เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ – ตอนที่ 676 หลบหน้า​ไม่ยอม​เจอ

บทที่ 676หลบหน้าไม่ยอมเจอ

หานมู่จื่อเห็นว่าอีกฝ่ายหยุดชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะเดินต่อไปเหมือนไม่ได้ยินเสียงเรียกของเธอเลย

เธอถลึงตาโตอย่างไม่อยากจะเชื่อ คนคนนี้…

การกระทำของเขาเมื่อตะกี้คือได้ยินที่เธอเรียกชื่อเขา แต่เขากลับหยุดเดินไปเล็กน้อย แล้วเดินต่อไปอีกอย่างนั้นเหรอ

นี่มันจงใจทำเหมือนไม่ได้ยินชัดๆเลย

นี่เขาไม่อยากสนใจเธอถึงขนาดนี้เลยเหรอ

หานมู่จื่อเริ่มอารมณ์เสีย เธอกัดริมฝีปากแน่นและเดินตามไป ก่อนจะตะโกนเรียกอีกครั้ง

“เย่โม่เซิน ถ้าคุณไม่รอฉัน ฉันจะบล็อควีแชทของคุณเดี๋ยวนี้เลย”

เป็นไปตามที่คาด ครั้งนี้ร่างสูงตรงหน้าไม่ใช่แค่หยุดชะงักอีกครั้ง แต่เขาหยุดเดินไปเลย พอเห็นอีกฝ่ายหยุดเดิน หานมู่จื่อที่เดินตามหลังมาจึงหยุดเดินตามเช่นเดียวกัน เธอยืนมองแผ่นหลังของเขา

เขาจะหันกลับมาหรือเปล่า

หานมู่จื่อคิดในใจ ถ้าหากครั้งนี้เย่โม่เซินไม่หันกลับมาอีก เธอจะเดินจากไปทันที เธอ… เธอจะต้องทำแบบนั้นแน่ๆ เธอจะต้องบล็อกวีแชทของอีกฝ่ายแน่นอน

เธอกัดริมฝีปาก ยืนอยู่ที่เดิม มองแผ่นหลังของเย่โม่เซินนิ่ง

ไม่รู้ว่ารอมานานเท่าไหร่ แต่ผู้ชายตรงหน้ายังคงไม่ขยับตัว หานมู่จื่อจึงอดที่จะพูดขึ้นมาอีกครั้งไม่ได้ “คุณจะไม่หันกลับมาใช่ไหม”

คำพูดนี้มีสองความหมาย

ความหมายแรกคือกำลังถามว่าเขาจะหันกลับมาไหม แต่อีกความหมายหนึ่งคือกำลังตัดพ้อเรื่องหลายวันมานี้

หานมู่จื่อจงใจถาม และเธอรู้ว่าคนที่ฉลาดอย่างเย่โม่เซินเข้าใจคำถามที่เธอจงใจถาม

เขาบอกว่าอยากขอเวลาคิดทบทวน เธอก็ตกลงให้เวลาเขาคิดทบทวน

ดังนั้นเธอจึงให้เวลาเขาคิดสามวัน

เธอเองก็คิด ถึงแม้จะสับสนในใจยังไง เวลาสามวันก็เพียงพอให้เขาคิดทบทวนแล้ว

ดังนั้นที่เธอมาในวันนี้ เพื่อจะมาขอคำตอบจากเขา

เสียงพูดของเธอถึงแม้จะไม่ดังมาก แต่ก็มั่นใจว่าเย่โม่เซินที่ยืนอยู่ข้างหน้าไม่ไกลได้ยิน หลังจากถามออกไป หานมู่จื่อก็ยืนรอยู่ที่เดิมเงียบๆ

รอจนเธอเริ่มหมดหวัง หานมู่จื่อรู้สึกเหมือนตัวเองอยากจะหนีไปจากที่นี้มาก ในที่สุดคนตรงหน้าก็ขยับตัว เขาค่อยๆหันกลับมา แล้วมองมาทางหานมู่จื่อด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง

พอเห็นเขาหันกลับมา ในที่สุดใบหน้าหล่อเหลาของเขาก็ปรากฏต่อสายตาเธอ หานมู่จื่อได้ยินเสียงหัวใจเธอเต้นอย่างรวดเร็วขึ้นมาทันที

เธอกัดริมฝีปาก แล้วยืนนิ่งอยู่ที่เดิม ทั้งสองยืมมองฝ่ายตรงข้ามนิ่ง

เขาทำท่าทีเหมือนจะเดินเข้ามาหา

หานมู่จื่อคิดไปสักพัก ก่อนจะค่อยๆเดินเข้าไปหาเย่โม่เซินช้าๆ

ตอนที่เดินมาใกล้จะถึงเขา เธอเหมือนจะนึกอะไรขึ้นมาได้ แววตาของเธอเหมือนรู้สึกผิดหวัง ก่อนจะหยุดเดินไปทั้งแบบนี้ รักษาระยะห่างกับเย่โม่เซินไว้

เย่โม่เซินขยับริมฝีปาก แววตาสับสนมองมาที่เธอ

หานมู่จื่อแสยะยิ้มอย่างเศร้าหมอง

“ถ้าฉันไม่มาหาคุณ คุณคงจะหลบหน้าฉันไปตลอดเลยสินะคะ”

เย่โม่เซินเม้มปาก แววตายังคงนิ่งเหมือนเดิม

“ใช่ไหมคะ” หานมู่จื่อยังคงไม่ยอมแพ้ เธอถามออกไปอีกครั้ง

เธอคิดว่า ในเมื่อเธอมาถึงที่นี่แล้ว งั้นเธอก็จะพูดกับเขาให้ชัดเจน

เย่โม่เซินยืนมองเธอเหมือนเดิม ยืนนิ่งไม่พูดอะไรออกมาแม้แต่คำเดียว

ทั้งสองมองหน้ากันสักพัก หานมู่จื่อก็เอ่ยปากพูดอย่างเหนื่อยใจ “ฉันรู้ว่าตัวเองผิดที่ปิดบังเรื่องนี้กับคุณ แต่ว่า… ความจริงที่คุณไม่รู้ มีหลายเรื่องแฝงอยู่ในนั้น ตอนที่ฉันรู้เรื่องนี้ ฉันเองก็แทบไม่อยากจะเชื่อ เพราะว่า… ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าผู้ชายในคืนนั้นเป็นคุณ ทำไมคุณถึงไม่คิดถึงความรู้สึกของฉันบ้าง ถ้าหากฉันรู้ว่าผู้ชายในคืนนั้นเป็นคุณ ตอนที่ฉันแต่งเข้าตระกูลเย่ ฉันคงไม่ต้องถูกคุณพูดดูถูกเหยียดหยามแบบนั้นแล้ว”

ดูถูกเหยียดหยามเหรอ

พอนึกถึงคำพูดของตัวเองในตอนนั้น ที่บอกออกมาเต็มปากเต็มคำว่าเธอท้องลูกไม่มีพ่อ บอกว่าเธอเป็นผู้หญิงใจง่าย สำส่อน อีกทั้งยังรู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้โง่เขลามาก

สามีนอกใจไปอยู่กับเมียน้อย แต่เธอกลับยังคิดจะคลอดลูกให้ผู้ชายเฮงซวยคนนั้นอีก

แต่ใครจะไปรู้ ว่าเธอจะต้องท้องลูกของเขาอยู่

อีกอย่าง… เรื่องในคืนนั้น เธอยังบริสุทธิ์อยู่ชัดๆ

เรื่องมันเป็นมายังไงกันแน่

พอคิดถึงตรงนี้ แววตาของเย่โม่เซินก็เข้มขึ้น ตอนนั้นเขาให้เซียวซู่ไปสืบข้อมูลของเธออยู่เหมือนกัน จึงรู้ว่าเธอแต่งงานกับสามีเก่าได้สองปีแล้ว จะยังบริสุทธิ์อยู่ได้ยังไงกัน

หรือว่าตลอดเวลาสองปีที่แต่งงานกัน เธอจะไม่เคยมีอะไรกับผู้ชายคนนั้นเลย

ดังนั้น… เขาเป็นผู้ชายคนแรกของมู้จื่ออย่างนั้นเหรอ

เขาซาบซึ้งใจขึ้นมาทันที เย่โม่เซินยืนมองหน้าหานมู่จื่อด้วยแววตาสับสนมาก

“ส่วนเรื่องที่ว่าทำไมคนอื่นถึงได้รู้เรื่องนี้ก่อนคุณ ฉันก็อธิบายได้ ที่พี่หานชิงรู้เรื่องนี้ก่อนคุณ เพราะเขาเป็นพี่ชายของฉัน ตลอดห้าปีที่ผ่านมาเขาคอยดูแลฉันอย่างดี คุณคงไม่ถึงขนาดญาติพี่น้องก็หึงหรอกนะคะ”

ญาติพี่น้อง…

คำนี้ทำให้เย่โม่เซินใจกระตุก เขากระพริบตาถี่ หานมู่จื่อพูดต่อ “ส่วนคุณเย่หลิ่นหาน ที่เขารู้เรื่องนี้ เป็นเรื่องบังเอิญล้วนๆเลยค่ะ ไม่ใช่ว่าฉันอยากจะบอกกับเขาเอง”

“บังเอิญอย่างนั้นเหรอ” เย่โม่เซินขยับริมฝีปากพูดออกมา

พอเห็นเขาเอ่ยปากพูด ในที่สุดหานมู่จื่อก็วางใจได้สักที เย่โม่เซินยอมพูดกับเขาแล้ว นั่นหมายความว่าเธอมีโอกาสจะอธิบายให้เขาได้ฟังแล้ว

“ใช่ค่ะ เป็นแค่เรื่องบังเอิญ ก่อนหน้านี้ตอนที่ฉันกับเสี่ยวหมี่โต้วไปซื้อของที่ห้างสรรพสินค้า เขาบังเอิญมาเจอเข้า คุณเองก็รู้ว่าคุณกับเสี่ยวหมี่โต้วหน้าตาเหมือนกันมาก พอเขาเห็นเสี่ยวหมี่โต้ว จะดูไม่ออกได้ยังไงกัน”

บังเอิญเจอกันที่ห้างสรรพสินค้าอย่างนั้นเหรอ แววตาของเย่โม่เซินเข้มขึ้นมาเล็กน้อย ปกติตอนที่เดินซื้อของในห้างสรรพสินค้า คงไม่บังเอิญเจอกันถึงขนาดนั้น

พอเอามาเชื่อมโยงกับความคิดของเย่หลิ่นหาน เย่โม่เซินก็เข้าใจทันทีว่าทำไมอีกฝ่ายถึงรู้เรื่องนี้ก่อนเขา

เย่หลิ่นหาน เขาคงจะรู้เรื่องนี้ก่อนตนเองนานแล้ว

แต่ว่า เขารู้ได้ยังไงกัน

ถ้าเขารู้อยู่ก่อน แล้วทำไม…

เย่โม่เซินหรี่ตาลงอย่างอันตราย ก่อนจะคว้าข้อมือของหานมู่จื่อไว้ “เขารู้เรื่องนี้อยู่ก่อนแล้วใช่ไหม”

การกระทําที่หยาบกระด้างของเขา ทำให้หานมู่จื่อตกใจกลัว และถลึงตาโต

“คุณ…”

“พูดสิ”

เย่โม่เซินพูดเสียงแหบ

“ก่อนหน้านี้เหรอคะ”

หานมู่จื่อนิางคิด ก่อนจะส่ายหน้าไปมา “ไม่น่าจะใช่นะคะ ตอนที่เขายังไม่เห็นหน้าเสี่ยวหมี่โต้ว เขาไม่น่าจะรู้เรื่องนี้นี่คะ แล้วอีกอย่างตอนที่ฉันกับเสี่ยวหมี่โต้เจอเขา เขายังตกใจมากอยู่เลย อาจจะเป็นเพราะ… เขาไปสืบเรื่องนี้ทีหลังล่ะมั้งคะ”

ที่จริงแล้วเรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องสืบ ตามความคิดของเย่หลิ่นหาน เขาไม่น่าจะรู้เรื่องที่เธอท้องก่อนแต่งงาน ถึงจะมารู้ทีหลังว่าเธอท้อง ก็คงจะคิดว่า… นี่เป็นลูกของเย่โม่เซินมากกว่า

“น่าตายนัก”เย่โม่เซินกัดฟันกรอด “เขาก็เป็นแค่ลูกของเมียน้อย มีสิทธิ์อะไรที่รู้เรื่องนี้ก่อนผม ถ้าหากคุณบอกให้ผมรู้ก่อนก็ไม่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นแล้ว”

หานมู่จื่อ “… ฉันเพิ่งจะยอมรับคุณได้ไม่นาน คุณลืมไปแล้วหรือไงว่าเมื่อก่อนคุณทำอะไรกับฉันไว้บ้าง ตอนที่ฉันไปหาคุณ คุณก็ไม่ยอมเจอฉัน ตอนนี้คุณมาโทษฉันอีกหรือว่า… จะไม่สนใจฉันอีกครั้งเหรอคะ”

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ ถูกบังคับเป็นตัวแทนของงานแต่งงานนี้ เธอแต่งงานกับผู้ชายที่พิการแต่กลับมีอำนาจใหญ่ “ฉันเย่โม่เซินไม่เอาผู้หญิงที่ท้องและไม่รู้ว่าพ่อของลูกเป็นใครเด็ดขาด”เดิมทีคิดว่างานแต่งงานนี้เป็นการแลกเปลี่ยน แต่เธอกลับเผลอใจ ไปไปมามา สุดท้ายเธอก็จากไปด้วยความเสียใจผ่านไปหลายปี ลูกชายที่หน้าตาคล้ายกับเขามากตบหัวของเย่โม่เซินด้วยฝ่ามือเล็กๆ“พ่อคนร้าย นายว่าใครเป็นเด็กที่ไม่รู้ว่าพ่อของตัวเป็นใคร?”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset