เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ – ตอนที่ 564 กระดาษไม่มีวันหยุดไฟได้

บทที่ 564 กระดาษไม่มีวันหยุดไฟได้

“ก่อนที่ผมจะสืบหาผู้ที่บงการอยู่เบื้องหลังได้ ผมสามารถปกป้องคุณได้เสมอ”

หานมู่จื่อซึ่งกำลังล้างจานอยู่ได้ตกตะลึง จู่ ๆเธอก็นึกถึงบางอย่างได้ หยุดการเคลื่อนไหวในมือและมองไปยังเย่โม่เซิน

“นายหมายถึง นายต้องการจะอยู่ที่บ้านฉันอย่างนั้นหรือ”

เย่โม่เซินเข้าไปใกล้ ลมหายใจของร่างกายก็กดลงมา

“ถ้าหากว่าคุณตกลงละก็…”

“เป็นไปไม่ได้” หานมู่จื่อไม่ได้คิดจะปฏิเสธเขาโดยตรง “นายก็เห็นแล้ว ตอนนี้ฉันไม่ได้อยู่ ไม่สะดวกมากๆ”

เย่โม่เซินมองหาช่องโหว่จากคำพูดของเธอ “คุณหมายถึง ถ้ามีคุณคนเดียวก็ได้แล้วใช่ไหม”

หายมู่จื่อ “……นายอย่ามาเจาะเอาช่องโหว่จากคำพูดของฉัน อย่างไรก็ตามนายก็กินข้าวเสร็จแล้ว วันนี้ก็ดึกแล้ว รีบกลับไปเถอะ”

“เขายืนเงียบไม่พูดจา หานมู่จื่อพูดเสริมไปอีกประโยคหนึ่ง “อย่าทำให้ฉันต้องเกลียดนายไปมากกว่านี้”

ประโยคนี้อาจจี้จุดของเย่โม่เซิน เขายืนเงียบอยู่ข้างเธอเป็นเวลานาน จากนั้นจึงค่อยพูดขึ้นว่า “ผมช่วยคุณล้างจานเสร็จ แล้วผมจะไป”

“พูดแล้วก็แล้วกัน”

ครั้งนี้เย่โม่เซินพูดอย่างจริงจัง หานมู่จื่อล้างจานเสร็จ ก็ตรงไปส่งเขาที่ประตู เย่โม่เซินก็ไม่คิดจะอยู่ต่อ

เพียงแต่ก่อนออกเดินทาง เมื่อเย่โม่เซินเปิดตู้รองเท้า ก็ได้เห็นรองเท้าเด็กอยู่ในตู้รองเท้าอีก แววตาสีดำสนิทของเขามองผ่านไปด้วยความประหลาดใจ แล้วมองเข้าไปในบ้านอีกครั้ง

“เร็วเข้า” หานมู่จื่อกระตุ้นเขา “นายจะชักช้าอยู่ทำไม”

ได้ยินดังนั้น เย่โม่เซินก็ใส่รองเท้าของเขาจนเรียบร้อย เดินออกนอกประตูดวงตาของเขามองไปยังใบหน้าของเธอ

ลังเลที่จะพูด หานมู่จื่อขัดจังหวะเขาได้ทันเวลา “นายเดินทางกลับระวังตัวด้วย”

จากนั้นเพียงพริบตา ก็ปิดประตูโดยตรง

หลังจากปิดประตู หานมู่จื่อก็เอนหลังพิงประตู ดวงตาก็ค่อยๆเคลื่อนถอยไป ลดสายตาลงหลบสายตาของตนเอง ทำให้คนรู้ได้ไม่ชัดว่าเธอกำลังคิดอะไร

หลังจากนั้นไม่นาน เธอก็เดินไปที่ตู้รองเท้าแล้วเปิดประตูตู้รองเท้า หยิบรองเท้าของเสี่ยวหมี่โต้วออกขึ้นมาทีละข้าง จากนั้นก็เอามันขึ้นไปชั้นบนและวางไว้ในห้องของเสี่ยวหมี่โต้ว

หลังจากออกมา เธอก็ล็อกประตูห้องของเสี่ยวหมี่โต้ว

จากนั้นเมื่อเธอกลับไปยังห้องของตัวเอง ก็ได้พบกับเสี่ยวเหยียนที่กำลังยืนพิงอยู่ข้างประตู

“ตอนนี้เขารู้ที่อยู่ของเธอแล้ว”

หานมู่จื่อยืนนิ่ง ไม่ได้สนใจคำพูดของเสี่ยวเหยียน

เสี่ยวเหยียนยังคงพูดต่อ “แต่ฉันคิดว่า กระดาษไม่มีวันหยุดไฟได้”

“คอยดูไปวันต่อวันแล้วกัน” ในตอนนี้ หานมู่จื่อค่อนข้างสงบลงแล้ว

บางทีสำหรับเธอ เธอรู้มานานแล้ว หลังจากกลับจากต่างประเทศก็พบกับเย่โม่เซินก็เริ่ม หลังจากเห็นว่าเขาทำกับตัวเองอย่างเลี่ยงไม่ได้แบบนี้ ในที่สุดวันหนึ่งเขาก็ต้องพบกับเสี่ยวหมี่โต้ว

ขอเพียงแค่เสี่ยวหมี่โต้วได้ถูกเปิดเผยต่อหน้าเย่โม่เซิน

เรื่องราวชีวิตของเขา ก็จะถูกเปิดเผย

เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ หานมู่จื่อก็ยิ้มเล็กน้อย กระซิบเบาๆ “อย่างไรก็ตามตอนนี้ ก็คงต้องดูไปแต่ละวันเถอะ และ…แม้ว่าท้ายที่สุดกระดาษจะไม่สามารถทนไฟได้ ฉันก็จะไม่ปล่อยให้ไฟลุกลาม”

ได้ยินดังนั้น เสี่ยวเหยียนประหลาดใจเล็กน้อย ริมฝีปากของเธอขยับ ท้ายที่สุดก็อดไม่ได้ที่จะถามออกไป “เธอกำลังหมายถึง แม้ว่าพ่อลูกเขาจะพบกัน เธอก็…ไม่ยอมรับอย่างนั้นหรือ”

หานมู่จื่อไม่ได้พยักหน้า แต่ความนิ่งเงียบก็แสดงออกถึงการยอมรับแล้ว เสี่ยวเหยียนได้แต่งอริมฝีปากตนเอง “ฉันคิดว่าด้วยลักษณะนิสัยของประธานเย่ไม่มีทางยอมแพ้ง่ายๆแน่”

“เธอก็คิดเหมือนกัน เขาจะมาปล้นลูกใช่ไหม”

“ไม่!” เสี่ยวเหยียนส่ายหน้า จ้องหน้ามองเธออย่างจริงจัง

หานมู่จื่อรู้สึกประหลาดใจ “ไม่อะไร”

“ความหมายของฉันคือ ไม่เพียงแต่ลูก แต่ก็ยังมีเธอด้วย”

หานมู่จื่อ “……”

“คนที่หลีกเลี่ยงเขาไม่ได้ ก็คือเธอ ถ้าเขาพบว่าเสี่ยวหมี่โต้วเป็นลูกของเขา อย่างนั้นเขาก็จะต้องเอาชนะเธอและเสี่ยวหมี่โต้วอย่างเลี่ยงไม่ได้แน่นอน”

ได้ฟังดังนั้น หานมู่จื่อก็ตกตะลึง ริมฝีปากสีชมพูเปิดขึ้นเล็กน้อย แต่กลับพูดอะไรไม่ออกสักคำ หรือจะเกี่ยวกับคนกลาง

ทำไมเธอจึงดูไม่ออกว่าเสี่ยวเหยียนเข้าใจได้อย่างชัดเจน

เธอกลัวมาตลอดว่าเย่โม่เซินจะได้พบกันลูกของตัวเอง เมื่อถึงเวลานั้นคนของตระกูลเย่ก็อาจจะมาพาเสี่ยวหมี่โต้วไป นั้นคือที่พึ่งเดียวของเธอ หากว่าถูกคนของตระกูลเย่พรากไปแล้ว อย่างนั้นเมื่อถึงเวลานั้นเธอจะจะพึ่งพาอะไรให้มีชีวิตอยู่ต่อไปได้

แต่สิ่งที่เสี่ยวเหยียนพูดกับเธอในคืนนี้ กลับทำให้เธอมีสติขึ้นมาทันที

เธอคิดมาตลอดว่า เย่โม่เซินจะพรากลูกไปเท่านั้น

แต่เสี่ยวเหยียนกลับพูดให้เข้าใจได้ชัดเจน สิ่งที่เย่โม่เซินต้องการคือเธอ

“และด้วยลักษณะนิสัยของเขาแล้ว ฉันเดาว่าเขาต้องการเธอ และก็อาจจะไม่ได้ต้องการลูก” เสี่ยวเหยียนกลัวว่าเธอจะฟังแล้วไม่เข้าใจ จึงพูดเพิ่มไปอีกหนึ่งประโยค

หานมู่จื่อพูดไม่ออกอย่างที่สุด ในใจเต็มไปด้วยความยุ่งเหยิง

เธอไม่เคยคิดเรื่องนี้มาก่อน

“ดังนั้น เธอควรจะคิดเรื่องนี้ให้รอบคอบ” เสี่ยวเหยียนพูดตักเตือน “ฉันรู้ว่าในใจของเธอยังมีเขา ก่อนหน้านี้เรื่องที่เธอทำตอนอยู่ต่างประเทศฉันก็รู้ทั้งหมด มู่จื่อ ฉันเป็นเพื่อนเธอ แม้ว่าฉันจะยืนอยู่ข้างกายเธอ แต่ฉันรู้สึกว่า…เย่โม่เซินกำลังทำเพื่อเธอ แม้ว่าจะไม่ได้มากมาย แต่ก็ไม่ได้น้อยแน่นอน เขาถ่อมตัวลงมากเวลาอยู่ต่อหน้าเธอ ก็เหมือนกับ…ตอนที่ฉันอยู่ต่อหน้าพี่ชายของเธอ เธอเข้าใจความหมายของฉันไหม”

เมื่อไร ถึงตาที่เธอจะต้องให้เสี่ยวเหยียนมาสอนว่าเกิดอะไรขึ้นกับความรู้สึกของเธอ

เห็นได้ชัดว่า อีกฝ่ายไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อน

หานมู่จื่อรู้สึกโกรธเล็กน้อย พูดไปอย่างรำคาญ “เธอแค่เห็นสิ่งนี้ที่เขาทำ ก็ส่งสารเขาแล้วหรือ และยังรู้สึกว่าฉันทำเกินไปกับเขาหรือ”

“ไม่ ฉันไม่ได้รู้สึกว่าเธอทำเกินไป สุดท้ายสิ่งที่เขาทำไว้เมื่อห้าปีก่อน แม้ว่าเขาจะชดใช้ให้เธอ ในฐานะเพื่อนของเธอฉันไม่เคยคิดเลยว่าเป็นการทำเกินกว่าเหตุ เพียงแต่…ฉันทนไม่ได้ที่จะต้องเห็นเธอมาทรมานตัวเองนะมู่จื่อ เธอคิดว่าฉันพูดเรื่องนี้กับเธอเพื่อเขาหรือ ฉันทำเพื่อเธอนะ”

เสี่ยวเหยียนก้าวไปข้างหน้า รู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย

“ฉันรู้ว่าเธอยังชอบเขาอยู่ ห้าปีมานี้เธอทำเป็นเหมือนจะลืมคนคนนี้ไปแล้ว แต่ฉันรู้ว่าในใจของเธอ…”

“ไม่ต้องพูดแล้ว” หายมู่จื่อขัดจังหวะเธอด้วยน้ำเสียงเย็นชา จากนั้นเธอก็หันหลังให้กับเสี่ยวเหยียนเงยหน้าขึ้นมองด้านบนและเม้มริมฝีปากแดงนั้นไว้แน่น

“มู่จื่อ ฉันพูดมานี่จริงจังนะ!”

“ฉันบอกว่าเธอไม่ต้องพูดแล้ว” หานมู่จื่อพูดจบ ก็ไม่สนใจเสี่ยวเหยียนอีกต่อไป ได้แต่ก้าวเดินออกไปมุ่งตรงไปยังห้องของตนเอง

เสี่ยวเหยียนมองไปที่ด้านหลังของเธอ ก้มศีรษะลงอย่างรู้สึกท้อแท้ คนทั้งคนก็กลายเป็นรู้สึกถึงความหดหู่ใจขึ้นมา

เธอไม่ได้ต้องการจะจับคู่ให้กับเย่โม่เซินและหานมู่จื่อ แค่ไม่อยากให้เพื่อนของตัวเองมาพลิกกลับด้านกับตัวเองแบบนี้

เพียงแค่…เพียงแค่เธอสามารถจะปล่อยวางทุกอย่างก่อนหน้านี้ได้ ตอนนี้เย่โม่เซินก็มาอยู่ด้วยแล้ว พร้อมกับเสี่ยวหมี่โต้ว

ทั้งสามคนในครอบครัวมีความสุขอยู่ด้วยกันมันไม่ดีหรอกหรือ

แต่..ปมในใจของเธอลึกมากจริง ๆ และไม่รู้ว่าเย่โม่เซินจะต้องพยายามจนถึงเมื่อไรที่จะคลายปมในใจของเธอได้

ครั้งก่อนที่ถูกน้ำกรด เสี่ยวเหยียนรู้ดีว่ามู่จื่อมีจิตใจอ่อนแอลง แต่ท้ายที่สุด…จะเห็นได้ว่าปมในใจเธอนั้นลึกมากแค่ไหน

หานมู่จื่อกลับถึงห้องของตัวเอง ก็มุ่งตรงไปหยิบเสื้อผ้าเพื่อจะไปอาบน้ำ เธอเปิดฝักบัว คนทั้งคนยืนอยู่ด้านล่าง ปล่อยให้น้ำอุ่นนั้นรดลงมาจากด้านบน

คำพูดของเสี่ยวเหยียนยังคงดังอยู่ในหูของเธอ แต่ไฟในใจของเธอกลับแผดเผาแรงขึ้นเรื่อย ๆ

จะให้ลืมเรื่องที่เขาทำให้ตนเองบาดเจ็บเมื่อห้าปีก่อนได้อย่างไร

จะได้อย่างไรหรือ!

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ ถูกบังคับเป็นตัวแทนของงานแต่งงานนี้ เธอแต่งงานกับผู้ชายที่พิการแต่กลับมีอำนาจใหญ่ “ฉันเย่โม่เซินไม่เอาผู้หญิงที่ท้องและไม่รู้ว่าพ่อของลูกเป็นใครเด็ดขาด”เดิมทีคิดว่างานแต่งงานนี้เป็นการแลกเปลี่ยน แต่เธอกลับเผลอใจ ไปไปมามา สุดท้ายเธอก็จากไปด้วยความเสียใจผ่านไปหลายปี ลูกชายที่หน้าตาคล้ายกับเขามากตบหัวของเย่โม่เซินด้วยฝ่ามือเล็กๆ“พ่อคนร้าย นายว่าใครเป็นเด็กที่ไม่รู้ว่าพ่อของตัวเป็นใคร?”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset