บทที่ 86 ฉันจะไม่มีวันชอบนายเด็ดขาด
การกระทำของเย่โม่เซินค่อนข้างบ้าคลั่ง รอจนเขาสงบลงถึงได้รู้สึกว่ามันแปลก คนในอ้อมกอดเงียบเกินไป เทียบกับตอนก่อนหน้าที่ต่อต้านเขาแล้วก็ต่างกันมากอยู่
ก้มหัวลง สายตาเย็นชาของเย่โม่เซินสบเข้ากับตาของเธอ
ไม่มีความโกรธกับความแค้นเคืองเหมือนที่คิดไว้ ในทางกลับกัน ดวงตาของเธอสงบมาก เหมือนทะเลสาบที่ไม่มีคลื่น
เกิดอะไรขึ้น?
เขาปฏิบัติต่อเธออย่างป่าเถื่อน นึกไม่ถึงว่าเธอจะไม่มีการตอบสนองใดๆ?
วินาทีต่อมา เสิ่นเฉียวกระพริบตา และจ้องเขา: “ เย่โม่เซิน นายหึงใช่ไหม? ”
เย่โม่เซิน: “ …… ”
เสิ่นเฉียวกระพริบตาต่อไป เธอจ้องเข้าไปในตาลึกของเขา คล้ายกับกำลังพยายามหาอารมณ์ที่ซ่อนอยู่ในตาของเขา
“ ใช่ไหม? ” เห็นเขาไม่ตอบ เสิ่นเฉียวจึงถามขึ้นอีกครั้งอย่างอดไม่ได้
เย่โม่เซิน: “ …… ” หน้าผากของเขานูนขึ้น เขาโกรธถึงขนาดนี้ นี่เป็นครั้งแรกที่ถูกผู้หญิงยุแหย่จนรู้สึกโกรธ หลังจากเขาทำเรื่องเหล่านั้น นึกไม่ถึงว่าเธอจะถามเขาด้วยความสงบว่าหึงใช่ไหม?
เสิ่นเฉียวเห็นเขาไม่ตอบ จึงก้มลงไปมองชุดสีฟ้าอ่อนที่ขาดหลุดลุ่ยชุดนั้น และพูดออกมาเสียงเบา: “ ถ้าไม่ได้หึง แล้วนายจะฉีกมันทำไมละ? ”
ตอนนี้ บนตัวของเสิ่นเฉียวเหลือแค่เสื้อผ้าที่แนบกาย กั้นไว้ด้วยเสื้อเชิ้ตที่อยู่บนตัวของเย่โม่เซิน ที่แนบตัวเขาแน่น
ตาลึกของเย่โม่เซินจ้องเธอสักพัก หลังจากนั้นก็หัวเราะออกมาอย่างเหน็บแนม: “ผู้หญิงแต่งงานครั้งที่สอง ใครให้ความเข้าใจผิดกับเธอ ทำให้เธอคิดว่าที่ฉันฉีกเสื้อผ้าชุดนี้ เพราะกำลังหึง? ”
สายตาของเสิ่นเฉียวเย็นยะเยือก: “ ไม่ได้หึง งั้นนายจะโกรธทำไม? ”
ดวงตาของเธอคู่นั้นสะอาดกว่าน้ำ ได้มองเข้าไปในก้นบึ้งหัวใจของเขา อารมณ์ที่อยากรู้อยากเห็นนั้นกำลังเรียกหาอยู่ในตาของเธอ และยังแฝงไปด้วยการรอคอยที่เรือนราง
รอคอย?
ผู้หญิงคนนี้……
“ เธอกำลังคิดอะไร? เธอคงไม่คิดว่าฉันจะชอบผู้หญิงแบบเธอหรอกใช่ไหม? ”
เสิ่นเฉียวชะงักไป
“ ของมือสอง ผู้หญิงที่ถูกสามีเก่าของตัวเองเขี่ยทิ้ง และตัวเองกำลังตั้งท้อง แต่ยังอ่อยคนอื่นไปทั่วแบบเธอ ฉันเย่โม่เซินจะสนใจเธอหรือไง? ”
เสิ่นเฉียวหน้าซีด เธอกัดปากและพูดแก้ตัว: “ ฉันไม่ได้อ่อยใคร ฉันแค่บังเอิญเจอพี่ใหญ่ ตอนนั้นฉันเป็นลม จึง…… ”
“ เพราะฉะนั้น เธอกำลังอธิบายให้ฉันฟังว่า เธอได้แสดงละครยังไงบ้างตอนที่อยู่ต่อหน้าพี่ใหญ่ใช่ไหม? เสิ่นเฉียว เธอกำลังแสร้งทำตัวน่าสงสารกับฉันหรอ? วิธีนี้ไม่เหมาะกับเธอเอาสะเลย “
เย่โม่เซินบีบขากรรไกรของเธอแน่น และยิ้มออกมาอย่างชั่วร้าย: “ ถ้าเธอยอมใช้ร่างกายมาทำให้ฉันมีความสุข บางที ฉันอาจพิจารณาว่าจะเชื่อคำพูดของเธอเมื่อสักครู่ก็ได้ ”
เขาโกรธ เขาโมโห เธอคิดว่าตัวเองสามารถไม่คิดอะไร
แต่พอเย่โม่เซินใช้น้ำเสียงกับสายตาที่น่ารังเกียจพูดกับเธอ เสิ่นเฉียวก็รู้สึกว่าเขากำลังตั้งใจทำให้ตัวเธออับอายขายหน้า
และวิธีแบบนี้ เสิ่นเฉียวไม่สามารถทนได้จริงๆ!
เธอกัดริมฝีปากด้วยความโมโห สายตาจ้องเขาอย่างโกรธแค้น
“ นายหยุดคิดสักที ”
มือที่บีบอยู่ที่คางหนักขึ้นทันที รอยยิ้มชั่วร้ายของเย่โม่เซินแผ่ขยายออกไป: “ เป็นอะไรไปละ? เมื่อสักครู่ยังมีท่าทีรอคอยอยู่เลยผู้หญิงแต่งงานครั้งที่สอง เธอชอบฉันแล้วละสิ? ”
อะไรนะ? ได้ฟังประโยคนี้ สายตาของเสิ่นเฉียวจึงมีความลุกลี้ลุกลนทันที
เธอจะชอบเย่โม่เซินที่ชั่วร้ายและทำเกินไปได้ยังไง? สมองของเธอต้องกรวงถึงจะชอบคนที่อยู่ด้านหน้า
“ นายใจสั่นเอง กลับผลักความรับผิดชอบมาให้คนอื่น ยังถามฉันอีกว่าชอบนายไหม? ”
นึกได้ว่าเธออาจจะชอบตัวเอง รอยยิ้มที่อยู่มุมปากของเย่โม่เซินก็แผ่ขยายขึ้นอย่างไม่รู้ตัว ดวงตาสีหมึกปรากฏความดีใจขึ้นมา
แต่เย่โม่เซินยังไม่รู้ตัว
ตอนที่เขาถาม เสิ่นเฉียวได้ก้มหัวลง ในตาใสมีความแสบร้อน!
ทำไมเธอถึงโง่จนถามคำถามประเภทนั้นกับเย่โม่เซินได้ละ? เธอสมองทึ่มหรอ? ถึงได้เข้าข้างตัวเองและไปถามเขาว่าชอบตัวเอง หรือหึงตัวเองหรือเปล่า จะคิดแบบไหนก็เป็นไปไม่ได้อยู่ดี
เมื่อวาน ถึงแม้ว่าเธอจะตามเย่โม่เซินไปที่วิลล่าและไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น แต่จากลางสังหรณ์ของผู้หญิง เสิ่นเฉียวรู้สึกว่าเขากำลังตามหาคน อีกทั้งต้องเป็นคนที่สำคัญมากๆคนหนึ่ง
แล้วเมื่อไหร่จะมีเรื่องของเธอละ?
คิดได้ดังนั้น เสิ่นเฉียวจึงกัดปาก ตอนที่เงยหน้าขึ้นมาใหม่ ในตาก็มีความโกรธแล้ว
“ ฉันไม่ได้ชอบนายสักหน่อย! ”
เธอค่อยๆกัดฟันพูดประโยคนี้ออกมา เสิ่นเฉียวจ้องตาสีดำขลับของเขา และพูดเสริมอีกประโยค: “ นายพูดถูก ฉันคือคนที่แต่งงานใหม่ ถูกสามีเก่าทิ้ง และยังตั้งท้องอีกด้วย ไม่ว่าใครก็ไม่ชอบฉัน ฉันไม่ได้เข้าข้างตัวเอง แต่ฉันอยากบอกนายว่า นายก็เข้าข้างตัวเองเหมือนกัน นายคิดว่าที่ฉันแต่งงานกับนาย เพราะฉันชอบนายหรอ? คนแบบนาย ระเบิดอารมณ์ง่าย อารมณ์ไม่ดี นิสัยเลวร้าย ไม่เคารพผู้หญิง คนที่ชอบย่ำยีศักดิ์ศรีของคนอื่น มักจะไม่เข้าใจว่าอะไรคือความเคารพ นายเป็นแบบนี้ นายมีสิทธิอะไรมาคิดว่าฉันชอบนาย??? ”
พูดประโยคสุดท้าย เสิ่นเฉียวแทบจะตะโกนออกมา!
เดิมทีสีหน้าของเย่โม่เซินก็เขียวมากพออยู่แล้ว หลังจากที่ได้ฟังเสิ่นเฉียวต่อว่าเขา สามารถพูดได้ว่าสีหน้าของเขาเคร่งเครียดมาก เขาบีบขากรรไกรของเธออย่างรุนแรง พละกำลังมากสะจนแทบจะบีบกระดูกของเธอจนแตกละเอียด
“ เธอพูดประโยคเมื่อสักครู่อีกทีสิ? ”
เสิ่นเฉียวเงยหน้าขึ้น และสบตาเขาอย่างไม่ลดละ
“ พูดอีกทีก็พูดอีกทีสิ ในเมื่อนายอยากฟัง ฉันพูดสิบรอบยังได้เลย ฉันบอกว่านายอารมณ์ไม่ดี นิสัยเลวร้าย จะไม่มีวันชอบนายเด็ดขาด อื้อ…… ”
เสียงของเธอยังไม่หยุด เย่โม่เซินก็จูบลงมาอย่างรวดเร็ว ราวกับพายุฝนฟ้าคะนอง เขากัดริมฝีปากของเธอ และบุกเข้ายึดดินแดนทันที มือใหญ่ที่ร้อนระอุถูไปมาอยู่ที่ด้านหลังของเธอ ฝ่ามือหยาบราวกับไฟฟ้า ทำให้เสิ่นเฉียวตัวสั่นเป็นครั้งคราว
เสิ่นเฉียวรู้สึกว่าตัวเองเหมือนเรือลำเล็กที่ลอยอยู่ในทะเล พอมีคลื่นซัดมา เธอก็จะโครงเครงไปมา และไม่สามารถต้านแรงถ่วงได้
ถึงแม้ว่าคลื่นลูกนี้จะอันตรายมาก แต่เรือก็จำเป็นต้องเพิ่งคลื่นลูกนี้ เพื่อที่จะแล่นไปข้างหน้าและสงบลง
ตอนแรกเสิ่นเฉียวได้ต่อต้าน ต่อมาทั้งตัวของเธอก็ได้ถลำเข้าไป ตอนที่เธอกำลังหลับตาลง เย่โม่เซินได้ดึงเสื้อสูทที่อยู่ข้างๆมาคลุมหัวของเธอ
เธอยังไม่ทันได้ตอบสนองกลับมา สายตาก็มืดลงเสียก่อน หลังจากนั้นท้ายทอยของเธอได้ถูกกดไว้ เย่โม่เซินกดเธอให้มาอยู่ที่หน้าอก
และในขณะเดียวกัน เย่โม่เซินก็พูดออกมาด้วยความโกรธ: “ ไสหัวไป! ”
คำว่าไสหัวไปแฝงไปด้วยพลังมากมาย มันสั่นสะเทือนตั้งแต่ทรวงอกของเย่โม่เซิน และส่งมาถึงในหูของเสิ่นเฉียว
“ ขอ ขอโทษค่ะ ”
คำขอโทษเสียงสั่นสองสามเสียง เสิ่นเฉียวใบหน้าซีด ได้ยินเสียงฝีเท้าที่ไม่เป็นระเบียบค่อยๆห่างออกไป
เมื่อสักครู่ เธอกำลังจิตใจปั่นป่วน หรือว่าจะถูกคนพวกนั้นเห็นหมดแล้ว?
เสิ่นเฉียวหน้าซีดทันที ร่างเล็กกำลังสั่นเทาอยู่ในอ้อมกอดของเย่โม่เซิน
เย่โม่เซินรู้สึกได้ จึงขมวดคิ้วและดึงเสื้อสูทออก เห็นหัวเล็กกำลังฟุบหน้าอยู่ที่หน้าอกของตัวเอง
ผ่านไปสักพัก เขาก็ได้หยิบโทรศัพท์ออกมาและโทรหาเซียวซู่
“ เอาเสื้อผ้าหนึ่งชุดมาให้หน่อย ”
หน้าของเสิ่นเฉียวยิ่งแดงขึ้นกว่าเดิม เขาให้คนอื่นเอาเสื้อผ้ามาให้ ถึงตอนนั้น……
ถึงแม้ว่าตอนนี้เสิ่นเฉียวจะโทษเย่โม่เซิน แต่เธอกลับกำลังฟุบหน้าอยู่ในอ้อมกอดของเขา ไม่กล้าขยับไปไหน ถึงอย่างไรตอนนี้ เธอก็ใส่แค่เสื้อผ้าที่แนบร่างกาย ถ้าลุกขึ้นก็จะถูกเห็นจนหมด
สิบห้านาทีต่อมา เซียวซู่ก็ได้เอาเสื้อผ้ามาให้
“ วางไว้ที่ประตู แล้วก็ปิดประตูด้วย ”