บทที่ 623 ไม่ขาดแคลนคนจีบ
หลังจากเย่โม่เซินหยิบมือถือออกมา ก็รีบเช็คทันที
“นายกลัวอะไร? ฉันแค่บันทึกเบอร์มือถือของฉันในเครื่องนายแค่นั้นเอง นายฟังสิ”
ตวนมู่เสว่กดโทรออก จากนั้นมือถือของเย่โม่เซินก็ดังขึ้น
“แค่บันทึกเบอร์มือถือแค่นั้น คงไม่ถือสาอะไรเยอะเนอะ?”
หลังจากนั้น เย่โม่เซินก็บล็อกเบอร์มือถือของหล่อนทันที เมื่อตวนมู่เสว่เห็นเช่นนั้น รู้สึกไม่พอใจ : “ทำไมนายทำแบบนี้ล่ะ? มือถือมีเบอร์ฉันเพิ่มมาอีกหนึ่งเบอร์คงไม่เป็นอะไรหรอก นาย…”
หล่อนลุกขึ้นเดินเข้าไปใกล้เย่โม่เซิน เย่โม่เซินกลับทำหน้านิ่งขรึมและยืนหันข้างให้หล่อน พูดด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น : “ออกไป”
ใบหน้าอันสง่างามเรียวสวยของตวนมู่เสว่แย่ลงทันที แต่ยังฝืนยิ้มและพูดต่อ : “อย่าทำแบบนี้กับฉันสิ เข้ามาตรงนี้ดีกว่า นี่ฉันออกแรงเยอะเลยนะ”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น เย่โม่เซินขมวดคิ้วขึ้น “เอาบัตรห้องมา”
ตวนมู่เสว่ส่ายหน้า “นายต้องปลดบล็อกเบอร์ฉันก่อน ฉันจึงจะคืนบัตรห้องให้ จากนั้นค่อยออกไป”
เมื่อถูกขู่เข็ญเช่นนี้ สีหน้าของเย่โม่เซินโมโหและโกรธขึ้นมาทันที เขาพูดเย้ยขึ้น : “เห็นทีตระกูลตวนมู่คงไม่อยากร่วมงานกันดีๆซะแล้ว”
“นี่มันเกี่ยวอะไรกับพี่ชายฉันล่ะ ฉันชอบนายก็เป็นเรื่องของฉัน ส่วนพี่ชาย…ที่ทำงานร่วมกับนายก็ทำกันต่อไปสิ” โม่เซิน นายอย่ามาพาลใส่ฉันนะ
หน้าผากของเย่โม่เซินกระตุกขึ้นด้วยความตึงเครียด จากนั้น เดินตรงไปที่ข้างเตียงหยิบผ้าห่มขึ้นมามัดตัวตวนมู่เสว่ไว้
ตวนมู่เสว่ยังไม่ทันตั้งตัว ก็ถูกผ้าห่มมัดตัวเองไว้ จากนั้นหล่อนก็ถูกโยนออกไปนอกประตูโรงแรมทั้งในสภาพที่ถูกผ้าห่มห่อไว้
โครม!
เสียงดังไม่เบาเลย อีกทั้งแขนของตวนมู่เสว่ยังไปกระแทกกับผนัง เจ็บจนทำให้หล่อนร้องโอดครวญ
ลูกน้องสองคนที่เฝ้าอยู่ที่หน้าประตูเห็นเช่นนั้นจึงรีบเข้าไปช่วยหล่อน
“คุณตวนมู่ ไม่เป็นอะไรใช่ไหม?”
ตอนที่ตวนมู่เสว่โผล่หัวออกมาจากผ้าห่ม เย่โม่เซินก็ปิดประตูใส่อย่างไม่สบอารมณ์ จากนั้นล็อคประตูทันที
“คุณตวนมู่?”
“คุณตวนมู่เสว่ แขนของคุณได้รับบาดเจ็บ”
ตวนมู่เสว่ก้มหน้าลง เห็นว่าแขนตัวเองถูกกระแทก จนตอนนี้เป็นรอยช้ำดวงใหญ่
สีหน้าของหล่อนเปลี่ยนไปเล็กน้อย แต่ไม่ได้โมโหอะไร กลับใช้มือค่อยๆนวดลงตรงรอยช้ำ จากนั้นพูดขึ้น : “เป็นผู้ชายที่ไม่รู้จักทะนุถนอมจริงๆเลย”
“นั่นสิ คุณตวนมู่ เย่โม่เซินเป็นคนเอาใจยาก เดาทางไม่ถูก หรือว่า…”
เมื่อพูดจบ ตวนมู่เสว่สบสายตาของหล่อนอย่างไม่พอใจ : “หรือว่าอะไร? เธอกล้าออกความเห็นโง่ๆไหม? อีกอย่าง เธอห้ามปากโป้งไปพูดเรื่องนี้กับพี่ชายฉันเด็ดขาด ไม่เช่นนั้นพี่ชายก็รู้ว่าฉันหลอกใช้เขาเพื่อไปเอาบัตรห้องของเย่โม่เซินมา ถึงตอนนั้น…ไม่รู้ว่าเขาจะสั่งสอนฉันยังไง”
เมื่อลูกน้องได้ยินเช่นนั้น จึงทำได้เพียงพยักหน้าตอบอย่างกระอึกกระอัก : “เข้าใจแล้วค่ะคุณตวนมู่ งั้นตอนนี้พวกเราทำยังไงกันต่อดีคะ?”
“หึ ยังไงฉันก็ได้เบอร์มือถือมาแล้ว สิ่งที่อยากทำก็ทำสำเร็จแล้ว” ตวนมู่เสว่นึกถึงเรื่องที่หล่อนลบเบอร์นั้นไป และรู้สึกว่า…หล่อนได้ปฏิเสธโทรศัพท์ที่สำคัญมากไป
“วันนี้พวกเรากลับกันก่อนเถอะ” ตวนมู่เสว่ลุกขึ้น จัดเสื้อผ้าให้เรียบร้อย มองไปที่หน้าประตูห้อง ยิ้มมุมปากพูดขึ้น : “ไม่ว่ายังไง ต่อไปก็ต้องมีโอกาสได้เจอกัน”
*
หลังจากที่เย่โม่เซินปิดประตูห้อง เขาหยิบมือถือขึ้นดูและเปิดไปมา การปรากฏตัวของตวนมู่เสว่ทำให้เขาโกรธหงุดหงิดขึ้นมาทันที
ภายในห้องคละคลุ้งไปด้วยกลิ่นน้ำหอมอันแสบจมูก
เย่โม่เซินขมวดคิ้วขึ้น เปิดหน้าต่างออกทั้งหมด จากนั้นเรียกพนักงานมาทำความสะอาด และออกมาเดินสูดอากาศที่ระเบียง
สถานที่ตั้งของโรงแรมอยู่ในตำแหน่งที่ดีมาก ถือเป็นจุดศูนย์กลางของเมือง เมื่อยืนอยู่ตรงระเบียงสามารถมองเห็นความคึกคักของเมืองได้ทั้งหมด
ถ้าตอนนี้มีคนอยู่เคียงข้างเขาก็คงจะดี เย่โม่เซินเปิดหน้าวีแชทขึ้นมา กดไปที่ข้อความสนทนาระหว่างเขากับหานมู่จื่อ
ข้อความสุดท้ายที่คุยกันผ่านมาเนิ่นนานแล้ว ช่วงไม่กี่วันมานี้เขากับหล่อนไม่ได้คุยอะไรกันเลย
เหตุผลล่ะ…
เย่โม่เซินเข้าใจเป็นอย่างดี
เป็นเพราะคำด่าของลุงอ้วน ตอนไปตลาดวันนั้น
ตอนนั้นเขาจะบอกวิธีการเดินทางมาให้กับเขา เย่โม่เซินรู้สึกว่าไม่ต้องการ ซ้ำยังถูกลุงอ้วนต่อว่า บอกว่าเขาไม่อยากฟัง ก็ไม่ยอมบอกเขา
แต่ลุงอ้วนยังคงบ่นด่าเขาอยู่ด้านหลัง บอกว่าตอนนี้เขาแนบชิดสนิทกันเกินไป มีแต่จะทำให้อีกฝ่ายอึดอัด กระทั่งพื้นที่ให้ตัวเองได้ครุ่นคิดยังไม่มีเลย
วิธีที่ดีที่สุดก็คือ ห่างกันสักพัก ให้อีกฝ่ายได้มีพื้นที่ส่วนตัวบ้าง เมื่อเวลาผ่านไปพร้อมกับเขาที่จู่ๆก็หายตัวไป ก็จะคิดถึงอีกฝ่ายเอง
เดิมที่เย่โม่เซินไม่ได้รู้สึกสนใจคำพูดพวกนี้ แต่ช่วงนี้เขากลับรู้สึกเหมือนว่าคำพูดของลุงอ้วน…ก็มีเหตุผล
เพราะช่วงนี้เขาคอยคิดถึงมู่จื่อตลอด คิดถึงจนแทบจะบ้าคลั่ง
แต่หล่อนล่ะ?
ช่วงนี้เขาไม่ได้ไปเจอหล่อนเลย หล่อนจะคิดถึงตัวเองบ้างรึเปล่า?
มองไปที่หน้าจออันว่างเปล่า ดูเหมือนว่าคำตอบจะชัดเจนอยู่แล้ว
วีแชท โทรศัพท์ ไม่มีอะไรเลย
หญิงสาวผู้นั้น…คงไม่อยากให้เขาไปรบกวนรึเปล่า?
เมื่อคิดถึงตอนนี้ เย่โม่เซินก็ยิ้มมุมปากเยาะเย้ยตัวเอง
เย่โม่เซินนะเย่โม่เซิน รู้อยู่แก่ใจว่าเรื่องแบบนี้ไม่ควรใช้กับจิตใจของผู้หญิง ทำไมนายถึงทำอะไรโง่ๆแบบนี้?
หล่อนคงชอบวิธีที่เฉียบขาดมากกว่า ครอบครองทั้งร่างกายและจิตใจของเธอ จากนั้นไม่เปิดโอกาสให้หล่อนได้คิดถึงใครทั้งนั้น
ไม่นานนักพนักงานทำความสะอาดก็เข้ามา เขาทำตามคำสั่งของเย่โม่เซิน ฉีดน้ำยาฆ่าเชื้อไปที่สิ่งของทุกอย่างภายในโรงแรม ผ้าปูที่นอนและหมอนถูกเปลี่ยนใหม่ทั้งหมด
เพราะเย่โม่เซินเป็นถึงแขกวีไอพีของโรงแรม ดังนั้นไม่ว่าเขาต้องการอะไร โรงแรมก็สามารถทำให้เขาได้ทั้งหมด
*
หานมู่จื่อนอนไม่หลับอีกแล้ว
ตอนเช้าตื่นขึ้นมา ขอบตาทั้งสองของหล่อนดำเป็นหมีแพนด้า เมื่อเห็นสภาพอิดโรยของตัวเองที่ยืนอยู่หน้ากระจก หานมู่จื่อคิดอยากจะตบหน้าตัวเองสักครั้ง จะได้ทำให้ตัวเองตื่นสักที
เพียงเพราะแค่โทรศัพท์สายหนึ่ง เป็นแค่เสียงของผู้หญิงเท่านั้น แต่หล่อนกลับต้องนอนไม่หลับเพราะเรื่องนี้
ช่างน่ากลัวเสียจริง
แสดงให้เห็นว่าตอนนี้หล่อนให้ความสนใจการกระทำทุกอย่างของเย่โม่เซินมาก รวมถึงคนรอบข้างของเขาด้วย
เมื่อคิดถึงตอนนี้ หานมู่จื่อดูเหมือนจะบ้าไปหน่อย จนออกแรงจิกผมของตัวเอง จากนั้นยีผมจนยุ่งเหยิงไปหมด และรู้สึกใจเย็นลง
หล่อนล้างหน้าแปรงฟันต่อ จากนั้นแต่งหน้าเปลี่ยนเสื้อผ้า
ช่างเถอะ แค่ผู้ชายคนหนึ่งเท่านั้น คนอย่างหล่อนไม่ขาดคนจีบสักหน่อย ทำไมต้องมาคิดฟุ้งซ่านกับผู้ชายแบบนี้ด้วย
เขาไม่ปิดกั้นหวงแหนตัวเอง งั้นหล่อนก็ไม่จำเป็นที่จะต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวอีกต่อไป
หลังจากที่หานมู่จื่อลงมาด้านล่าง เตรียมจะออกไปส่งเสี่ยวหมี่โต้วที่โรงเรียน
กลับพบว่าเสี่ยวหมี่โต้วที่ยืนอยู่หน้าโซฟา กำลังมองไปที่คนที่นอนอยู่บนนั้นด้วยท่าทางสงสัย
“หม่ามี๊ ทำไมน้าเสี่ยวเหยียนถึงมานอนอยู่ตรงนี้ล่ะครับ?”
หานมู่จื่อชะงักไป เดินเข้าไปก็เห็นว่าตอนนี้เสี่ยวเหยียนยังใส่ชุดของเมื่อวานอยู่ นอนนิ่งอยู่บนโซฟา
เกิดอะไรขึ้น?
หานมู่จื่อเข้าไปสะกิดหล่อน “เสี่ยวเหยียน?”
“ง่วงมาก ให้ฉันนอนต่อสักพักนะ” เสี่ยวเหยียนพลิกตัวไปมา สุดท้ายหล่นลงมาจากโซฟา
หล่อนเจ็บจนลืมตาขึ้น เมื่อเห็นหานมู่จื่อกับเสี่ยวหมี่โต้วยืนจ้องหล่อนอยู่ด้านข้าง สายตาของหล่อนจึงเต็มไปด้วยความสงสัย