บทที่782 พวกเราไปหาหม่ามี๊ด้วยกันโอเคไหม
ในที่สุด เสี่ยวหมี่โต้วก็เชื่อฟังคำพูดของหานมู่จื่อ
สามารถพูดได้ว่า เดิมเขามีวิธีแก้ปัญหาอยู่แล้ว ท้ายที่สุดถ้าหานมู่จื่อไม่เห็นด้วยเขาเองก็ไม่กล้าขัดคำสั่งของหม่ามี๊
หลังจากวางสายไป เสี่ยวหมี่โต้วก็นั่งถือโทรศัพท์อย่างไม่มีความสุข เขานั่งอยู่อย่างนั้นด้วยความเสียใจ
เมื่อเสี่ยวเหยียนเดินเข้ามา เธอก็เห็นฉากนี้ เธอยิ้มเล็กน้อยและเดินเข้ามาหาเขา
“ทำอะไรอยู่? ท่าทางเหมือนโดนรังแกมาเลย?”
เสี่ยวหมี่โต้วส่งเสียง หึหึ และหันหลังโดยไม่สนใจเธอ
“ให้ฉันลองทาย” เสี่ยวเหยียนยิ้มและเดินไปรอบๆตามทิศทางที่เขาหันหนีไปจากนั้นก็วางมือลงบนไหล่ของเสี่ยวหมี่โต้ว “คุณแอบวิดีโอคอลหาแม่ของคุณอีกแล้ว แล้วก็โดนปฏิเสธอย่างไร้ความเมตตาอีกครั้งใช่ไหม?”
“น้าเสี่ยวเหยียน คุณใจร้าย” เสี่ยวหมี่โต้วเงยหน้าขึ้นและมองเสี่ยวเหยียนด้วยความเคืองขุ่น
ด้วยท่าทางของเขาทำให้เสี่ยวเหยียนอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาดังๆ เมื่อหัวเราะแล้วเธอเห็นใบหน้านุ่มนิ่มของเสี่ยวหมี่โต้วเธอก้มตัวลงและบีบแก้มนุ่มนิ่มนั้น
“โอเค น้าเสี่ยวเหยียนไม่ได้ใจร้ายเลยสักนิด นี่ก็ใกล้จะปีใหม่แล้ว ฉันคิดว่าแม่ของคุณจะต้องพาพ่อของคุณกลับมาได้ในไม่ช้าจากนั้นเธอก็จะพาคุณไปข้ามปีด้วยกัน”
เสี่ยวหมี่โต้วยังคงทำหน้ามุ่ย “ฉันไม่เชื่อหรอก ช่วงนี้หม่ามี๊ไม่เห็นมีความคืบหน้าอะไรเลย ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อ เสี่ยวหมี่โต้วก็คงจะน่าสงสารมากจริงๆ น้าเสี่ยวเหยียน คุณช่วยหมี่โต้วหน่อยได้ไหม?”
เสี่ยวเหยียน “….เอ๊ะ?”
“คุณรับคำหมี่โต้ว ในช่วงปีใหม่ ถ้าหม่ามี๊ยังไม่สามารถพาแดดดี๊กลับมาได้ คุณต้องพาหมี่โต้ว พวกเราไปหาหม่ามี๊ด้วยกัน ได้ไหม?”
เมื่อพูดถึงช่วงสุดท้าย อารมณ์ของเสี่ยวหมี่โต้วนั้นตื่นเต้นอย่างเห็นได้ชัด ดวงตาของเขาเหมือนกลมโตเหมือนลูกปัดแก้วสีดำเต็มไปด้วยความหวัง
“เอ่อ…” เสี่ยวเหยียนรู้สึกลำบากใจขึ้นมาในทันใด เธอกัดริมฝีปากล่าง “คือ…ไม่ดีหรอกมั้ง? ถ้าหากว่าเมื่อถึงเวลานั้นแล้วหม่ามี๊ของคุณไม่เห็นด้วยแล้วน้าพาเธอไปแบบนั้นถ้าเป็นเช่นนั้นหม่ามี๊ของเธอก็คงจะโกรธน้าเสี่ยวเหยียนแน่ๆ”
“น้าเสี่ยวเหยียน” สายตาของเสี่ยวหมี่โต้วที่มองมานั้นก็เปลี่ยนเป็นความหนาวเหน็บ “ก่อนหน้านี้คุณบอกว่าคุณต้องการพัฒนาความสัมพันธ์กับคุณลุงและขอให้หมี่โต้วช่วยคุณในเวลานั้น เสี่ยวหมี่โต้วเองก็ตกปากรับคำ…เสี่ยวหมี่โต้วช่วยเหลือน้าเสี่ยวเหยียนมากมาย ตอนนี้เสี่ยวหมี่โต้วกำลังร้องขอเพียงแค่เรื่องเดียว แต่น้าเสี่ยวเหยียนกลับไม่ยินยอม”
พูดจบ เสี่ยวหมี่โต้วก็ยื่นมาปิดใบหน้าของเขา “เสี่ยวหมี่โต้วเจ็บปวดใจ”
เสี่ยวเหยียน “…..”
เห็นได้ชัดว่าเด็กชายตัวน้อยคนนี้จงใจแสดงละครต่อหน้าเธอ แต่เธอก็ยังคงคิดว่าเสี่ยวหมี่โต้วในท่าทางนี้นั้นน่าเอ็นดูและน่ารักเป็นอย่างมาก เธอควรทำอย่างไรดี?
“ฮะ แฮ่ม” เสี่ยวเหยียนกระแอมไปสองครั้งจากนั้นก็กล่าวด้วยรอยยิ้ม “ไม่ทำอย่างนี้แล้วหมี่โต้ว คุณรู้ไหมว่าคำร้องขอของคุณนั้นช่างยากเย็นนักและเรื่องนี้กับเรื่องของน้าเสี่ยวเหยียนนั้นแตกต่างกันอย่างมากดังนั้นคุณอย่าทำให้น้าเสี่ยวเหยียนลำบากใจเลย”
กล่าวจบ เสี่ยวเหยียนก็หมุนตัวในทันทีและคิดอยากจะออกไปจากที่ตรงนี้
ถ้าไม่ไปในตอนนี้ เดี๋ยวก็คงจะสายไป? เสี่ยวหมี่โต้วเด็กน้อยคนนี้อาจทำเธอตกหลุมพรางและทุกอย่างจะจบ
“น้าเสี่ยวเหยียน ถ้าหากว่าวันนี้คุณเดินจากไปแบบนี้ งั้นเรื่องของคุณลุงเสี่ยวหมี่โต้วก็จะไม่ช่วยคุณอีกแล้ว”
เสี่ยวหมี่โต้วจ้องมองแผ่นหลังของเธอ เขาพูดขู่ด้วยสีหน้าที่สงบนิ่ง
การก้าวเท้าของเสี่ยวเหยียนหยุดลงในทันทีจากนั้นเธอก็หันกลับไปมองเสี่ยวหมี่โต้ว
เด็กชายตัวเล็กนั่งอยู่ตรงนั้น ก่อนหน้านี้เห็นได้ชัดว่าเขากำลังโศกเศร้าราวกับถูกทอดทิ้ง แต่ตอนนี้นั้น???
เขาดูนิ่งและสงบ ดวงตาสีดำเต็มไปด้วยความมั่นใจและสุขุม
อ๊า!!!!
เห็นกันอยู่ว่าเขาเป็นแค่เด็ก แต่ทำไมถึงมีท่าทีเช่นนี้??
เขาเป็นเพียงแค่เด็กธรรมดาใช่ไหม?
ไม่!
ภายในใจของเสี่ยวเหยียนกำลังอธิบายกับตัวเอง
เสี่ยวหมี่โต้วไม่ใช่เด็กธรรมดา เขาเป็นลูกชายของเย่โม่เซินประธานแห่งบริษัทตระกูลเย่แห่งเมืองเป่ย เขามีเชื้อสายที่แข็งแกร่งทรงพลังและเสี่ยวหมี่โต้วนั้นได้รับมาทั้งหมด
ไม่ พูดได้ว่า…เขามีไอคิวแบบนี้ตั้งแต่อายุยังน้อยซึ่งน่าจะเกินพ่อแม่ไปโดยสิ้นเชิง
เมื่อนึกได้เช่นนี้ เสี่ยวเหยียนก็แอบประหลาดใจ
ก็ไม่รู้ว่าจะมีเชื้อสายแบบไหนที่จะเกิดอยู่ภายในท้องของหานมู่จืออีกภายในอนาคต
“นี่เสี่ยวหมี่โต้ว รู้ไว้เลยนะ ไม่ใช่ว่าน้าเสี่ยวเหยียนจะไม่ตกปากรับคำจะช่วยคุณ ความหมายที่แท้จริงของแม่คุณ…แม่คุณก็บอกกับคุณในโทรศัพท์แล้วถูกไหม? เธอไม่ยินยอมให้คุณไปนั่นก็คือความคิดของเธอ ถ้าหากว่าเราทำลายการตัดสินใจของเธอและเมื่อเราไปที่นั่น หม่ามี๊ของคุณไม่สนใจพวกเราเลย เราจะทำอย่างไร? ทิ้งเราไว้ข้างถนน เราจะทำอย่างไร? หรือว่าเราจะต้องทนทุกข์อยู่ข้างถนน? เมื่อถึงเวลานั้นมันลำบากยากเข็ญมากจริงๆ…”
เสี่ยวหมี่โต้วกระพริบตา เขาถือโทรศัพท์มือถือของเขาและกล่าว “งั้นเมื่อถึงเวลานั้นเราก็ไปจองโรงแรมสิน้าเสี่ยวเหยียน คุณโง่หรือเปล่าเนี่ย?”
เสี่ยวเหยียน “……….”
“น้าเสี่ยวเหยียนคุณวางใจเถอะ เมื่อถึงตอนนั้นหากว่าหม่ามี๊โกรธ คุณก็บอกหม่ามี๊ไปว่าเสี่ยวหมี่โต้วเป็นคนขู่คุณให้คุณพาหมี่โต้วมา เสี่ยวหมี่โต้วจะรับผิดชอบทุกอย่างเอง”
เสี่ยวเหยียน “มันไม่ใช่ปัญหาเรื่องนี้ แต่เพียง…”
“ทางด้านคุณลุง ฉันสามารถช่วยคุณในการถ่ายภาพโดยที่คุณลุงไม่ใส่เสื้อผ้าท่อนบนได้นะ”
“อะ อะไรนะ??” เสี่ยวเหยียนรู้สึกราวกับว่าเธอได้ยินอะไรแปลกๆ ภาพที่ท่อนบนไม่ใส่เสื้อผ้า???
เมื่อคิดแล้ว จิตใจของเสี่ยวเหยียนก็ปรากฏภาพที่หานชิงไม่สวมเสื้อผ้าท่อนบน ร่างกายท่อนบนเปลือย กล้ามอกแกร่งและกล้ามท้อง…
อูย
หยุดคิดอะไรแบบนี้ เสี่ยวเหยียนหยุดความคิดของเธอเอาไว้และโบกมือไปมา “ไม่ได้ อะไรก็ไม่ได้ คุณอย่ามาเกลี้ยกล่อมฉันเลย”
เสี่ยวหมี่โต้วกระพริบตาแล้วพูดต่อ “น้าเสี่ยวเหยียน คุณไม่ต้องการจริงๆหรือ? กล้ามหน้าท้องของลุงยอดเยี่ยมมาก ~ ฉันเคยเห็นภาพบนอินเทอร์เน็ต พวกคนเหล่านั้นไม่ได้ดีเท่าของคุณลุงเลย น้าเสี่ยวเหยียน พลาดโอกาสครั้งนี้ ครั้งหน้าไม่มีแล้วนะ”
พูดจบ เสี่ยวหมี่โต้วก็กระโดดลงจากเก้าอี้และค่อยๆเดินจากไปพร้อมกับโทรศัพท์มือถือ
เสี่ยวเหยียนจ้องมองแผ่นหลังของเสี่ยวหมี่โต้ว นึกถึงกล้ามท้องของหานชิง ฮือฮือ…
พลาดโอกาสนี้ครั้งหน้าก็จะไม่มีแล้ว
มู่จื่อ มู่จื่อ
ก็แค่ เธอแค่เสียสละและให้ฉันดูกล้ามท้องของหานชิง
“เดี๋ยวก่อน—-” เสี่ยวเหยียนเรียกเสี่ยวหมี่โต้ว “ฉัน ฉันตกลง!”
เสี่ยวหมี่โต้วหันหน้ากลับมา “จริงๆนะน้าเสี่ยวเหยียน วันปีใหม่คุณจะพาฉันไปหาหม่ามี๊จริงๆนะ?”
เสี่ยวเหยียนพยักหน้า
“ใช่ แต่สิ่งที่คุณสัญญากับฉันเมื่อกี้น่ะ….”
“น้าเสี่ยวเหยียน คุณวางใจได้เลย” เสี่ยวหมี่โต้ววิ่งมาพร้อมรอยยิ้ม “แค่เพียงน้าเสี่ยวเหยียนทำตามที่พูด เรือนร่างของคุณลุงน่ะเสี่ยวหมี่โต้วจะช่วยคุณแน่นอน”
แค่เพียงนึกถึงเรือนร่างเปลือยท่อนบนของหานชิง เสี่ยวเหยียนก็รู้สึกเหมือนเลือดกำเดาจะไหล
เธอรีบกำจมูกและส่ายหน้าสุดแรง
ไม่คิดแล้ว ถ้ายังคิดอีกมีหวังเลือดไหลลงมาแน่ๆ
แต่ว่า เธอคิดไม่ถึงว่าตัวเองจะหมกมุ่นในทางเพศแบบนี้ สถานะที่ไม่มั่นคงนี้ ตอนนี้…กลับใจก็ไม่ทันแล้ว
มู่จื่อ อย่าถือโทษโกรธฉันเลย