่นนี้
หานชิงเห็นเธอจ้องมองตัวเองอย่างล่องลอย นึกถึงเรื่องเมื่อคืน จากนั้นก็คิดไปถึงเรื่องต่างๆก่อนหน้านี้ เขาเม้มริมฝีปากบาง ปิดหนังสือในทันที
เสียงดังปึก ทำให้ตัวเสี่ยวเหยียนมีสติไม่น้อย
ไม่ใช่สิ ถ้ามันเป็นความฝัน แล้วทำไมถึงสมจริงอย่างนี้?
และสายตาของหานชิง ดูเหมือนจะเย็นชาเล็กน้อย?
นี่คืออะไรกัน?
เสี่ยวเหยียนกัดริมฝีปากล่างไว้ ลุกขึ้นจากพื้น ตอนที่ลุกขึ้น เธอทุลักทุเลเล็กน้อย เมื่อคืนเธอนอนหลับในชุดราตรี ตอนนี้เมื่อลุกขึ้น สายเดี่ยวหล่นไปข้างหนึ่ง เผยให้เห็นไหล่ขาวดั่งหิมะและเนื้อผ้าตรงหน้า ยังกระจัดกระจายเล็กน้อย ปรากฏอย่างเลือนราง
หานชิงสีหน้าบึ้งตึงเล็กน้อย หันออกไปทันที
หลังจากยืนขึ้นเสี่ยวเหยียนยังคงรู้สึกวิงเวียนมึนงง อดไม่ได้ที่จะต้องยื่นมือออกมากุมหลังศีรษะขอตัวเองด้วยความเจ็บปวด พึมพำกับตัวเอง
“ทำไม ฉันรู้สึกว่า……หัวฉันมันหนักจังเลย”
“ที่นี่ที่ไหน? ไม่ใช่ห้องฉันนี่……”
“นี่ไม่ใช่ความฝันของฉันหรือ?”
หลังจากพูดพึมพำไปหลายคำ ทันใดนั้นหานชิงก็ได้ส่งประโยคตำหนิที่เย็นชา “แต่งตัวให้เรียบร้อย”
เมื่อได้ยิน เสี่ยวเหยียนก็ก้มหน้าอัตโนมัติ ถึงได้เห็นสภาพที่น่าสังเวชของกระโปรงเธอในตอนนี้ สีหน้าของเธอเปลี่ยนไปอย่างหนัก รีบยื่นมือออกมาดึงชุดให้เรียบร้อย “ขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจ”
นี่ไม่ใช่ความฝันมั้ง? ไม่อย่างนั้นเทพบุตรทำไมถึงเย็นชาอย่างนี้?
เมื่อคิดถึงสิ่งนี้ เสี่ยวเหยียนก็ยื่นมือไปที่แขนของตัวเอง หยิกแขนตัวเองอย่างแรง
น่าจะไม่คาดคิดในครู่ขณะ เจ็บจนเธอร้องออกมา
“เจ็บจัง!”
ไม่ใช่ความฝันจริงๆด้วย!
ถ้าอย่างนั้นสภาพเสื้อผ้าของเธอในเมื่อกี้ ก็ต้องโดนหานชิงเห็นหมดแล้ว? แย่แล้ว หานชิงจะคิดว่า เธอตั้งใจหรือเปล่า?
เมื่อนึกถึงอย่างนี้ สีหน้าของเสี่ยวเหยียนก็ดูแย่ลงไปอีก กัดริมฝีปากล่างไว้
และในตอนนี้ หานชิงก็ได้เดินมาถึงตรงหน้าเธอแล้ว
เธอเงยหน้าขึ้น เหลือบมองหานชิงอย่างเก้อเขิน เท้าที่เหยียบอยู่บนพื้นเย็น ก้าวถอยหลังโดยไม่รู้ตัว “ขอ ขอโทษ……คุณหาน ฉันไม่ได้มีหมายความอย่างนั้น……”
ดวงตาของหานชิงลึกล้ำมาก เขาจ้องมองเธอ
“ไม่มีหมายความว่ายังไง?”
เสี่ยวเหยียนชะงัก นิ่งอึ้งเป็นเวลานาน ถึงได้พูดว่า “ไม่ได้มีความหมายว่าจะยั่วยวนคุณ”
หานชิงไม่พูดอะไร แต่ดวงตาดำสนิทจ้องมองเธอ ในแววตาไม่มีอารมณ์ใดๆ ลึกล้ำจนรู้สึกน่ากลัวนิดหน่อย เสี่ยวเหยียนไม่มีความกล้าที่จะสบตากับเขาโดยตรง ดังนั้นจึงทำได้เพียงก้มหน้า
แต่ใครจะรู้ว่า เธอเพิ่งก้มหน้าลง ทันใดนั้นคางก็ถูกบีบไว้ วินาทีต่อมา เธอถูกบังคับให้เงยหน้าขึ้น
เสี่ยวเหยียนดวงตาเบิกกว้าง มองหานชิงที่อยู่ตรงหน้าด้วยความเหลือบเชื่อ
หัวใจเริ่มเต้นระรัวอย่างไม่เอาไหน
นิ่งไว้ ต้องนิ่งไว้
หานชิงโน้มตัวไปข้างหน้าเล็กน้อย ดวงตาของเสี่ยวเหยียนเบิกกว้างทันที เกิดอะไรขึ้น?”
แค่คืนเดียว หานชิงก็ชอบเธอแล้วหรือ? ตอนนี้คือจะจูบเธอ?
เมื่อนึกถึงตรงนี้ เสี่ยวเหยียน ไม่เพียงแต่ตื่นเต้นเท่านั้น แต่ยังรู้สึกประหม่าด้วย ค่อยๆหลับตาลง จากนั้นก็ทำปากจู๋โดยสัญชาตญาณ
แต่แล้ว จูบในจินตนาการไม่ได้ประทับลงมา
เสี่ยวเหยียนรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย จึงลืมตาขึ้น แล้วเห็น หานชิงมองเธอ สีหน้าไร้ซึ่งอารมณ์ใดๆ
เธอขยับริมฝีปากเล็กน้อย ถึงได้รู้ว่า เมื่อกี้ตัวเองได้ทำอะไรเรื่องโง่เง่า
“ชอบฉัน?” หานชิงถามพร้อมกับบีบคางของเธอ
น้ำเสียงของเขาช้าๆ ด้วยเสน่ห์อันเป็นเอกลักษณ์ของชายวัยกลางคน รูปลักษณ์ของเขาเป็นแบบที่ดึงดูดเธอมาโดยตลอด ดังนั้นในตอนนี้สังเกตอย่างใกล้ๆ เสี่ยวเหยียนรู้สึกว่า วิญญาณของตัวเอง เกือบจะถูกสายตาเขาดูดเข้าไปแล้ว
ยอมรับเถอะ!
ในเวลานี้ทำไมยังจะไม่ยอมรับ?
ในหัวใจของเสี่ยวเหยียนมีคนคนหนึ่งกำลังตะโกน ในตอนที่เธอกำลังจะรวบรวมความกล้าพยักหน้ายอมรับ น้ำเสียงของหานชิงก็เยือกเย็นกะทันหัน
“อย่าชอบฉัน”
“อะ……อะไรนะ?” เสี่ยวเหยียนถามอย่างตะกุกตะกัก
สายตาที่หานชิงมองเธอ ซ่อนความเยือกเย็นเล็กน้อย เม้มริมฝีปากเล็กน้อย และปล่อยเธอ
“มู่จื่อเป็นน้องสาวที่หายไป ที่ฉันหากลับมาด้วยความยากลำบาก ในชีวิตนี้ สิ่งที่ฉันต้องทำ ก็คือชดเชยเธอ ดังนั้นฉันจะไม่เสียเวลากับผู้หญิงคนอื่น”
เสี่ยวเหยียนตกใจเล็กน้อย แต่ก็รู้สึกว่าสามารถเข้าใจได้แต่เธอยังคงกลืนน้ำลายคำหนึ่ง แล้วอธิบาย “แต่มู่จื่อไม่ต้องการให้คุณดูแลเธอตลอดเวลานี่ เธอก็อยากมีชีวิตของตัวเองและเธอก็หวังว่า คุณก็จะได้พบกับความสุขของคุณ”
“นี่ไม่ใช่เหตุผลที่คุณจะฉวยโอกาสจากมันได้”
การโจมตีอย่างไม่ปรานี ทำให้เสี่ยวเหยียนหน้าซีด ริมฝีปากสั่นเล็กน้อย “ ฉัน ฉันไม่ได้จะฉวยโอกาสเลย ฉันก็แค่……”
“ควรทำยังไงคุณน่าจะรู้ ฉันได้พูดชัดเจนแล้ว!”
เสี่ยวเหยียนก้มหน้าลง ตรงหน้าได้ปกคลุมไปด้วยหมอก แสบจมูกยิ่งนัก เธอกลั้นความอยากหลั่งน้ำตาไว้
เธอช่างน่าขบขันจริงๆ เธอกำลังเพ้อฝันอะไรอยู่?
คนเขาเป็นท่านประธานหาน ที่อยู่เหนือกว่า จะชอบกุ้งตัวน้อยอย่างเธอได้อย่างไร?
แม้ว่าเธอจะมีความสัมพันธ์ที่ดีกับมู่จื่อ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า หานชิงจะชอบเธอ
เมื่อนึกถึงตรงนี้ เสี่ยวเหยียนกัดริมฝีปากล่างของตัวเองอย่างดื้อรั้น กำหมัดแน่นด้วยความโกรธเคือง
ทันใดนั้น เธอก็เงยหน้าขึ้น พูดด้วยความโกรธ “แล้วจะยังไงล่ะ? คุณพูดถูก ฉันชอบคุณจริง แต่ฉันไม่ได้อยากฉวยโอกาสในยามอ่อนแอเลยสักนิด และคุณฟังฉันให้ดี ฉันชอบคุณกับคุณ จะชอบฉันไหม ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเลย ดังนั้น ตราบใดที่คุณไม่ตอบสนองความรู้สึกของฉัน นั้นก็ไม่สามารถพูดได้ว่า ฉันฉวยโอกาส! มีสิทธิ์อะไร?”
หานชิง “……”
เขาขมวดคิ้ว จ้องมองสาวน้อยที่พยายามจะเถียงกับเขา เพราะเพิ่งตื่น ผมของเธอเลยยุ่งเหยิง แต่ในตอนนี้ ดวงตากลับสว่างไสวอย่างน่าอัศจรรย์
ดื้อรั้นคิดว่า สิ่งที่ตัวเองทำเป็นเรื่องที่ถูกต้อง?
เมื่อก่อนเขาก็เคยมีตอนที่ดื้อรั้นแบบนี้มาก่อน แต่นั่นเป็นเรื่องเมื่อหลายปีก่อนแล้ว
เมื่อเห็นเขาไม่พูด เสี่ยวเหยียนกัดฟันแน่น “ ตอนนี้คุณไม่จำเป็นต้องปฏิเสธฉัน เพราะถึงฉันจะชอบคุณ แต่ฉันไม่เคยสารภาพรักกับคุณเลย ดังนั้นการปฏิเสธของคุณจึงโมฆะ! วันนี้ฉันจะถือว่าไม่ได้ยิน!”
หานชิงหรี่ตาเล็กน้อย
เสี่ยวเหยียนยิ่งพูดยิ่งโกรธ ใบหน้าแดงก่ำไปหมด ดวงตาเบิกกว้าง น้ำตาคลออยู่ในเบ้าทั้งหมด
“หืม! ฉันยังไม่ได้สารภาพรักเลย มีการปฏิเสธคนอย่างคุณที่ไหนกัน?”
หลังจากพูดเสร็จ เธอก็ยื่นมือเช็ดตาของตัวเองอย่างแรง เข้มแข็งได้อย่างรวดเร็ว
“เมื่อคืนขอบคุณที่พาฉันมาให้ห้องพัก ตอนนี้ฉันจะกลับไปแล้ว”
หานชิงดึงสายตากลับ พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “เชิญตามสบาย”
เสี่ยวเหยียนสูดจมูกเล็กน้อย จ้องไปที่ชุดสูทของเขากะทันหัน “งั้นคุณถอดเสื้อสูทบนตัวคุณออก แล้วยืนให้ฉัน”
เสี่ยวเหยียนชี้ไปที่เสื้อผ้าของตัวเอง “ไม่งั้นฉันจะใส่แบบนี้ออกไปเหรอ?”
ชุดราตรีของเธอ ได้รับการทารุณมาตลอดทั้งคืน ก็ไม่สามารถพบปะผู้คนได้แล้วจริงๆ หานชิงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง พูดอย่างเคร่งขรึม “ฉันให้คนรับใช้ส่งเสื้อผ้ามาให้คุณ”
“ไม่!” เสี่ยวเหยียนอารมณ์เสียในทันที ชี้ไปที่เขา “ฉันจะเอาเสื้อสูทของคุณเท่านั้น ถือเป็นการชดเชยที่คุณทำร้ายฉัน!”