บทที่711ช่วยฉันได้ไหม
สภาพงานแต่งวุ่นวายมาก
ตอนที่หานชิงตามออก ก็เจอกับตอนนั้นพอดี เธอรีบเดินหน้าตึงเข้าไปประคองหานมู่จื่อขึ้นมา แล้วเห็นรอยเท้าเลอะชุดแต่งงานสีขาวพอดี และแขนถลอก มีรอยแดงช้ำบนเข่าขาวๆ นั้น ราวกับถูกกระแทกออกมาอย่างนั้น
แค่เพียงไม่กี่นาที ทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้?
เสี่ยวเหยียนมองดู พลางครุ่นคิดอยู่สักพัก แล้วหันไปด่าเหล่าสื่อมวลชน
“พวกเธอยังมีความเป็นคนอยู่ไหม? เกิดเรื่องใหญ่โตขนาดนี้ พวกเธอยังผลักเธอจนล้ม พวกเธอยังเป็นนักข่าวหรือว่าปาปารัสซี่กันแน่?
เสี่ยวเหยียนตะโกนด่า ทำให้สื่อเริ่มได้สติกันขึ้นมา เมื่อกี้พวกเขาคงจะตื่นเต้นจนเกินไป และตอนนี้เห็นหานซิงประคองมู่จื่อที่ใบหน้าซีดเซียวขึ้นมา และยังมีแผลถลอกตามร่างกาย ร่างที่อ่อนแรงนั้นพิงอยู่ในอ้อมอกเขา ทำให้เหล่าสื่อรู้สึกผิด แล้วยอมถอยออกมา
“ขอโทษด้วยค่ะ พวกเราวู่วามไปหน่อย ไม่ได้ตั้งใจ ดูท่าคุณหานมู่จืออาการไม่ค่อยดี รีบไปส่งโรงพยาบาลดีกว่าค่ะ”
“ใช่มือไม้ถลอกหมดแล้ว รีบไปส่งโรงพยาบาลกันดีกว่าค่ะ”
ร่างกายหานมู่จื่อไม่มีเรี่ยวแรง ได้แต่ยืนพิงหานชิงอ่อนปวกเปียก หานชิงทนไม่ได้ จึงช้อนตัวเธออุ้มขึ้นมา
“ผมจะพาเธอไปโรงพยาบาล เธอรีบสั่งให้คนในงานแยกย้าย จัดการซะ”
“ค่ะ” ตอนนี้เสี่ยวเหยียนก็ไม่รู้จะทำอย่างไรดี จึงได้แต่ทำตามคำสั่งของหานชิง
หานชิงอุ้มมู่จื่อออกมาจากงาน ในขณะที่กำลังจะขึ้นรถ มู่จื่อที่นอนหมดแรงอยู่ในอ้อมแขนเขานั้น ยื่นมือออกมาดึงชายเสื้อเอาไว้
“โม่เซินเกิดอุบัติเหตุเหรอ? ที่พวกเขาพูดคือเรื่องจริงใช่ไหม? ”
หานชิงชะงัก แล้วหยุดเดินลง
“ฉันไม่เชื่อ”มู่จื่อที่หน้าซีดเซียวมองหน้าหานชิงที่อุ้มเธอเอาไว้อยู่ “พี่ บอกฉันมาสิ…ว่าที่สื่อพูด มันเป็นเรื่องจริงไหม? ”
หานชิงเอาแต่เม้มปาก ไม่ตอบอะไร แล้วอุ้มเธอขึ้นรถ เขาจึงค่อยๆ พูดขึ้น “ที่งานวุ่นวายมาก เธอไม่ควรอยู่ที่นั่น ไปทำแผลที่โรงพยาบาลก่อนดีกว่า”
เขามองไปยังบาดแผลบนแขนของมู่จื่อ แล้วใบหน้าที่ซีดเซียวของเธอ
“ไม่!! ” มู่จื่อส่ายหน้า กำชายเสื้อหานชิงแน่น “ฉันไม่ไปโรงพยาบาล ฉันจะไปสนามบิน”
ไปสนามบิน?
หานชิงขมวดคิ้ว “ถ้าไปสนามบินตอนนี้ คิดว่าที่นั่นก็น่าจะมีสื่อมวลชนอยู่เยอะเหมือนกัน”
“ฉันอยากไปหาเขา พี่…” หานมู่จื่อเงยหน้า แววตาว่างเปล่าไร้จิตวิญญาณ
สภาพของเธอที่จับของหานชิงในตอนนี้นั้น เหมือนกับปลาที่ใกล้ตาย ที่คว้าความหวังสุดท้ายของชีวิต ไปยอมปล่อยมือ
แววตาแบบนี้…
หานชิงเกือบจะทนต่อไปไม่ไหว เม้มริมฝีปากแน่น แล้วกัดฟันพูดขึ้นมา “ไปหาเขา? เธอจะไปหาเขาที่ไหน? ไปสนามบิน จะเจอเขาเหรอ? ”
“ฉันจะไปสนามบิน” หานมู่จื่อยังคงยืนยันคำเดิม
หานชิงมองไปทางคนขับ แล้วพูดขึ้น “ไปทำแผลที่โรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด”
มู่จื่อได้ยินเช่นนั้น ตกใจตาค้าง มองหานชิงอย่างไม่อยากเชื่อ
“ฉันไม่ไปโรงพยาบาล! ”
“มือเธอเป็นแผล อาการไม่ค่อยดี ต้องรีบไปโรงพยาบาล” หานชิงมีท่าทีแข็งกระด้าง
หานมู่จื่อ “…”
เธอมองหานชิงสักพัก ไม่รู้ว่าเอาแรงมาจากไหนตะกายไปเปิดประตู ขณะนี้รถกำลังแล่นอยู่ และการที่เธอทำเช่นนี้มันอันตรายมาก หานชิงรีบเข้าไปห้ามไว้ แล้วตะคอก “เธอจะบ้าไปแล้วเหรอ? ตกลงไปตายพอดี”
เธอตอบกลับด้วยความดึงดัน “ต่อให้ฉันตกลงไปตาย ก็ไม่มีทางไปโรงพยาบาลเด็ดขาดฉันบอกว่าจะไปสนามบินไง จอดรถ! จอดรถ! ”
“……”
ท่าทีบ้าคลั่งของเธอ ทำให้หานชิงหมดหนทาง เขารู้จักเธอมานาน รู้ดีว่าเรื่องที่เธอต้องการจะทำ ไม่มีใครเปลี่ยนแปลงมันได้ ต่อให้เลือดตกยางออก เธอก็ยอม”
หานชิงจับมือเธอไว้ แล้วหลับตาลง พร้อมพูดขึ้น “กลับหัวรถไปสนามบิน”
คนขับรับฟังคำสั่งของหานชิง เขาพยักหน้า ไม่พูดอะไร รีบกลับรถ มุ่งไปทางสนามบินทันที
และแล้วก็เปลี่ยนทิศทาง หานมู่จื่อโล่งใจ แล้วมือที่สั่นเทาก็ล้วงโทรศัพท์ขึ้นมา หวังจะจองตั๋วเครื่องบิน
หานชิงที่เห็นการกระทำของเธอ จึงรีบห้ามทันที
“จะจองตั๋วเหรอ? เธอจะไปไหน? ถ้าเกิดอุบัติเหตุจริงๆ ข่าวยังไม่ออกมา เธอรู้เหรอว่าต้องไปที่ไหน? ”
หานมู่จื่อหยุดมองโทรศัพท์ แล้วเงยหน้าขึ้นมามองพี่ชายตัวเอง
“งั้นนายว่า…ฉันควรทำอย่างไรดี? ตอนนี้ฉันโทรหาเขาไม่ติด ไม่เห็นเขา หรือ…จะไม่ให้ฉันทำอะไรเลย? ”
หานชิงสูดลมหายใจลึก แล้วพยักหน้า
“ยังไงซะ ตอนนี้เธออยู่เฉยๆ น่าจะดีที่สุด สงบสติ แล้วค่อยๆ คิด ว่าเธอทำอะไรได้บ้าง? ”
หานชิงกล่าวเช่นนี้ หานมู่จื่อก็รู้สึก ว่าตัวเองทำอะไรไม่ได้สักอย่าง ไปสนามบิน ซื้อตั๋ว? แล้วจะไปไหนดีล่ะ?
ตอนนี้โม่เซิน…จะเจออะไรบ้าง? จะเป็นยังไงบ้าง?
เมื่อคิดถึงตรงนี้ มู่จื่อก็รีบออกจากแอพจองตั๋วแล้วไปหาข่าวดูแทน พลางพูดกับหานชิง “พี่ ช่วยดูให้ฉันหน่อย ว่าเครื่องบินที่เกิดอุบัติเหตุคือที่ไหน คอนเฟิร์มหรือยัง? ”
หานชิงไม่ขยับ มองทอดไปยังมือขาวซีดของเธอ บนนั้นมีแผลเบ้อเริ่ม ถลอกจนเลือดไหล เลอะตามชุดเจ้าสาว ราวกับดอกเหมยสีแดงที่ตกลงบนพื้นหิมะ
ทั้งๆ ที่บาดเจ็บ แต่ทำเหมือนไม่เกิดอะไรขึ้น
หานชิงถอนหายใจ หยิบโทรศัพท์ตัวเองขึ้นมาค้นหา จนกระทั่งถึงสนามบิน ทางการก็ยังไม่ประกาศสถานที่เกิดเหตุ หานมู่จื่อและหานชิงนั่งรออยู่บนรถด้วยความกังวล
“ทางการประกาศหรือยังว่าที่ไหน? ถ้ายังไม่ประกาศ งั้นพวกเรา…”
“ไม่ต้องรีบ ฉันหาแล้ว แต่ไม่แน่ใจว่าเย่โม่เซินได้ขึ้นไฟลท์นั้นรึเปล่า เธอก็ไม่ต้องกังวลไป ฉันจะให้คนเอายามาให้ ต้องทำแผลที่มือเสียหน่อย”
“ถ้าเขาไม่ได้ขึ้นไฟลท์นั้น เขาไม่มีทางที่จะปิดเครื่องจนถึงตอนนี้… พี่” หานมู่จื่อเงยหน้ามองเขา ด้วยแววตามีความหวัง “พวกเราจะเดาสถานที่ได้จากเวลาที่เกิดเหตุไหม? ”
หานชิง:“……”
เขาเม้มปาก แล้วพยายามเตือนเธออีกครั้ง
“ทำแผลของเธอ แล้วรอข่าว”
หานมู่จื่อจ้องเขา แล้วส่ายหน้า “ไม่ได้…”
“พี่ ฉันรอไม่ได้แล้ว…”
“ฉันรอต่อไม่ได้แล้ว ฉัน…ถึงแม้จะทำอะไรไม่ได้ แต่…ฉันจะไม่ทำอะไรเลยไม่ได้…”
“ช่วยฉันได้ไหม? ”
ตอนที่หานมู่จื่อพูดพวกนี้ นัยน์ตาแดงก่ำ ใจชาไปหมด น้ำตาคลอ แต่ยังไม่ร่วงลงมา
คนขับรถด้านหน้ามองเหตุการณ์ผ่านกระจก แล้วก็สัมผัสได้ถึงความหมดหวังในใจของเธอ แล้วอดไม่ได้ที่จะน้ำตาคลอตาม