บทที่ 681 นอนให้สบายนะครับ
ในคืนนั้น
ขณะที่เย่โม่เซินนอนหลับ เขากอดเธอเอาไว้แน่นมาก มือใหญ่ของเขาล็อกรอบเอวของเธอเอาไว้ราวกับโซ่ตรวน กักขังเธอเอาไว้ในอ้อมกอดของเขา หานมู่จื่อที่อยากจะอยู่ให้ห่างจากเขาก็ไม่สามารถทำได้
แม้ว่าตอนนี้จะเป็นฤดูใบไม้ร่วง ทว่าภายในห้องนี้อากาศกลับไม่ถ่ายเทเอาซะเลย ยิ่งถูกโม่เย่เซินนอนกอดเอาไว้อย่างนี้ก็ทำให้รู้สึกอบอ้าว
โดยเฉพาะอุณหภูมิร่างกายของเขาที่ดูสูงมาก ราวกับลูกไฟ
หานมู่จื่ออึดอัดเป็นอย่างมาก จนต้องเอื้อมมือไปดันแขนที่เขาโอบเอวเธอเอาไว้ออก พลางเอ่ยกระซิบ “คุณปล่อยก่อนเถอะ ฉันหายใจไม่ออกแล้ว”
เสียงหายใจหนักๆ ดังมาจากด้านหลังเธอ ลมหายใจอุ่นๆ ที่โดนเข้าตรงหลังคอของเธอ จนหานมู่จื่อสัมผัสได้ถึงริมฝีปากบางของเย่โม่เซินที่ขยับเข้ามาใกล้
“โกหก ผมไม่ได้ใช้แรงสักหน่อย คุณจะหายใจไม่ออกได้ยังไง?”
หานมู่จื่อเธอถูกเขาต้อนจนรู้สึกไร้หนทาง ทว่าเธอก็รู้สึกอึดอัดจนไม่อาจทนนอนต่อไปได้แล้ว เธอทุกข์ใจเป็นอย่างมาก
“คุณไม่ใช่ฉัน คุณจะรู้ได้ไงว่ามันไม่แรง?”
“หื้ม?” เย่โม่เซินหัวเราะเสียงต่ำ “งั้นเรามาแลกเปลี่ยนกันไหม?”
“อะไร?”
“คุณก็นอนกอดผมแทน”
หานมู่จื่อ “………..”
นี้ล้อเล่นอะไรกัน?
ให้เธอไปนอนกอดเขา? เขาคิดไปเองอีกแล้ว ในใจหานมู่จื่อไม่ชอบใจเขามานาน จึงปฏิเสธเขาออกไป “ไม่มีทาง”
“ทำไมถึงว่าไม่มีทางล่ะ? ไม่ใช่ว่าคุณพึ่งบอกว่าผมไม่ใช่คุณเลยไม่รู้แรงไม่ใช่เหรอ? งั้นเราก็ลองมาเปลี่ยนกันดูสิ”
หานมู่จื่อ “ฟังดูเหมือนจะดี แต่จริงๆ คุณแค่อยากเอาเปรียบฉัน”
หลังจากที่พูดออกไป หานมู่จื่อก็รู้สึกว่าด้านหลังเงียบไปพักหนึ่ง ในขณะนั้นเองหานมู่จื่อก็รู้สึกว่าอุณหภูมิร่างกายของเย่โม่เซินดูจะสูงขึ้นมาอีก ทำให้บรรยากาศโดยรอบดูอึดอัดขึ้นมา
หานมู่จื่อทนไม่ไหวจนต้องบ่นเขา
“ทำไมตัวคุณร้อนขนาดนี้?”
“ทำไมร้อนคุณไม่รู้เหรอ?”
หานมู่จื่อขมวดคิ้ว ต้องการที่จะขยับตัว ทว่าเมื่อขยับตัวแล้วเธอก็รู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายของเย่โม่เซิน ทำให้เธอถึงกลับไม่กล้าขยับตัว ได้แต่นอนตัวแข็งค้าง
“คุณ……”
เสียงอู้อี้ดังมาจากข้างหลังหู ราวกับไวน์แดงที่ไหลผ่านลำคอ เต็มไปด้วยความเย้ายวน “ตอนนี้รู้หรือยัง?”
หานมู่จื่อปิดตาแน่น พลางกัดฟันแน่นกราดด่าเขาออกมา “ทุเรศ”
“นอนให้สบายสิครับ”
เย่โม่เซินจับเอวของเธอเอาไว้ โดยไม่ได้ลงแรงมาก ทว่าก็ทำให้หานมู่จื่อไม่อาจแอบซ่อนได้ “ถ้าคุณยังไม่ง่วง งั้นเรามาหากิจกรรมอะไรทำก่อนนอนก็ได้”
มือใหญ่ของเขาลูบไล้ไปตามเอวบางของเธออย่างช้าๆ ใบหน้าของหานมู่จื่อถึงกับเปลี่ยนสี เธอรีบจับมือของเขาเอาไว้แน่น พูดออกมาอย่างรีบร้อน “ง่วง ฉันง่วงมาก จะนอนแล้ว”
หลังพูดจบหานมู่จื่อก็หลับตาเอาไว้แน่น ทว่าในใจรู้สึกไม่สบายใจเป็นอย่างมาก
ไอ้บ้า
เขาตั้งใจทำ
ถ้าขืนปล่อยให้เขาทำอะไรกับตัวเองขึ้นมา ถ้ายึดตามครั้งในอดีตที่ผ่านมา คืนนี้เธอคงไม่จำเป็นต้องนอนแล้ว ส่วนพรุ่งนี้ก็ไม่ต้องไปทำงาน
ต้องนอน…..
นอน
อื้ม!
หานมู่จื่อปิดตาแน่น พยายามสะกดจิตตัวเอง อุณหภูมิร่างกายของคนที่อยู่ด้านหลังก็ยิ่งสูงมากจนตกใจ
เธอโอยครวญให้เขาอยู่ภายในใจ แล้วก็ค่อยๆ เข้าสู่ห้วงความฝันไป
เย่โม่เซินก็ยังกอดเธอเอาไว้ตลอด
เขารู้ดีว่าคนที่อยู่ในอ้อมกอดความอดทนน้อยขนาดไหน เพียงแต่ว่า….. หลังจากผ่านไปเพียงห้านาที คนในอ้อมกอดก็เงียบเสียงไปพลางหายใจเข้าออกอย่างสม่ำเสมอ
เย่โม่เซินก้มหน้ามองไปที่เธอ ก็พบว่าหานมู่จื่อนอนหลับไปแล้ว
หลับไปแล้วงั้นเหรอ? เย่โม่เซินถึงกลับยิ้มเจื่อนๆ ออกมา ผู้หญิงคนนี้ช่างไร้หัวใจจริงๆ ไม่มีความเห็นใจเขาสักนิดเลยเหรอ?
เพียงแค่เขาเป็นคนที่กอดเธอเอาไว้และต้องการเธอจนตัวเองเร่าร้อนขึ้นมาเองคงจะตำหนิเธอไม่ได้
หลังจากที่นอนไปสักพัก เย่โม่เซินก็ทนไม่ไหวจนต้องลุกขึ้นเดินไปเข้าห้องน้ำ ใช้น้ำเย็นชำระล้างตัวเองอยู่ประมาณสิบนาที จากนั้นความกระสับกระส่ายในร่างกายของเขาก็ค่อยๆ ลดลง หลังจากนั้นเขาก็เดินมาเอนตัวนอนลงข้างหานมู่จื่อ โอบกอดเธอเอาไว้ก่อนจะนอนหลับไป
เพียงแต่ครั้งนี้ไม่ได้กอดเธอแน่นมากจนเกินไป
วันรุ่งขึ้น หานมู่จื่อตื่นขึ้นมาในช่วงฟ้าสาง เธอยังนอนอยู่ด้วยความสะลึมสะลือ พยายามคว้านหาโทรศัพท์ที่อยู่ใต้หมอนทว่าก็พบเพียงความว่างเปล่า
หื้ม?
หานมู่จื่องุนงง คว้านหาใต้หมออีกครั้ง ก็ยังคงพบว่ามันว่างเปล่า
เมื่อเงยหน้าขึ้น ก็เห็นว่าโทรศัพท์วางอยู่ที่โต๊ะข้างเตียง
หานมู่จื่อขยับตัวขึ้นไปเพื่อมาเอื้อมมือให้ถึงมัน ทว่าเอวบางของเธอกลับถูกจับเอาไว้แน่น พลางดึงให้กลับไปที่เดิม
“คุณจะตื่นไปทำอะไรแต่เช้า?” เย่โม่เซินเพิ่งตื่นนอน น้ำเสียงของเขายังคงฟังดูแหบแห้ง “หลับต่ออีกหน่อยเถอะ”
“ไม่เอา” หานมู่จื่อผลักมือของเขาออก “ฉันจะไปทำงาน ดูตอนนี้สิฟ้าสางแล้ว ไม่เช้าแล้วนะ”
“คุณลืมไปแล้วเหรอ?”
“หื้อ?”
“วันนี้วันหยุด คุณไม่ต้องไปทำงาน”
หานมู่จื่อ “……….”
วันหยุดงั้นเหรอ? เธอครุ่นคิดอยู่สักพัก ก่อนจะพบว่ามันเป็นอย่างนั้นจริงๆ
คาดไม่ถึงเลยว่าเวลาจะผ่านไปเร็วขนาดนี้
หานมู่จื่อก็ยังคงง่วงอยู่ เมื่อได้ฟังว่าวันนี้เป็นวันหยุด เธอจึงกลับไปนอนต่ออีกครั้ง
นอนครั้งนี้เธอนอนหลับยาวจนไปถึงเที่ยงวัน ในตอนที่หานมู่จื่อตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ข้างกายเธอก็ไม่มีเงาของเย่โม่เซินอยู่แล้ว
เธอลุกขึ้นมานั่งก่อนจะขยี้ตา มองไปที่ทะเลสีฟ้าที่อยู่นอกหน้าต่าง
ถ้าทุกวันตื่นขึ้นมาเจอบรรยากาศแบบนี้ คงจะทำให้รู้สึกดีขึ้นมาได้มากจริงๆ
อย่างไรก็ตามอาจจะเป็นเพราะเธอคืนดีกับเย่โม่เซินแล้ว ดังนั้น…. ไม่ว่าจะมองอะไรก็ดูสวยงามไปหมด
ช่วงที่เธออาศัยอยู่ที่นี่ตั้งแต่ห้าปีก่อน ดังนั้นเธอจึงรู้ทุกอย่างของที่นี่ดี หานมู่จื่อลุกขึ้นจากเตียง การจะเดินเข้าห้องน้ำไปเพื่อล้างหน้าบ้วนปาก
อาจเป็นเพราะได้ยินเสียงที่เธอล้างหน้าล้างตา ก็มีเสียงเคาะประตูจากคนด้านนอก
“คุณผู้หญิงตื่นหรือยังคะ?”
หานมู่จื่อบ้วนฟองที่มีอยู่ในปากออกมา ก่อนจะเอ่ยตอบ
“อืม”
“อาหารกลางวันเตรียมพร้อมแล้วนะคะ ฉันจะรอคุณผู้หญิงอยู่ด้านนอกนะคะ”
หานมู่จื่อจึงตอบกลับไป หลังจากนั้นจึงรีบล้างหน้าให้เสร็จ
เธอไม่ชอบที่จะให้คนอื่นมารอเธอนานๆ ดังนั้นเธอจึงรีบทำทุกอย่างให้เสร็จ ก่อนจะรวบผมลวกๆ แล้วรีบเปิดประตูออกไป
ตรงหน้าเธอมีคนใช้คนแปลกหน้ายืนรออยู่คนหนึ่ง คนที่คุ้นเคยก่อนหน้าล้วนไม่ได้อยู่ที่นี่อีกต่อไปแล้ว
เธอตกใจไปสักพัก สายตาฉายแววผิดหวัง
เดิมที… ยังคิดว่าอาจจะได้เจอคนที่รู้จัก คาดไม่ถึงเลยว่าผ่านไปห้าปี นึกไม่ถึงว่าจะเปลี่ยนไปเยอะขนาดนี้ หรือบางทีพวกเขาอาจมีชีวิตในทิศทางที่ดีขึ้น
“คุณผู้หญิงเชิญตามฉันมาเลยค่ะ”
หานมู่จื่อพยักหน้า ก้าวไปอยู่ข้างเธอ ในระหว่างที่เดินไปพร้อมกันเธอก็เอ่ยถามขึ้นมาว่า “เย่โม่เซินล่ะ?”
เมื่อได้ยิงหานมู่จื่อเอ่ยเรียกชื่อเย่โม่เซินออกมาตรงๆ สายตาของสาวใช้ก็ฉายแววประหลาดใจ ทว่าเมื่อคิดไปว่าเธอถูกพาตัวกลับมาถึงวิลล่าไห่เจียงแล้ว อีกทั้งคุณชายเย่ยังสั่งให้เลือกเธอว่าคุณผู้หญิง งั้นการที่เธอเรียกชื่อคุณชายเย่ออกมาตรงๆ ก็คงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร
ดังนั้นสาวใช้จึงสงบเสงี่ยมลง เอ่ยตอบไปเสียงเบา “คุณชายเย่รอคุณผู้หญิงอยู่ด้านนอกค่ะ”
แหะ เจ้าคนๆ นี้ เมื่อคืนเขาพึ่งของเธอแต่งงาน ดูไม่จริงใจเอาซะเลย คาดไม่ถึงว่าจะไม่เรียกเธอไปทานข้าวด้วยตัวเอง?
เธอไม่ได้บ่นเรื่องนี้กับสาวใช้ตัวน้อย เพียงเดินตามสาวใช้ไปก่อนที่เธอจะหมุนตัวแล้วโค้งตัวให้เมื่อเดินมาถึงที่หมายอย่างรวดเร็ว