บทที่ 567 ทะเลาะกันไปมา
หลังจากหมอจากออกไป เซียวซู่ก็หันกลับไปเหลือบมองในห้อง
ในยามปกติเย่โม่เซินผู้ยโสโอหังกำลังเฝ้าสังเกตการณ์อยู่ด้านข้างเตียง ดวงตาสีดำจ้องไปที่หานมู่จื่อที่นอนนิ่งอยู่บนเตียง ในสายตาของเขา บนใบหน้า ในตอนนี้เต็มไปด้วยความใส่ใจอย่างหนักแน่นต่อหานมู่จื่อ
ดูเหมือนว่า คุณชายเย่คงจะถูกคุณนายน้อยกลืนกินจนรักหมดหัวใจแล้วจริง ๆ
ตามหาเธอมาห้าปี อาจจะเป็นเพราะตระกูลหานจงใจจะปกปิด จะไม่สามารถที่จะพบร่องรอยของเธอได้เลยมาตลอด ดังนั้นตึงได้พบกับคุณนายน้อยอีกครั้งในห้าปีต่อมา
นับจากนั้นเป็นต้นมา คุณชายเย่ก็คงจะเป็นบ้าไปแล้ว
ช่างเถอะ ให้เขาบ้าไปเถอะ ในชีวิตมนุษย์จะมีห้าปีสักกี่ครั้ง เขายังไม่ต้องไปขัดขวางเรื่องของคุณชายเย่
เซียวซู่เดินเข้าไป พูดด้วยความเคารพ “คุณชายเย่ หมอเพิ่งจะบอกว่า รอให้คุณนายน้อยไข้ลดลงก็ไม่เป็นอะไรแล้วครับ ถ้าหากว่าที่นี่ไม่มีเรื่องอะไรแล้ว อย่างนั้นผมขอตัวกลับไปบริษัทก่อนครับ”
อันที่จริงแล้วทางบริษัทยังคงมีเรื่องต้องจัดการอีกมาก ช่วงนี้คุณชายเย่หย่อนเรื่องทางบริษัทไปมาก แม้ว่าจะยังมีหลายเรื่องที่ต้องจัดการ แต่บริษัทใหญ่โตขนาดนี้ เรื่องเล็กเรื่องใหญ่ก็ต้องตกลงบนไหล่ของเซียวซู่เป็นเรื่องธรรมดา
เซียวซู่จึงต้องแบกรับเรื่องทั้งหมดนี้โดยธรรมชาติ
“ไปเถอะ” เย่โม่เซินพูดไปพลางพยักหน้า ถือโอกาสย้ำเตือนเขา “เรื่องนั้นก็อย่าลืมเฝ้าดูล่ะ”
“ได้ครับคุณชายเย่ ผมจะคอยเฝ้าดูไปด้วย หากว่ามีเหตุการณ์อะไรเปลี่ยนแปลงจะนำมาบอกท่านครับ”
“อื้ม”
หลังจากเซียวซู่จากออกไป เย่โม่เซินก็ยังคงอยู่เคียงข้างหานมู่จื่อ คอยเปลี่ยนผ้าชุบน้ำให้เธออยู่เรื่อย ๆ เพื่อเป็นการระบายความร้อนทางกายภาพ
ร่วมกันกับยาลดไข้ อุณหภูมิความร้อนบนร่างกายของหานมู่จื่อลดลงอย่างรวดเร็ว
เย่โม่เซินโน้มตัวไปข้างหน้า เอาหน้าผากตัวเองแนบกับหน้าผากของเธอ สัมผัสดูอย่างละเอียดอยู่พักหนึ่ง ก็ได้พบว่าอุณหภูมิร่างกายของหานมู่จื่อได้กลับมาเป็นปกติแล้ว
เขาถอนหายใจด้วยความโล่งอก แต่ยังไม่ขยับร่างกายไปไหน มือทั้งสองข้างค้ำอยู่ด้านข้างของเธอ มองไปยังหานมู่จื่อที่กำลังหลับอยู่
“เป็นเด็กโง่หรือไง แม้แต่ตัวเองยังดูแลไม่ดีเลย คุณจะไปดูแลคนอื่นได้อย่างไร”
พูดถึงตรงนี้ เย่โม่เซินก็ถอนหายใจเบาๆอีกครั้ง ก้มศีรษะเล็กน้อยและจูบเบาๆที่ริมฝีปากของหานมู่จื่อ ขยับไปตามริมฝีปากอันนุ่มของเธออย่างไม่เสร็จสิ้น ดูดไปเบาๆ ในที่สุดเขาก็ระงับความปรารถนาของตนเองแล้วลุกขึ้นอีกครั้ง
*
ในร้านอาหารฝรั่ง
“นายพูดว่าอะไรนะ พวกนายได้รับการแจ้งเตือน ออกไปแล้วหรือ ฉันบอกเมื่อไรว่าให้พวกนายออกไป ฉันไม่ใช่ให้นายไปคอยติดตามเธอหรือไง”
“หึ นายอธิบายฉันมาสิว่าคำพูดนี้มันหมายความว่าอย่างไร ได้เงินไปแล้วจะเบี้ยวไม่ทำงานใช่ไหม”
เสียงโกรธของผู้หญิงดังออกมาจากมุมมืด หญิงสาวที่อยู่ในชุดของพนักงานร้านอาหารฝรั่งกำลังซ่อนตัวอยู่ตรงนั้นถือโทรศัพท์และลดเสียงตะโกนของตัวเองลง
“นายจ้าง ไม่ใช่ว่าพวกเรารับเงินไปแล้วจะไม่ทำงาน แต่สถานการณ์มันเป็นแบบนี้…”
ฝั่งตรงข้ามพูดกับเธออีกครั้ง เธอยังคงมีความประหลาดใจ
“แกก็พูดเหลวไหลอ้างไปเรื่อย ฉันให้นายไปติดตามคน นายรับเงินของฉันไปแล้ว ตอนนี้นายกลับบอกฉันว่านายได้รับคำสั่งจากคนอื่นดังนั้นก็เลยถอยกลับไป แบบนี้มันผิดสัญญา”
“คืนเงินหรือ คุณคิดว่าผมทำอะไรให้ขัดใจขนาดนั้นเลยหรือ”
มีบริกรอีกคนหนึ่งเดินเข้ามา มองไปยังผู้หญิงคนที่ถือโทรศัพท์อยู่ด้วยความไม่พอใจ พูดด้วยความโกรธว่า “หานเส่โยว อย่าคิดว่าได้ใกล้ชิดผู้จัดการแล้วจะไม่ต้องทำงานนะ มาแอบขี้เกียจอยู่ตรงนี้ได้ทุกวัน”
หานเส่โยว ยังคงต้องการที่จะตวาดด่าใส่คนที่อยู่อีกด้านหนึ่ง จู่ ๆ ก็ได้ยินคนเรียกชื่อของตนเองขึ้นมา สีหน้าของเธอจึงเปลี่ยนไป รีบยื่นมือไปปิดโทรศัพท์ของตัวเอง จากนั้นก็ด่าใส่คนที่มาด้วยเสียงดัง
“ฉันก็คิดว่าใคร ที่แท้ก็เป็นคนจนอย่างเธอ”
หานเส่โยว หัวเราะเยาะ หลังจากวางสายโทรศัพท์ จากนั้นจุกลุกขึ้นเดินไปอยู่ตรงหน้าเธอ
“เสิ่นอีอี ถ้าเก่งมีความสามารถนัก ก็ลองใกล้ชิดผู้จัดการให้ฉันดูหน่อยสิ”
“เธอ!” เสิ่นอีอี รู้สึกหงุดหงิดกับสายตาที่ภาคภูมิใจของเธอ กัดฟันแน่นและด่าสาปแช่งไป “ไม่รู้จริง ๆว่าเธอไปเอาหน้ามาจากไหน ใกล้ชิดกับชายแก่คนหนึ่ง ไม่นึกเลยว่ายังจะมาภาคภูมิใจอยู่ตรงนั้น”
“เธอพูดอะไรของเธอ”
เสิ่นอีอี หัวเราะเยาะ “หรือว่าฉันพูดอะไรผิด ผู้จัดการมีอายุมากแล้ว สามารถเป็นพ่อของเธอได้เลย เธอไม่รังเกียจเขา ช่างเป็นผู้หญิงน่าขยะแขยงที่ศีลธรรมบกพร่องจริง ๆเลย!”
เพียะ——
ตบหน้าของเสิ่นอีอีไปหนึ่งครั้ง
การตบหน้านี้ใช้แรงไปเยอะมาก เสิ่นอีอีถูกตบจนเซไปข้างหลัง เอามือจับแก้มและเงยหน้าขึ้น “เธอกล้าตบฉันหรือ”
หานเส่โยว วางมือไว้ตรงหน้าอก “ถ้าไม่ตบเธอ เธอจะรู้ความเก่งกาจของฉันได้อย่างไร แม้ว่าผู้จัดการจะเป็นคนแกแล้ว แล้วจะทำไม ฉันจะรังเกียจหรือไม่รังเกียจมันก็เรื่องของฉัน ยังไม่ถึงตาที่เธอจะมาเสนอหน้าออกความเห็น เช่นเดียวกัน ที่ฉันได้รับมาตอนนี้ ล้วนแต่เป็นสิ่งที่ได้มาด้วยตัวเอง ต่อให้มันจะสกปรกแล้วจะทำไม ฉันเต็มใจจะทุ่มเท เธอจะยอมทำหรือเปล่าล่ะ”
เสิ่นอีอีจ้องมองเธอด้วยความตกใจ
นึกไม่ถึงว่าเธอจะเอาเรื่องที่สกปรกน่ารังเกียจของตนเองมาพูดได้อย่างสบายๆ เดิมทีเธอคิดว่าถ้าด่าหานเส่โยวว่าเธอเป็นพวกผู้หญิงไม่รักษาเนื้อรักษาตัว เธอจะต้องโกรธ
แล้วเธอก็โกรธจริง ๆ แต่ไม่คาดคิดว่าเธอจะเอามาบอกกับตัวเองอย่างภาคภูมิใจว่า เธอทุ่มเทจริง ๆ!
“หน้าด้าน ฉันไม่เคยเห็นใครหน้าด้านเท่าเธอมาก่อน”
“เหอ” หานเส่โยว เดินกอดอกไปข้างหน้า “อย่างนั้นเธอก็คงจะต้องผิดหวังแล้วจริง ๆ เพราะ…ฉันนั้นจะหน้าด้านให้มากกว่า”
หลังจากที่เธอผ่านประสบการณ์จากจุดสูงสุดตกลงมาสู่จุดตกต่ำ เธอจะยังมีอะไรที่ไม่กล้าจะพุ่งชนอีกหรือ
เมื่อก่อนเป็นคุณหนูใหญ่ของตระกูลหาน สามารถวางอำนาจบาตรใหญ่ได้ แต่ในตอนนี้ล่ะ
ลูกสาวของผีพนันคนหนึ่ง ผู้หญิงที่อาจจะถูกพ่อทำร้ายจนตายเมื่อไรก็”ที่กลับถึงบ้าน อีกทั้งจะถูกนำไปเป็นเดิมพันในการพนันเมื่อไรก็ได้ เธอยังจะมีอะไรที่พุ่งชนไม่ได้อีกล่ะ
ทั้งหมดนี้ ก็ต้องขอบคุณผู้หญิงคนนั้น
เธออยากจะคืนทั้งหมดให้กับเธอทีละนิด
เสิ่นอีอี ใช้มือปิดหน้าแล้วเดินออกไปข้างนอก พบกับเพื่อนร่วมงาน จึงถามเธอด้วยความกังวล “เธอเป็นอะไรไปหรือ ใบหน้าเธอบวมแล้ว”
เสิ่นอีอีถูกถามแบบนี้ ก็เกลียดขึ้นทันที พูดออกไปด้วยความโกรธ “เมื่อกี้นี้หานเส่โยวแอบขี้เกียจอยู่ด้านใน ฉันว่าเธอไปไม่กี่คำ เธอก็เลยเริ่มลงมือ”
เมื่อเพื่อนร่วมงานได้ยิน อดไม่ได้ที่จะเบิกตากว้าง “เกิดอะไรขึ้นกับคุณ คุณยุ่งกับใครไม่ยุ่งไปยุ่งกับเธอ เธอเป็นคนดังของร้านเรา คุณไปทำให้เธอให้เดือดร้อนก็ไม่เท่ากับหาเรื่องเดือดร้อนใส่ตัวหรือ”
“ฉันก็ไม่อาจทนดูเธอได้ ทำไมเธอถึงมีสิทธิทำแบบนี้ได้”
“มีสิทธิอะไรหรือ สิทธิที่เธอจะทำอะไรก็ได้ คนที่กล้านอนกับชายชรา ปลอบประโลมชายชรา คุณกล้าไหมล่ะ”
“ฉัน!” เสิ่นอีอี โดนเธอพูดแบบนี้ ทันใดนั้นก็พบว่าตนเองไม่สามารถจะตอบโต้ได้
“เธอยอมทุ่มเทร่างกายไป ดังนั้นเธอจึงเจริญรุ่งเรืองมากในร้านอาหารแห่งนี้ แม้ว่าในสายตาพวกเราเธอจะดูไร้ยางอาย แต่ในความรู้สึกของเธอเองไม่อาจจะสำนึกได้ พวกเราอย่าไปยุ่งกับเธอเลย เพียงแค่ทำเรื่องของตนเองก็พอแล้วมั้ง”
พูดจบ เพื่อนร่วมงานก็ตบไหล่เธอ พูดแนะนำ “คราวนี้คุณเสียเปรียบ เป็นบทเรียนระยะยาว ครั้งหน้าก็อย่าไปทะเลาะกับเธออีก พวกเราในร้านทุกคนกลัวเธอทั้งนั้น!”
เสิ่นอีอี ยังไม่อาจจะยอมรับได้ กัดฟันแน่นและปกปิดหน้าของตนเอง หรือจะต้องถูกตบหน้าฟรีๆแบบนี้หรือ
ไม่มีทาง เธอจะไม่ยอมถูกรังแกฟรีๆแน่นอน
เมื่อกี้เธอพูดอะไรกับในสายโทรศัพท์ เธอจะต้องสืบให้ชัดเจนแน่นอน!