บทที่ 58 ครรภ์ได้รับการกระทบกระเทือน
เมื่อเห็นแก้มสีขาวของ เสิ่นเฉียวกำลังจะชนไปที่ด้านหน้า เซียวซู่ ก็คิดจะลุกขึ้น แต่มีคนเร็วกว่า
เย่โม่เซินเหยียดแขนออกและกอดไหล่บาง ๆ ของเธอ แล้วใช้แรงดึงร่างของเธอเข้ามาตัวเอง
ร่างเล็กกะทัดรัดก้มลงมาในอ้อมแขนของเขา เซียวซู่เห็นฉากนี้ต่อหน้า เมื่อปากจะพูดก็อันธทานหายไปโดยทันที
“ไปโรงพยาบาล”
ชายที่นั่งด้านหลังออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“รับทราบ”
เสิ่นเฉียวไม่ได้หมดสติ เพียงแค่แข็งแกร่งมานาน สติสัมปชัญญะของเธอนั้นเริ่มเลือนราง เธอคิดว่าตัวเองจะล้มไปชน ใครจะรู้ได้ว่า จะมีมือใหญ่คู่หนึ่ง มาคว้าตัวเธอเอาไว้ จากนั้นก็พาเข้าไปในอ้อมแขนที่มีน้ำใจโอบอ้อมอารี แต่เยือกเย็น
เมื่อ เสิ่นเฉียวเงยหน้าขึ้น ก็เห็นคางที่มั่นคงของเย่โม่เซินและลำคอที่สวยงามและชัดเจน ลมหายใจของเขาเยือกเย็น แต่มันให้ความรู้สึกสงบมาก
อีกแล้ว
ช่วยเธออีกแล้ว เขาจะไม่พูดอะไรที่จะทำร้ายเธอหลังจากช่วยเธอเหรอ?
เมื่อคิดอย่างนี้ เสิ่นเฉียวก็ยื่นมือไปผลักเย่โม่เซินออก “คุณไม่ต้องยุ่ง”
เธอมีพละกำลังไม่มาก อีกทั้งร่างกายไม่ค่อยสบาย ทำให้ไม่มีแรง จึงผลักเย่โม่เซินออกไปไม่พ้น
“เกิดอะไรขึ้น?” ถึงแม้เรื่องนี้จะไม่อยู่ในสายตาของเย่โม่เซิน แต่การเคลื่อนไหวและน้ำเสียงของเธอ ทำให้เขาไม่มีความสุข
“ฉันไม่ต้องการให้คุณมายุ่ง” ก่อนหน้านี้เธอเจ็บปวดเป็นอย่างมาก จนถูกประคองขึ้นมาบนรถยังคงรู้สึกสับสนเล็กน้อย ตอนนี้อยู่ในอ้อมแขนของเย่โม่เซินลมหายใจเยือกเย็นในตัวเขา ทำให้สติของเธอชัดเจน
โทรศัพท์ดังขึ้นมาอีกครั้ง เสิ่นเฉียวคิดว่าหานเส่โยวอาจจะไปถึงแล้ว จึงเอ่ยปากพูด “ฉันจะลงรถ”
ได้ยินเช่นนี้ คิ้วที่สวยงามของเย่โม่เซินก็ขมวดขึ้นมาทันที สายตาที่เย็นชาก็จ้องไปที่เธอ
“คุณพูดอะไร?”
สายตาของเขามีความดุร้ายเล็กน้อย ราวกับมีดที่วางลงไปบนใบหน้าของเสิ่นเฉียว เสิ่นเฉียวตะลึงงัน แต่ยังคงกัดริมฝีปากล่างอย่างดื้อรั้น “จากที่คุณชายเย่เป็นคนพูด ฉันไม่เท่ากับว่าเป็นคนนอกเหรอ? ในเมื่อฉันเป็นคนนนอก ถ้าอย่างนั้นก็ขอให้คุณชายเย่กรุณาให้ฉันลงจากรถด้วย เรื่องของฉันไม่เกี่ยวข้องกับคุณ”
เซียวซู่และคนขับรถที่นั่งอยู่ข้างหน้า “……”
คุณนายน้อยสองอย่างนี้จะดีเหรอ? คาดไม่ถึงว่าจะกล้าพูดอย่างนี้กับคุณชายเย่ช่างมีความกล้าหาญจริง ๆ
อุณหภูมิภายในรถลดลงอย่างกะทันหัน
“คุณลองพูดประโยคเมื่อสักครู่อีกครั้งดู”
เสิ่นเฉียว กัดริมฝีปากล่าง รู้สึกถึงการบีบบังคับกำลังล้อมรอบตัวเธอ เธอไม่มีทางหนีรอดไปได้
พูดอีกครั้งเหรอ? เสิ่นเฉียวลืมตาขึ้น เมื่อสังเกตว่าดวงตาของเย่โม่เซินนั้นเต็มไปด้วยความโกรธ ดูเหมือนว่าเธอจะต้องพูดอีกหนึ่งประโยค เขาจะยื่นมือออกมาและบีบคอเธอโดยไม่ลังเล จนทำให้เธอตาย
เมื่อคิดแล้ว ในที่สุดเสิ่นเฉียวก็ไม่พูดประโยคที่เพิ่งพูดออกมา แค่ถามกลับว่า “จะพูดอักกี่ครั้ง แล้วมันไม่เหมือนกันเหรอ? ฉันไม่ใช่เครื่องอ่านเสียงซ้ำนะ ถึงอย่างไร ฉันก็จะลงจากรถ”
เย่โม่เซินไม่เคลื่อนไหว
“ฉันจะลงจากรถ” เสิ่นเฉียว ยืนยันด้วยเสียงที่หนักแน่นอีกครั้ง
วินาทีต่อมา นิ้วของเย่โม่เซินบีบคางของเธอแรง จนกระดูกแทบแหลก
ไม่ว่าคุณจะเชื่อฉันหรือไม่ฉันก็จะส่งคุณลงรถ เมื่อถึงเวลา คุณกับลูกอย่าคิดว่าจะมีชีวิตรอด
เมื่อได้ยินเช่นนี้ สีหน้าของเสิ่นเฉียวก็ขาวซีดจนดูไม่ได้ ริมฝีปากของเธอสั่นเทา “เย่โม่เซิน คุณมันคือปีศาจ”
เย่โม่เซิน ยิ้มอย่างเยือกเย็น “ปีศาจเหรอ? เสียใจจริง ๆ ที่รับปากว่าคุณว่าจะเก็บเจ้าลูกนอกสมรสนั้นไว้ ผู้ชายที่อ่อนแออย่างนั้น ถ้าคุณไม่มีสมองจะทำอย่างไร ยังคิดที่จะปกป้องลูก ๆ แทนเขาเหรอ?”
เสิ่นเฉียวกัดริมฝีปาก ลูกนั้นไม่ใช่ของหลินเจียง
แต่เธอไม่มีวิธีการที่จะสามารถอธิบายกับเย่โม่เซินได้ เธอเองก็ไม่รู้ว่าพ่อของลูกเป็นใคร ในใจหงุดหงิดขึ้นมาทันที จึงพูดกับเย่โม่เซินว่า “คุณไม่เข้าใจอะไรสักอย่างเลย”
เย่โม่เซิน ยิ้มอย่างเยือกเย็น โดยไม่สนใจเธออีก
ในที่สุด เสิ่นเฉียว ก็เงียบ โทรศัพท์ดังขึ้นมาอีกครั้ง สายตาของเย่โม่เซิน หยุดนิ่ง ใครกันที่ห่วงเธอขนาดนี้?
เสิ่นเฉียวก้มลงหยิบโทรศัพท์อีกครั้ง ในขณะเดียวกันเย่โม่เซินก็ได้ปล่อยมือที่บีบเธอเอาไว้
“ฮัลโหล”
“เสิ่นเฉียว ฉันถึงประตูหน้าบริษัทพวกคุณแล้ว คุณอยู่ที่ไหน? คุณเป็นอย่างไรบ้างแล้ว? ขอโทษ เมื่อสักครู่ตอนที่กำลังมา รถติดมาก”
ภายในรถเงียบ เสียงปลายสายของผู้หญิงนั้นเป็นกังวลอย่างเห็นได้ชัด
เมื่อได้ยินว่าเป็นเสียงของผู้หญิง เย่โม่เซินก็ไม่ได้สนใจ
“ฉันไม่เป็นไร ตอนนี้ฉันกำลังไปโรงพยาบาล” พูดจบ เสิ่นเฉียว ก็เช็ดเหงื่อเย็นๆ บนหน้าผากตัวเอง
เย่โม่เซิน ทำเสียงกระแอมออกมา เจ็บขนาดนี้ยังบอกว่าไม่เป็นไร
“จริงเหรอ? แล้วรถที่คุณเรียก?”
“เดี๋ยวตอนเย็นฉันค่อยอธิบายให้คุณฟัง ทำให้ไปเสียเที่ยวแล้ว ขอโทษด้วยจริง ๆ ”
“พวกเราเป็นอะไรกัน คุณจะมาขอโทษทำไม ถ้าอย่างนั้นตอนเย็นคุณค่อยโทรหาฉันแล้วกัน”
“อืม”
คนที่อยู่ปลายสายถามเพื่อความแน่ใจหลายครั้ง จนวางใจถึงได้วางสายโทรศัพท์ไป
หลังจาก เสิ่นเฉียว รับสายโทรศัพท์ ลมหายใจก็ยิ่งไม่คงเส้นคงวา นั่งตัวอ่อนไร้เรี่ยวแรง มือเธอลูบหน้าท้องส่วนล่างโดยไม่รู้ตัว
มันเจ็บปวดมาก
คงจะไม่เกิดอะไรขึ้นกับลูกนะ?
ผ่านไปประมาณสิบห้านาที รถก็มาจอดอยู่ที่หน้าโรงพยาบาล
“คุณชายเย่ผู้ช่วยเสิ่น ถึงโรงพยาบาลแล้ว”
ผู้หญิงที่นั่งอยู่ในที่นั่งนั้นนิ่งไม่ขยับ
เย่โม่เซิน ขมวดคิ้ว “รีบลงไปเร็ว”
เสิ่นเฉียว ไม่มีปฏิกิริยาโต้ตอบ เซียวซู่หันหน้ากลับมาดู แล้วเอ่ยปากพูดอย่างระมัดระวัง “คุณชายเย่ดูเหมือนว่าเธอจะหมดสติไปแล้ว”
อะไรนะ? คิ้วของเย่โม่เซินกระตุก ผู้หญิงที่สมควรตายคนนี้ แต่ก่อนเป็นคนที่มีความสามารถมาก แค่ครู่เดียวก็สลบไปแล้วเหรอ?
หลังผ่านไปไม่กี่นาที เสิ่นเฉียวก็ถูกนำขึ้นนอนบนเปลพยาบาล แล้วเข็นเข้าไปในโรงพยาบาล จากนั้นก็ถูกส่งเข้าไปยังห้องฉุกเฉิน
เซียวซู่ผลักเย่โม่เซิน ผู้ซึ่งนั่งอยู่ในรถเข็นไปรอที่ห้องฉุกเฉิน พลางกล่าวว่า “ผู้ช่วยเสิ่น คงจะไม่เป็นอะไรใช่ไหม?”
ไม่มีใครโต้ตอบเขา เซียวซู่เองก็ไม่รู้สึกเบื่อ กลับถามต่อไปว่า “ฉันคิดขึ้นมาได้กะทันหัน ว่าเมื่อสักครู่ผู้ช่วยเสิ่นนั้นกุมท้องอยู่ตลอดเวลา คงจะไม่ใช่ลูกของเธอมีปัญหาอะไรนะ? จริงสิ เมื่อคืนผู้ช่วยเสิ่นดื่มเหล้าไปไม่ใช่เหรอ? ดูเหมือนว่าตั้งครรภ์นั้นไม่สามารถดื่มเหล้าได้”
เมื่อได้ยิน เย่โม่เซิน ก็ขมวดคิ้วแน่น
ไม่ใช่ดูเหมือน แต่ไม่ได้เลยต่างหาก
“แต่เมื่อวานผู้ช่วยเสิ่นดื่มไปเยอะมาก” เมื่อพูดถึงตรงนี้ เซียวซู่ก็กลืนน้ำลาย แล้วมองไปทางด้านเย่โม่เซิน
เย่โม่เซิน ขมวดคิ้ว ลมหายใจเย็น ๆ จากร่างกายของเขาก็ถูกปล่อยออกมา
“ปากคุณว่างมากเหรอ?”
เมื่อได้ยิน เซียวซู่ก็อ้าปากโดยไม่รู้ตัว และส่ายหัวอย่างแรง
เย่โม่เซิน หลับตาลง “เสร็จแล้วเรียกฉัน”
“คุณชายเย่พวกเราจะรออยู่ที่นี่?ไม่กลับเหรอ?”
เย่โม่เซินเงยหน้าขึ้นสูง “หรือว่าคุณอยากจะให้หมอออกมา แล้วหาคนไม่เจออย่างนั้นเหรอ?”
เมื่อคิดได้ เซียวซู่ก็พยักหน้า “ก็จริง ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็รออยู่ที่นี่ ดีแล้ว”
เวลาผ่านไปแต่ละนาทีแต่ละวินาที ในที่สุดประตูห้องฉุกเฉินก็เปิดออก หมอเดินออกมา แล้วถอดหน้ากากออก “ใครเป็นญาติของผู้ป่วยเสิ่นเฉียว”
เซียวซู่รีบยกมือ แล้วชี้ไปที่เย่โม่เซิน
เมื่อหมอเห็นสายตาของเย่โม่เซินก็ไม่พอใจขึ้นมาทันที “คุณเป็นสามีของเธอใช่ไหม? คุณเป็นสามียังไง?ครรภ์นั้นไม่ค่อยมั่นคง แถมยังมีปริมาณแอลกอฮอล์ที่เกินขนาดอีก พวกคุณไม่ต้องการเด็กคนนี้แล้วอย่างนั้นเหรอ?”
เย่โม่เซินขมวดคิ้ว เรื่องนี้เกี่ยวอะไรกับเขา?
“อีกทั้งเธอปวดท้องมาตั้งนาน ทำไมถึงเพิ่งพามาส่งโรงพยาบาล?”