เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ – ตอนที่ 596 มีการตอบสนองตลอด

บทที่596 มีการตอบสนองตลอด

เมื่อคิดถึงตรงนี้ หานมู่จื่อก็เปิดรายชื่อผู้โทรขึ้น แต่กลับพบว่าตัวเธอนั้นไม่อาจจะติดต่อใครได้แม้แต่คนเดียว

ติดต่อหานชิงก็ไม่ได้ ถ้าติดต่อปุ๊บ เขาก็จะรู้ทันทีว่ามันเพิ่งจะเกิดอะไรขึ้น และจากนั้นเขาก็จะบังคับให้เธอกลับไปอยู่ด้วยที่บ้านตระกูลหานแน่ๆ

หากบอกเสี่ยวเหยียน เธอก็คงไม่รู้จะทำยังไง ท้ายสุดก็อาจจะต้องไปขอความช่วยเหลือจากหานชิงอยู่ดี

ดังนั้นโทรหาเสี่ยวเหยียนก็เหมือนกับโทรหาหานชิงนั่นแหละ

แต่ตอนนี้เธอจะโทรหาใครได้บ้างหล่ะ? หรือเวลาแบบนี้เธอจะไปขอความช่วยเหลือจากเย่โม่เซินดีนะ?

หานมู่จื่อกัดริมฝีปากแน่น หัวใจเต็มไปด้วยความเจ็บปวด

ในช่วงเวลากำลังสับสนยุ่งเหยิงอยู่นั้น จู่ๆ เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น

หานมู่จื่อปาดตาไปมอง ก็พบว่าเป็นเย่โม่เซินที่โทรมา

กลับมาได้ยังไง?

หรือว่ามันจะเป็นอย่างที่เขาพูดจริงๆ เรื่องที่เราใจตรงกัน?

พอคิดได้ถึงตรงนี้ หานมู่จื่อก็กดรับสายด้วยมืออันสั่นเทา

“ฮัลโหล? ”

“พยายามไปเส้นทางที่มีกล้องวงจรปิดเข้าไว้ หลีกเลี่ยงไปเส้นทางเปลี่ยวด้วย” เสียงต่ำๆ ดังมาจากปลายสาย ราวกับเป็นแม่เหล็กแล่นผ่านเข้าที่หูของหานมู่จื่อ

หานมู่จื่อหายใจหอบถี่ คิดว่าตัวเองฟังผิดไป ริมฝีปากสั่นไปหมด เย่โม่เซินทำไมถึงรู้ว่าเธอถูกสะกดรอยตาม? เขาซ่อนอยู่ที่ไหนอย่างนั้นเหรอ?

พอคิดได้ หานมู่จื่อก็หันหลังไปมองทันที

แต่เสียงชายหนุ่มจากปลายสายกลับดังขึ้น

“อย่าหันหลังกลับไป”

การกระทำของหานมู่จื่อหยุดชะงักทันที

“ทำตามที่ฉันบอก”

หลังจากที่รู้ว่าตัวเองถูกสะกดรอยตาม ถ้าหานมู่จื่อจะบอกว่าไม่กลัวไปมันก็เป็นไปไม่ได้ ตั้งแต่ที่เกิดเรื่องขึ้นก่อนหน้านี้ เธอก็เห็นได้ชัดถึงความเกลียดชังที่มีต่อตัวเธอของอีกฝ่าย ซึ่งช่วงนี้ เมื่อครู่ก็ทำให้เธอมั่นใจได้เลยว่าเธอถูกจับตามองมาตลอดทั้งวันนี้

หลังจากที่ก่อนหน้านี้เธออยู่กับเย่โม่เซินมาโดยตลอด แต่เมื่อไม่ได้อยู่เธอก็โดนสะกดรอยตาม แบบนี้มันหมายความว่ายังไง?

อย่างไรก็ตาม ความสับสนวุ่นวายใจก่อนหน้านี้ เมื่อได้ยินคำสั่งของเย่โม่เซินแล้ว ใจเธอก็ค่อยๆ สงบลง

“ตอนนี้เธอขับรถไปจอดที่ขวามือ จากนั้นก็เลี้ยวไปอีกทางหนึ่ง”

หานมู่จื่อไม่ตอบ เธอเพียงพยักหน้า ก่อนจะทำตามที่เย่โม่เซินบอก

ที่เธอไม่พูดแต่แค่ทำตามนั้น เป็นเพราะเธอคิดว่าเย่โม่เซินเห็นเธออยู่แล้ว

เย่โม่เซินขมวดคิ้วขึ้น: “รับคำด้วยสิ”

หานมู่จื่อ: “ทำไมหล่ะ? ”

“คุยกับฉัน จำเอาไว้ว่าต้องมีการตอบสนองตลอด

หานมู่จื่อ: “….เข้าใจแล้ว”

ในตอนที่ขับไปตามทางนั้น หานมู่จื่อก็มองไปทางกระจกหลัง ก็พบว่ารถคันสีดำนั้นยังคงตามเธอมาอยู่

หานมู่จื่อสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ฟังเสียงหายใจตัวเองเบาๆ

“แล้วยังไงต่อ? ”

ทางด้านเย่โม่เซินไม่ตอบอะไร ความเงียบนั้นดูน่ากลัวหน่อยๆ หานมู่จื่อกะพริบตาปริบๆ ถามขึ้นด้วยเสียงกระซิบ “เย่โม่เซิน? ”

ฝั่งของเย่โม่เซินนั้นกำลังวิเคราะห์เส้นทางอยู่ ดังนั้นจึงไม่มีเวลามาตอบเธอ กว่าเขาจะได้สติก็ตอนที่เธอพูดออกมาเป็นเสียงกระซิบนั่น ทั้งยังเรียกเป็นชื่อของเขาเสียด้วย

จังหวะนั้น เย่โม่เซินราวกับถูกไฟช๊อต หัวใจของเขาสับสนวุ่นวาย

เขาจิบปากนัยน์ตาซับซ้อน ตอนที่อยู่บนเตียงด้วยกันสองคน ทำไมเธอถึงไม่เรียกชื่อตัวเขาแบบนี้บ้างนะ? ถ้าหากว่าเธอใช้เสียงแบบนี้เรียกเขาหล่ะก็ เขาก็จะ…..

ตอนไม่คิดก็ยังโอเค แต่พอคิดเท่านั้น….หัวสมองของเขาก็เกิดภาพตอนเช้าขึ้นมาในหัว เย่โม่เซินกระแอมคอ ก้มหน้ามองไปที่ใดที่หนึ่งที่ยกขึ้น เอามือถูคิ้ว พูดเสียงต่ำ: “ฉันอยู่นี่”

เมื่อได้ยินเสียงเขาตอบกลับเธอมา หานมู่จื่อก็อดไม่ได้ที่จะกัดปากพลางบ่นอุบ

“อยู่แล้วทำไมไม่ตอบเล่า? ”

เมื่อกี้ตาคนนี้ยังบอกให้เธอตอบสนองเขาให้ได้ตลอดอยู่เลย แล้วทำไมเขาไม่ทำบ้างเล่า?

“หึ”เสียงหัวเราะของเย่โม่เซินดังออกมาจากปลายสาย “กลัวอย่างนั้นเหรอ? ฮึ? ”

หานมู่จื่อกัดริมฝีปากอีกครั้ง ไม่ได้ตอบกลับเขา

ตอนนี้เธอช๊อกมากจนลืมเรื่องที่เธอกับเย่โม่เซินกำลังทะเลาะกันอยู่ไปหมดสิ้น

“เห็นไฟจราจรข้างหน้าไหม? ”

อื้อ”

หานมู่จื่อพยักหน้า “เห็นแล้ว”

“ตอนนี้เธอชะลอความเร็วลง

หานมู่จื่อชะลอรถลง “แล้วยังไงต่อหล่ะ? ”

“รอก่อน”

รอ? รออะไร? หานมู่จื่อมองไปยังสัญญาณไฟจราจร ครุ่นคิดอยู่ครู่ก็ตอบกลับไปหาอีกฝ่าย

“ฉันรู้แล้ว”

ในชั่ววินาทีนั้น เย่โม่เซินเมื่อได้ยินก็อดไม่ได้กระตุกยิ้มขึ้นมา

“ดูท่าเธอจะรู้แล้วว่าจะต้องทำยังไง”

หานมู่จื่อเกือบๆ จะเดาออก จึงพูดได้เพียง “ฉันไม่มีเวลาครุ่นคิดแผนอะไรมากนัก นายมีแผนไหมหล่ะ? ”

“อื้อ ลดความเร็วลงก่อน พอมันคงที่ สิบวินาทีหลังเธอก็พุ่งตัวเร็วสุดเลย”

“ได้”

หานมู่จื่อค่อยๆ ชะลอความเร็ว ใจหนึ่งก็นึกถึงแผนเรื่องความเร็ว อีกใจก็กำลังมีสมาธิกับเวลา

เมื่อระยะทางห่างจากไฟจราจรเพียง 1 วินาที หานมู่จื่อก็สูดลมหายใจเข้า ก่อนจะเหยียบคันเร่งเพิ่มความเร็ว

รถที่เดิมทีขับเนิบๆ ช้าๆ เมื่ออยู่ๆ ก็พุ่งเร็วราวกับลูกศร ก็ทำให้คนเห็นถึงกับตกใจ

ดูเหมือนว่าคนในรถคันหลังจะไม่ได้คาดคิดถึงการเร่งความเร็วแบบนี้ เมื่อจู่ๆ ก็เร่งขึ้น คนในรถก็ตะโกนขึ้นเสียงดัง “ตามไป! ”

เวลานี้เอง ไฟแดงก็โชว์หราขึ้นมา อีกทั้งยังมีรถคันหน้าติดอยู่อีกคัน ทำให้แม้เขาอยากจะตามก็ตามไปทัน

“เวรเอ๊ย! ” คนในรถสบถคำหยาบออกมา ตบหมัดไปกับพวงมาลัย “เราโดนกับดักเข้าให้แล้ว! ”

“เกิดอะไรขึ้น? ทำไมถึงโดนกับดักได้? ”คนด้านหลังเบาะพูดขึ้น “ไม่ใช่ว่าตามได้อยู่ดีๆ หรอกเหรอ ทำไมจู่ๆ ถึงได้เร่งความเร็ว? ”

คนขับมองไปที่ไฟจราจรและรถคันข้างหน้าอย่างเคียดแค้น ก่อนจะกัดฟันกรอดพูด “หล่อนน่าจะจับได้ดังนั้นจึงเร่งรถที่ขับช้าๆ เมื่อครู่ ทำให้เราติดไฟแดงพอดี คนที่โดนกับดักหน่ะคือเรา”

คนด้านหลังเมื่อได้ยินเขาอธิบายก็ตอบกลับฉับพลัน

“แม่งเอ๊ย! ยัยคนนี้สุดยอดอะไรแบบนี้ ตามมาตลอดทางก็ไม่เห็นมีท่าทีอะไร? ทำไมจู่ๆ ถึงรู้ว่าตัวเองโดนสะกดรอย? แบบนี้จะทำยังไงดี? ”

“ทำอะไรได้หล่ะ? ก็ต้องรอสัญญาณไฟจราจรต่อไปหน่ะสิ อีกอย่างเธอก็แค่ผู้หญิงตัวคนเดียว กลัวตามไม่ทันอย่างนั้นเหรอ? ดูสิ้เธอจะไปไหนได้”

ในขณะที่กำลังพูดคุยตกลงกันอยู่นั้น จู่ๆ ก็มีคนมาเคาะที่กระจกรถ

ก๊อก ก๊อก—

“ใครหน่ะ? ” คนในรถลดกระจกลง

ด้านนอกหน้าต่างเป็นคนหน้าเย็นชาคนหนึ่ง ซึ่งก็คือเซียวซู่ผู้ถูกเย่โม่เซินโทรเรียกให้มา

“เป็นพวกนายเองอย่างนั้นเหรอ? ” เซียวซู่มองไปที่พวกเขาอย่างจำใจ “ทำอะไรผิดมาหรือไง? ทำไมต้องทำแบบนี้? ”

“หมายความว่ายังไง? ”คนขับกับคนหลังรถมองตากัน ก่อนที่คนด้านหลังจะตอบขึ้น “ไปเถอะ”

เซียวซู่ทำหน้าเซ็งโลก “ไม่ต้องไปไหนทั้งนั้น พวกเธอถูกล้อมเอาไว้หมดแล้ว”

ด้วยคำสั่งของเย่โม่เซินเมื่อครู่ หานมู่จื่อจึงได้เข้ามาอยู่ในโซนที่ปลอดภัย และกำจัดพวกสต๊อกเกอร์ได้ อีกทั้งยังพาเธอให้มาอยู่ในอาณาเขตของเซียวซู่

“กลับไปคุยเรื่องนี้กับฉันดีๆ เถอะไป”

สายตาทั้งสองมองกันมีประกายความตกใจและหดหู่ขึ้นน้อยๆ

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ ถูกบังคับเป็นตัวแทนของงานแต่งงานนี้ เธอแต่งงานกับผู้ชายที่พิการแต่กลับมีอำนาจใหญ่ “ฉันเย่โม่เซินไม่เอาผู้หญิงที่ท้องและไม่รู้ว่าพ่อของลูกเป็นใครเด็ดขาด”เดิมทีคิดว่างานแต่งงานนี้เป็นการแลกเปลี่ยน แต่เธอกลับเผลอใจ ไปไปมามา สุดท้ายเธอก็จากไปด้วยความเสียใจผ่านไปหลายปี ลูกชายที่หน้าตาคล้ายกับเขามากตบหัวของเย่โม่เซินด้วยฝ่ามือเล็กๆ“พ่อคนร้าย นายว่าใครเป็นเด็กที่ไม่รู้ว่าพ่อของตัวเป็นใคร?”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset