บทที่ 792 ให้เขาส่งเสื้อผ้ากลับมา
มีปัญหาอะไรหรือ
เธอนึกไม่ถึงว่าจะถามเขาว่ามีปัญหาหรือ
ริมฝีปากบางของเย่โม่เซินเม้มจนเป็นเส้นตรง ภายใต้สายตาที่จับตามองด้วยความอยากรู้อยากเห็นของเธอ และพูดอย่างเย็นชา
“ปัญหาก็ไม่ได้ใหญ่มาก”
ก็แค่ฆ่าปลาแค่นั้นเอง เขาเป็นผู้ชายแท้ ๆ จัดการปลาตัวเดียวไม่ได้เชียวหรือ
เย่โม่เซินหัวเราะอย่างเย็นชาในใจ หานมู่จื่อเห็นว่าเขาบอกว่าไม่มีปัญหา ก็ไม่ได้พูดอะไรอีกจากนั้นก็หันหลังกลับไปล้างผักต่อไป
เย่โม่เซินจ้องมองปลาตัวนั้นที่กำลังว่ายน้ำไปมาอยู่ในน้ำ แล้วมองไปยังมีดที่หานมู่จื่อที่เตรียมเอาไว้ให้เขา ทันในนั้นก็รู้สึกปวดตรงระหว่างคิ้ว
สรุปว่าเขาตอบตกลงเธอว่าจะอยู่ต่อเพื่อรับประทานอาหารได้อย่างไร เรื่องอาหารเย็นก็แค่นั้นเอง แต่ทำไมต้องเข้ามาช่วยในครัวด้วย
หลังจากคิดอยู่พักหนึ่ง เย่โม่เซินก็รู้สึกว่าสมองของเขาเหมือนกับจะเอ๋อไป ดังนั้นจึงทำให้เขาสามารถทำในหลายสิ่งหลายอย่างที่เขาคาดไม่ถึง
เห็นได้ชัดว่าในใจปฏิเสธอย่างมาก แต่มือกลับยังคงล้วงลงไปในถัง
เมื่อหานมู่จื่อล้างผักกาดขาวเสร็จเรียบร้อย จึงต้องการจะดูว่าปลาที่ให้เย่โม่เซินฆ่านั้นเป็นอย่างไรบ้าง ใครจะรู้ว่าเพิ่งจะหันตัวกลับมา ก็ได้เห็นว่าปลาตัวนั้นลอยมาหาตนเอง
ร่างกายของเธอแทบจะไม่ขยับไปด้านข้างไม่กี่ก้าว ปลาตัวนั้นก็ตกลงบนเคาน์เตอร์ครัวในพริบตา
ป้าบ ป้าบ——
หลังจากที่ปลาตกลงบนเคาน์เตอร์ เป็นเพราะว่าไม่มีน้ำ ดังนั้นจึงดิ้นอย่างรวดเร็ว
เมื่อได้เห็นฉากนี้ หานมู่จื่อก็ตกตะลึงอยู่เล็กน้อย มองไปยังเย่โม่เซิน
เย่โม่เซินในตอนนี้ดูท่าทางแย่มาก สูทใส่อยู่นั้นเปียกไปครึ่งตัว แม้แต่ใบหน้าและเส้นผมก็เปียก และก็ไม่รู้ว่าเขาไปทำอย่างไร ถึงอย่างไรก็ตาม…….ตอนนี้ท่าทางของเขาดูเหมือนจะเขินอายเป็นพิเศษ
ทั่วทั้งใบหน้าที่หล่อเหลาของเขาดูคล้ำไป ออร่าบนร่างกายก็ดูเหมือนจะมีเมฆดำปกคลุม ถึงแม้จะเป็นแบบนี้ เขาก็ยังคงกวาดสายตามองเธออย่างเย็นชา และถามอย่างใจเย็น “มองอะไร”
หานมู่จื่อ “……”
หานมู่จื่อสนองกลับด้วยการกระแอมเบาๆและส่ายหน้า “ไม่ได้มองอะไร เพียงแค่……ชุดของคุณเปียกหมดแล้ว”
จากนั้น หานมู่จื่อก็ก้าวไปข้างหน้าเดินไปยังข้างกายเขา หยิบเอาแหอวนที่วางไว้ข้างถังที่ใส่ปลาขึ้นมา “ทำไมไม่ใช่สิ่งนี้ ปลามันลื่นมาก คุณจับไม่ได้แน่นอน”
พูดจบ หานมู่จื่อก็เดินไปหยิบปลาที่อยู่บนเคาน์เตอร์มา จากนั้นก็เดินมายังเย่โม่เซินก้มลงจับปลาสองสามตัวจากถังไว้ด้วยกัน
เธอนำปลาจากอวนเทลงในอ่างอย่างไม่รู้สึกอะไร
ปัง!
ปัง!
เสียงที่ดังนั้น กระแทกลงไปในหัวใจของเย่โม่เซิน เขามองไปยังผู้หญิงที่มีแขนและเอวบางจนเขาสามารถหักมันได้ด้วยมือเดียว ได้ทุบแหอวนนั้นลงกับอ่างอย่างแรง
หลังจากนั้นไม่นาน ปลาที่ยังมีชีวิตอยู่ก่อนหน้านี้ก็ถูกกระแทกจนหยุดนิ่งไม่เคลื่อนไหว
เย่โม่เซิน “……”
“เอาล่ะ ฉันทำเอง ชุดของคุณเปียกหมดแล้ว ให้ดีก็ไปเปลี่ยนใหม่ก่อนเถอะ”
หานมู่จื่อเทปลาออกจากแหอวน และพูดกับเย่โม่เซิน
เย่โม่เซินซึ่งเดิมทีก็รู้สึกประหลาดใจกับการกระทำของเธอก็หรี่ตาลงทันทีหลังจากได้ฟังเธอพูดในตอนนี้ และพูดไปอย่างเย็นชา “คุณคิดว่าผมเป็นคนโรคจิตเหมือนคุณหรือเปล่า”
หานมู่จื่อหยุดชะงักหยุดมีดที่กำลังถือทันที จากนั้นก็นึกถึงเรื่องชุดชั้นในที่อยู่บนสูทของเขาขึ้นมา เธอก็รู้สึกผิดอยู่เสมอ ดังนั้นเธอจึงไม่ได้พูดอะไรอีก
ที่ด้านหลังไม่มีการเคลื่อนไหวใด ๆ เย่โม่เซินคงจะออกไปแล้ว
หานมู่จื่ออดไม่ได้ที่จะวางมีดลง และเดินตามเย่โม่เซินออกไปจากห้องครัว “หรือว่า……ฉันหยุดทำกับข้าวก่อน เดี๋ยวไปซื้อเสื้อผ้าจากใกล้ๆนี้ให้คุณก่อนดีไหม”
ได้ยินดังนั้น เย่โม่เซินกวาดสายตามองไปที่เธอ สายตาของเธอก็ระมัดระวัง ราวกับกลัวว่าจะทำอะไรให้เขาไม่พอใจ
เย่โม่เซินปิดตาลง “ไม่ต้อง คุณทำเรื่องของคุณเถอะ”
“อย่างนั้น….อย่าลืมถอดเสื้อที่เปียกออกด้วย ที่ตู้ด้านหน้ามีรีโมทอยู่ คุณจะเปิดแอร์ก็ได้ เพื่อจะได้ไม่ให้เป็นหวัด
หลังจากพูดจบ หานมู่จื่อก็เข้าไปจัดการเรื่องที่ค้างอยู่ในครัว
ในห้องนั่งเล่นเงียบสงัดลง เย่โม่เซินปิดตาลง และค่อยๆเปิดขึ้นอีกครั้ง เขาก็คิดขึ้นมา จากนั้นก็ถอดเสื้อสูทออกจากนั้นก็พบว่าแขนเสื้อของเขาก็เปียกเช่นกัน
ที่สำคัญที่สุดคือ ตอนนี้เขายังมีกลิ่นคาวปลาอยู่อย่างมาก
เมื่อคิดถึงกลิ่นคาวปลาที่ติดตามตัวเขา เย่โม่เซินก็เริ่มกระวนกระวายขึ้นมา สีหน้าก็หมองคล้ำเหมือนถ่านหิน
เขากำลังตกอยู่ในอาถรรพ์อะไรกันหรือ
หานมู่จื่อฆ่าปลาอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็หั่นใส่หม้อต้ม จากนั้นก็รีบล้างมือและออกจากห้องครัว
เมื่อออกจากห้องครัว ก็เห็นเย่โม่เซินนั่งนิ่งอยู่บนโซฟา ด้วยท่าทางที่กำลังเอาชนะตนเอง ทิ้งสูทเอาไว้ด้านข้าง บนตัวสวมเพียงเสื้อเชิ้ตหนึ่งตัว อยู่ในห้องที่เย็น
หานมู่จื่อรีบเปิดเครื่องปรับอากาศ ก่อนที่จะเดินไปด้านข้างของเย่โม่เซิน
เขาคงจะรู้เจตนาว่าเธอกำลังเข้ามาหา เย่โม่เซินซึ่งกำลังปิดตาอยู่ตลอดก็ได้ลืมตาขึ้น กวาดสายตามองเธออย่างไม่แยแส
“ทำเสร็จแล้วหรือ”
“ใกล้แล้ว ถึงแม้คุณไม่อยากจะใส่เสื้อคลุม แต่ยังไงก็ต้องเปิดเครื่องปรับอากาศนะ”
เธอก้าวไปข้างหน้าและหยิบสิ่งที่เย่โม่เซินวางไว้ด้านข้าง เสื้อคลุมที่เปียกนั้นก็ได้ถูกนำไปไว้ที่ห้องน้ำ เมื่อจะออกมาก็ได้เห็นว่าเย่โม่เซินยินอยู่ที่ประตูพอดี
“ทำไมหรือ”
เย่โม่เซินจ้องมองไปยังห้องน้ำที่ด้านหลัง เขารู้สึกว่าเขาจำเป็นจะต้องยืมใช้ห้องน้ำนี้ อีกไม่นานเขาคงจะต้องเต็มไปด้วยกลิ่นคาวทั้งตัวแน่
แต่ การแสดงออกของเธอนั้นดูเพิกเฉย ราวกับว่าไม่รู้เรื่องอะไรเลยสักนิด
“คุณมานี่” เย่โม่เซินเม้มริมฝีปาก มองไปยังเธออย่างตรงไปตรงมา
หานมู่จื่อยืนซื่ออยู่ที่เดิม และยังไม่มีปฏิกิริยาตอบสนอง มืออันใหญ่ของเขาก็เอื้อมมาจับข้อมืออันขาวนวลของเธอ และลากเธอไป
ปัง!
หานมู่จื่อโดนโซเซ และกระแทกถูกหน้าอกของเขาโดยตรง
การกระทำนี้ทำให้หานมู่จื่อร้อนรน และหัวใจของเธอก็เต้นรัว เธอไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเย่โม่เซิน และทำไมทั้งสองคนถึงพัฒนากันได้เร็วขนาดนี้
แต่เธอก็ยังคิดว่า อาจจะเป็นเพราะเย่โม่เซินยังคงมีความรู้สึกต่อเธอ ดังนั้นจึงทำให้……
“ได้กลิ่นไหม”
ขณะที่หานมู่จื่อกำลังคิดเพ้อเจ้อเรื่องนี้อยู่นั้น เสียงอันเย็นชาของเย่โม่เซินก็ดังขึ้นมา
เธอเงยหน้าขึ้น พบกับดวงตาอันดำสนิทของเขา
“ได้กลิ่น กลิ่นอะไร”
เย่โม่เซิน “……กลิ่นคาวปลา”
หานมู่จื่อ “……”
ที่แท้ที่เขาดึงตนเองมาไว้ในอ้อมแขน ไม่ใช่เพราะจะกอดเธอ……แต่ต้องการให้เธอดมกลิ่นบนตัวเขาอย่างนั้นหรือ”
ก่อนหน้านี้ไม่เคยใส่ใจเรื่องนี้ ดังนั้นจึงไม่เคยสนใจเรื่องอื่น
แต่ตอนนี้……
เมื่อได้รับการเตือนเช่นนี้ หานมู่จื่อก็ได้กลิ่นคาวบนร่างกายของเขา
จากนั้นจึงได้สาดน้ำให้เขาจนทั่วทั้งร่าง
เมื่อเธอมีปฏิกิริยากลับมา จึงผลักตัวเขาออกไปและถอยหลังมาสองก้าว ค่อยๆพูดว่า “ห้องน้ำสำหรับคุณ คุณอาบได้ตามสบายเลย ฉันขอออกไปก่อน”
พูดจบ หานมู่จื่อกำลังจะกลับไปที่ห้อง ใครจะรู้ว่าเมื่อเดินผ่านเย่โม่เซินกลับยืนกอดอกอยู่ “ไม่ต้อง ผมให้เฉียวจื้อเอาเสื้อผ้ามาให้แล้ว”
หานมู่จื่อ “……”
เธอตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง สีหน้าก็แดงขึ้นมาทันที
ให้คนปากมากอย่างเฉียวจื้อเอาเสื้อผ้ามาให้ อย่างนั้น…..อย่างนั้นคงไม่…..ถูกเขาเอาไปพูดไร้สาระเอาหรือ
แค่คิดเท่านั้น ก็มีคนเคาะประตูอยู่ด้านนอก
“ฉัน ฉันไปเปิดประตู”