บทที่582 มีการป้องกันงั้นเหรอ
“เอาอาหารเที่ยงมาแล้ว” เสี่ยวเหยียนเปิดประตูเข้ามา น้ำเสียงกับสีหน้าแตกต่างจากตอนออกไปอย่างเห็นได้ชัด ตอนจะออกไปนั้นเธอดูเลือดร้อน อย่างกับจะไปรบ
แต่พอกลับมาก็หน้าตาบูดบึ้ง เหมือนกับว่ามีคนรังแกเธอยังไงยังงั้น
“เป็นอะไรไป? ” หานมู่จื่อเหล่มองเธอ แล้วก็ถามอย่างขำๆ ว่า “เธอคงไม่ได้ทะเลาะวิวาทกับผู้ช่วยเซียวใช่ไหม? ”
พอได้ยินดังนั้น เสี่ยวเหยียนก็ทำเสียงฮึดฮัด “เขาเนี่ยนะจะมาทะเลาะกับฉัน? เขาก็คงทำได้แค่โดนฉันโจมตีจนตอบอะไรกลับมาไม่ได้เลยโอเคไหม? ” พอพูดจบเธอก็ชูมือขึ้นไปทางหานมู่จื่อแล้วก็เขย่าถุงในมือ “รีบมาเอาอาหารกลางวันที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรักของเธอเร็ว”
อาหารกลางวันที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรักทำให้หานมู่จื่อหน้าแดง หลังจากนั้นก็ไม่ยอมเดินเข้าไปแล้ว เธอไปเบาๆ “ในเมื่อเธอเป็นคนไปเอามา งั้นก็ให้เธอแล้วกัน วันนี้จู่ๆ ฉันก็อยากไปกินโจ๊กเบาๆ ที่โรงอาหารสักหน่อย”
หลังจากพูดจบ หานมู่จื่อก็เริ่มเก็บของ แล้วก็เดินลงไปชั้นล่าง
สีหน้าของเสี่ยวเหยียนเปลี่ยนไปทันที รีบขวางเธอไว้
“เธอทำอะไรผิดไปรึเปล่า? นี่คืออาหารกลางวันที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรักที่เย่โม่เซินให้เธอเลยนะ ถ้าเกิดว่าเธอเอาให้ฉันกินแล้วคุณชายเย่รู้เข้า แล้วฉันจะยังมีชีวิตอยู่ไหม? ”
หานมู่จื่อ“……เธออย่าพูดเหมือนกับว่าเขาเป็นฆาตกรแบบนั้นสิ ก็แค่อาหารกลางวันมื้อเดียวเอง”
“หา? ” เสี่ยวเหยียนเลิกคิ้ว “ฉันบอกว่าเขาเป็นปีศาจฆาตกรแล้วเธอไม่สบายใจงั้นเหรอ? ปกป้องเขางั้นเหรอ? ”
หานมู่จื่อ“……”
“เอาเถอะ รีบกินอาหารกลางวันที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรักซะ ฉันลงไปก่อนนะ”
เสี่ยวเหยียนไม่รอให้เธอโต้ตอบ ยัดถุงนั้นใส่เข้าไปในมือเธอทันที แล้วก็วิ่งออกมา แถมยังเปิดประตูห้องทำงานไว้ให้เธออีกด้วย
สุดท้ายหานมู่จื่อก็ได้แค่ถือถุงนั้นไปที่ห้องพัก พอเปิดถุงออกก็พบว่ามันเป็นกล่องอาหารที่ภายนอกดูงดงามและประณีตมาก พอเปิดฝาออกก็จะพบทั้งเนื้อและผักที่ถูกจัดตามความเหมาะสม แล้วก็มีซุปบำรุงถ้วยหนึ่ง
ตื้ด——
โทรศัพท์สั่น หานมู่จื่อมองไปที่โทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะ มันแสดงพอดีว่าเย่โม่เซินส่งข้อความวีแชทมา
{กินข้าวให้อร่อย เดี๋ยวเลิกงานแล้วฉันไปรับ}
อ่านข้อความนี้ แล้วก็หันไปมองอาหารกลางวันตรงหน้าของตัวเองอีกครั้ง หานมู่จื่อก็รู้สึกเหมือนมีอะไรที่ผิดปกติ
ที่พวกเขาเป็นตอนนี้ ทำไมถึงได้เหมือนกับเป็นเรื่องที่คู่รักหญิงชายจะทำให้กันในช่วงเวลาที่กำลังรักกันอย่างโงหัวไม่ขึ้นล่ะ
เรื่องส่งอาหารกลางวันแห่งรักอะไรพวกนี้มาให้ ทำไมมันถึงไม่เหมือนเรื่องที่เย่โม่เซินจะทำได้เลยล่ะ
แต่ว่า……พอได้เจอกันอีกครั้ง เรื่องที่เขาทำให้เธอตะลึงและประหลาดใจมันน้อยหรือยังไงกัน?
พอกินอาหารกลางวันเสร็จ หานมู่จื่อก็เก็บกวาด หลังจากนั้นก็พิงโซฟาแล้วพักผ่อน
เย่โม่เซินแค่ส่งข้อความมาให้เธอสองครั้ง หลังจากนั้นก็ไม่มีเสียงอะไรแล้ว
หลังจากพักผ่อนช่วงกลางวัน
พึ่งจะเริ่มทำงานก็มีลูกค้ามาท่านหนึ่ง บอกว่าจะสั่งชุดทำงานสไตล์ฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อน แค่ฟังก็รู้แล้วว่ามันเป็นคำสั่งซื้อจำนวนมาก เพราะฉะนั้นเสี่ยวเหยียนก็รีบเชิญลูกค้าท่านนั้นมาที่ห้องทำงานทันที ให้หานมู่จื่อพูดคุยกับอีกฝ่ายอย่างละเอียด
“สวัสดีครับคุณหาน”
ลูกค้าท่านนี้เป็นชายวัยกลางวัน สวมใส่ชุดสูทและรองเท้าหนัง ทั้งผิวพรรณและสภาพจิตใจก็ดูดีมาก แค่ดูแวบเดียวก็รู้ว่าเขาเป็นบุคคลที่ประสบความสำเร็จ
เขาหยิบนามบัตรส่งให้หานมู่จื่อ
“ผมเป็นผู้จัดการจากบริษัทแอลที ที่ผมมาในครั้งนี้เพราะว่าอยากจะคุยกับบริษัทคุณเกี่ยวกับเรื่องชุดทำงานฤดูร้อนและฤดูใบไม้ผลิในปีหน้า ไม่ทราบว่าคุณหานมีข้อเสนอแนะอะไรรึเปล่าครับ? ”
หานมู่จื่อรับนามบัตรมา แล้วก็มองอย่างตั้งใจ หลังจากนั้นก็คลี่ยิ้มออกมา
“สวัสดีค่ะผู้จัดการอี้”
“เชิญนั่งทางนี้ก่อนเลยค่ะ” หานมู่จื่อนำทางให้เขานั่งลงที่โซฟาด้านข้าง “สำหรับชุดทำงานฤดูร้อนและฤดูใบไม้ผลินั้น ไม่ทราบว่าผู้จัดการอี้มีความต้องการประมาณไหนคะ? คุณสามารถบอกกับฉันเบื้องต้นได้เลยค่ะ แล้วเดี๋ยวทางฝั่งของฉันก็จะเอาแบบร่างให้คุณดูอีกที”
เสี่ยวเหยียนเห็นว่าทั้งสองคนคุยเรื่องงานกัน ก็เดินไปชงกาแฟที่ห้องเบรกอย่างรู้งาน
เสี่ยวเหยียนชงกาแฟก็ไม่ได้ใช้เวลานานเท่าไหร่ ตอนที่เธอชงกาแฟกลับมานั้น หานมู่จื่อกับผู้จัดการอี้ก็คุยกันไปเยอะแล้ว ไปถึงหัวข้อหลักแล้ว
“ผู้จัดการอี้ กาแฟของคุณค่ะ”
“เอ้ะ? ขอบคุณครับ” ผู้จัดการอี้รับกาแฟไป เขามีมารยาทมาก แถมยังดูมีสมบัติผู้ดี ไม่เพียงแค่ยื่นมือมารับทั้งสองมือ แถมเขายังขอบคุณเสี่ยวเหยียนอีก หลังจากจิบกาแฟลงไปแล้วเขาก็เอ่ยปากชม “ชงกาแฟนี้ชงมาอย่างดีเลย คุณชงเองเหรอครับ? ”
เสี่ยวเหยียนโดนชม ก็พลางพยักหน้าอย่างมีความสุข
“ใช่ค่ะ! ”
“ไม่เลว ฝีมือเยี่ยมไปเลย”
หลังจากพูดจบก็หันไปมองหานมู่จื่อ แล้วก็พยักหน้าด้วยความชื่นชม “บริษัทคุณนี่มีบุคคลที่มีความสามารถจริงๆ เลยนะครับ ไม่เพียงแค่ออกแบบผลงานที่งดงามและประณีต แม้แต่ฝีมือการชงกาแฟก็ยังสุดยอด ดูเหมือนว่าบริษัทของคุณหานเนี่ยจะเป็นบริษัทที่มีวิชาดีแต่ซ่อนเร้นอยู่ในยุทธจักรนะครับเนี่ย ฮ่าๆๆๆ ”
หานมู่จื่ออึ้งไป หลังจากนั้นก็คลี่ยิ้ม “ผู้จัดการอี้ก็ชมเกินไปแล้วค่ะ มันเป็นสิ่งที่พวกเราควรจะทำอยู่แล้ว”
ทั้งสองฝ่ายคุยกันอยู่สักพัก ผู้จัดการอี้ก็ยืนขึ้น “โอเค ผมเข้าใจสถานการณ์เบื้องต้นแล้ว ถ้ายังงั้นเดี๋ยวผมกลับไปปรึกษากับประธานของพวกเราอีกที ถ้าเกิดว่าไม่มีปัญหาอะไร พรุ่งนี้ผมก็จะมาเซ็นต์สัญญากับคุณนะครับ”
เสี่ยวเหยียนรีบพูดทันที “ผู้จัดการอี้ เดี๋ยวฉันไปส่งค่ะ”
“ครับๆๆ ”
หลังจากเสี่ยวเหยียนส่งแขกเสร็จ พอกลับมาก็อดไม่ได้ที่จะกระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจพร้อมกับพูดว่า “โอ้พระเจ้าผู้จัดการอี้นี่คุยดีเกินไปรึเปล่า? คนที่อยู่ในตำแหน่งสูงและมีระดับความรู้ความสามารถขนาดนี้ไม่ได้มีน้อยๆ แต่ว่ายังเกรงใจฉันกับเธอมาก โดยเฉพาะกับเธอ”
“ฉัน? ”
“ใช่ เธอไม่ได้สังเกตเหรอ? ฉันเห็นว่าเขามองเธอด้วยสายตาที่เคารพนอบน้อมจะตาย”
หานมู่จื่อ :“……”
เธอไม่ได้สังเกตเลย รู้สึกแค่ว่าคนๆ นี้ได้รับการปลูกฝังมาอย่างดี แต่ไม่ได้รู้สึกว่าเขาปฏิบัติกับตัวเองต่างกัน
ถึงกับใช้คำว่าเคารพนอบน้อม รู้สึกว่าเกินจริงไปหน่อย
“เธอรู้สึกผิดไปเองรึเปล่า? ” หานมู่จื่อหันหน้ามา แล้วก็มอบหมายงาน “เตรียมตัวกันหน่อย มาคุยกับฉันเรื่องรายละเอียดของงานในครั้งนี้ แล้วพวกเราก็เริ่มทำงานได้เลย”
“อ้อ” เสี่ยวเหยียนเดินตามฝีก้าวของเธอ “ฉันรู้สึกว่าโอกาสในการเซ็นต์สัญญาในครั้งนี้มีมากกว่า95%เลยนะ มู่จื่อ เขาเป็นเพื่อนของพี่ชายเธอรึเปล่า? ฉันรู้สึกจริงๆ นะว่าสายตาที่เขามองเธอมันไม่เหมือนกัน”
พอได้ยินแบบนี้ หานมู่จื่อก็ตอบสนองทันที
“พูดแบบนี้มันก็มีโอกาสเป็นไปได้นะ ยังไงหลังจากไปร่วมงานเลี้ยงในวันนี้ ลูกค้าของเราก็เพิ่มขึ้นเยอะเลย บริษัทแอลที…… คืนวันนั้นตอนที่เธอพาพี่ชายฉันไปชนแก้วรับแขกนั้น มีความทรงจำเกี่ยวกับบริษัทนี้บ้างไหม? ”
เสี่ยวเหยียนโดนถามแบบนี้ก็อึ้งไป แล้วก็ตอบอย่างงุนงง “ฉัน ฉันจะจำได้ยังไง? ถึงแม้ว่าวันนั้นจะได้รู้จักกับคนเยอะก็จริง แต่ว่าฉันก็ดื่มไปเยอะเหมือนกัน มึนหัวไปหมด บวกกับการที่รองเท้าส้นสูงในวันนั้นไม่ได้พอดีกับไซส์ของฉันเลย มันกัดเท้าฉันจดเลือดออก เพราะฉะนั้นถึงแม้ว่าฉันจะกำลังชนแก้วกับแขกอยู่ แต่ว่าความสนใจทั้งหมดของฉันมันไปรวมอยู่ที่เท้าของฉันเท่านั้น! ”
หานมู่จื่อได้ยินแบบนี้ ก็ขมวดคิ้วอย่างช่วยไม่ได้ “เธอเจ็บเท้างั้นเหรอ? ”
“โถ่เอ้ย แผลเล็กน้อยเอง ก็แค่ถลอกเท่านั้น ดีขึ้นเยอะแล้ว”
“ระวังหน่อย ต่อไปถ้ารองเท้าเล็กเกินไปก็อย่าใส่ แต่ว่าพี่ชายฉันนี่ก็จริงๆ เลย ทำไมถึงปล่อยให้เธอดื่มเยอะขนาดนั้น? ไม่รู้จักทะนุถนอมอ่อนโยนต่อสุภาพสตรีเลย”
“ฉันเองก็รู้สึกว่าเขาไม่รู้จักทะนุถนอมอ่อนโยนต่อสุภาพสตรีเลยแม้แต่นิดเดียว ภูเขาน้ำแข็ง ถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่นคงกลัวจนหนีไปหมดแล้ว แล้วทำไมฉันยังต้องชอบเขาอย่างไม่หวั่นไหวแบบนี้ด้วย? ”
หานมู่จื่ออึ้งไป หลังจากนั้นก็คลี่ยิ้มออกมา “น่าจะเพราะว่า เธอเป็นพวกมาโซคิสม์? ”
“ มู่จื่อ นี่เธอล้อฉันเล่นงั้นเหรอ! ”