บทที่ 857 คืนนี้ไม่กลับไป
หลังจากที่เข้าไปในห้องน้ำแล้ว หานมู่จื่อก็ได้ยืนติดประตูไว้ ยื่นมือมากุมหัวใจที่เต้นปังๆว้าวุ่นของตัวเองเอาไว้ ผ่านไปครู่หนึ่งเธอถึงได้มองตัวเองในกระจก
ใบหน้ารูปไข่กับลำคอ รวมทั้งใบหูก็เริ่มแดงขึ้น
เธอเอียงตัวเข้าไปเล็กน้อย และเหล่มองไปยังท้ายทอยของตัวเอง ตรงนั้นได้ถูกเย่โม่เซินตีตราเป็นรอยสีชมพูจางๆไปแล้วหลายรอย
ตอนแรกที่มองไม่เข้าใจ แต่เมื่อมองอย่างละเอียดแล้วละก็ สีค่อยๆเปลี่ยนเป็นเข้มแล้ว
โชคดีที่เป็นฤดูหนาว หากว่าเป็นฤดูร้อน ถ้าเช่นนั้นรอยพวกนี้เธอจะปกคลุมไว้ยังไง?
หานมู่จื่อพลางต่อว่าเย่โม่เซินใจไป พลางเปิดฝักบัวอาบน้ำไป
รอหลังจากที่อาบจนเสร็จแล้ว หานมู่จื่อถึงได้พบว่าปัญหาที่จัดการยากปัญหาหนึ่ง เมื่อกี้ตัวเองเพราะว่ารีบเข้ามา ดังนั้นเดิมทีก็ไม่ได้หยิบเสื้อผ้าที่เปลี่ยนเข้ามาด้วย
เสื้อผ้าที่เปลี่ยนก็เปียกไปหมดแล้ว จะเอามาใส่อีกก็เป็นไปไม่ได้แล้ว
หานมู่จื่อก็ไม่กล้าที่จะให้เย่โม่เซินหยิบเสื้อผ้าให้กับตัวเอง
สุดท้ายทำได้เพียงเอาผ้าขนหนูอาบน้ำจากชั้นวางของแล้วพันตัวเองไว้ หลังจากนั้นก็เปิดประตูห้องน้ำออกอย่างเงียบ ๆ เอาหัวมองออกไป
ในห้องที่เงียบสงัด ไม่มีใครแม้แต่คนเดียว
เย่โม่เซินไม่อยู่ในห้อง? พอเหมาะพอดี หานมู่จื่อโล่งใจไปฟอดหนึ่ง หลังจากนั้นก็ได้เดินเท้าเปล่าออกมาจากทางด้านใน
เธอก้มลงไปเปิดกระเป๋าเดินทางของตัวเองออก เอาชุดนอนออกมาจากด้านในเปลี่ยนให้ตัวเอง
หลังจากที่ทำได้อย่างสะดวก หานมู่จื่อจึงได้ออกจากห้องไปหาเย่โม่เซิน
ก็เห็นถึงเย่โม่เซินยืนอยู่ตรงระเบียงได้จากที่ไกลๆ บ้านที่นี่มีขนาดกว้างขวางกว่าอะพาร์ตเมนต์ขนาดเล็กเดิมที่เธอเช่ามาก ดังนั้นเสียงของเย่โม่เซินจึงส่งมาไม่ถึงที่นี่
หานมู่จื่อเดินเข้าไปใกล้ จึงได้ยินน้ำเสียงที่ทั้งเย็นชาทั้งเฉียบคมของเขา
“อืม คืนนี้ฉันไม่กลับบ้าน รบกวนลุงหยูบอกกับคุณตาของฉันด้วย”
“มีเรื่องสำคัญต้องจัดการ”
“ก็อย่างนี้แหละ”
และหานมู่จื่อที่ได้หยุดอยู่ตรงคำพูดของเขา ก็ได้ชะงักฝีเท้าไว้ งุนงงอยู่ตรงที่เดิม
เมื่อกี้เขาพูดในสายโทรศัพท์ว่าเขาไม่กลับบ้าน??
หรือว่าคืนนี้เขาต้องการอยู่ที่นี่?
ชั่วขณะนั้นท่าทีของหานมู่จื่อก็ได้มีความซับซ้อนขึ้นมาเล็กน้อย เวลานี้ตรงด้านหลังของเย่โม่เซินดูเหมือนว่าจะมีดวงตายังไงยังงั้น จากนั้นก็ได้หมุนตัวกลับมาทันที
เห็นเธอยืนสวมชุดนอนบางๆอยู่ตรงนั้น ตอนที่เท้าสีขาวราวกับหิมะคู่หนึ่งได้เหยียบลงบนพื้นเย็น หัวคิ้วของเขาก็ได้ขมวดขึ้นมาทันที และได้ก้าวเท้าใหญ่ๆเดินเข้าไปตรงๆ
“ทำไมใส่น้อยขนาดนี้?”
เสียงที่เย็นชาของเขา ปะปนน้ำเสียงที่มีความไม่พอใจอย่างมาก ได้โอบเอวเธอเข้ามากอด จิตใต้สำนึกของหานมู่จื่อได้กอดคอของเขาเอาไว้
ในห้องที่เยือกเย็น เพียงแต่ว่าเธอเพิ่งจะออกมาจากในห้องน้ำ ทั่วทั้งตัวยังอบอุ่น หลังจากที่ถูกเย่โม่เซินอุ้มอยู่ในอ้อมอก หัวคิ้วที่สวยงามของหานมู่จื่อก็ได้ยับย่นขึ้นมาแล้ว
ทั้งตัวของเขาเยือกเย็น เพราะน่าจะยืนอยู่ที่ระเบียงไปครู่หนึ่งแล้ว
หานมู่จื่อถูกอุ้มกลับไปบนเตียงในห้อง หลังจากนั้นเย่โม่เซินก็หันตัวไปเปิดฮีตเตอร์ กลัวว่าเธอจะหนาว
เมื่อหานมู่จื่อได้สัมผัสกับเตียงก็ได้หดตัวเป็นก้อนหนึ่งทันที จากนั้นก็มองที่เย่โม่เซินพร้อมพูด: “เมื่อกี้คุณตาของนายโทรศัพท์เร่งให้นายกลับไปเหรอ?”
เย่โม่เซินทำเป็นเธอไม่ได้ยินถึงคำพูดที่ตัวเองพูดเมื่อกี้ แล้วได้เม้มริมฝีปากไปแล้วครู่หนึ่ง หลังจากนั้นก็ปฏิเสธ: “ไม่ใช่”
คำพูดเพิ่งจะตกออกมา เขาก็ยกมือปลดกระดุมเสื้อตัวนอกของตัวเอง ไม่ช้าก็ได้นำเสื้อตัวนอกถอดลงมาไปแขวนอยู่บนที่แขวนเสื้อ ทันทีหลังจากนั้นก็ได้ดึงเนคไท
เมื่อเห็นถึงฉากนี้ จิตใต้สำนึกของหานมู่จื่อก็ได้ถลึงตาโตใส่ คิดไปถึงคำพูดนั้นที่เมื่อกี้เขาพูดอยู่ตรงระเบียง
คืนนี้ไม่กลับไป
งั้น……พูดแบบนี้คืนนี้เขาคือต้องการอยู่ที่นี่แล้ว?
ชายโสดหญิงโสดอยู่ด้วยกันในห้องสองต่อสอง คิดว่าจะไม่เกิดอะไรขึ้นก็คงยาก
หานมู่จื่อได้กัดริมฝีปากล่างของตัวเองเอาไว้ด้วยความตื่นตระหนก แต่ว่าตอนนี้เธอเพิ่งจะท้องได้ไม่นาน หากว่าตอนนี้อยู่ด้วยกันกับเขาละก็ จะต้องมีผลกระทบถึงลูกน้อยในท้องแน่ๆ
แต่เขาก็ไม่ได้ฟื้นคืนความทรงจำ เธอจะต้องไม่พูดความจริงกับเขา
ไม่พูดความจริง แล้วเธอจะปฏิเสธเขายังไง?
ความคิดในหัวของหานมู่จื่อได้บินร่อน และไม่ช้าจึงได้หลุดคำพูดออกไป: “ดึกมากแล้ว ฉันว่านายก็กลับไปเถอะ ไม่เช่นนั้น……”
พูดไปแล้วครึ่งหนึ่ง สายตาที่ลึกซึ้งของเย่โม่เซินก็ได้เคลื่อนย้ายเข้าไป อยู่บนใบหน้าเธออย่างมั่นคง หลังจากนั้นเขาก็ได้ก้าวเดินเข้ามาใกล้
จิตใต้สำนึกของหานมู่จื่อได้กดกลับไป พิงอยู่บนหมอน เย่โม่เซินได้ก้มลง มือคู่ได้วางไว้ข้างตัวเธอ
ระยะห่างระหว่างทั้งสองใกล้กันมากจนหานมู่จื่อคิดว่าเขาต้องการจะจูบลงมา แต่กลับได้ยินเขาพูดอย่างเรียบเฉย: “กลัวอะไร?”
หานมู่จื่อลืมตาอย่างรวดเร็ว พอดีกับลูกตาดำที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มคู่นั้นของเย่โม่เซิน ตื่นเต้นกลัวจนน้ำเสียงไม่มีความต่อเนื่องกันแล้ว: “ฉัน……”
เย่โม่เซินก้มหัวไปสัมผัสจมูกของเธอ: “อยากตื่นเต้น ก็รอฉันอาบน้ำเสร็จค่อยตื่นเต้น”
หานมู่จื่อ:“……”
เมื่อพูดจบ เย่โม่เซินก็ยังคงไม่ได้ทำอะไรเธอจริงๆ และได้หยิบเสื้อผ้าไปอาบน้ำแล้ว
ไม่ช้า ในห้องน้ำก็มีเสียงน้ำซู่ซ่าดังขึ้นแล้ว
แม้ว่าบ้านหลังนี้จะใหญ่มาก แต่ถึงอย่างไรเสียนี้ก็คือห้องน้ำของห้องหลักล่ะ เสียงก็ใกล้มาก เสียงของน้ำกระตุ้นการได้ยินของหานมู่จื่ออย่างต่อเนื่อง
เธอคิดไปคิดมาก็รู้สึกว่าเย่โม่เซินก็ได้พูดเช่นนั้นในสายโทรศัพท์แล้ว ดูแล้วคืนนี้เขาจะต้องอยู่ที่นี่แล้ว
หากว่าไม่สามารถหลบหลีกได้แล้วละก็ งั้นเธอทำได้เพียงแกล้งนอนแล้ว!
เมื่อคิดถึงตรงนี้ หานมู่จื่อจึงได้ไถลลงเตียงทันที และได้เขย่งมือเท้าไปปิดไฟแล้ว ค่อยกลับมาถึงบนเตียงลากผ้าห่มมาปิดไปถึงส่วนหัว และตัวเองก็ได้หดหัวเข้าไปในมุมแล้ว
หากว่าเป็นเวลาปกติแล้วละก็ ด้วยระดับการง่วงนอนของเธอ เธอจะต้องปิดตาก็สามารถหลับได้ทันทีแล้ว
แต่คืนนี้ก็ไม่รู้ว่าคือยังไง เธอนอนลงมาแล้วได้พบว่าหัวใจตัวเองเต้นเร็วมาก
นี่คือหลังจากที่เย่โม่เซินสูญเสียความทรงจำไปแล้ว เป็นครั้งแรกที่ทั้งสองคนได้ร่วมเตียงเคียงหมอนกัน คิดไม่ถึงว่าเธอจะตื่นเต้นกลัวจน……นอนไม่หลับแล้ว
ในความมืด หานมู่จื่อได้เปิดดวงตาคู่ที่ไร้ความผิด เหนื่อยใจจนไม่ไหว
รีบหลับสิ หลับแล้วอะไรก็ไม่ต้องรู้แล้ว
แต่ว่าเธอยิ่งสะกดจิตใจตัวเองแบบนี้ ในหัวก็กลับยิ่งมีสติมากขึ้น ไม่มีความง่วงเลยแม้แต่น้อย
ก็อยู่ในตอนที่หานมู่จื่อกลัดกลุ้มจนไม่ไหว ก็ได้ยินเสียงประตูของห้องน้ำเปิดออก เธอก็ตกใจจนรีบปิดตาไว้แน่น
เย่โม่เซินผลักประตูเปิดออก สิ่งที่สะท้อนเข้าสู่สายตากลับคือความมืดสนิท เขาได้งุนงงก่อน ทันทีหลังจากนั้นก็มีท่าทีโต้ตอบเข้ามา ริมฝีปากบางๆที่กดแน่นจนเป็นเส้นทำให้เกิดส่วนโค้งตื้นๆขึ้นมา
โอ้ว ค่อนข้างฉลาดมาก
เย่โม่เซินค่อยๆเช็ดผมด้วยผ้าขนหนู และได้มองไปยังทิศทางหนึ่งในความมืดอย่างใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว
หลังจากที่เช็ดผมเกือบจะได้แล้ว เย่โม่เซินก็ได้หมุนตัวออกไปจากห้อง ไปยังห้องข้างๆแล้ว
เมื่อได้ยินเสียงปิดประตู หานมู่จื่อในความมืดก็ตกใจ หลังจากนั้นก็ได้เอาหัวมองออกมาจากในผ้าห่ม
ฮีตเตอร์ในห้องเพียงพอมาก และเมื่อกี้เธอแทบจะหายใจไม่ออกในผ้าห่ม
คิดไม่ถึงว่าเย่โม่เซินจะออกไปแล้ว เขาคือตัดสินใจจากไปชั่วคราว? หรือว่าไปทำอะไรแล้ว?
ไม่ว่าจะเป็นเหตุผลไหน หานมู่จื่อก็ไม่กล้าลุกขึ้นไปยืนยัน หากว่าเธอเพิ่งลงจากเตียงก็ได้พบเย่โม่เซินกลับมาแล้ว งั้นไม่ก็ถูกจับได้แล้วงั้นเหรอ?
หานมู่จื่อได้นอนกลับไปใหม่ เท้าเย็นอย่างหมดอาลัยตายอยาก
ผ่านไปแล้วครู่หนึ่ง ดูเหมือนว่าเธอจะได้ยินเสียงฝีเท้าเดินมาที่ห้องนี้ เธอก็ได้รีบลากผ้าห่มปิดตาแกล้งนอนอีกครั้ง
ปัง
เสียงเคาะประตูดังชัดเจนเป็นพิเศษในสภาพแวดล้อมที่มืดและเงียบ หานมู่จื่อรู้สึกว่าลมหายใจของตัวเองก็เปลี่ยนเบาลงแล้ว