เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ – ตอนที่ 576 ฉันไม่ใช่คนอื่น

บทที่ 576 ฉันไม่ใช่คนอื่น

หานมู่จื่อหยุดชะงักขณะที่ถือโทรศัพท์ไว้ เธอเบิกตากว้าง แล้วหยุดหายใจ

ชายหนุ่มที่อยู่ข้างหลัง จับแขนเธอไว้ ความร้อนที่ฝ่ามือส่งผ่านเสื้อผ้าอย่างต่อเนื่อง แต่หานมู่จื่อกลับรู้สึกหนาวเท่านั้น

ความหนาวสั่นไล่ขึ้นมาจากฝ่าเท้า ราวกับอยู่ในโลกแห่งหิมะน้ำแข็ง

เสียงของเย่โม่เซินมีความหนาวเย็น พาดผ่านข้างหูเธอ

“ใส่หน้ากากไว้ ดูเหมือนอายุจะสี่ห้าขวบ”

หานมู่จื่อกัดริมฝีปากล่างของตัวเองไว้แน่น ทันใดนั้น ริมฝีปากล่างก็ส่งความเจ็บปวดที่แสบร้อน ทำให้ตัวเธอมีสติขึ้นมาในทันที

ไม่ใช่ เธอจะร้อนรนอย่างนี้ทำไม

ครั้งที่แล้วเสี่ยวหมี่โต้วก็เคยบอกเธอแล้ว เขาสวมหน้ากากไว้ ได้เจอกับคุณลุงคนนั้นครู่เดียว แต่พวกเขาต่างไม่รู้จักกัน

ใช่สิ ในสถานการณ์อย่างนั้น ทั้งสองต่างก็สวมหน้ากากไว้ จะจำกันได้อย่างไร?”

แล้วเธอตื่นตระหนกอะไร?

จงนิ่งไว้ หานมู่จื่อ อย่าลุกลี้ลุกลนไป ยิ่งอย่าให้เย่โม่เซินได้ดูพิรุธออก

เมื่อนึกถึงตรงนี้ หานมู่จื่อจึงหายใจเข้าลึกๆ ทำให้อารมณ์ของเธอสงบลงอย่างช้าๆ จากนั้นเธอก็ค่อยๆพูดขึ้น

“จริงเหรอ? วันนั้นคุณก็สวมหน้ากากไว้ด้วย ช่างบังเอิญจริงๆ”

ปฏิกิริยาของเธอ ทำให้เย่โม่เซินขมวดคิ้ว

“คุณไม่รู้?”

“ฉัน?” หานมู่จื่อยิ้มเล็กน้อย “ฉันจะรู้ได้ยังไง? มีอะไรเหรอ? หรือคุณคิดว่า ฉันก็เคยเจอเด็กคนนั้นด้วย”

เย่โม่เซิน “……”

“ฟังคุณพูดอย่างนี้ ฉันก็อยากจะเจอขึ้นมาสักแล้ว ลูกของบ้านใครกัน ที่ซนขนาดนี้ ไปร่วมงานเลี้ยง ยังสวมหน้ากากไปด้วย”

พูดถึงตรงนี้ หานมู่จื่อแสร้งยิ้มขึ้น

เย่โม่เซินรู้สึกมึนงงแล้ว หรี่ตาลง จับไหล่ของเธอไว้ หันตัวเธอกลับมาเผชิญหน้ากับตัวเอง

“คุณไม่เคยเห็นจริงๆเหรอ? เด็กคนนั้นไม่ใช่ของคุณเหรอ?”

เมื่อทั้งสองหันหน้าเข้าหากัน สายตาของเย่โม่เซิน จับจ้องที่แววตาของเธอ ผู้หญิงคนนี้ไม่ถนัดที่จะโกหก

หากเธอพูดโกหก งั้นดวงตาของเธอ และท่าทางบนใบหน้าของเธอ จะเป็นตัวบอกคำตอบแก่เขาเอง

หานมู่จื่อถูกบังคับให้เงยหน้าขึ้นเล็กน้อย แล้วสบตากับเย่โม่เซิน

ในสายตาของเย่โม่เซิน แม้ว่าจะผ่านไปห้าปี ดวงตาของเธอ ก็ยังคงใสสะอาดบริสุทธิ์เหมือนเดิม โดยไม่มีมลทินใดๆ แต่ความเย็นชาในนั้น เพิ่มกว่าเดิมเล็กน้อย

“ตอบฉัน” ริมฝีปากบางของเย่โม่เซินเปิดขึ้นเบาๆ จ้องมองดวงตาที่สวยงามของเธออย่างจริงจัง

หนึ่งวินาที สองวินาที สามวินาที…..

หานมู่จื่อกะพริบตาเบาๆ ไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆในดวงตา และใบหน้าเงียบสงบ ค่อยๆพูดขึ้น “ไม่มี ไม่ใช่”

เย่โม่เซิน “……”

หานมู่จื่อสงบราบเรียบมาก ไม่มีร่องรอยการโกหกเลยสักนิด

มือที่จับคางของเธอไว้ หลุดออกไปชั่วขณะ เย่โม่เซินเกิดความสงสัยในตัวเอง

หรือว่าเขาคิดมากเกินไป? แล้วเหตุใดจึงมีความบังเอิญเช่นนี้?

“ทำไมคุณแค่เจอเด็กคนหนึ่ง ก็คิดว่าเป็นของฉัน? ในวันนั้นมีคนมาร่วมงานเลี้ยงมากมายขนาดนั้น มีจำนวนมากที่พาลูกไป หรือคุณได้เจอคนไหน ก็คิดว่าเป็นของฉันหมดเลย?”

หลังจากพูดจบ หานมู่จื่อก็ก้าวถอยหลังเล็กน้อย นวดคางของตัวเอง ที่ถูกบีบจนเจ็บปวด พูดด้วยเสียงเบา “คุณถามพอหรือยัง? ถ้าถามพอ ฉันก็จะสั่งอาหารแล้ว”

“เดี๋ยวก่อน” เย่โม่เซินขัดจังหวะเธออีกครั้ง

ปลายนิ้วของหานมู่จื่อที่ถือโทรศัพท์ไว้ ขาวซีดเล็กน้อย เธอหลับตาลง “คุณยังจะถามอะไรอีก?”

“ลูกล่ะ?”

หานมู่จื่อ “…… ลูกอะไร?”

“ลูกของคุณ” เย่โม่เซินจ้องมองเธอด้วยสายตาคมเฉียบ “ทำไมไม่ให้ฉันเห็นเขา? ทำไมถึงต้องเก็บรองเท้าและสิ่งของของเขาทั้งหมด?”

เป็นไปตามคาด เขาได้ค้างคาใจกับคำถามนี้จริงๆ

แต่อาจจะทำให้เขาผิดหวังแล้ว ตอนที่หานมู่จื่อเก็บของเหล่านี้ ก็เดาได้แล้ว ว่าเขาอาจจะอดใจไม่ไหวที่อยากถามตัวเอง

ดังนั้นเธอจึงคิดข้ออ้างที่จะมารับมือกับเย่โม่เซินเรียบร้อยแล้ว

“ทำไมจะไม่เก็บล่ะ?” หานมู่จื่อหันกลับมามองเขาด้วยสายตาคมเฉียบ ริมฝีปากสีแดงยิ้มเยาะเล็กน้อย

“คุณก็รู้ว่านั่นคือลูกของสามีเก่าฉัน ถ้าไม่เก็บของ คุณทนได้เหรอ?”

คำพูดที่โต้กลับนี้ ทำให้เย่โม่เซินสำลัก ไม่สามารถพูดได้ในทันที

เมื่อเห็นว่าเขานิ่งอึ้งอยู่กับที่ ไม่มีคำพูดใดๆ หานมู่จื่อก็รู้ว่า ด่านนี้ผ่านไปชั่วคราวแล้ว จึงรีบพูดด้วยท่าทางโกรธเคือง “เอาล่ะ หยุดหัวข้อนี้สัก ฉันจะสั่งอาหารแล้ว คุณอย่ารบกวนฉันอีก”

หลังจากพูดจบ หานมู่จื่อก็หันกลับโดยตรง คิดจะเดินไปไกลหน่อยเพื่อนไปสั่งอาหาร เพื่อไม่ให้เขาถามคำถามตัวเองอีก ส่งผลกระทบถึงตัวเอง

“เดี๋ยวก่อน!”

แต่ไม่คาดคิดว่า เธอเพิ่งจะหันกลับมา เย่โม่เซินก็เรียกหยุดเธออีกครั้ง

ครั้งนี้หานมู่จื่อหมดความอดทนในที่สุด

“คุณยังไม่จบอีกใช่ไหม? คุณยังจะกินข้าวอยู่หรือเปล่า? ถ้าไม่กิน คุณก็กลับบ้านของตัวเอง ฉันจะกินเอง……”

ยังพูดไม่จบ เย่โม่เซินก็เดินไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว โอบกอดเธอจากข้างหลัง มือใหญ่จับข้อมือขาวของเธอไว้ มืออีกข้างหนึ่ง ควบคุมโทรศัพท์มือถือของเธอ คลิกออกจากร้านอาหารเสฉวนเมื่อครู่

“ลืมว่าตัวเองป่วยแล้วหรือ? เวลานี้ยังกินอันนี้?”

หานมู่จื่อ “……”

เธอปล่อยให้เย่โม่เซินจับมือของตัวเองไว้อย่างตะลึง หลังจากคลิกออกมาจากหน้าเว็บ ก็คลิกเข้าไปในร้านโจ๊กเพื่อสุขภาพ “ตอนนี้คุณควรกินจืดหน่อย”

ริมฝีปากของหานมู่จื่อเปิดเล็กน้อย ไม่สามารถพูดอะไรได้สักคำ

ตอนแรกเธอคิดว่า เขายังจะถามเรื่องของลูกอีก แต่ไม่คิดว่าเขาจะ……

สั่งโจ๊กเพื่อสุขภาพไปสองถ้วย แล้วเย่โม่เซินก็จับนิ้วมือของเธอเพื่อจะจ่ายเงิน อุณหภูมิปลายนิ้วของเขา เหมือนกับไฟการหายใจของหานมู่จื่อก็เร็วขึ้นเล็กน้อย

ในวินาทีต่อมา เธอผลักเย่โม่เซินออกไปอย่างแรง พร้อมกับพูดว่า “ฉันไม่ชอบกินอันนี้”

จากนั้นก็ดิ้นออกมาจากอ้อมกอดของเขา

เมื่อได้ยิน เย่โม่เซินก็ขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจ “วันนี้ไม่ใช่เวลาที่คุณจะมาเอาแต่ใจ ยังอยากเป็นไข้อีก? หรือว่า คุณคิดถึงความรู้สึกที่ฉันดูแลคุณ?”

หานมู่จื่อ “…… พูดเหลวไหลอะไร?”

“นั้นก็สั่ง” เย่โม่เซินก้าวไปข้างหน้า จับข้อมือขาวบางของเธอไว้แน่น น้ำเสียงเคร่งขรึมเล็กน้อย “เชื่อฟัง”

เมื่อเห็นเขาจับมือของตัวเองไว้แน่น หานมู่จื่อก็เม้มริมฝีปากเล็กน้อย รู้สึกว่าสั่งโจ๊กเพื่อสุขภาพก็ไม่เลว

ที่จริงตัวเธอก็อยากจะกิน แต่เวลานั้นคิดใหม่อีกครั้ง ก็รู้สึกว่า เย่โม่เซินน่าจะไม่กินของจืดขนาดนี้กับเธอ

เพราะยังไงแล้ว เขาเป็นท่านประธานของบริษัทตระกูลเย่ ปกติแล้ว ก็มีพ่อครัวทำอาหารให้เขาโดยเฉพาะ และวันนี้เธอก็ไม่มีแรงทำอาหาร ถ้าสั่งโจ๊กแบบมักง่าย งั้นเขาก็ต้องรังเกียจแน่นอน

“คุณจะกินไหม?” หานมู่จื่ออดไม่ได้ที่จะถาม

เย่โม่เซินชะงักไปชั่วขณะ ถึงได้รู้ตัว ริมฝีปากบางของเขายกขึ้นเล็กน้อย จับมือของหานมู่จื่อแน่นขึ้นเล็กน้อย “คุณใส่ใจกับความรู้สึกของฉัน?”

ดวงตาของเขาเร่าร้อนเป็นพิเศษ เผาจนใบหน้าของหานมู่จื่อร้อนผ่าว เธอดึงมือตัวเองกลับ พูดอย่างเย็นชา

“ฉันบอกว่าจะเลี้ยงข้าวคุณ เพื่อแสดงความขอบคุณ ก็ต้องตามความคิดและความคิดเห็นของคุณ และการเลี้ยงข้าวคนอื่น ก็ไม่ควรน่าเกลียดเกินไปมั้ง”

“มู่จื่อ ฉันไม่ใช่คนอื่น”

เย่โม่เซินมองเธอ พูดอย่างแน่วแน่ “ฉันเป็นสามีของคุณ”

หานมู่จื่อเหลือบมองเขา “ไม่ใช่ เมื่อก่อนไม่ใช่ ตอนนี้ก็ไม่ใช่”

ครั้งนี้เย่โม่เซินไม่ได้คัดค้านเธอ แต่ได้พูดว่า “อนาคตจะใช่เอง”

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ ถูกบังคับเป็นตัวแทนของงานแต่งงานนี้ เธอแต่งงานกับผู้ชายที่พิการแต่กลับมีอำนาจใหญ่ “ฉันเย่โม่เซินไม่เอาผู้หญิงที่ท้องและไม่รู้ว่าพ่อของลูกเป็นใครเด็ดขาด”เดิมทีคิดว่างานแต่งงานนี้เป็นการแลกเปลี่ยน แต่เธอกลับเผลอใจ ไปไปมามา สุดท้ายเธอก็จากไปด้วยความเสียใจผ่านไปหลายปี ลูกชายที่หน้าตาคล้ายกับเขามากตบหัวของเย่โม่เซินด้วยฝ่ามือเล็กๆ“พ่อคนร้าย นายว่าใครเป็นเด็กที่ไม่รู้ว่าพ่อของตัวเป็นใคร?”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset