บทที่659เตรียมของขวัญ
ปัง!
พอประตูรถพยาบาลปิดลง หานมู่จื่อจึงหันไปมองเสี่ยวหมี่โต้ว
“เป็นอะไรไป”
“ห๊า เป็นอะไรครับหม่ามี้”เสี่ยวหมี่โต้วเงยหน้าขึ้น มองไปที่หานมู่จื่ออย่างไร้เดียงสา ด้วยท่าทีของเด็กน้อยบริสุทธิ์
เห็นเสี่ยวหมี่โต้วเป็นแบบนี้ หานมู่จื่อรู้สึกงุนงงสงสัย แต่อย่างไรเสียก็คือลูกชายตัวเอง เธอจะไม่รู้ได้ไงว่าเขาเป็นยังไง
เธอยอบตัวลง ยื่นมือไปหยิกแก้มน้อยๆของเขา
“เมื่อกี้ลูก……จงใจหรือเปล่าจ๊ะ”
“หม่ามี้พูดอะไรน่ะครับ เสี่ยวหมี่โต้วไม่เข้าใจ”
“ไม่ต้องมาแกล้งไขสือจ๊ะ ทำไมลูกต้องบอกพี่พยาบาลด้วยว่าเราไม่รู้จักคุณอาเขา ทั้งๆที่ก่อนหน้าลูกเพิ่งกินเค้กอร่อยๆของคุณอามาเองนะจ๊ะ นี่เขาเรียกว่าคว่ำกระดานนะจ๊ะ”
“หม่ามี้!”เสี่ยวหมี่โต้วเบ้ปาก“เสี่ยวหมี่โต้วเคยคว่ำกระดานใครที่ไหน ผมแค่บอกกับพี่พยาบาลว่า คุณอาหานไม่ใช่ญาติเรา พูดผิดตรงไหนครับ หึ หม่ามี้บอกเองนี่นา หรือว่าคุณอาหานเป็นญาติเราล่ะครับ เสี่ยวหมี่โต้วผิดตรงไหนครับ ทำไมหม่ามี้ต้องว่าเบ่บี๊ด้วย”
หานมู่จื่อ “……”
เธอย้อนนึกดู เสี่ยวหมี่โต้วก็ไม่ได้พูดว่าไม่รู้จักเย่หลิ่นหานเสียหน่อย แค่บอกว่าเย่หลิ่นหานไม่ใช่ญาติเราก็แค่นั้นเอง
และคำพูดนี้ ก็เป็นความจริงนี่นา
พูดได้ดีมีเหตุผล เธอแทบจะเถียงไม่ออกเลยทีเดียว
“หม่ามี๊ว่ามาสิครับ ผมพูดผิดตรงไหน”
หานมู่จื่อได้สติคืนมา มองไปที่เสี่ยวหมี่โต้ว เธอส่ายหน้าอย่างอ่อนใจ“ไม่ได้พูดผิดหรอกจ๊ะ แต่ว่าพี่พยาบาลเขาไม่รู้ไง เลยคิดว่าลูกน่าจะพูดถึงคุณอาที่ไม่รู้จักกันเลย ลองคิดดูนะ……ถ้าคุณอาได้ยินจะเสียใจแค่ไหน”
“เสียใจครับ”เสี่ยวหมี่โต้วคิดแล้วพูดขึ้น
“แล้วลูกยังพูดแบบนี้อีก”
“แต่ว่า คุณอาไม่ได้เป็นอะไรกับเสี่ยวหมี่โต้วจริงๆนี่ครับ แล้วทำไมเสี่ยวหมี่โต้วต้องสนใจด้วยครับว่าคุณอาจะเสียใจอ๊ะป่าว”
หานมู่จื่อ“……”
คิดไม่ถึงเลยจริงๆ ว่าลูกชายตัวจะคิดไม่เหมือนตัวได้ถึงเพียงนี้ หานมู่จื่อค้นพบว่าตัวเองไม่รู้จะตอบเสี่ยวหมี่โต้วอย่างไรดี
“หม่ามี๊หม่ามี๊!”เสี่ยวหมี่โต้วเขย่าแขนเธอ“หม่ามี๊บอกว่าจะหาแดดดี๊ให้เสี่ยวหมี่โต้ว เสี่ยวหมี่โต้วจะเอาแดดดี๊ ไม่เอาคุณอาหาน”
เขาพูดพลางอ้อนพลาง ร่างน้อยๆกับสีหน้าน้อยๆที่บ่นกระปอดกระแปดทำให้คนปฏิเสธ ไม่ลง
“ใกล้แล้วจ๊ะ ใกล้แล้ว”หานมู่จื่อได้แต่ทอดถอนใจ ขยี้หัวน้อยๆเบาๆ“บอกว่าจะหาแดดดี๊ให้ก็ต้องหาให้อยู่แล้วจ๊ะ”
“จริงๆนะครับ”เสี่ยวหมี่โต้วทำหน้าลิงโลด“แล้วผมจะได้เจอแดดดี๊เมื่อไหร่ครับ หม่ามี๊ไม่ดี ไม่ตั้งใจเลย ปล่อยให้เสี่ยวหมี่โต้วรออยู่ได้”
“หม่ามี๊ไม่ดีเอง หม่ามี๊จะรีบนะจ๊ะ ให้หม่ามี๊คิดก่อนว่าจะหาแดดดี๊มาให้ยังไง ดีไหม”
“ครับ แต่หม่ามี๊ครับ คุณน้าเสี่ยวเหยียนบอกว่าจะมารับผม แล้วอยู่ไหนครับ”
เพิ่งพูดจบ ก็ได้ยินเสียงทักทายมาพอดี
“เสี่ยวหมี่โต้ว มู่จื่อ มาอยู่นี่กันได้ไง”
ทั้งคู่มองไปตามทางเสียง เห็นเสี่ยวเหยียนวิ่งมาพอดี
“เสี่ยวเหยียน ยังไม่กลับไปอีกเหรอ”
“คุณน้าเสี่ยวเหยียน”
“แค่กแค่ก……”เมื่อเห็นหานมู่จื่อ เสี่ยวเหยียนจึงกระแอมเสียงขึ้น“ฉันคิดว่าเธอออกไปกับใครแล้วซะอีก คิดไม่ถึงว่ายังอยู่นี่ แต่กว่า……วันนี้เธอห้ามแย่งเสี่ยวหมี่โต้วกับฉันนะ ฉันตกลงกับเสี่ยวหมี่โต้วไว้แล้ว ว่าตอนบ่ายจะพาเขาไปหาหานชิง”
“ไปหาหานชิง”หานมู่จื่อตกตะลึง แล้วยิ้มขึ้นที่มุมปาก“นี่น่ะเหรอกุนซือของเธอ”
เสี่ยวเหยียนหน้าแดงก่ำ สุดท้ายจึงพยักหน้าอย่างว่าง่าย
“ความสัมพันธ์ของเขากับหานชิง เป็นกุนซือของฉันเหมาะสมที่สุดแล้ว”
เธอก็พูดถึงขนาดนั้นแล้ว หานมู่จื่อจึงได้แต่ส่งเสี่ยวหมี่โต้วให้เสี่ยวเหยียน“เอาเถอะ เอากุนซือเธอไป อย่าลืมพากลับบ้านเร็วๆล่ะ อย่าดึกนักนะ”
“จ้าจ้า!”
ก่อนที่เสี่ยวหมี่โต้วไป ดูเหมือนนึกอะไรขึ้นมาได้
“หม่ามี้ จะไปโรงพยาบาลดูคุณอาหานอีกไหมครับ”
“คุณอาหานเหรอ”เสี่ยวเหยียนไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ สีหน้างุนงง“คุณอาหานอะไรที่ไหน”
หานเหรอ แป๊บเดียวเสี่ยวเหยียนก็นึกชื่อขึ้นมา เธอมองที่หานมู่จื่อ ด้วยสายตาวิงวอน
หานมู่จื่อพยักหน้าเบาๆ แล้วมองไปทางเสี่ยวหมี่โต้ว
“คุณอาหานก็คือคนๆหนึ่ง หม่ามี๊ก็ต้องไปเยี่ยมคุณอาที่โรงพยาบาล เดี๋ยวก็กลับ”
“แล้วเรื่องหาแดดดี๊ล่ะครับ”
หานมู่จื่อปวดหัว เสี่ยวเหยียนรีบเข้าโอบเสี่ยวหมี่โต้ว“เรื่องของผู้ใหญ่ เด็กอย่าไปยุ่งเลยน่า ควรทำยังไงหม่ามี๊รู้เอง เป็นเด็กเป็นเล็กไม่ต้องไปห่วงหรอก รีบไปหาคุณลุงเถอะ”
พูดจบ เสี่ยวเหยียนจึงอุ้มเสี่ยวหมี่โต้วขึ้นมา จากนั้นจึงเดินหันหลังกลับ
เสี่ยวหมี่โต้วโดนกอดในอ้อมแขนของเสี่ยวเหยียน แต่กลับหันไปมองทางหานมู่จื่อ ดวงตากลมๆดุจกระจกใสๆสีดำจ้องเขม็งมาที่เธอ จ้องจนหานมู่จื่อใจหวิว ได้แต่หลบสายตา
รอจนไม่ยอมไป หานมู่จื่อจึงกระแอมขึ้นมาทีหนึ่ง แล้วเรียกรถคันหนึ่ง ไปที่โรงพยาบาล
ทั้งๆที่เห็นเขาล้มลงตรงหน้า ต่อให้เป็นคู่ค้าก็เถอะ เธอก็ควรจะไปเยี่ยมเยียนอยู่ดี ระหว่างทางที่ไปหานมู่จื่อโทรหาผู้จัดการอี้
ผู้จัดการอี้พอได้ยินว่าเย่หลิ่นหานป่วย ก็รีบถามว่าโรงพยาบาลไหน
ในที่หานมู่จื่อไปถึง ก็เห็นผู้จัดการอี้รออยู่หน้าประตูแล้ว
“ผู้จัดการอี้。”
“คุณหาน!”ผู้จัดการอี้เห็นเธอ จึงรีบรุดหน้าเข้าหา“ผมได้ยินว่าประธานหานป่วยเข้าโรงพยาบาลก็เลยรีบมา ประธานหานไม่เป็นอะไรนะครับ”
หานมู่จื่อส่ายหน้า“ฉันก็ไม่ค่อยรู้หรอกค่ะ เขาน่าจะเพิ่งมา เราไปถามกันเถอะค่ะ”
“ได้ครับ”
ทั้งสองคนเดินไปพร้อมกัน พอถามว่าเย่หลิ่นหานอยู่ที่ไหน จึงรีบไปด้วยกัน
ในตอนที่เดินไปได้ครึ่งหนึ่ง มือถือของหานมู่จื่อก็ดังขึ้น
เธอหยิบมือถือขึ้นมา พอเห็นว่าเป็นเบอร์เย่โม่เซิน จึงชะงักฝีเท้า ผู้จัดการอี้ที่อยู่ข้างๆเห็นว่าเธอหยุดฝีเท้า จึงถาม“คุณหาน?”
“โทษทีค่ะ พอดีรับโทรศัพท์ ผู้จัดการอี้ไปก่อนเถอะค่ะ”
พอหานมู่จื่อพูดจบจึงรีบสิ่งไปรับโทรศัพท์ เพราะคนในโรงพยาบาลชุกชุม หานมู่จื่อจึงได้เดินออกไปไกลหน่อยเพื่อคุยโทรศัพท์
“ฮัลโหล”
“ไปไหนแล้ว”เสียงเย่โม่เซินฟังดูเกียจคร้าน หานมู่จื่อตกใจเล็กน้อย กระแอมขึ้น“ฉัน……กำลังกลับบ้านน่ะค่ะ”
“อยู่ระหว่างทางกลับบ้านเหรอ”เย่โม่เซินชะงัก แล้วถามต่อ“งั้นผมรอคุณนะ”
หานมู่จื่อ“หมายความว่าไงคะ”
“ผมอยู่หน้าบ้านคุณ”
คำพูดเดียว เกือบทำให้หานมู่จื่อสะดุด
เขาไปที่บ้านเธอตั้งแต่เมื่อไหร่ เวลานี้ไปบ้านเธอทำไม
“ฉันบอกแล้วไงว่ายังคิดไม่เสร็จดี ทำไมคุณ……”
“กลัวอะไรเล่า เจอช้าเจอเร็วก็ต้องเจอ อีกอย่างผมเตรียมของให้ลูก”
หานมู่จื่อกลืนน้ำลาย กัดริมฝีปากล่าง
“แต่ว่า ฉันยังไม่ถึงบ้าน”
“อีกนานเท่าไหร่”
อีกนานเท่าไหร่ เธอหันไปมองผู้จัดการอี้อย่างลำบากใจ กัดริมฝีปาก“อีกราวๆ20นาที”